One Man Army 60 เส้นทางแห่งความตาย (2)

ตอนที่ 60 เส้นทางแห่งความตาย (2)

One Man Army ตอนที่ 60 เส้นทางแห่งความตาย (2)

ซางฮญอคได้เดินอย่างสบายใจในเส้นทางแห่งความตาด้วยความแข็งแกร่งของเขา

มีมอนเตอร์เลเวลสูงจํานวนมากได้มาขว้างทางของเขา แต่ซางฮยอคกลับสามารถสังหารพวกมันได้ง่ายกว่าที่คิดไว้ ความแข็งแกร่งของความรู้โบราณ 4 ชนิดและพลังของอุปกรณ์ของเขารวมทั้งกระสบการณ์ที่เขามีในชีวิตก่อนของเขา ทําให้เกิดพลังที่ทรงพลัง และซางฮยอคก็สามารถเดินในเส้นทางแห่งความมืดได้สบายกว่าที่เขาคิด

 

แน่นอนว่าเขายังเหลืออีก 1 กิโลเมตรกว่าจะถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางแห่งความตายซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นส่วนที่ยากที่สุดของเส้นทางแห่งความตาย แต่ด้วยความเร็วการเดินแบบนี้ เขาสามารถผ่านโซนนั้นด้วยไม่ลําบากมากนัก

 

ฉัวะ!

 

เขาผ่าร่างของออร์คตาแดงออกเป็นสองซีกด้วยดาบนักล่าออร์คและมองไปข้างหน้า

 

เส้นทางข้างหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นหุบเขาที่มีถนนที่คับแคบ แม้แต่แสงก็ยังส่องไปไม่ถึงพื้นที่แห่งนี้ พื้นที่แห่งนี้คือ 1 กิโลเมตรสุดท้ายของเส้นทางแห่งความมืด “ถนนหุบเขาแห่งความมืด

โซนนี้มีระดับความยากสูงที่สุดในเส้นทางแห่งความตาย

ในพื้นที่แห่งนี้ ออร์คตาแดงที่น่ารังเกียจไม่ปรากฏออกมาอีกต่อไป

 

แต่กลับปรากฏมอนเตอร์ประเภทอันเดตที่ชื่อว่า “อัศวินแห่งความมืด” และมอนเตอร์พวกนี้มีเลเวลเฉลี่ยอยู่ที่ 69 พวกมันแข็งแกร่งกว่าออร์คตาแดง และพวกมันก็สามารถโผล่มาจากทั่วทุกที่ในโซนนี้

ถ้าหากซางฮยอคไม่รู้จักพวกมันมาก่อน เขาอาจจะตกตะลึง – พวกมันปรากฏตัวออกมาอย่างกระทันหันและปรากฏตัวออกมาพร้อมกันหลายตัว

อย่างไรก็ตามเรื่องนั้นจะไม่เกิดขึ้นกับเขา ซางฮยอครู้ว่าพวกมันจะปรากฏตัวออกมา นอกจากนี้เขายังเตรียมวิธีรับมือกับพวกมันเอาไว้แล้ว

ซางฮยอคหยิบการ์ดฟิวชั่นออกมาจากกระเป๋ามิติของเขา

“การ์ดฟิวชั่นแสงศักดิ์สิทธิ์ควรจัดการกับอัศวินแห่งความมืดได้

วัสดุหลักเพื่อสร้างการ์ดฟิวชั่นใบนี้ขึ้นมาคือการ์ดธาตุแสงระดับ กลาง การ์ดน้ําศักดิ์สิทธิ์ การ์ดอัญมณีระดับสูงและการ์ดเพชรระดับสูง มันเป็นการ์ดที่ค่อนข้างแพงเลยทีเดียว

เอฟเฟกต์ของการ์ดใบนี้มีสองเอฟเฟกต์ ซึ่งเอฟเฟกต์ที่หนึ่งคือ การฮีลที่ใช้กับตัวเองหรือพัธมิตร และเอฟเฟกต์ที่สองก็คือการเสริมพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้กับไอเทม

ซางฮยอคใช้การ์ดแสงศักดิ์สิทธิ์เพื่อเสริมพลังศักดิ์สิทธิ์ให้กับแส้กระดูกทองคําหมื่นปี

 

ฟริ้งงง!

