One Man Army 30 เส้นทางแห่งเงา (1)

ตอนที่ 30 เส้นทางแห่งเงา (1)

ความรู้โลหิต ‘เลือดไวเวิร์น’ [ยังไม่ได้ใช้งาน]

: ช่วยให้คุณได้รับพลังที่แข็งแกร่งที่อยู่ภายในเลือดไวเวิร์น คุณสามารถเอาชนะขีดจำกัดทางด้านร่างกายของคุณผ่านทางเลือดไวเวิร์นและเปลี่ยนเป็นเผ่าพันธุ์ใหม่

เอฟเฟกต์ : ผิวหนังของไวเวิร์น(B)[เพิ่มพลังป้องกันทางกายภาพและเวทย์] ความแข็งแกร่งของไวเวิร์น(A)[เพิ่มความแข็งแกร่งและความเร็วขึ้น 1.5 เท่าและเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 20%] การฟื้นฟูของไวเวิร์น(B)[เพิ่มอัตราการฟื้นฟู HP และ MP]

สกิลสายเลือด : เสียงคำรามของไวเวิร์น(A)[ร้องคำรามเพื่อลด HP และความเร็วในการเคลื่อนที่ของฝ่ายศัตรูทั้งหมดภายในระยะ 10 เมตร เป็นเวลา 10 นาที และเพิ่ม HP และพลังโจมตีของพันธมิตรคูลดาวน์ : 20 นาที]

โบนัสเอฟเฟกต์ : มอนเตอร์ประเภทไวเวิร์นทั้งหมดจะไม่โ๗มตีคุณก่อน และคุณอาจฝึกไวเวิร์นให้เชื่องได้อย่างง่ายดายด้วยสกิลที่เหมาะสม

หากมองภาพรวมแล้วความรู้โบราณโลหิตนั้นสมบูรณ์แบบมากไม่เหมือนกับความรู้โบราณ

เนื่องจากมันเป็นการสืบทอดทางสายเลือด อย่างไรก็ตามความรู้โลหิตนั้นหายากพอๆ กับไอเทมระดับลีเจนดารี่ เช่น ซางฮยอคไม่ได้รับ ‘เลือดไวเวิร์น’ แม้แต่ชิ้นเดียวในชีวิตก่อนของเขา มันจะเห็นได้ชัดว่าอัตราดร็อปของมันต่ำมาก

‘เลือดไวเวิร์น…… มันก็ไม่ได้แย่ ไม่สิในความจริง มันยากที่จะหาความรู้โลหิตที่ดีกว่าเลือดไวเวิร์น อย่างไรก็ตามความรู้โลหิตนี้ไม่เหมาะกับฉัน ฉันเหลือโพรงวิญญาณสุดท้ายไว้สำหรับความรู้โลหิตอันอื่น’

ความรู้โลหิตที่ซางฮยอคหมายตาไว้เป็นความรู้โลหิตที่เขาไม่สามารถเอามันมาได้ในตอนนี้

‘ถ้าฉันดูดซับเลือดไวเวิร์น มันอาจทำให้ฉันแข็งแกร่งในระยะสั้น แต่ในระยะยาวมันไม่ทำให้เขาแข็งแกร่งเลย ดังนั้นมันจึงดีกว่าที่จะทำตามแผนที่วางไว้’

ซางฮยอคเป็นคนมองการณ์ไกล นี่เป็นเหตุผลที่เขาตัดสินใจละทิ้งเลือดไวเวิร์น

‘และฉันสามารถขายมันได้ ถ้าฉันเอามันไปขายในตอนนี้….. มันอาจทำให้ผู้คนบ้าคลั่งได้’

ในตอนนี้ผู้เล่นไม่แม้กระทั่งรู้การมีอยู่ของความรู้โลหิต อย่างไรก็ตามหากเลือดไวเวิร์นถูกเอาไปขายในตอนนี้ ผู้เล่นทุกคนจะสนใจเกี่ยวกับความรู้โลหิต

‘ดูเหมือนว่าฉันควรคิดอย่างรอบคอบในการขายมัน’

ซางฮยอคนำเลือดไวเวิร์นไปไว้ในคลังเก็บของของเขาและมองดูแหวนมรกตที่เขาได้รับจากเควส

