เซียวเฟิงได้ยินเสียงของลิลลี่ และหันไปพบพวกเขาที่ยืนอยู่บริเวณหน้าประตูในทันที ดังนั้นชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปหาพวกเขาด้วยรอยยิ้ม
“ว่าไงคนสวย! บังเอิญจังเลย!”
“นายกำลังพูดอยู่กับใคร? พวกเราไม่ได้สนิทอะไรกับนายสักหน่อย!” ลิลลี่ตีหน้าตายและพูดอย่างเย็นชา เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเซียวเฟิงถึงพูดแบบนี้กับพวกเขา …เพราะอย่างไรแล้วพวกเราก็เป็นศัตรูกัน!
นอกจากนี้เธอยังไม่รู้อีกด้วยว่าทำไมคุณหลิวถึงบอกให้กิลด์ทั้งกิลด์กำจัดชายคนนี้ เพราะจริงๆ แล้วเธอยังเคยตั้งใจจะชวนเขาเข้าร่วมกิลด์มิดซัมเมอร์ด้วยซ้ำไป!
สมาชิกหลายคนของกิลด์มิดซัมเมอร์จำศัตรูของพวกเขาได้ในทันที พวกเขาหยิบอาวุธออกมาพร้อมกันและมองไปที่เซียวเฟิงด้วยความเป็นศัตรู ดีที่ตอนนี้พวกเขาอยู่ในเมืองใหญ่ ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงเข้าโจมตีเซียวเฟิงไปแล้ว!
“ไม่ต้องไปสนใจเขา”
โรสพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาแล้วเธอก็หันหน้าหนีเซียวเฟิง เลิกสนใจเขา
ภาพลักษณ์ของตัวละครที่ผู้เล่นได้ปรับเปลี่ยนเอาไว้จะไม่แสดงผลเมื่อผู้เล่นได้ทำการเปลี่ยนคลาสสำเร็จ และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่โรสสวมใส่ผ้าคลุมหน้าสีขาวอยู่ …น่าเสียดายที่ใบหน้าที่สมบูรณ์แบบของเธอต้องถูกบดบัง
“นี่! นายอยากจะเข้าไปในคฤหาสน์ของเจ้าเมืองใช่ไหม? ถ้างั้นนายก็ควรจะเริ่มต้นที่ภารกิจจากทหารยามนะ ถ้าไม่อย่างงั้น คนใช้นั่นก็จะไม่พูดกับนาย” ลิลลี่ส่งเสียงไม่พอใจ มองไปที่เซียวเฟิงด้วยความขี้อวด เพราะพวกเธอเป็นกลุ่มผู้เล่นที่ทำภารกิจได้เร็วที่สุดในเมืองเทียนหลงนี้แล้ว!
ทว่าก่อนที่เธอจะพูดจบ คนใช้ก็พลันสังเกตเห็นเซียวเฟิง ก่อนที่ใบหน้าของคนใช้จะเปลี่ยนไปทันที แล้วจากนั้นเขาก็กล่าวคำทักทายกับเซียวเฟิงอย่างสุภาพ
“อ่า! ท่านอาร์คบิชอปเดินทางมายังคฤหาสน์ของเจ้าเมืองด้วยตัวของท่านเอง! โปรดบอกกับข้าว่าภารกิจของท่านคือสิ่งใด?”