 

ทําให้แม้กระดูกทองคําหมื่นปีมีคุณสมบัติธาตุแสงเป็นเวลา 20 นาที

อัศวินแห่งความมืดนั้นเป็นมอนเตอร์ประเภทอันเดตและมีคุณสมบัติธาตุมืดซึ่งคุณสมบัติเป็นธาตุข่มของมัน แน่นอนว่าซางฮยอคไม่ได้เตรียมแค่คุณสมบัติธาตุแสงเมื่อเขาวางแผนที่จะผ่านเส้นทางแห่งความตาย

 

การเสริมพลังให้กับอาวุธนั้นจะทําให้เขาสามารถต่อสู้กับพวกมันได้ง่ายกว่าเดิม

แต่ปัจจัยที่สําคัญที่สุดก็ยังเป็นฝีมือการต่อสู้ของเขาเอง

 

ซ้าบบบ บี้มมมมม!

 

ซางฮยอคเหวี่ยงแส้ของเขาไปด้านข้าง ด้วยคุณสมบัติธาตุแสง ทําให้แสักระดูกทองคําหมื่นปีสามารถตัดหัวอัศวินแห่งความมืดที่พึ่งปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากอัศวินแห่งความมืดปรากฏออกมาพร้อมกับหลายตัว วิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับพวกมันก็คือการตัดหัวของพวกมันก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้ามาโจมตีเขา

 

อัศวินแห่งความมืดพ่นลมหายใจออกมาด้วยความไม่พอใจ ในขณะที่พวกมันพุ่งไปหาซางฮยอค

ปัจจุบันซางฮยอคได้ต่อสู้มาแล้ว 2 ชั่วโมง

ในตอนนี้มันจะไม่แปลกเลยที่เขาจะพลาดพลั้งและตายได้ แต่เขาก็ยังคงยืนหยัดได้ เนื่องจากค่า HP ของเขาสูงกว่าผู้เล่นปกติมากและเขาก็มักจะหลบการโจมตีมากกว่าป้องกันทําให้เขาไม่ค่อยเสีย HP ของเขามากนัก

 

เขาไม่กังวลว่าตัวเองจะตายมั้ย แต่เขากลับกังวลว่าเขาจะใช้การ์ดฟิวชั่นหมดก่อนแทน

 

เขาได้เตรียมการ์ดแสงศักดิ์สิทธิ์มาทั้งหมด 12 ใบ และที่เขาเตรียมมาแค่นี้เป็นเพราะมันมีต้นทุน 4 ทําให้เขาสามารถใช้มันได้แค่ 12 ใบเท่านั้น

 

แต่ตอนนี้เขากลับใช้มันไป 5 ใบแล้ว

 

เมื่อคิดว่ายังเหลืออีก 600 เมตรกว่าจะถึงทางออก เขาจึงรู้สึกว่าการ์ดของเขาไม่พอ

 

“อ๊าคคค ไอ่พวกบัดชพวกนี้มีอยู่ทุกที่เลย”

 

เขารู้อยู่แล้วว่าจะมีอัศวินแห่งความมืดมากมายที่จะขัดขวางเขา แต่นี่มันเยอะมากเกินไป

 

ซ้าบบ!

 

ซาฮยอคเหวี่ยงแส้กระดูกทองคําหมื่นปีของเขาไปพันรอบคอของอัศวินแห่งความมืดที่อยู่ใกล้เขาที่สุดและดึงมันมาหาเขา

 

ฉีก!

 

ซาฮยอคแทงดาบสีเงินเข้าที่หัวของอัศวินแห่งความมืดได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าดาบสีเงินจะไม่มีคุณสมบัติธาตุแสง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะโจมตีไม่เข้า

 

ซางฮยอคบิดดาบสีเงินที่เสียบอยู่ในหัวของอัศวินแห่งความตายไปทางขวาอย่างไร้ความปราณี

 

หวีด หวีด หวีด หวีด หวีด!

