One Man Army 31 เส้นทางแห่งเงา (2)

ตอนที่ 31 เส้นทางแห่งเงา (2)

เมื่อได้รับระเบิดอย่างไม่ทันตั้งตัว แววตาของไวซ์ก็สั่นไหว

‘โอ้โห เกมนี้ใส่ใจรายละเอียดทุกอย่างจริงๆ’

ซางฮยอครอคำตอบของไวซ์ หากเขาเกี่ยวข้องอย่างที่ซางฮยอคคาดไว้ เขาจะต้องมีปฏิกิริยาแน่นอน

โดยปกติแล้วเหตุผลที่แววตาของไวซ์นั้นสั่นไหวไม่ได้เป็นเพราะว่าเขาเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งเงา

ถึงแม้จะมีตัวแปรที่ไม่คาดคิด แต่เคออสได้ทำการสร้างเส้นทางเควสใหม่ขึ้นมา ไม่ใช่แค่นั้น มันยังไม่ได้รายงานไปยังทีมผู้พัฒนาราวกับมันตัดสินแล้วว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

ในเกมอื่นๆ การทำแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้ แต่มันเป็นไปได้ใน EL สุดยอดปัญญาประดิษฐ์ ‘เคออส’ สามารถจัดการเรื่องภายในเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบจนเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบเกินไป

หลังจากเวลาผ่านไปซักพัก ไวซ์ก็อ้าปากของเขาอย่างช้าๆ

“หัวหน้าของเส้นทางแห่งเงา นายเข้าใจมั้ยว่ามันคือตำแหน่งอะไร?”

คุณได้รับเควสลูกโซ่ลับ ‘ความลับของเส้นทางแห่งเงา’

คุณอาจจะได้รับบทลงโทษหากคุณทำเควสไม่สำเร็จ คุณจะยอมรับเควสหรือไม่? Y/N

‘นี่ไง!’

ซางฮยอครู้สุกดีใจอย่างมากเมื่อข้อความเควสปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของเขา เควสที่มีบทลงโทษหากล้มเหลวนั้นหมายความว่าเขาจะได้รับรางวัลใหญ่หากทำเควสสำเร็จ

นี่คือเหตุผลที่มีผู้เล่นบางคนชอบเควสที่มีบทลงโทษมากกว่าเควสปกติ ซางฮยอครู้ว่าการยอมรับเควสที่มีบทลงโทษจะต้องยอมรับความเสี่ยงที่มาพร้อมกับรางวัลใหญ่

‘ฉันจะลองดูซักตั้ง!’

หลังจากตัดสินใจเสร็จ ซางฮยอคก็กด ‘Y’ อย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า

“เงาของโลกที่สามารถมอง ได้ยินเสียงและพูดได้โดยเราไม่สามารเห็นดวงตา หูและปากของเงาได้….. การมีตัวตนที่เหมือนไม่มีตัวตน นั่นไม่ใช่หัวหน้าของเส้นทางแห่งเงาเหรอ?”

มันฟังดูค่อนข้างเวอร์ แต่เขาต้องพูดแบบนี้ คำพูดนี้ก็เป็นคำพูดที่เขาคิดขึ้นมาหลังจากวิเคราะห์ข้อมูลที่เขารู้ เขาเตรียมคำพูดไว้สำหรับไวซ์โดยเฉพาะ

แล้วซางฮยอครู้เกี่ยวกับเส้นทางแห่งเงาได้ยังไง? และสามารถวางแผนได้ไกลขนาดนี้ได้ยังไง?

