นิยาย One Man Army ตอนที่ 82 ชายผู้ร้อนแรงผู้ไม่รู้จักคําว่ายอมแพ้ (1)
“โลนคิงจากกิลด์วัน….. ไม่เคยได้ยินชื่อเขามาก่อนเลย แต่เพียงมันคือกิลด์วันฉันจึงต้องระวังใช่มั้ย?”
กายแบคสนใจกิลด์ที่โดนคิงเป็นสมาชิกอยู่เป็นอย่างมาก กิลด์วันเป็นหนึ่งในกิลด์ชั้นสูงที่แข็งแกร่งที่สุด นอกจากนี้ยังรู้จักกันในชื่อ “ร้อยในหนึ่ง”ไม่สิพันในหนึ่ง
นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่สามารถถูกดูแคลนได้
หลังจากที่กายแบคดึงลูกประคําวิญญาณของเขาที่ชื่อ จิ้งจอกห้าหางเขาขยับนิ้วในมือขวาและมือซ้ายในท่าทางที่แตกต่างกันเพื่อสร้างสองเวทมนตร์ที่แตกต่างกันอย่างรวดเร็ว
เวทย์แรกก็คือ เศษน้ำแข็ง” ที่จะพุ่งไปแทงอีกฝ่ายและอีกหนึ่งเวทย์ก็คือ แช่แข็งอากาศ’ ที่สามารถผูกมัดเท้าของอีกฝ่ายโดยการแช่แข็งอากาศที่อยู่รอบเท้า
“ก่อนอื่นก็แช่แข็งเท้า…”
กายแบคพยายามแช่แข็งเท้าของโลนคิงด้วยแช่แข็งอากาศ แต่เมื่อเขาพยายามใช้เวทย์ความเร็วสูงอย่างแช่แข็งอากาศก็มีกรชพุ่งมาหาขาจากทาง
เวทย์แช่แข็งอากาศอาจจะไม่ได้ทรงพลัง แต่เวลาการร่ายนั้นสั้นมาก เวทย์ความเร็วสูงนั้นเป็นเวทมนตร์ที่สามารถลดเวลาการร่ายโดยการเลือกใช้เอฟเฟกต์ค่าลงท้ายดังนั้นเวลาการร่ายจึงสั้นมาก
เวลาการร่ายของแช่แข็งอากาศที่เขาใช้นั้นประมาณ 0.7 วินาทีเท่านั้น แต่กรีชก็พุ่งเข้ามาโจมตีเขาในช่วง 0.7 วินาทีนั้น
เครั้งง!
แม้ว่ากรชจะไม่ได้โจมตีโดนกายแบคโดยตรง แต่ก็พุ่งไปหาเท้าของกายแบคเพื่อขัดขวางการร่ายเวทย์ ท่าให้กายแบคไม่สามารถร่ายแช่แข็งอากาศจบได้อย่างสมบูรณ์
หวูดด!
แช่แข็งอากาศพุ่งไปไกลกว่าจุดที่กายแบคเล็งไว้เล็กน้อย เป็นผลทําให้โลนคิงสามารถหลบอากาศแช่แข็งได้อย่างง่ายดาย
“บังเอิญใช่มั้ย?”
กายแบคส่ายหัวเล็กน้อยและเศษน้ำแข็งก็พุ่งออกไปทันที เศษน้ำแข็งนั้นเป็นเวทมนตร์ที่สามารถร่ายได้ทันที ดังนั้นจึงไม่มีทางถูกขัดจังหวะ
แต่ครั้งนี้ในทันทีที่เศษน้ำแข็งโผล่ออกมาจากมือของกายแบค มันก็ถูกตัดเป็นสองส่วนอย่างรวดเร็ว
แคร็กกกก!
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะตัดเศษน้ำแข็งที่พุ่งด้วยความเร็วเกือบ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สกิลที่โลนคิงใช้นั้นเป็นหนึ่งในสกิลเฉพาะของอัศวินเงา ดาบมังกรทมิฬ” มันเป็นสกิลวิญญาณที่จําเป็นต้องใช้การควบคุมที่ละเอียดอ่อน
สกิลดาบมังกรทมิฬสามารถกล่าวได้ว่าเป็นสกิลโจมตีที่ใช้ ป้องกัน” ได้
มันเป็นการป้องกันที่ไม่ต้องรับการโจมตีของอีกฝ่ายโดยตรง โดยการขัดขวางนักเวทย์ด้วยการปาอาวุธหรือมีด การโจมตีเพื่อสร้างการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ
“นี่ไม่ใช่เรื่องตลกใช่มั้ย?”