NPC คนใช้นั้นปากแข็งและดูจริงจัง เขามักทำตัวเฉยๆ กับพวกเธอ แต่ตอนนี้เขากลับพูดกับเซียวเฟิงอย่างเคารพและอบอุ่น ซึ่งนั่นทำให้ผู้เล่นคนอื่นๆ ของกิลด์มิดซัมเมอร์อึ้งไปตามๆ กัน
ลิลลี่ก็อึ้งอยู่เช่นกัน ส่วนโรสก็รู้สึกประหลาดใจ เธอขมวดคิ้วและมองไปที่เซียวเฟิงอย่างไม่ไว้ใจ
“ฉันอยากจะเข้าพบเจ้าเมือง” เซียวเฟิงเมินพวกเขาและพูดกับคนใช้ทันที
“ได้เลย! โปรดตามข้าพเจ้ามา!” NPC คนใช้โค้งตัวทันที ก่อนจะนำทางไปโดยไร้ข้อกังขาใดๆ ส่วนเซียวเฟิงก็ตามหลังเขาเข้าไปในคฤหาสน์ของเจ้าเมือง
…
“คุณหลิวคะ…” พวกเธอได้แต่มองไปที่เซียวเฟิงซึ่งเดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างองอาจ …ภาพตรงหน้าทำให้ลิลลี่โกรธเกรี้ยวและหันมาพูดกับโรส
แต่โรสเองก็งุนงงอยู่เช่นกัน เธออยากที่จะแอบเข้าไปในคฤหาสน์ในขณะที่ NPC คนใช้ไม่อยู่ แต่ทหารยามสองคนก็พลันเดินออกมาและยืนบังประตูเอาไว้ นั่นทำให้เธอต้องล้มเลิกแผนการไปในที่สุด
คฤหาสน์ของเจ้าเมืองนั้นมีขนาดไม่ใหญ่นัก มันมีขนาดเล็กกว่าโบสถของเมืองเทียนหลงด้วยซ้ำ เซียวเฟิงจึงเห็นเจ้าเมืองเทียนหลงทันทีที่เข้าไปถึงห้องโถง
“อาร์คบิชอปจากวิหารแห่งแสง เหตุผลใดท่านจึงมาที่นี่?” เจ้าเมืองเทียนหลงเป็นชายวัยกลางคนที่มีดวงตาที่โตและคิ้วที่หนา เขาแข็งแกร่ง และดูมีอำนาจ เขานั่งอยู่ในห้องโถง และไม่ได้ลุกขึ้นมาทักทายเซียวเฟิง
“ท่านเจ้าเมือง ผมต้องการที่จะซื้อที่ดินผืนหนึ่งในเขตเศรษฐกิจของเมืองเทียนหลง” เซียวเฟิงพูดออกไปตรงๆ
“ไม่มีปัญหา ข้าเพียงไม่คิดว่านักผจญภัยจะสามารถรับตำแหน่งอาร์คบิชอปได้ ส่วนที่ดินของเมืองเทียนหลงนั้น.. มันก็สามารถขายให้กับนักผจญภัยได้ นี่เป็นแผนที่ของเขตการค้าของเมืองเทียนหลง ที่ดินถูกติดป้ายราคาไว้แล้ว และท่านก็สามารถเลือกได้อย่างอิสระ”
เห็นได้ชัดว่าเจ้าเมืองเทียนหลงประหลาดใจที่เซียวเฟิงเป็นเพียงผู้เล่น แต่เขาก็ยังคงหยิบแผนที่นั้นออกมาอย่างว่องไวอยู่ดี
“อืม…นี่มัน..” แผนที่เขตเศรษฐกิจนั้นถูกแบ่งแยกอย่างชัดเจน และเซียวเฟิงก็สามารถมองเห็นข้อดีข้อเสียของทำเลที่ดินแต่ละจุดได้ เช่นเดียวกับราคาที่แตกต่างกันออกไป แต่ทว่าไม่ว่าจะเป็นจุดไหน มันก็ถือว่ามีราคาที่ค่อนข้าง ‘แพงมาก’ ! ที่ถูกที่สุดก็มีราคาเป็นพันเหรียญทองแล้ว ซึ่งนั่นยังไม่นับรวมไปถึงทำเลดีๆ ที่มีมูลค่าเป็นแสนๆ เหรียญทอง!
เซียวเฟิงรู้สึกกระอักกระอ่วนจากสิ่งที่ได้เห็น เพราะตามระบบแลกเปลี่ยนเงินตรา เหรียญทองหนึ่งเหรียญมีค่าเท่ากับเงินจริง 100 หยวน นั่นหมายความว่าราคาของที่ดินที่มีราคาแพงที่สุดนั้นมีราคาประมาณสิบล้านหยวน!