ไอเทมประเภทเครื่องประดับนั้นค่อนข้างหายากใน EL ดังนั้นมันจึงเป็นโชคดีของเขาที่ได้รับไอเทมเครื่องประดับที่ดีแบบนี้

แหวนมรกต [แรร์]

– แหวนที่ถูกสร้างจากดวงตาของไวเวิร์นสีเขียวซึ่งมันมีพลังลึกลับบางอย่าง

[ค่าสถานะพื้นฐาน] ความเร็ว +20

[ค่าสถานะพิเศษ] ต้านทานพิษ +40

[เอฟเฟกต์พิเศษ] ชำระล้างพิษ(B) [แก้พิษ]

‘โอ้ววว นี่มันไม่เลวเลย’

ซางฮยอคพยักหน้าอย่างพึงพอใจและสวมใส่มันทันที ไอเทมชิ้นนี้มันดีเกินไป ดังนั้นการใช้มันจึงดีกว่าการขายมัน

นอกนเหนือจากแหวนแล้ว ไอเทมที่เหลือก็พอใช้ได้ ซางฮยอคจัดระเบียบพวกมันและใส่พวกมันในร้านฝากขายไอเทม และเนื่องจากเขาอยู่ที่ร้านฝากขายไอเทม เขาจึงซื้อไอเทมคราฟติ้งราคาถูกมากมาย

หลังจากขายและซื้อของเสร็จ ซางฮยอคก็ไปที่ ‘ศาลาพลบค่ำ’ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีผู้เล่นอยู่มากที่สุดในเมืองฟอลคอน

ศาลาพลบค่ำเป็นพื้นที่สำหรับนักดื่ม เนื่องจาก EL ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากมายที่ติดต่อสัญญา PPL(product placement) ดังนั้นจึงมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากมายในโลกจริงที่อยู่ในศาลาพลบค่ำ

ไม่ใช่แค่นั้น แต่ NPC ระดับมาสเตอร์เชฟก็อยู่ที่นั่นและไม่มีอาหารอะไรที่เขาไม่สามารถทำขึ้นมาได้ ดังนั้นผู้เล่นจึงสามารถทานอาหารนับพันในโลกจริงที่ไม่สามารถทานได้ผ่านที่นี้

มันมีผู้เล่นหลายคนที่หลงรักการทำอาหารใน EL บางครั้งก็จะมีผู้เล่นกลายเป็นเชฟที่เก่งกว่า NPC มาสเตอร์เชฟและโด่งดังยิ่งกว่าเชฟในชีวิตจริง

นอกจากนั้นยังมีแท็บเล็ตติดตั้งอยู่ที่นี่ซึ่งมันถูกอนุญาติให้ ‘เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต’ และการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตมีเฉพาะที่นี่เท่านั้น

เครื่องดื่ม อาหารแสนอร่อยและแท็ปเล็ตที่มีอินเทอร์เน็ตทำให้ผู้เล่นหลายคนมาที่นี่และด้วยเหตุนี้ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่พบปะกันของผู้เล่น

“หาดีลเลอร์ระยะไกลสำหรับดันเจี้ยนท่อระบายน้ำ!”

“หาฮีลเลอร์และแทงเกอร์สำหรับทางเข้าถ้ำงู”

“ใครกำลังหาดีลเลอร์ระยะประชิดบ้าง? ฉันมั่นใจในการทำดาเมจของฉัน!”

……

……

ผู้เล่นมากมายที่ใช้กรอบข้อความเพื่อหาปาร์ตี้ในศาลาพลบค่ำ ในความจริงการตะโกนออกมาดังๆ นั้นเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ ดังนั้นผู้เล่นทุกคนจึงวางกรอบข้อความไว้เหนือหัวของพวกเขาในขณะที่กำลังกินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่ม

ซางฮยอคไม่ได้มาที่นี่เพื่อหาปาร์ตี้ ดังนั้นเขาจึงนั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างก่อนจะสั่งอาหารและเล่นอินเทอร์เน็ต เนื่องจากเขามุ่งเป้าไปที่การต่อสู้ในรังไวเวิร์น เขาจึงไม่รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันของ EL

ในท้ายที่สุด EL เป็นโลกที่เขาต้องอยู่กับคนนับไม่ถ้วน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้เกี่ยวกับทุกสิ่งและไม่สามารถคาดหวังให้ทุกสิ่งเป็นไปตามที่เขาต้องการ