ในเวลานั้นมีเหงื่อที่เย็นเฉียบไหลผ่านกระดูกสันหลังของกายแบค
นี่เป็นวิธีที่ผู้เชี่ยวชาญยอมรับผู้เชี่ยวชาญด้วยกันเอง แน่นอนว่าเพียงการโจมตี 2 ครั้งกายแบคก็สามารถสังเกตุเห็นฝีมือของอีกฝ่ายทันที
แต่เขาคือเบลคผู้ที่จะไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ
กายแบคกระโดดถอยหลังอย่างรวดเร็วโดยใช้ “เท้าวายุ” ซึ่งเป็นหนึ่งในสกิลพื้นฐานของนักเวทย์สงคราม ดังนั้นเวทย์ของกายแบคจึงเรียบง่ายและรวดเร็ว
ฟบ ฟบ ฟบ!
กายแบคผู้ที่ถอยกลับไปได้ไม่กี่เมตรในพริบตาก็มองโลนคิงพร้อมกับใช้มือทั้งสองจับลูกประคํา
ความรู้โบราณของกายแบคคือ นักเวทย์น้ำแข็ง” และ “นักเวทย์โลหิต
นักเวทย์น้ำแข็งของกายแบคนั้นถึงระดับ 8 และนักเวทย์โลหิตถึงระดับ 7 สิ่งที่น่าสนใจก็คือผู้เล่นทั้งหมดที่เรียนรู้ความรู้โบราณประเภทนักเวทย์จะสามารถเลือก “เวทมนตร์ทั่วไป” ได้ทุก 1 – 2 ระดับ
ผู้เล่นคนหนึ่งสามารถเลือกเวทมนตร์ทั่วไปได้ถึง 7 คาถา แต่พวกเขาต้องเลือกพวกมันอย่างถี่ถ้วนเท้าวายุที่กายแบคใช้ก่อนหน้านี้ก็คือหนึ่งในเวทมนตร์ทั่วไปที่หาที่ง่าย
“หอกน้ำแข็งและมือโลหิต!”
ตัวเลือกของกายแบคคือหอกน้ำแข็งซึ่งมาจากเวทย์น้ำแข็งระดับ 3 และมือโลหิตซึ่งมาจากเวทย์โลหิตระดับ 3
พวกมันทั้งสองคือเวทมนตร์ระดับ 3 ดังนั้นหากเขาร่ายได้อย่างรวดเร็วผ่านลูกประค่ามันจําเป็นต้องใช้เวลา 1 วินาที และ 0.9 วินาทในการร่าย อย่างไรก็ตามกายแบคร่ายเวทย์คู่และลดเวลาการร่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้
การร่ายเวทย์คู่นั้นทําได้เมื่อคุณร่ายเวทย์ที่แตกต่างกันในมือทั้งสองข้างได้ซึ่งต้องมีค่า VRA อย่างน้อย 250
อันที่จริงแล้วแม้ว่าค่า VRA จะสูง แต่ก็ไม่สามารถทําได้หากอารมณ์ไม่คงที่การร่ายเวทย์คู่นั้นมีคนเท่าได้ไม่กี่คนเท่านั้นซึ่งคนพวกนี้มักจะถูกเรียกว่าเกิดมาเพื่อเป็นนักเวทย์….. กายแบคนั้นสามารถร่ายเวทย์คู่ได้รวดเร็วและแม่นยํายิ่งกว่าใครๆ
การรักษาระยะห่างและการร่ายเวทย์คู่นั้นเกิดขึ้นเกือบจะในเวลาเดียวกันนั่นเป็นเหตผลที่กายแบคคิดว่าเขาจะไม่ถูกขัดขวางการร่ายเวทย์โดยอีกฝ่าย
“จับด้วยมือโลหิตและแทงด้วยหอกน้ำแข็ง!”