แต่นี่อาจจะไม่ใช่ราคาที่แพงสำหรับกิลด์ใหญ่ๆ เซียวเฟิงเชื่อว่าที่ดินในเขตเศรษฐกิจเหล่านี้จะขายออกในทันทีที่ระบบแลกเปลี่ยนเงินตราเริ่มเปิดใช้งาน แต่ปัญหาคือระบบแลกเปลี่ยนเงินตรานั้นยังไม่เปิดใช้งานในตอนนี้!
และเซียวเฟิงก็ไม่มีเหรียญทองมากมายในเวลานี้เช่นกัน!
“ท่านอาร์คบิชอป ท่านมีปัญหาอะไรหรือไม่? ท่านสามารถพูดออกมาได้นะ เขตเศรษฐกิจของเมืองเทียนหลงนั้นเปิดไว้ให้กับนักผจญภัย และข้าสามารถขายมันทั้งหมดให้กับท่านได้หากท่านต้องการ” เจ้าเมืองเทียนหลงพูดอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งนั้นทำให้เซียวเฟิงรู้สึกเขินอายมากขึ้นกว่าเก่า แน่นอนว่าเขาก็อยากที่จะซื้อที่ดินทั้งหมด! แต่เขามีเงินไม่พอเนี่ยซิ!
“อ่า ท่านเจ้าเมือง ที่จริงแล้วแม้ว่าจะต้องการ แต่ผม…. ผมไม่มีตังค์” เซียวเฟิงพูดด้วยความเขินอาย
“ว่าไงนะ?!” เจ้าเมืองเทียนหลงโกรธจัด เขาสะดุ้งและเซถลาลงไปนั่งกับพื้น!
“วิหารแห่งแสงนั้นมีอำนาจ และเจ้า ! เจ้ากล้าดียังไงถึงคิดเข้าครอบครองดินแดนของจักรวรรดิเสินโจวอย่างโจ่งแจ้งแบบนั้น!”
เซียวเฟิงถูกเขาทำให้ตกใจกลัว แต่แล้วชายหนุ่มก็นึกบางอย่างออก ดูเหมือนเจ้าเมืองเทียนหลงจะไม่มีทัศนคติที่ดีกับวิหารศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับ NPC ทั่วไป!
นอกจากนั้นอีกฝ่ายยังกล่าวถึงจักรวรรดิเสินโจว นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวเฟิงนึกขึ้นได้ว่ามีจักรวรรดิแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในดินแดนแห่งพระเจ้า โดยในเรื่องราวของภารกิจที่แล้ว วิหารแห่งแสงนั้นดำรงตำแหน่งในฐานะผู้มีอำนาจอยู่เสมอ ส่วนจักรวรรดินั้นก็เป็นสถานที่ที่ไม่เป็นที่รู้จัก
“ไม่ ไม่ ไม่ ผมเพียงต้องการเช่าที่ดินผืนหนึ่งในฐานะนักผจญภัย และจะซื้อมันตามราคาขายในไม่กี่วันถัดจากนี้”
“จะเช่าที่ดินผืนหนึ่งอย่างงั้นรึ?” หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เซียวเฟิงพูด เจ้าเมืองเทียนหลงก็ใจเย็นลงในที่สุด
เซียวเฟิงพยักหน้า ระบบแลกเปลี่ยนเงินตราจะเปิดภายในสิบวันอย่างแน่นอน เขาไม่ทราบว่าจำนวนเงินที่เฉียนโตวโตวจะลงทุนไปกับเกมนี้นั้นจะมีจำนวนเท่าไหร่ แต่เขาก็มีแผน B สำรองไว้ ซึ่งชายหนุ่มจะต้องทำเงินให้ได้เกินกว่า 100,000 เหรียญทองภายใน 10 วัน!