‘โอ้วว กิลด์แรกที่พิชิตดันเจี้ยนท่อระบายน้ำไม่ใช่ทั้งกิลด์เทอร์ริคูลัมและกิลด์ไรซิ้ง แต่มันเป็นกิลด์เรดไลน์งั้นเหรอ? เดี๋ยวก่อน อนาคตมันเปลี่ยนไปเพราะฉันหรือเปล่า? ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้…. แต่มันก็ดูเหมือนว่าโลเหล็กของฮาร์คานจะถูกซื้อไปโดยเรดซัน’

เรดซันเป็นหัวหน้ากิลด์ของกิลด์เรดไลน์และต่อมาก็กลายเป็นนักเล่นเกมมืออาชีพรุ่นแรก ความสามารถของเขานั้นถือว่าพอใช้ได้ และไม่สามารถถูกเรียกว่า ‘ยอดเยี่ยม’ ได้

‘ถ้ำงูกลายเป็นที่พื้นที่ฟาร์มที่นิยมอย่างที่ฉันคิดไว้เลยและ…. ฮ่ะ!?’

ซางฮยอคค้นพบบางสิ่งเมื่อเขามองไปที่หัวข้อยอดนิยมของฟอรัมบนอินเทอร์เน็ต

‘บัดซ* ฉันไม่คิดเลยว่าจะมีคนทำเควสลูกโซ่ของรังไวเวิร์น…. และมันใกล้จะเสร็จแล้วใช่มั้ย?’

น่าเสียดาย สิ่งที่ซางฮยอคไม่ต้องการให้เกิดขึ้นดูเหมือนจะใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว

‘อืมมม น่าจะประมาณสัปดาห์หน้า…. และอย่างมากที่สุดก็ 10 วัน นั่นหมายความว่าใกล้จะถึงเวลาที่รังไวเวิร์นจะถูกเปิดเผยแล้ว’

ซางฮยอคยืนขึ้นหลังจากเล่นอินเทอร์เน็ตมานานกว่าครึ่งชั่วโมง ในตอนแรกเขาจะทำอย่างอื่นก่อน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะต้องฟาร์มที่รังไวเวิร์นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อน

***

9 วันต่อมา

ปาร์ตี้ห้าคนปาร์ตี้แรกก็ปรากฏตัวหน้าทางเข้ารังไวเวิร์น พวกเขาแสดงวามดีใจออกมาราวกับพวกเขาค้นพบทวีปใหม่

“ว้าวว ไม่คิดเลยว่าจะมีพื้นที่ฟาร์มในที่แบบนี้….”

“มันดูเหมือนว่าจะเป็นพื้นที่ฟาร์มเลเวลสูง ฉันจำเป็นต้องใช้สกิล ‘แกะรอย’ อย่างรอบคอบ แต่ไวเวิร์นพวกนั้น…. พวกมันเป็นมอนเตอร์ที่แข็งแกร่งมาก”

“ยิ่งพวกมันแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ไอเทมที่ดร็อปจากพวกมันก็จะดีมากขึ้นเท่านั้น โอ้! ฉันคิดว่าหนังไวเวิร์น ฟันไวเวิร์นและกรงเล็บไวเวิร์นที่ราคาแพง มันมาจากที่นี่ใช่มั้ย? รอเดี๋ยว…. นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเราไม่ได้มาที่นี่เป็นปาร์ตี้แรกใช่มั้ย?’

“จริงเหรอ? เราผ่านเควสลูกโซ่นรกพวกนั้นมาตั้ง 22 เควสเลยนะ…..”

“อัคคค ฉันยังรู้สึกคลื่นไส้เมื่อฉันคิดถึงเรื่องนั้น……”

“ที่เราเคลียร์มันได้อย่างงายดายต้องขอบคุณกิลด์ที่ช่วยเหลือเรา กิลด์ไหนกันแน่นะที่มาถึงที่นี้เป็นกิลด์แรก?”