การผสานของมือโลหิตและหอกน้ำแข็งนั้นเรียบง่ายและทรงพลัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการร่ายเวทย์คู่นั้นสามารถทําได้อย่างสมบูรณ์เหมือนกับที่กายแบคทํามันให้ความรู้สึกเหมือนกับสกิลเพียงสกิลเดียวเพราะสกิลทั้งสองถูกใช้ในเวลาเดียวกัน
ถ้าหากอีกฝ่ายเป็นผู้เล่นทั่วไป อีกฝ่ายจะก็หลบการโจมตีหรือทําได้แค่ป้องกันการโจมตีเท่านั้น
แต่โลนคิงนั้นแตกต่าง
เขาไม่หลบและไม่ป้องกันมัน
เขา…. ทนมัน
โลนคิงพุ่งผ่านมือโลหิตและหอกน้ำแข็งราวกับป้อมปราการที่แข็งแกร่ง
อันที่จริงแล้วมันไม่สมเหตุสมผลเลย ด้วยมือโลหิตที่พันรอบร่างกายของเขาและหอกน้ำแข็งก็โจมตีมาที่หัวของเขาอย่างแม่นย่าเขาควรตายสิหรืออย่างน้อยเขาควรถูกผลักกลับไป
นั่นเป็นเรื่องธรรมดา
แต่โดนคิงไม่สนใจป้องกันเวทมนตร์ทั้งสองเลย ในทางกลับกันโดนคิงก็ได้รับเวลาและลดระยะห่างให้สั้นลง
เขารีบเข้าใกลให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้ จากนั้นมันก็ถึงเวลาแห่งการโจมตีโลนคิงโจมตีด้วยดาบของเขาอย่างไม่ลังเล
“บ้าไปแล้ว”
กายแบคนั้นรู้สึกประหลาดใจกับการตอบโต้ที่ไม่คาดคิดของอีกฝ่าย และหมุนร่างกายของตนเองอย่างรวดเร็ว จากนั้นในเวลาเดียวกันการร่ายเวทย์ความเร็วสูงในมือขวาของเขาก็เสร็จสิ้น
โลนคิงสามารถพูดได้เลยว่ากายแบคนั้นไม่ใช่ผู้เล่นทั่วไป ในสถานการณ์นี้ผู้เล่นทั่วไปไม่มีทางที่จะตอบสนองได้ทันท่วงทีและโดนดาบของโลนคิงแทงเข้าที่หัวใจ
แต่ในช่วงที่กายแบคโต้ตอบ แม้ว่ามันอาจจะสายไป แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้จนวินาทีสุดท้าย
เวทย์ที่เร็วที่สุดที่กายแบคเลือกในเวลานี้ก็คือเวทย์ระดับ 2 การแช่แข็ง
กายแบครู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหรือป้องกันดาบของโลนคิงดังนั้นเขาแช่แข็งดายและลดพลังการทะลุทะลวงของดาบให้มากที่สุดในเวลาเดียวกันก็หมุนร่างกายของเขาเพื่อหลบการโจมตีให้ได้มากที่สุด
นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดของกายแบค
มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่กายแบคสามารถร่ายการแช่แข็งได้ทันเวลา และแช่ดาบนักล่าออร์คได้ทันอย่างไรก็ตามโลนนิ่งก็แทงร่างของกายแบคด้วยดาบนักล่าออร์คไม่ว่าดาบจะถูกแช่แข็งหรือไม่
เนื่องจากเขาหมุนร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว กายแบคหลบการดาบไม่ให้แทงหัวใจเขาได้ทําให้ดาบแทงปอดของเขา
กายแบคเชื่อว่าหากเป็นแบบนี้ เขาจะไม่ตายและอาจจะตอบโต้ได้ แต่…. เมื่อการโจมตีของโลนคิงกลายเป็นการโจมตีติดคริติคัล ความคิดทั้งหมดก็หายไปราวกับฟองสบู่
ในชั่วพริบตา เลือดของกายแบคก็ลดลงจาก 100% เหลือ 20% และแน่นอนว่าความรู้สึกด้านชาปรากฏอยู่ทั่วร่างของกายแบค
“อะไร นี่มันอะไรกัน…”
ความคิดแรกที่เข้ามาในหัวของกายแบคผู้ซึ่งไม่สามารถขยับร่างกายของเขาได้เนื่องจากเกิดการอัมพาตก็คือ นี่ไม่สมเหตุสมผลเลย”
มันไม่สมเหตุสมผลอย่างแท้จริง การหลบอย่างรวดเร็วและยิ่งไปกว่านั้นคือการใช้เวทย์การแช่แข็งเพื่อลดดาเมจได้อย่างมากแต่ถึงกระนั้นการโจมตีติดคริติคัลก็ทําให้เลือกของกายแบคเกือบจะหมดลง
กายแบคผู้ซึ่งร่างกายแข็งที่อราวกับหินก็เป็นเหมือนกับกระสอบทรายของโลนคิง
ฉีก ฉีก!