“ท่านเป็นคนแรกที่ถามถึงการเช่าซื้อที่ดิน และนี่ก็เป็นสิ่งที่ข้าคาดไม่ถึง แต่เขตเศรษฐกิจเองก็เตรียมพร้อมไว้สำหรับนักผจญภัยอย่างเช่นท่านอยู่แล้ว และอีกอย่างท่านก็ยังเป็นอาร์คบิชอปอีกด้วย ดังนั้นข้าจึงสามารถให้คำสัญญากับท่านได้…” เจ้าเมืองเทียนหลงพูดขึ้นหลังจากที่เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ท่านเจ้าเมือง ขอบคุณท่านมาก!” เซียวเฟิงตอบในทันที
“เดี๋ยวก่อน! ข้ายังพูดไม่จบ” เจ้าเมืองเทียนหลงพูดขัดเซียวเฟิงอีกครั้ง
“หืม?” เซียวเฟิงมึนงง
“ข้าให้ท่านเช่าซื้อที่ดินได้ แต่ข้าเองก็กำลังมีปัญหาอยู่ในตอนนี้เช่นกัน ดังนั้นข้าจะให้ท่านเช่ามันได้หลังจากที่ท่านช่วยข้าแก้ปัญหาแล้วเสร็จ” เจ้าเมืองเทียนหลงพูด
เซียวเฟิงเข้าใจแล้วว่านี่คือภารกิจ เขาพูดว่า “แล้วผมพอจะช่วยอะไรได้บ้าง? คุณบอกมาได้เลย”
“หืม ข้าชื่นชมความกล้าหาญของท่าน ทว่าข้ามีข้อสงสัย.. ข้าอยากรู้ว่าท่านได้เป็นอาร์คบิชอปแห่งวิหารแห่งแสงด้วยฐานะนักผจญภัยได้อย่างไร อะแฮ่ม… แต่มันก็ไม่ใช้กงการของข้าเช่นกัน” เจ้าเมืองเทียนหลงกระแอมแล้วพูดกับเซียวเฟิงอย่างจริงจัง
“เมื่อสองวันที่แล้ว ทหารยามหน่วยหนึ่งได้หายไปในระหว่างที่ทำงานให้กับข้าด้านนอกคฤหาสน์หลังนี้ ดังนั้นข้าก็เลยส่งทหารยามอีกสองหน่วยเพื่อออกไปตามหาพวกเขา แต่อีก 2 กลุ่มก็หายไปเหมือนกัน และหลังจากนั้นข้าก็ไม่ได้ข่าวอะไรจากพวกเขาอีกเลย ”
“ลูกน้องของข้าต่างเป็นทหารที่มีประสบการณ์ และพวกเขาไม่มีทางที่จะหายเข้ากลีบเมฆไปแบบนี้ ข้าจึงรู้ทันทีว่ามีบางสิ่งที่ร้ายแรงเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นจึงได้ส่งผู้คนอีกมากมายออกไปตามหาพวกเขา แต่คนเหล่านั้นต่างก็หายตามไปด้วยเช่นกัน!”
“ข้าได้ส่งหัวหน้านักรบออกไปตามหาพวกเขาเมื่อวานนี้ คนผู้นี้เป็นคนสนิทของข้าและจัดได้ว่าเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง ข้ามั่นใจว่าเขาจะสามารถผ่านอุปสรรคไปได้ไม่ว่าสถานการณ์จะอันตรายขนาดไหนก็ตาม”
“…แต่เขาก็ยังไม่กลับมา”
เจ้าเมืองเทียนหลงมองไปที่เซียวเฟิงและพูดว่า “ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น แต่มันอาจอันตรายกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ ดังนั้นข้าจึงต้องการให้ท่านเข้าไปยังสถานที่นั้นเพื่อนำข้อมูลกลับมารายงานข้า …ภัยอันตรายที่ซ่อนอยู่ที่นั่นนั้นเกินกว่าที่ข้าจะจินตนาการได้ ท่านยังไม่แข็งแกร่งพอ และจะถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน แต่ด้วยความที่ท่านเป็นนักผจญภัยท่านจึงเป็นอมตะ ข้าจึงเชื่อว่าท่านสามารถที่จะนำข้อมูลบางอย่างกลับมารายงานได้แม้ว่าท่านจะถูกฆ่าตายก็ตาม ท่านพร้อมที่จะเดินทางไปที่นั่นหรือไม่?”
“คุณต้องการที่จะรับภารกิจ [สัญญาณแห่งภัยอันตราย] หรือไม่?”
“คำแนะนำ ภารกิจนี้มีความยากสูง เราแนะนำให้ผู้เล่นรวมทีมกันเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ!”