เขาป้องกันการโจมตีจากอัศวินแห่งความมืดตัวอื่นด้วยศพของอัศวินแห่งความมืดที่เขาพึ่งสังหารไป

ป้าบบ!

ซางฮยอคเตะไปที่ศพของอัศวินแห่งความมืดและเหวี่ยงแขนขวาของเขาด้วยท่าทางแปลกๆ

 

ช้าบบ!

 

เขาใช้แสักระดูกทองคําหมื่นปีสังหารอัศวินแห่งความมืดที่อยู่ด้านขวาของเขาราวกับดาบ

ยังเหลืออัศวินแห่งความมืดอีก 2 ตัว

เนื่องจากอัศวินแห่งความมืดนั้นไม่ได้มีความกลัวเหมือนกับมนุษย์ ทําให้พวกมันยังคงโจมตีซางฮยอคอย่างต่อเนื่อง

ในความคิดของซางฮยอค เรื่องนี้มันเป็นเรื่องดีสําหรับเขา

มันน่ารําคาญอย่างมากที่ต้องไล่สังหารมอนเตอร์ที่วิ่งหนีไป

ซ้าบบ

 

แต่เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีเมื่อเขาเห็นอัศวินแห่งความมืดเริ่มปรากฏออกมาล้อมรอบเขาอีกครั้ง

เขาจะไม่เสียใจเลยหากพวกมันให้คาร์มากับเขาจํานวนมาก แต่พวกมันแทบจะไม่ให้มาเลย

 

“บัดซ*เอ้ย!”

 

ซ้าบบบ!

ในขณะที่เหวี่ยงแส้กระดูกทองคําหมื่นปีอีกครั้ง เขาก็ตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิด

อัศวินแห่งความมืดปรากฏออกมาไม่จบไม่สิ้น

 

เมื่อเวลาผ่านไปและเขาอยู่ใกล้กับทางออก อัศวินแห่งความมืดก็ยิ่งปรากฏออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ทําให้เขารู้สึกราวกับว่าพวกมันจะไม่ยอมปล่อยให้เขาพิชิตเส้นทางแห่งความตายได้

 

ถ้าหากเหตุการณ์นี้ถูกวาดลงออกมาก็จะเป็นรูปที่แขนสีดํานับร้อยนับพันโผล่ออกมาจากความมืดเพื่อคว้าตัวซางฮยอค แต่ซางฮยอคกสลัดพวกมันอย่างต่อเนื่องในขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว

 

ความมืดที่อยู่ข้างหลังของเขาคือเส้นทางแห่งความตาย ในขณะที่แขนที่โผล่ออกมาก็คือแขนของอัศวินแห่งความมืด

ซางฮยอคต่อสู้ในหุบเขาแห่งความมืดที่เป็นกิโลเมตรสุดท้ายของเส้นทางแห่งความตายมาเป็นเวลา 8 ชั่วโมงแล้ว

ยิ่งเขาอยู่ใกล้ทางออกมาเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีอัศวินแห่งความมืดปรากฏออกมามากขึ้นเท่านั้น และการ์ดแสงศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็หมดแล้ว

 

เหลือเพียงแค่ 40 เมตรสุดท้ายก่อนที่จะถึงทางออก

ทั้ง HP และมานาของเขาก็ใกล้จะหมดแล้ว แต่หากเขาล้มลงเขาก็จะต้องเริ่มต้นใหม่หมดเลย

 

“ฉันไม่อยากทําอย่างนั้น!”

 

การพิชิตเส้นทางแห่งความตายนั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าบอกว่าตัวเองจะพิชิตได้หากล้มเหลวครั้งนี้และลองอีกครั้ง โดยเฉพาะตอนนี้ เขาใกล้จะถึงทางออกแล้ว เขาจะได้รับความเสียหายทางจิตใจเยอะมากหากเขาล้มลงตรงนี้

 

ซ้าบบบ!