โลนคิงที่มีการท่าทางที่ไม่แยแสก็ดึงดาบออกจากปอดของกายแบคและแทงเข้าไปที่หัวใจทันที
ไม่มีความแค้นส่วยตัวเลย เขาเพียงแค่สังหารอีกฝ่ายเพื่อชัยชนะ
ตุบ!
กายแบคล้มลงกับพื้น จนถึงตอนที่เขาล้มลง เขาก็ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอน
“อะไรกัน? มันเป็นไปได้ด้วยเหรอ? แน่ใจนะ? จริงเหรอ?”
แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสมาชิกกิลด์วันกายแบคแทบจะไม่สามารถยอมรับได้ว่าเขาพ่ายแพ้อย่างง่ายดายแต่เพราะเขายังไม่พ่ายแพ้ในการแข่งขันเขาจึงคิดว่าเขาน่าจะลองสู้กับโลนคิงอีกครั้ง
กายแบครีบกลับมาหลังจากฟื้นคืนชีพ
เขาไม่เคยพ่ายแพ้อย่างน่าตลกแบบนี้เลย
ผลสรุปก็คือกายแบคนั้นถูกพ่าย 4 ครั้งแล้วนับตั้งแต่การพ่ายแพ้ครั้งแรกของเขามันเป็นการพ่ายแพ้ที่น่าสยดสยองซึ่งทุกครั้งไม่แตกต่างจากการพ่ายแพ้ครั้งแรกมาก นัก
เขาถูกซ้อมตั้งแต่การปะทะครั้งแรก
แน่นอนว่ากายแบคไม่สามารถเข้าใจผลลัพธ์ได้ เขาไม่ใช่แค่คนที่ชอบแข่งขันแต่ยังเป็นคนที่ดื้อรั้นมาก
ดังนั้นเขาไม่ลังเลที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ใน “เส้นทางแห่งการพิสูจน์” ทันที
หลังจากนั้นเขาก็พ่ายแพ้ 31 ครั้งใน 5 ชั่วโมง ผู้ที่ทําให้เขาพ่ายแพ้ทั้ง 31 ครั้งก็คือโลนคิงโลนคิงนั้นเอาชนะกายแบคได้โดยไม่แพ้แม้แต่ครั้งเดียว
ด้วยการพ่ายแพ้ 31 ครั้งติดต่อกัน จิตใจของกายแบคก็แตกสลายเป็นชิ้นๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งการพ่ายแพ้ 31 ครั้งนั้นเป็นการพ่ายแพ้ด้วยคะแนนสังหาร 5 : 0
เขาไม่สามารถสังหารโลนคงได้แม้แต่ครั้งเดียว
เขาไม่สามรรถทําดาเมจให้กับโลนคิงได้มากนัก
ในสถานการณ์แบบนี้ กายแบคนั้นเกือบจะเป็นบ้าแล้ว
กายแบคนั้นเป็นผู้เล่น PvP ที่มีชื่อเสียง หากมีการจัดอันดับนักเวทย์สงครามเขานั้นมักจะติดอยู่ในสามอันดับแรกเสมอ
จากผลลัพธ์แล้วดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถเอาชนะได้ไม่ว่าเขาจะท้าทายมากแค่ไหนก็ตามแน่นอนว่าหากเขาเป็นผู้เล่นทั่วไป เมื่อเผชิญหน้ากับการพ่ายแพ้ 10 ครั้งติดต่อกันเขาก็ตงจะยอมแพ้และไม่ท้าทายต่ออีก
แต่กายแบคนั้นไม่ยอมแพ้
แม้ว่าการพ่ายแพ้ 31 ครั้งจะทําให้ความมั่นใจของเขาแตกสลาย แต่เขาก็ยังไม่คิดที่จะยอมแพ้สําหรับเขาแล้วความมั่นใจที่แตกสลายของเขาและการปฏิเสธการท้าทายนั้นเป็น 2 เรื่องที่แตกต่างกัน
“ฟูวว…ฉันจะไม่ยอมแพ้!”