เห็นได้ชัดว่านี่มาจากชีวิตก่อนของเขา

ซางฮยอคได้ยินเรื่องที่น่าสนใจในขณะที่กำลังดื่มกับโค้ชที่เป็นรุ่นน้องในขณะที่เขาเป็นผู้จัดการทีม

“……ไม่ใช่ว่าเพื่อนของผมรู้ทุกอย่าง แต่เขาคาดการณ์ว่าองกรค์ลับที่รู้จักกันในนามเส้นทางแห่งเงานั้นเป็นเหมือนกิลด์สายข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นโดย NPC เขานั้นเป็นคนประเภทที่ต้องการรู้อะไรต้องรู้ให้ถึงที่สุด แล้วพี่รู้มั้ย? สิ่งที่เขาได้รับมาคือการสร้างแหวนแห่งโชคชะตากับ NPC ทั้งหมดในเมืองฟอลคอน มันอาจฟังดูบ้า แต่เขามุ่งเป้าในการค้นหามันเป็นเวลา 3 ปีหลังจากเกมเปิดตัวแล้วในที่สุดเขาได้รับเควสสำคัญ และเควสนั้นเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งเงา…..(เว้น)…. แต่นั้นคือขีดจำกัดของเขา เนื่องจากเขาไม่ได้มีเลเวลที่เหมาะสม เขาจึงไม่สามารถกลายเป็นหัวหน้าของเส้นทางแห่งเงา แต่ผมไม่เชื่อที่เขาพูด 100% ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ผมก็ยังคงจำมันเพราะเขาเล่าได้ละเอียดมาก หากมันมีกิลด์สายข้อมูลของ NPC จริงและผู้เล่นสามารถกลายเป็นหัวหน้ากิลด์ได้ มันไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าทึ่งเหรอ?”

ในเวลานั้นซางฮยอคฟังเรื่องราวของเพื่อนของรุ่นน้องเป็นเวลาหลายชั่วโมงในขณะที่เขากำลังดื่ม เช่นเดียวกับรุ่นน้องของเขาซึ่งเล่าเรื่องราวได้ละเอียดมาก และนั่นทำให้เขายังคงจำมันได้

ในความจริงแล้วซางฮยอคก็ยังได้ไปตรวจสอบเรื่องเส้นทางแห่งเงาด้วยตัวเอง และน่าประหลาดใจมากที่เขาสามารถพบร่องรอยของมันได้มากมาย

จากตอนนั้นเป็นต้นมา ซางฮยอคก็เชื่อในการมีอยู่ของเส้นทางแห่งเงาและบางทีมันอาจเป็นข้อมูลแรกที่เขานึกถึเมื่อเขาย้อนเวลากลับมา

“…..นายรู้จักมันมากแค่ไหน?”

“เอาเป็นว่าผมรู้แล้วกัน อย่างไรก็ตามท่านจะปล่อยให้ตำแหน่งหัวหน้าว่างอย่างงั้นเหรอ? หากมันยังเป็นแบบนี้ต่อไปทุกอย่างจะจบลง”

คำพูดสุดท้ายที่คุมเครือนั้นเป็นสิ่งที่เขาลองทำมัน แน่นอนว่าซางฮยอคไม่ได้จะหยุดฟังคำตอบของไวซ์ แต่เขาก็พูดคำพูดว่าคุมเครืออีกครั้ง

“แน่นอนว่ามันไม่ใช่ตำแหน่งที่เราสามารถปล่อยมันทิ้งไว้ได้นาน”

ไวซ์ตกตะลึงกับคำพูดของซางฮยอค

“นั่นคือเหตุผลที่ผมต้องพิสูจน์ตัวเอง”

ซางฮยอคคอยพูดกับไวซ์ด้วยความคุมเครือ

“เข้าใจแล้ว ฉันส่งความตั้งใจของนายให้พวกเขา”

เควสลับ ‘ความลับเส้นทางแห่งเงา’ ได้เปลี่ยนเป็น ‘ลอร์ดอาชาไร้บาทา’

ในท้ายที่สุดไวซ์ก็ยอมรับเขา ด้วยสิ่งนี้มันทำให้ซางฮยอคผ่านขั้นแรกซึ่งเป็นขั้นที่ยากที่สุดได้ ความจริงแล้วซางฮญอคคิดว่าเขามีโอกาสล้มเหลวสูงมาก

อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถเอาอะไรมาได้โดยปราศจากความท้าทาย ดังนั้นเขาจึงกล้าท้าทายกัลเรื่องนี้และได้รับบางสิ่งที่เกินความคาดหมายของเขา

***

ในขณะที่ซางฮยอครอข้อความจากไวซ์ เขาก็ไปขายและซื้อไอเทมที่เขาต้องการในร้านฝากขายไอเทม

ต้องขอบคุณการฟาร์มอย่างหนักของเขาที่รังไวเวิร์น เขาจึงได้รับไอเทมมาจำนวนมาก อย่างไรก็ตามซางฮยอคยังไม่พอใจกับผลลัพธ์และเริ่มลงทุนอีกครั้ง

สิ่งที่เขาจะลงทุนในเวลานี้นั้นคือหนังสือสกิล สกิลพื้นฐานที่สามารถเรียนรู้ได้ผ่านหนังสือสกิล และในปัจจุบันผู้เล่นยังรู้จักหนังสือสกิลดีพอ

ผู้เล่นรู้เพียงแค่วิธีใช้หนังสือสกิลเท่านั้น ใช้หนังสือสกิล ‘A’ จะได้รับสกิล ‘A’

อย่างไรก็ตามมันมีวิธีอื่นในการใช้หนังสือสกิล ตอนนี้มันไม่มีใครรู้เลย…… ไม่สิพวกเขาจะไม่มีทางรู้ มันคือการสังเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพหนังสือสกิล

การสังเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพหนังสือสกิล ตอนนี้ไม่มีใครสามารถทำได้ นี่เป็นเพราะมีเพียง NPC หรือผู้เล่นที่มีความสามารถที่เกี่ยวข้องกับ ‘การสังเคราะห์’ ที่สามารถทำมันได้ แต่ไม่มี NPC ที่สามารถทำแบบนี้ได้ในดินแดนแห่งความมืด และไม่มี NPC ที่เกี่ยวข้องกับมัน ดังนั้นผู้เล่นจึงไม่สามารถได้รับความรู้โบราณที่เกียวข้องกับมันได้

การสังเคราะห์สามารพบเห็นได้ครั้งแรกที่เมือแรกในทะเลทรายโลกันต์ โอเอซิส ‘แดนทู’ และจากนั้นเป็นต้นมาผู้เล่นจึงสามารถสังเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพหนังสือสกิล

ในเวลานั้นผู้เล่นเรียกร้องกับโรนซอฟแวร์เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าทำไมพวกเขาถึงให้ NPC ที่สำคัญอยู่นอกดินแดนแห่งความมืด แต่คำตอบของโรนซอฟแวร์นั้นเรียบง่ายมาก

‘มีความรู้โบราณมากมายที่สาามารถหาได้ที่นอกดินแดนแห่งความมืดซึ่งผู้สังเคราะห์ก็เป็นหนึ่งในนั้น’

มันเป็นคำตอบที่น่ารำคาญมาก แต่ไม่มีอะไรสามารถเปลี่ยนแปลงได้ไม่ว่าผู้เล่นจะเรียกร้องยังไงก็ตาม พวกเขาจึงทำได้แค่เพียงยอมรับมัน สกิลพื้นฐานสามารถลบได้ไม่เหมือนกับความรู้โบราณซึ่งการลบมันจะเสียคาร์มาเล็กน้อย ดังนั้นการเรียกร้องจึงอยู่ได้ไม่นาน

และสูตรการสังเคราะห์หนังสือสกิลนั้นเรียบง่ายมาก มันไม่ได้ยากเหมือนกับสูตรการฟิวชั่นการ์ด

อย่างไรก็ตามสิ่งที่มั่นใจได้เลยก็คือการสังเคราะห์หนังสือสกิลนั้นจะทำให้มันดีกว่าหนังสือสกิลทั่วไป และด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพนี้….. จึงไม่มีใครสนใจสกิลพื้นฐานทั่วไปเลย

