ตอนที่ 846 ผู้อำนวยการลู่จงเจริญ
ปัง!
จุกไม้ก๊อกฝังด้วยแผ่นทองคำเปลวถูกแรงดันจากแก๊สภายในดันออกมาอย่างแรง จนพุ่งกระเด็นออกไปกระแทกกับเพดาน
“เย้…”
เสียงโห่ร้องที่เต็มไปด้วยความปีติยินดีดังออกมาจากสำนักงานใหญ่ของเฉินเฟยมีเดีย!
ภายในห้องประชุมที่ตกแต่งใหม่ ลูกโป่งหลากสีถูกแขวนเอาไว้ เค้กขนาดใหญ่สูงเจ็ดชั้นวางอยู่ตรงกลาง หน้าจอโปรเจกเตอร์บนผนังแสดงตัวอักษรขนาดใหญ่สะดุดตาไว้ว่า ‘งานเฉลิมฉลองอย่างอบอุ่น ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ทำยอดขายตั๋วทะลุหนึ่งร้อยล้านในวันเดียว’ แสดงให้เห็นถึงเหตุผลของการเฉลิมฉลองครั้งนี้
ในฐานะที่เป็นโปรเจกต์ภาพยนตร์ที่สำคัญที่สุดของเฉินเฟยมีเดียในปีนี้ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร ภาคกระบี่จากเทือกเขาฮว่าซาน’ ได้ปล่อยฉายทั่วประเทศในวันที่ 1 ตุลาคม โดยทำรายได้จากการจำหน่ายตั๋วในวันแรก 49.2 ล้าน หลังจากนั้นก็ค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางเสียงซุบซิบที่ไม่ดีนัก จนสุดท้ายแล้วก็ได้สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อวานซึ่งก็คือวันที่ 5 ตุลาคม ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ทำรายได้จากการจำหน่ายตั๋วภายในวันเดียวทะลุ 100 ล้านได้สำเร็จ ได้ไปถึง 107 ล้านหยวน!
ภาพยนตร์กำลังภายในเรื่องนี้ที่ถูกคนดูแคลนมีรายได้สะสมจากการจำหน่ายตั๋วถึง 377 ล้านหยวน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากต้นทุนแล้ว หากไม่มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นละก็ เมื่อบวกรายได้จากการจำหน่ายตั๋วของวันนี้เข้าไปด้วยก็จะได้ทุนคืนทั้งหมดแล้ว
ภายใต้คำแนะนำของลู่เฉิน วันนี้เฉินเฟยมีเดียได้จัดงานเฉลิมฉลองภายในองค์กร เพื่อให้พนักงานทุกคนในบริษัทได้ร่วมแบ่งปันความสุขและความสำเร็จที่ได้มาอย่างยากลำบากนี้
ภายในห้องประชุมอัดแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย พนักงานที่มาได้ล้วนมากันทั้งสิ้น ใบหน้าของทุกๆ คนนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ผ่านมา เฉินเฟยมีเดียนั้นอยู่ภายใต้แรงกดดันอันมหาศาล ความสำเร็จหรือความล้มเหลวของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีนี้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ความคิดเห็นต่างๆ ที่มาจากคนในแวดวงก็ส่งผลกระทบต่อพนักงานด้วยเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าพนักงานที่มีส่วนร่วมโดยตรงในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ยิ่งได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก
แต่หลังจากที่ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ทำรายได้จากการจำหน่ายตั๋วทะลุถึง 100 ล้านหยวนภายในวันเดียว ความกดดันและความกังวลทั้งหมดก็พลันมลายหายไปทันที!
แชมเปญจน์ขวดหนึ่งถูกเทลงในแก้ว ก้อนเค้กรสชาติหอมหวานถูกตัดแบ่งออกเป็นชิ้นๆ ถึงแม้งานเฉลิมฉลองครั้งนี้จะไม่ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อะไร แต่บรรยากาศของงานก็เป็นไปอย่างดีจนไม่มีอะไรจะดีไปมากกว่านี้แล้ว
แปะ! แปะ!
ลู่ซีปรบมือและพูดขึ้นมาว่า “ต่อไป ขอเชิญผู้อำนวยการลู่ของพวกเรามาพูดอะไรสักหน่อย!”
“โอเค!”
ทุกคนปรบมือพร้อมกันทันที ตะโกนเห็นด้วยอย่างเสียงดัง สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องไปที่ลู่เฉิน
ในตอนนี้ ตั้งแต่ผู้จัดการระดับสูงจากฝ่ายบริหารของบริษัท จนถึงพนักงานธรรมดาทั่วๆ ไป ล้วนมีความรู้สึกภาคภูมิใจอยู่ภายในใจทั้งสิ้น เพราะบริษัทที่พวกเขากำลังทำงานให้นั้นถือได้ว่าเป็นการคงอยู่ระดับตำนาน
อยู่กับลู่เฉิน ไม่เคยมีคำว่าล้มเหลว!