พวกเขาตระหนักได้ถึงความจริงที่น่ากลัว อย่างไรก็ตามในขณะที่พวกเขากำลังตระหนักถึงเรื่องนั้น ซางฮยอคก็กำลังปีนเถาวัลย์อีกเส้นหนึ่งลงจากรังไวเวิร์น

‘ฉันไม่จำเป็นต้องเปิดเผนตัวตนอยู่แล้ว การทิ้งพื้นที่ฟาร์มที่ดีแบบนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเล็กน้อย แต่ฉันฟาร์มมากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว และฉันจำเป็นต้องทำบางอย่างก่อนที่ฉันจะออกจากดินแดนแห่งความมืด ดังนั้นฉันออกจากที่นี้ได้แล้ว’

-มีผู้เล่นต่อสู้กับไวเวิร์นเลเวลสูงเพียงคนเดียว-

นี่ไม่ใช่สิ่งที่ซางฮยอคต้องการให้เกิดข่าวลือ แน่นอนว่าเขาไม่ได้วางแผนที่จะซ่อนตัวไปตลอดกาล อย่างไรก็ตามเขาวางแผนที่จะซ่อนตัวในดินแดนแห่งความมืดและออกจากดินแดนแห่งความมืดให้เร็วกว่าผู้เล่นคนอื่น และเดินทางไปยังทวีปที่กว้างใหญ่

หลังจากที่มาถึงเมืองฟอลคอน ซางฮยอคก็ขายหนังไวเวิร์น กรงเล็บไวเวิร์นและฟันไวเวิร์นปริมาณมากและราคาต่ำ ในความจริงแล้วเขาขายพวกมันเกือบจะหมดแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อน

อุปสงค์ของหนังไวเวิร์น กรงเล็บไวเวิร์นและฟันไวเวิร์นนั้นใหญ่มาก ดังนั้นพวกมันจึงถูกซื้อออกไปทันทีที่เขาขายพวกมันในร้านฝากขายไอเทม

‘เมื่อพวกเขาเริ่มฟาร์มไวเวิร์น ราคาของพวกมันจะต่ำกว่านี้’

หลังจากที่เคลียร์ไอเทมเสร็จ ซางฮยอคก็เริ่มเตรียมตัวขั้นสุดท้ายเพื่อทำสิ่งที่ยากที่สุดในดินแดนแห่งความมืด

สิ่งนี้เป็นเรื่องยากที่แม้แต่เขาคนที่ย้อนอดีตกลับมาก็ไม่มั่นใจที่จะทำสำเร็จ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถท้าทายได้สำเร็จในชีวิตก่อนของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถคาดการณ์ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว

ซางฮยอคไปหาโทคานผู้ที่เขามีค่าความสัมพันธ์สูงสุดและมีอิทธิพลสูงที่สุดในเมืองฟอลคอน ข้อมูลของซางฮยอคมีจำกัด ดังนั้นเขาจึงต้องคุยกับ NPC หากเขาต้องการข้อมูล

“อืมมม…. ‘ลอร์ดแห่งอาชาไร้บาทา’ ที่นายพูดถึง….. ฉันไม่รู้จัก ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน”

หลังจากไตร่ตรองมาเป็นเวลานาน โทคานก็ส่ายหัวของเขา หากแม้กระทั่งโทคานผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในสาม NPC ที่มีอิทธิพลสูงสุดไม่รู้จัก ซางฮยอคจึงรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว

“โอ้! อย่าพึ่งผิดหวัง ลองไปหาไวซ์บางทีเขาอาจจะรู้จักก็ได้”

‘ผู้ค้นหา’ ไวซ์ เป็นคนที่ซางฮยอควางแผนจะไปพบ แม้ว่าโทคานจะไม่แนะนำก็ตาม

“โอเคครับ”

ซางฮยอคกล่าวลาโทคานอย่างสุภาพและมุ่งหน้าไปห้องวิจัยของไวซ์

โชคดีที่ซางฮยอคสามารถพบไวซ์ได้โดยไม่ต้องใช้จดหมายแนะนำ ต้องขอบคุณจดหมายแนะนำของโทคานและความรู้โบราณผู้ใช้ธาตุของเขา

แม้จะเข้าพบยากไม่เท่ากับโทคาน แต่ไวซ์ก็ไม่ได้เป็น NPC ที่ใครต้องการเข้าพบก็ไม่สามารถเข้าพบได้ เนื่องจากเขาเป็นจุดศูนย์กลางของเควสสำคัญจำนวนมาก ผู้เล่นมากมายจึงพยายามเข้าพบไวซ์

อาจเป็นเพราะซางฮยอคเข้าไปในห้องวิจัยของไวซ์โดยตรง ผู้เล่นที่กำลังรออยู่ข้างนอกห้องวิจัยเพื่อรอไวซ์ก็มองไปที่ประตูที่ซางฮยอคพึ่งเข้าไป

“นี่มันอะไรกัน?…… ชายคนนั้นเข้าไปโดยไม่ต้องใช้จดหมายแนะนำใช่มั้ย?”