มันเป็นภารกิจที่ยาก และดูเหมือนว่าเขาจะถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน แต่เซียวเฟิงก็จำเป็นที่จะต้องรับภารกิจนี้เพื่อที่จะชิงเขตเศรษฐกิจมา อีกอย่างเขาก็ไม่คิดว่าเขาจะถูกฆ่า!
“ผมตกลง!”
“ดีมาก! ท่านกล้าหาญมาก ข้าจะรออยู่ในคฤหาสน์นี้เพื่อรอฟังข่าวดี ขอท่านโปรดกลับมาเร็วๆ ล่ะ! ท่านอาจจะพบกับหัวหน้านักรบคนนั้นก็เป็นได้ เขานั้นแข็งแกร่งมาก และข้าเชื่อว่าเขายังมีชีวิตอยู่”
หลังจากที่รับภารกิจนั้นแล้ว เซียวเฟิงก็ไม่มีสิ่งใดที่จะทำต่อได้อีก เขาบอกลาเจ้าเมืองเทียนหลงและออกจากคฤหาสน์ทันที
“แล้วเจอกันใหม่ ท่านอาร์คบิชอป!” NPC คนใช้ออกมาส่งเขาด้วยความเคารพ ส่วนโรสและสมาชิกคนอื่นของกิลด์มิดซัมเมอร์ก็ได้จากไปแล้ว พวกเขารอคอยอยู่อย่างยาวนานแต่ก็ไม่เจอกับคนใช้ และพวกเขาก็ยังติดพันกับภารกิจอยู่ ดังนั้นจึงสามารถทำได้เพียงแค่จากไป
เซียวเฟิงหยุดคิดถึงพวกเขาทันทีที่รู้สึกตัว เพราะยังไงก็ถือเป็นศัตรูกัน และไม่มีทางที่จะร่วมมือกันเพื่อทำภารกิจนี้ให้สำเร็จได้! เขาจะฆ่าพวกเธอแน่ถ้าเจอกันในสนามรบ!!
เซียวเฟิงเดินออกจากเมืองและเปิดดูแผนที่ของระบบ ตำแหน่งของภารกิจนั้นอยู่ค่อนข้างไกล ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีเวลาพอในการอัพเลเวล ชายหนุ่มจึงได้แต่หวังว่าผู้เล่นคนอื่นจะช้าลง
มันเป็นเวลาตีสองหรือตีสาม แต่ก็ยังมีผู้เล่นอยู่มากมายในเมืองเทียนหลง ขณะที่เซียวเฟิงเดินออกจากเมืองเขาก็ได้เผชิญหน้ากับกลุ่มผู้เล่นที่มีชื่อนำหน้าดูมส์เดย์ลีค!
“หัวหน้ากิลด์ ฉันได้ขอให้ผู้เล่นบางส่วนเดินไปทั่วเมืองเทียนหลงแล้ว นี่เป็นเมืองหลักที่เหมาะสมกับการพัฒนาของพวกเรา มีมอนสเตอร์หลากหลายระดับ และเลเวลของพวกมันนั้นอยู่ในช่วง 10 ถึง 30 นี่จึงเป็นสถานที่ที่เป็นที่นิยมในการอัพเลเวลในช่วงนี้ นอกจากนี้ยังมีจุดผลิตมากมายสำหรับวัสดุต่างๆ และอีกหลายจุดที่ดรอบวัสดุหายาก!” ลอว์ก็อตเดินตามชายคนหนึ่งที่เป็นหัวหน้าของผู้เล่นเหล่านี้ เขากำลังพูดและโบกมือด้วยความตื่นเต้น
“ที่สำคัญกว่านั้น มีใครบางคนได้รับภารกิจโซนมา ซึ่งทางเข้าโซนก็อยู่ไม่ไกลจากเมืองนี้! ลองคิดดูซิ! ที่แห่งนี้มีทรัพยากรเหลือเฟือ และยังมีจุดอัพเลเวลที่สำคัญหลายจุด ยิ่งไปกว่านั้นมันก็ยังตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้าโซนอีกด้วย เมืองหลักเมืองนี้ต้องได้รับความนิยมในหมู่ผู้เล่นแน่นอน! นี่เป็นสถานที่ที่ดีในการเริ่มต้นของพวกเรา!”