ลู่เฉินยิ้มพร้อมยกนิ้วชี้แตะปาก ภายในห้องประชุมพลันเงียบลงทันที
“ขอบคุณครับ!”
เขากล่าวว่า “ขอบคุณสำหรับการทำงานอย่างหนักและมีประสิทธิภาพของทุกคนในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ ไม่มีพวกคุณ ก็ไม่มีความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้ทุกคนต้องลำบากแล้ว!”
หลังจากพูดจบ ลู่เฉินก็โค้งคำนับให้กับทุกคนอย่างลึกซึ้งจริงใจไอรีนโนเวล
ความรู้สึกขอบคุณของลู่เฉินนั้นไม่ใช่การแกล้งทำไปตามมารยาท อาศัยกำลังของเขาเพียงคนเดียว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เสร็จสมบูรณ์ได้ เพื่อที่จะถ่ายทำ ผลิต และประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่องนี้ ทีมงานทุกคนล้วนตั้งใจทำงานกันอย่างหนัก บ่อยครั้งที่ต้องทำงานล่วงเวลาก็ไม่มีคำบ่นเลยสักคำ
หลายคนแม้ไม่ได้มีชื่อทิ้งไว้ในตอนท้ายของภาพยนตร์ แต่ก็มีส่วนร่วมด้วยเช่นเดียวกัน
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เสียงปรบมือก็ดังกระหึ่มขึ้นมาอย่างฉับพลัน มีพนักงานหญิงหลายคนรู้สึกซาบซึ้งจนดวงตาแดงก่ำไปหมด
ลู่เฉินยืดตัวขึ้นและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องอื่นผมจะไม่ขอพูดให้มากความ เดือนนี้พนักงานทุกคนจะได้โบนัสพิเศษเพิ่มอีกสองเดือน รอจนรายได้จากการขายตั๋วของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ทะลุพันล้านเมื่อไร พวกเราจะมาจัดงานเฉลิมฉลองของจริงกันใหม่อีกครั้ง ถึงเวลานั้นทุกคนจะมาจับสลากเพื่อชิงโชคกัน!”
ว้าว!
คราวนี้เสียงปรบมือแทบจะทำให้หลังคาพลิกคว่ำลงมา มีพนักงานคนหนึ่งตะโกนออกมาเสียงดังว่า “ผู้อำนวยการลู่จงเจริญ!”
ไม่ว่าจะพูดอีกกี่ร้อยกี่พันคำ สรุปแล้วการให้โบนัสเพิ่มต่างหากจากเงินเดือนก็เป็นวิธีที่ใช้ได้จริง และเป็นวิธีการสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนที่ได้ผลมากที่สุด เงินเดือนเฉลี่ยของพนักงานในเฉินเฟยมีเดียนั้นอยู่ในระดับกลางถึงสูงในวงการ การได้โบนัสเพิ่มขึ้นสองเดือนนี้แน่นอนว่าเป็นกำไรอย่างมหาศาล
นอกจากนี้ยังจะมีการจัดงานฉลองอย่างจริงจังอีกในภายหลัง ถึงตอนนั้นรางวัลของสลากลุ้นโชคต้องไม่ใช่สิ่งของเล็กๆ น้อยๆ อย่างแน่นอน ผลประโยชน์ขนาดนี้เรียกง่ายๆ ว่ามีแต่ได้กับได้
ส่วนปัญหาที่ว่า ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ต้องทำรายได้จากการจำหน่ายตั๋วให้ทะลุ 1,000 ล้านเสียก่อน นั่นยังนับว่าเป็นปัญหาได้อยู่อีกหรือ
ในช่วงเวลาห้าวันก็เกือบจะถึง 400 ล้านแล้ว และยังเป็นการเพิ่มขึ้นแบบสวนกระแส แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำรายได้เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีกำหนด แต่ยังเหลือเวลาอีกกว่ายี่สิบกว่าวัน การทำยอดขายทะลุ 1,000 ล้านนั้นง่ายมาก ยอดขาย 1,500-2,000 ล้านต่างหากคือจุดสูงสุดที่สามารถเป็นไปได้
บรรยากาศภายในห้องประชุมนั้นเอิกเกริกครึกครื้นทะลุขีดจำกัดไปแล้ว
ลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ และลู่ซียิ้มให้กันและกัน แบ่งปันความสุขนี้ให้แก่ทุกๆ คน
ในวันที่ 6 ตุลาคม ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ทำรายได้จากการจำหน่ายตั๋วได้ 135 ล้านภายในวันเดียว และในวันที่ 7 ตุลาคม ทำรายได้ลดลงมาเหลือ 118 ล้านหยวน
แม้ว่าปาฏิหาริย์ของการเพิ่มขึ้นแบบสวนกระแสนี้จะสิ้นสุดลงในวันที่เจ็ด แต่ในสัปดาห์แรกของการเปิดตัว ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ก็ทำรายได้จากการจำหน่ายตั๋วสะสมถึง 630 ล้านหยวน ซึ่งมากกว่า 500 ล้านหยวนที่เป็นต้นทุนแรกเริ่มไปแล้ว การได้กำไรอย่างมหาศาลกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ไปเสียแล้ว