“นายเห็นหน้าเขามั้ย? เขาเป็นผู้เล่นใช่มั้ย?”

“เขาใส่ฮูดอยู่ ดังนั้นฉันเลยไม่เห็นหน้าเขา แต่ฉันคิดว่าเขาเป็นผู้เล่น”

“บัดซ* ฉันรออยู่ที่นี่หลายวันเพื่อเข้าไปข้างใน……”

“ฉันควรถามเขาเกี่ยวกับวิธีเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับไวซ์หลังจากที่เขาออกมา”

“นายไร้เดียงสาเกินไป นายคิดว่าผู้เล่นคนนั้นจะบอกนายเหรอ? นายควรไปถามใน InGamez.”

“แต่มันมีวิธีเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับไวซ์ใช่มั้ย? แค่หาจดหมายแนะนำมันก็ยากแล้วนะ”

“มีข่าวลือเกี่ยวกับระดับของจดหมายแนะนำ ดังนั้นมันจึงยากที่จะเข้าพบไวซ์ด้วยจดหมายแนะนำระดับต่ำ”

“เป็น NPC ที่น่ารำคาญมาก”

ในชณะที่ผู้เล่นคุยกันเกี่ยวกับวิธีเข้าพบไวซ์ ซางฮยอคก็เข้าพบไวซ์เพียงลำพัง

“ลอร์ดแห่งอาชาไร้บาทาที่นายพูดถึง…….”

“ผมต้องการพบเขา”

“ทำไมนายถึงต้องการพบเขา?”

ไวซ์มองไปที่ซางฮญอคด้วยสายตาที่ดุร้าย

“ผมมีสิ่งที่ผมต้องการพิสูจน์ให้เขาเห็น”

นี่เป็นชิ้นส่วนสำคัญ คำพูดที่เขาพูดที่นี่นั้นมาจากอินเทอร์เน็ตที่เขาประกอบขึ้นมาจากข้อมูลขนาดเล็กจำนวนมากที่เขาได้รวบรวมในชีวิตก่อนของเขา

หากข้อมูลของเขาถูกต้อง คำพูดของเขาจะทำให้สถานการณ์เป็นไปตามที่ซางฮญอคต้องการ และหากมันไม่ถูกต้อง เขาจะถูกไล่ออกไปจากห้องวิจัยทันที

“พิสูจน์? พิสูจน์อะไรเหรอ?”

ซางฮยอคสามารถอ่านอารมณ์ไวซ์ได้เล็กน้อยเมื่อไวซ์ได้ยินคำถาม

‘ชายคนนี้จะต้องรู้จักเขาแน่นอน!’

มันน่าตลกเล็กน้อยที่จะประลองปัญญากับ NPC แต่ซางฮยอครู้สึกว่านี่คือเวลาที่ต้องด้วยเดิมพันทุกสิ่ง

“ตำแหน่งหัวหน้าของเส้นทางแห่งเงาที่ว่างอยู่ ผมต้องการพิสูจน์เพื่อยึดเอาตำแหน่งนั้นมา”

ระเบิดถูกโยนลงไป ตอนนี้สิ่งที่เหลืออยู่คือรอดูว่าผลของระเบิดมันจะเป็นยังไง

One Man Army

One Man Army

Score 10
Status: Completed
โดย นำเรื่อง One Man Army มาเป็นบางส่วน บทนำ ซางฮยอคชายผู้ที่อายุเกือบจะ 40 ปี ได้รับการติดต่อจากบริษัทสกายเทเลคอมเพื่อช่วยทีมสกายกลายเป็นทีมที่ดีที่สุดภายในระยะเวลา 3 ปี หลังจากที่เขาได้ทำตามสัญญาได้สำเร็จ เขากลับถูกบริษัทที่เขาทุ่มเทให้ถูกอย่างทรยศ
อย่างไรก็ตามเขาก็ตื่นขึ้นมาพบกับตัวเองในอายุ 18 ปี – หนึ่งปีก่อนการเปิดตัวเกม Eternal Life

Options

not work with dark mode
Reset