“ฉันก็คิดว่าลอว์ก็อตพูดถูกเหมือนกัน เมืองนี้นั้นเหมาะกับการเริ่มต้น ซึ่งก็หมายความว่ามอนสเตอร์รอบๆ จะต้องอยู่ในเลเวลที่ต่ำ ดังนั้นจึงเป็นการง่ายสำหรับพวกเราที่จะป้องกันการโจมตีจากเหล่ามอนสเตอร์!” ผู้เล่นอีกคนที่มีชื่อก็อตออฟวอร์เองก็พูดขึ้นเช่นกัน
“แต่ปัญหาหลักๆ ก็คือเมืองนี้เป็นที่เกิดของกิลด์มิดซัมเมอร์เช่นกัน เราจะต้องปะทะกับพวกมันแน่นอนถ้าเราเลือกที่จะตั้งกิลด์ของเราในเมืองนี้”
ชื่อของผู้ชายที่เดินนำหน้าอยู่คือดูมส์เดย์ก็อต และเขาก็เป็นหัวหน้ากิลด์ตัวจริงของกิลด์ดูมส์เดย์ลีค! ซึ่งขณะนี้เจ้าตัวก็กำลังลังเลอย่างหนัก!
“เฮ้! หัวหน้า! กิลด์ดูมส์เดย์ลีคไม่กลัวกิลด์มิดซัมเมอร์อยู่แล้ว! อดีตหัวหน้าของกิลด์มิดซัมเมอร์ได้ออกไปแล้ว และหัวหน้าคนปัจจุบันก็เป็นผู้เล่นหญิง ชื่อของเธอคือโรส คุณรู้หรือเปล่า ? …เราไม่เห็นต้องไปกลัวผู้หญิงคนนี้เลย! นอกจากนี้กิลด์มิดซัมเมอร์ก็ยังอยู่ภายใต้เครือมิดซัมเมอร์กรุ๊ป และเป้าหมายสำคัญของพวกเขาก็คือการทำเงิน จะไม่มีความขัดแย้งขนาดใหญ่ระหว่างพวกเราสองกิลด์แน่ เพราะพวกเขาจะประสบความสูญเสียทางการเงินที่มหาศาลไปเปล่าๆ และพวกคณะกรรมการย่อมไม่เห็นด้วยกับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจะจากไปและมอบเมืองเทียนหลงให้กับเราแน่นอน!!” ลอว์ก็อตพูดด้วยความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด
ดูมส์เดย์ก็อตยังคงลังเลอยู่ ส่วนก็อตออฟวอร์ก็กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เป็นจังหวะเดียวกับที่เซียวเฟิงซึ่งสวมชุดมือใหม่กำลังเดินตรงมาหาพวกเขาพอดี ชายหนุ่มกำลังดูแผนที่และไม่ได้สังเกตเห็นกลุ่มคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
“นั่น! ไอ้บัดซบ! เขาก็อยู่ในเมืองเทียนหลงด้วย!” ลอว์ก็อตเงยหน้าขึ้น และรู้ทันทีว่านั่นคือเซียวเฟิง หลังจากนั้นใบหน้าของเขาก็พลันเปลี่ยนสีแล้วพูดอย่างเย็นชาออกมา
“อย่าให้มันหนีไปได้! ล้อมมันไว้! ฉันไม่คิดว่ามันก็อยู่ในเมืองเทียนหลงด้วย!” หลังจากยืนยันว่านั่นเป็นเป้าหมายของพวกเขา ก็อตออฟวอร์พลันยิ้มอย่างน่ากลัวและออกคำสั่งให้ผู้เล่นกลุ่มใหญ่ของกิลด์ดูมส์เดย์ลีคเข้าล้อมรอบเซียวเฟิงทันทีหลายสิบคน
“โอ้! เกิดอะไรขึ้น?”
“พวกเขาจะสู้กันเหรอ?”
“เกิดอะไรขึ้น? พวกเขากำลังอยู่ในเมืองหลักนะ! พวกเขาต้องการอะไร!”