นี่เป็นเหตุผลที่ซางฮยอคไม่เรียนรู้สกิลพื้นฐานอะไรเลย

‘แม้ว่าสกิลพื้นฐานจะสำคัญน้อยกว่าสกิลวิญญาณ แต่พวกมันสามารถให้พลังได้อย่างดีเยี่ยมหากใช้มันถูกวิธี’

ผู้เล่นจะเพิ่มช่องสกิลพื้นฐาน 1 ช่องทุก 10 เลเวล ผู้เล่นที่คิดว่าสกิลพื้นฐานเป็นเพียงสกิลกระจอกๆ จะไม่สามารถกลายเป็นแรงเกอร์ได้

‘หนังสือสกิลทั่วไปจะหายไปจากตลาดเมื่อระบบสกิลการสังเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพถูกค้นพบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของการเพิ่มประสิทธิภาพ อัตราการล้มเหลวของการเสริมประสิทธิภาพจะสูงขึ้นหากสกิลมีระดับสูงขึ้น ดังนั้นหนังสือสกิลส่วนใหญ่จะหายไป’

หนังสือสกิลสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง +10 และหลังจาก +5 อัตราสำเร็จจะลดลงอย่างมาก

ผู้สังเคราะห์ไม่เพียงแค่มีการสังเคราะห์หรือเพิ่มประสิทธิภาพหนังสือสกิลเท่านั้น แต่ยังสามารถสังเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพไอเทมทุกประเภทได้ ดังนั้นพวกเขาปรากฏตัวออกมา ราคาตลาดของไอเทมทั้งหมดจะเปลี่ยนแปลง

‘ไม่ว่าฉันจะมีเงินเท่าไหร่ ฉันก็ไม่สามารถกักตุนไอเทมได้ทั้งหมด ดังนั้นกักตุนเฉพาะหนังสือสกิลที่จะกลายเป็นที่นิยมและหนังสือสกิลที่ฉันจะใช้ก็พอ’

หลังจากตัดสินใจเสร็จ ซางฮยอคก็เริ่มรวบรวมหนังสือสกิล เขาวางแผนจะกักตุนพวกมันอย่างช้าๆ ในตอนนี้เพื่อไม่ให้มันไปกระตุ้นความสนใจจากพ่อค้าที่มีไหวพริบ

เนื่องจากอุปทานของหนังสือสกิลกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมากในเวลานี้ เขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่ามันจะขาดตลาด

ในขณะที่ซางฮยอคกำลังซื้อไอเทมจากร้านฝากขายไอเทมและจากการประมูล ไวซ์ก็ส่งคำพูดของซางฮยอคไปให้ NPC ที่มีชื่อว่า ‘ลอร์ดอาชาไร้บาทา’

และสี่วันต่อมา…… ในที่สุดซางฮยอคก็ได้รับข้อึวามว่าลอร์ดอาชาไร้บาทาต้องการที่จะพบเขา

***

เขา ไม่สิ ‘เธอ’ เป็นตัวแทนและผู้จัดการของ ‘หอนางโลม’ ที่ใหญที่สุดในถนนหกเก้า ‘เรนโบว์’

เรนโบว์นั้นเป็นหอนางโลมเป็นสถานบันเทิงที่ตั้งอยู่ในถนนหกเก้าและถูกจัดการโดย NPC เพียงคนเดียวและเป็น NPC ที่สวยที่สุดซึ่งยากที่จะพบแม้แต่ในชีวิตจริง

เนื่องจากกฏหมาย พวกเขาจึงไม่สามารถค้าประเวณีได้ ดังนั้นอย่างมากที่สุดคือการสัมผัสร่างกายนิดหน่อย แต่ถึงกระนั้นสถานที่แห่งนี้ก็ยังคงเต็มไปด้วยผู้เล่นชาย มันมีผู้เล่นจำนวนมากที่รอเป็นชั่วโมงเพื่อเข้ามายังสถานที่แห่งนี้