เนื่องจากกายแบคนั้นจิดใจอ่อนล้า เขาจึงไปพักผ่อนประมาณ 10 นาทีก่อนที่จะมาท้าทายอีกครั้ง
ชายผู้ร้อนแรงผู้ไม่รู้จักค่าว่ายอมแพ้
เขาคือกายแบค
“วอร์ลอร์ดกายแบค…ฉันพบนายแล้ว”
ซางฮยอคปิดหน้าต่างการต่อสู้และพื้มพ่าด้วยรอยยิ้ม
เขารู้ว่ากายแบคคือใคร
กายแบคนั้นเป็นบุคคลที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การ PvP ของ EL ในฐานะ “วอร์ลอร์ด”และต่อมาก็กลายเป็นนักเล่นเกมมืออาชีพที่ภูมิใจในฝีมือที่ยอดเยี่ยมของตนเอง
เขาไม่เคยติดต่อกับซางฮยอกเป็นพิเศษ มันเป็นเพียงคําทักทายง่ายๆไม่กี่ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ทีมเดียวกันและยิ่งไปกว่านั้นช่วงเวลากิจกรรมหลักของทีมพวกเขาก็แตกต่างกัน
เมื่อซางฮยอคสร้างชื่อให้กับตนเองในฐานะผู้เล่นระดับสูง กายแบคก็ไม่ได้เล่นเกมในฐานะนักเล่นเกมมืออาชีพอีกต่อไป และหันมาเล่นเกมเพื่อความสนุกอย่างช้าๆ
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีโอกาสสร้างความสัมพันธ์กัน
แต่ซางฮยอครู้จักคนอย่างกายแบคเป็นอย่างดี เขานั้นเป็นคนที่มีชื่อเสียงและนักเล่นเกมมืออาชีพมากมายเคยได้ยินเรื่องราวของเขา
“ในตอนนั้น ค่านิยามของเขาก็คือ….ชายที่ดี มันเป็นเรื่องยากมากที่จะได้ยินเรื่องแย่เกี่ยวกับตัวเขา”
“เขาเป็นบุคคลที่สามารถกลายเป็นหนึ่งในตํานานของ EL แต่…ฉันเล่นงานเขาหนักเกินไปมั้ยนะ?
แม้ว่ากายแบคนั้นจะเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม แต่เขาก็ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของซางฮยอคได้ในตอนนี้ กายแบคกไม่สามารถเอาชนะซางฮยอคได้เนื่องจากช่องว่างขนาดใหญ่ด้านประสบการณ์การต่อสู้ถึงแม้ว่ากายแบคตะมีการควบคุมระดับ 2
“31 ครั้ง….. นายจะยอมแพ้แล้วหรือยังนะ? ฉันได้ยินมาว่านายเป็นนักเล่นเกมที่ร้อนแรงผู้ไม่รู้จักคําว่ายอมแพ้”
ซางฮยอคหวังลึกๆ ว่ากายแบคจะท้าทายต่อ อันที่จริงแล้วการจับคู่กับกายแบคนั้นถือได้ว่าเป็นเกมเร็วอย่างแท้จริงเนื่องจากจบในเวลาแค่ 7 ถึง 9 นาทีเท่านั้นดังนั้นสําหรับซางฮยอคเขาจึงเป็นคู่ต่อสู้ที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย
ฉันต้องรอนานแค่ไหนกันนะ?
ในที่สุดการต่อสู้ก็เริ่มขึ้นและหน้าต่างการจับคู่ก็ถูกเปิดออกมา
และในเวลานั้น…
ซางฮยอคยิ้มอย่างมีความสุข
ชื่อ กายแบค ลอยอยู่บนหน้าต่างการจับคู่
กายแบคนั้นเป็นนักเล่นเกมที่ร้อนแรงผู้ที่ไม่รู้จักคําว่ายอมแพ้เหมือนอย่างที่เขาเคยได้ยินในชีวิตก่อนของเขา