ผู้เล่นที่ยืนอยู่รอบๆ ต่างถูกดึงความสนใจ พวกเขาเดินเข้ามาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เซียวเฟิงได้ยินเสียงของลิลลี่ และหันไปพบพวกเขาที่ยืนอยู่บริเวณหน้าประตูในทันที ดังนั้นชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปหาพวกเขาด้วยรอยยิ้ม
“ว่าไงคนสวย! บังเอิญจังเลย!”
“นายกำลังพูดอยู่กับใคร? พวกเราไม่ได้สนิทอะไรกับนายสักหน่อย!” ลิลลี่ตีหน้าตายและพูดอย่างเย็นชา เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเซียวเฟิงถึงพูดแบบนี้กับพวกเขา …เพราะอย่างไรแล้วพวกเราก็เป็นศัตรูกัน!
นอกจากนี้เธอยังไม่รู้อีกด้วยว่าทำไมคุณหลิวถึงบอกให้กิลด์ทั้งกิลด์กำจัดชายคนนี้ เพราะจริงๆ แล้วเธอยังเคยตั้งใจจะชวนเขาเข้าร่วมกิลด์มิดซัมเมอร์ด้วยซ้ำไป!
สมาชิกหลายคนของกิลด์มิดซัมเมอร์จำศัตรูของพวกเขาได้ในทันที พวกเขาหยิบอาวุธออกมาพร้อมกันและมองไปที่เซียวเฟิงด้วยความเป็นศัตรู ดีที่ตอนนี้พวกเขาอยู่ในเมืองใหญ่ ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงเข้าโจมตีเซียวเฟิงไปแล้ว!
“ไม่ต้องไปสนใจเขา”
โรสพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาแล้วเธอก็หันหน้าหนีเซียวเฟิง เลิกสนใจเขา
ภาพลักษณ์ของตัวละครที่ผู้เล่นได้ปรับเปลี่ยนเอาไว้จะไม่แสดงผลเมื่อผู้เล่นได้ทำการเปลี่ยนคลาสสำเร็จ และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่โรสสวมใส่ผ้าคลุมหน้าสีขาวอยู่ …น่าเสียดายที่ใบหน้าที่สมบูรณ์แบบของเธอต้องถูกบดบัง
“นี่! นายอยากจะเข้าไปในคฤหาสน์ของเจ้าเมืองใช่ไหม? ถ้างั้นนายก็ควรจะเริ่มต้นที่ภารกิจจากทหารยามนะ ถ้าไม่อย่างงั้น คนใช้นั่นก็จะไม่พูดกับนาย” ลิลลี่ส่งเสียงไม่พอใจ มองไปที่เซียวเฟิงด้วยความขี้อวด เพราะพวกเธอเป็นกลุ่มผู้เล่นที่ทำภารกิจได้เร็วที่สุดในเมืองเทียนหลงนี้แล้ว!
ทว่าก่อนที่เธอจะพูดจบ คนใช้ก็พลันสังเกตเห็นเซียวเฟิง ก่อนที่ใบหน้าของคนใช้จะเปลี่ยนไปทันที แล้วจากนั้นเขาก็กล่าวคำทักทายกับเซียวเฟิงอย่างสุภาพ
“อ่า! ท่านอาร์คบิชอปเดินทางมายังคฤหาสน์ของเจ้าเมืองด้วยตัวของท่านเอง! โปรดบอกกับข้าว่าภารกิจของท่านคือสิ่งใด?”