ในขณะเดียวกัน ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ก็ได้บดขยี้ภาพยนตร์แอกชันฟอร์มยักษ์ของฮอลลีวูดเรื่อง ‘กำเนิดโคตรพยัคฆ์ราชัน’ ทั้งในด้านของรายได้จากการจำหน่ายตั๋วรายวันและรายได้จากการจำหน่ายตั๋วรวมทั้งหมดจนย่อยยับ ฝ่ายนั้นทำรายได้จากการจำหน่ายตั๋วรายวันตกลงไปจนเหลือไม่ถึง 30 ล้าน ถึงแม้ในตอนที่เพิ่งเปิดตัวนั้นจะมีสถานการณ์ที่เอื้ออำนวยจึงสามารถเอาชนะมาได้ แต่ตอนนี้กลับโดนทำให้พ่ายแพ้อย่างไม่เป็นท่าไปเสียแล้ว
เช่นเดียวกัน อัตราการฉายของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ในโรงภาพยนตร์ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 7 ก็ได้แตะถึง 63.75% ซึ่งมีระยะห่างจากอัตราการฉาย 70% ของภาพยนตร์ที่เคยเป็นปรากฏการณ์สูงสุดไม่ถึง 7% และเป็นการบีบคั้นคู่แข่งเป็นอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้ ภายในวงการจึงเงียบไปเลย
แต่บนอินเทอร์เน็ต ชื่อเสียงของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ยังคงถูกบอกต่อและแพร่กระจายกันไปอย่างต่อเนื่อง
“ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ในประเทศที่น่าตื่นเต้นที่สุดในรอบสิบปี!”
“เอาชนะภาพยนตร์ฮอลลีวูดได้อย่างสมบูรณ์แบบ ภาพยนตร์กำลังภายในในประเทศเรื่องแรกของประวัติศาสตร์!”
“‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ แซง ‘กำเนิดโคตรพยัคฆ์ราชัน’ ขึ้นอันดับหนึ่งภาพยนตร์ที่ทำรายได้จากการจำหน่ายตั๋วสูงสุดถึง 630 ล้านภายในหนึ่งสัปดาห์!”
“แบบนี้สิถึงจะเป็นภาพยนตร์กำลังภายในที่แท้จริง…”
ในเว็บไซต์มะเขือเทศซึ่งเป็นเว็บไซต์ชุมชนภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ได้มะเขือเทศสดใหม่ไปสองหมื่นกว่า จำนวนมะเขือเทศเน่ามีไม่ถึงห้าพัน และมีระดับความสดใหม่ถึง 98%!
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคะแนนสี่ดาวครึ่งในบล็อกล่างฉาว มีจำนวนคนทำการประเมินมากกว่าสองล้านคน ในจำนวนนี้มีคำชื่นชมระดับห้าดาวถึง 93.45%!
ในเว็บไซต์กวงอิ่งก็ได้คะแนนไป 9.56 คะแนน…
ในเว็บไซต์วิจารณ์ภาพยนตร์เหล่านี้ ยังมีภาพยนตร์ในประเทศที่มีคะแนนสูงกว่า ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ อยู่ด้วย แต่ทั้งหมดนี้ล้วนอ้างอิงจากการให้คะแนนของผู้ชมจำนวนน้อยนิด ซึ่งไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ อย่างสิ้นเชิง ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ นั้นมีชื่อเสียงโดดเด่นมากเพียงใด
การบอกเล่าปากต่อปากก็เป็นการตลาดอย่างหนึ่ง ในกรณีที่ไม่ได้เหมาซื้อตั๋วภาพยนตร์ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ทำรายได้จากการจำหน่ายตั๋วภาพยนตร์ทะลุร้อยล้านหลายวันติดต่อกัน ก็มีความสมเหตุสมผลดีแล้ว
ลำพังแค่รายได้การจำหน่ายตั๋วเพียงอย่างเดียวคงไม่ทำให้ผู้คนประหลาดใจมากนัก แต่นี่ยอดขายของที่ระลึกที่เกี่ยวข้องกับ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ก็มีแนวโนมที่จะมาแรงเช่นเดียวกัน มียอดสะสมมากกว่าหนึ่งร้อยล้านภายในเจ็ดวัน และกำลังจะทำลายสถิติยอดขายของที่ระลึกของภาพยนตร์ในประเทศเรื่องก่อนหน้าอย่าง “โปเยโปโลเย” อีกด้วย!
ของที่ระลึกของภาพยนตร์ภายในประเทศขายดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน
ไม่น่าเชื่อ! ไม่กล้าเชื่อ! ไม่อยากจะเชื่อ!
จากนั้นก็มีคนที่รู้สึกไม่พอใจและไม่ยินยอม จึงตัดสินใจที่จะไปโรงภาพยนตร์เพื่อดูภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตนเอง
…………………………………………………………………………