เหตุผลที่ซางฮยอคมาที่นี่เพื่อมาพบผู้จัดการหอนางโลม…… เพราะเธอคือ ‘ลอร์ดอาชาไร้บาทา’

ชุดที่แนบกับผิวหนัง และรูปร่างที่ผอมเพรียวรวมถึงใบหน้าที่งดงามจนทำให้เอลฟ์ร้องไห้…. ซางฮยอคพยายามที่จะรักษาความสงบของเขาในขณะที่มองไปยัง NPC ที่อยู่ตรงหน้าเขา

‘เธอเป็นเพียง NPC เป็นเพียงโปรแกรม้ท่านั้น’

เขารู้สึกว่าเขาถูก ‘กระตุ้น’ หากเขาไม่รักษาความสงบของตัวเองและแสดงพฤติกรรมต่ำช้าในสถานที่สำคัญแบบนี้ เขาอาจจะถูกไล่ออกจากที่นี่และไม่สามารถพูดคุยกับเกี่ยวกับเรื่องหัวหน้าของเส้นทางแห่งเงา

“ฉันได้ยินมันมาจากท่านไวซ์ แต่ฉันยังไม่เข้าใจว่านายรู้จักพวกเราได้ยังไง”

เธอ ไม่สิอิลย่าพูดกับซางฮยอคในขณะที่มองไปที่ตาของเขา

“ความลับมันไม่มีอยู่จริง”

ซางฮยอคตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ เขารู้ว่าการพูดคุยกับเธอเป็นส่วนหนึ่งของเควส ดังนั้นเขาจึงพยายามทำตัวให้สงบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ดีมาก ฉันจะยอมรับว่านายรู้เกี่ยวกับพวกเรา อย่างไรก็ตามตำแหน่งของหัวหน้านั้นแตกต่างกัน นั่นไม่ใช่ที่ที่ใครก็สามารถครอบครองได้”

“มันมีป้ายชื่อบนตำแหน่งหรือไม่? ฉันรู้ว่ามันไม่มี ไม่ว่าใครก็สามารถครองครองต่ำแหน่งได้หากพวกเขาพิสูจน์ตัวเองได้ว่าพวกเขาเหมาะสมใช่มั้ย?”

ซางฮยอคพูดตรงๆ โดยใช้ความรู้ในชีวิตก่อนของเขา ในความจริงแล้วถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน เขาก็จะคาดการณ์เรื่องนี้ได้

“……อืมมม…….”

แตก แตก แตก แตก

อิลย่ายังคงเคาะที่เก้าอี้ของเธอและจ้องมองไปที่ซางฮยอค และซางฮยอคก็จ้องมองเธอกลับ

“ดีมาก ฉันยอมรับการพิสูจน์ของนาย”

เธอถอนหายใจและยอมรับซางฮยอค

ในตอนนั้นเองเควสก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง

เควสลับ ‘ลอร์ดอาชาไร้บาทา’ ได้เปลี่ยนเป็น ‘การพิสูจน์ตนเองเพื่อเป็นหัวหน้าของเส้นทางแห่งเงา’

นี่คือชัยชนะที่มาจากความกล้า ไม่สิมาจากข้อมูลในอนาคต

One Man Army

One Man Army

Score 10
Status: Completed
โดย นำเรื่อง One Man Army มาเป็นบางส่วน บทนำ ซางฮยอคชายผู้ที่อายุเกือบจะ 40 ปี ได้รับการติดต่อจากบริษัทสกายเทเลคอมเพื่อช่วยทีมสกายกลายเป็นทีมที่ดีที่สุดภายในระยะเวลา 3 ปี หลังจากที่เขาได้ทำตามสัญญาได้สำเร็จ เขากลับถูกบริษัทที่เขาทุ่มเทให้ถูกอย่างทรยศ
อย่างไรก็ตามเขาก็ตื่นขึ้นมาพบกับตัวเองในอายุ 18 ปี – หนึ่งปีก่อนการเปิดตัวเกม Eternal Life

Options

not work with dark mode
Reset