 

ซางฮยอคบีบเค้นพลังเฮือกสุดท้ายของเขาเพื่อใช้แส้กระดูกทองคําหมื่นปราวกับหมุนราวกับดาบ และนั่นทําให้อัศวินแห่งความมืดนับสิบตายในทันที

อยางไรก็ตามการทําแบบนี้มันไม่ได้มีความหมายเลย ข้างหลังของเขานั้นยังมีอัศวินแห่งความมืดอยู่อีกหลายร้อยตัว

อันที่จริงแล้วกิโลเมตรสุดท้ายในความทรงจําของซางฮยอคไม่ได้ยากแบบนี้ อัศวินแห่งความมืดพวกนี้พุ่งเข้ามาหาเขาราวกับซอมบี้ในเรื่องผีชีวะ

ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสังหารพวกมันได้ทั้งหมดทุกตัว หลายสิบตัวก็ยากเกินพอแล้ว แต่ถ้าเป็นหลายร้อยตัวล่ะ? ลืมไปได้เลย

 

หลังจากที่อัศวินแห่งความมืดปรากฏออกมานับร้อยตัว ซางฮยอคก็ยังคงเหวี่ยงแส้กระดูกทองคําหมื่นปีและดาบนักล่าออร์คอย่างบ้าคลั่ง พวกมันปรากฏออกมาอย่างต่อเนื่องราวกับมันเป็นบัคของเกม

 

จากความทรงจําของเขา กิโลเมตรสุดท้ายนั้นไม่ได้มีอัศวินแห่งความมืดมากขนาดนี้เลย ดังนั้นสถานการณ์นี้มันจึงเหมือนบัค

แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามซางฮยอคก็ยังคงบีบเค้นพลังเฮือกสุดท้ายของเขาเพื่อสังหารอัศวินแห่งความมืดหลายสิบตัว และผลลัพธ์ก็คือเขาได้รับเวลาไม่กี่วินาที

เวลาไม่กี่วินาทีที่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด

 

หลังจากเวลาไม่กี่วินาทีพวกนั้นผ่านไป อัศวินแห่งความมืดชุดใหม่ก็ปรากฏตัวออกมา เขารู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่เหตุผลที่เขายังคงดิ้นรนอย่างต่อเนื่อง… ก็เพื่อใช้วิธีการสุดท้ายของเขา

วิธีเพียงหนึ่งเดียวที่เขายังคงเหลืออยู่

 

ซางฮยอคคิดที่จะใช้วิธีนั้นเพื่อหลุดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้

 

เหลืออีก 40 เมตร ถ้าฉันไปไม่ถึงในครั้งเดียว มันก็เกมเลย!”

 

ไม่มีโอกาสครั้งที่สอง

โอกาสครั้งนี้คือโอกาสเพียงครั้งเดียวของเขา

 

ซางฮยอคมองไปรอบๆ อย่างรวดเร็วเพื่อหาทางออก จากนั้นเขาก็ใช้สกิลไอเทมของหมวกของเขา

สกิลไอเทมของหมวกแห่งการพิพากษา “พายุทรายขนาดเล็ก”

ไพ่ใบสุดท้ายของเขาก็คือสิ่งนี้ แน่นอนว่าการใช้สกิลนี้ไม่ได้ช่วยให้เขาหลุดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้โดยไม่ต้องทําอะไรเลย

สกิลพายุทรายนั้นจะเป็นสกิลที่ OP หรือเป็นสกิลขยะก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้ใช้สกิล

 

มีไม่กี่วิธีในการใช้สกิลนี้ และวิธีที่ซางฮยอคจะใช้ในตอนนี้ชื่อว่า “การโต้คลื่นพายุทราย” ซึ่งเป็นวิธีที่ยากที่สุดในการใช้สกิลนี้

การโต้คลื่นพายุทราย

 

ก็เหมือนกับชื่อของมันซึ่งเป็นการโต้คลื่นกลางอากาศโดยการใช้พายุทราย

ซางฮยอคใช้พายุทรายให้ตรงไปที่ทางออกและกระโดดขึ้นไปหาพายุทรายทันที

 

พายุทรายจะไม่ทําอันตรายต่อผู้ใช้ แต่นอกจากนี้มันยังสามารถทําให้ผู้ใช้ลอยขึ้นได้โดยการใช้ลม

ซางฮยอคนั้นคิดที่จะใช้พลังลมของพายุทรายเพื่อ “โต้คลื่น”

มันอาจเป็นจะเรียกได้ว่าเป็นการกระโดดกลางอากาศก็ว่าได้ แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามเขาก็ต้องรักษาสมดุลของเขาในขณะที่เขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้าโดยใช้พายุทราย

 

เนื่องจากอัศวินแห่งความมืดถูกพายุทรายพัดกระจายออกไป พวกมันจึงไม่สามารถเข้ามาโจมตีซางฮยอคได้

อย่างไรก็ตามซางฮยอคก็ไม่ได้พักเลย

การโต้คลื่นพายุทรายนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การรักษาสมดุลบนพายุทรายนั้นเป็นไปไม่ได้หากคนที่โต้คลื่นบนพายุทรายมีสัมผัสที่ธรรมดา แม้แต่ซางฮยอคก็ยังต้องพยายามอยู่หลายครั้งก่อนที่เขาจะทําได้อย่างเชี่ยวชาญในชีวิตก่อนของเขา

 

แม้ว่าเขาลองฝึกฝนมันไม่กี่ครั้งหลังจากที่เขาได้รับหมวกแห่งการพิพากษามาเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาจึงไม่เชี่ยวชาญมันเท่ากับในชีวิตก่อนของเขา

การรักษาสมดุลนั้นไม่ใช่แค่สิ่งเดียวที่ต้องทํา เขายังต้องเคลื่อนที่ไปข้างหน้าให้ไวเท่ากับความเร็วของพายุทราย

 

ผู้เล่นส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถทําได้และถูกพายุพัดลอยไปอย่างน่าสมเพศ

 

ถ้าหากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับซางฮยอค ไม่ต้องพูดถึงสิ่งต่อไปที่จะเกิดขึ้นเลย เขาจึงต้องพยายามโต้คลื่นจนกว่าจะถึงทางออก

พายุทรายนั้นเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยพลังที่น่าตกตะลึง

 

สิ่งที่โชคดีก็คือหุบเขานั้นแคบมากและการที่พายุทรายขยายตัวหลายครั้งทําให้อัศวินแห่งความมืดนั้นไม่สามารถหลบพายุทรายได้ และถูกพูดลอยออกไป

แน่นอนว่าการที่พายุทรายขยายตัว มันก็จะเพิ่มความยากในการโต้คลื่นเช่นกัน

“ทุกอย่างจะสูญเปล่าทันที ถ้าฉันพลาด!”

ซางฮยอคยกระดับสัมผัสของเขาทั้งหมดให้ถึงขีดสุดและยืนหยัด ด้วยพลังทั้งหมดของเขา ความมุ่งมั่นอันแรงกล้สของเขาทําให้เขาสามารถผ่าน 40 เมตรสุดท้ายไปได้

 

เมื่อพายุทรายหายไป เขาก็กระโดดไปที่ทางออก

 

ไม่มีต้องทําอะไรอีกต่อไป เพียงแค่ออกไปจากที่นี่ได้ก็หมายความว่าเขาสามารถบอกลาเส้นทางแห่งความตายไปตลอดกาล

ฟริ้งง!

 

ในขณะนั้นเอง แสงก็สาดส่องมาที่ร่างกายของเขาและข้อความ จากระบบที่เขาอยากเห็นก็ปรากฏออกมา

One Man Army

One Man Army

Score 10
Status: Completed
โดย นำเรื่อง One Man Army มาเป็นบางส่วน บทนำ ซางฮยอคชายผู้ที่อายุเกือบจะ 40 ปี ได้รับการติดต่อจากบริษัทสกายเทเลคอมเพื่อช่วยทีมสกายกลายเป็นทีมที่ดีที่สุดภายในระยะเวลา 3 ปี หลังจากที่เขาได้ทำตามสัญญาได้สำเร็จ เขากลับถูกบริษัทที่เขาทุ่มเทให้ถูกอย่างทรยศ
อย่างไรก็ตามเขาก็ตื่นขึ้นมาพบกับตัวเองในอายุ 18 ปี – หนึ่งปีก่อนการเปิดตัวเกม Eternal Life

Options

not work with dark mode
Reset