NPC คนใช้นั้นปากแข็งและดูจริงจัง เขามักทำตัวเฉยๆ กับพวกเธอ แต่ตอนนี้เขากลับพูดกับเซียวเฟิงอย่างเคารพและอบอุ่น ซึ่งนั่นทำให้ผู้เล่นคนอื่นๆ ของกิลด์มิดซัมเมอร์อึ้งไปตามๆ กัน
ลิลลี่ก็อึ้งอยู่เช่นกัน ส่วนโรสก็รู้สึกประหลาดใจ เธอขมวดคิ้วและมองไปที่เซียวเฟิงอย่างไม่ไว้ใจ
“ฉันอยากจะเข้าพบเจ้าเมือง” เซียวเฟิงเมินพวกเขาและพูดกับคนใช้ทันที
“ได้เลย! โปรดตามข้าพเจ้ามา!” NPC คนใช้โค้งตัวทันที ก่อนจะนำทางไปโดยไร้ข้อกังขาใดๆ ส่วนเซียวเฟิงก็ตามหลังเขาเข้าไปในคฤหาสน์ของเจ้าเมือง
…
“คุณหลิวคะ…” พวกเธอได้แต่มองไปที่เซียวเฟิงซึ่งเดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างองอาจ …ภาพตรงหน้าทำให้ลิลลี่โกรธเกรี้ยวและหันมาพูดกับโรส
แต่โรสเองก็งุนงงอยู่เช่นกัน เธออยากที่จะแอบเข้าไปในคฤหาสน์ในขณะที่ NPC คนใช้ไม่อยู่ แต่ทหารยามสองคนก็พลันเดินออกมาและยืนบังประตูเอาไว้ นั่นทำให้เธอต้องล้มเลิกแผนการไปในที่สุด
คฤหาสน์ของเจ้าเมืองนั้นมีขนาดไม่ใหญ่นัก มันมีขนาดเล็กกว่าโบสถของเมืองเทียนหลงด้วยซ้ำ เซียวเฟิงจึงเห็นเจ้าเมืองเทียนหลงทันทีที่เข้าไปถึงห้องโถง
“อาร์คบิชอปจากวิหารแห่งแสง เหตุผลใดท่านจึงมาที่นี่?” เจ้าเมืองเทียนหลงเป็นชายวัยกลางคนที่มีดวงตาที่โตและคิ้วที่หนา เขาแข็งแกร่ง และดูมีอำนาจ เขานั่งอยู่ในห้องโถง และไม่ได้ลุกขึ้นมาทักทายเซียวเฟิง
“ท่านเจ้าเมือง ผมต้องการที่จะซื้อที่ดินผืนหนึ่งในเขตเศรษฐกิจของเมืองเทียนหลง” เซียวเฟิงพูดออกไปตรงๆ
“ไม่มีปัญหา ข้าเพียงไม่คิดว่านักผจญภัยจะสามารถรับตำแหน่งอาร์คบิชอปได้ ส่วนที่ดินของเมืองเทียนหลงนั้น.. มันก็สามารถขายให้กับนักผจญภัยได้ นี่เป็นแผนที่ของเขตการค้าของเมืองเทียนหลง ที่ดินถูกติดป้ายราคาไว้แล้ว และท่านก็สามารถเลือกได้อย่างอิสระ”
เห็นได้ชัดว่าเจ้าเมืองเทียนหลงประหลาดใจที่เซียวเฟิงเป็นเพียงผู้เล่น แต่เขาก็ยังคงหยิบแผนที่นั้นออกมาอย่างว่องไวอยู่ดี
“อืม…นี่มัน..” แผนที่เขตเศรษฐกิจนั้นถูกแบ่งแยกอย่างชัดเจน และเซียวเฟิงก็สามารถมองเห็นข้อดีข้อเสียของทำเลที่ดินแต่ละจุดได้ เช่นเดียวกับราคาที่แตกต่างกันออกไป แต่ทว่าไม่ว่าจะเป็นจุดไหน มันก็ถือว่ามีราคาที่ค่อนข้าง ‘แพงมาก’ ! ที่ถูกที่สุดก็มีราคาเป็นพันเหรียญทองแล้ว ซึ่งนั่นยังไม่นับรวมไปถึงทำเลดีๆ ที่มีมูลค่าเป็นแสนๆ เหรียญทอง!
เซียวเฟิงรู้สึกกระอักกระอ่วนจากสิ่งที่ได้เห็น เพราะตามระบบแลกเปลี่ยนเงินตรา เหรียญทองหนึ่งเหรียญมีค่าเท่ากับเงินจริง 100 หยวน นั่นหมายความว่าราคาของที่ดินที่มีราคาแพงที่สุดนั้นมีราคาประมาณสิบล้านหยวน!
แต่นี่อาจจะไม่ใช่ราคาที่แพงสำหรับกิลด์ใหญ่ๆ เซียวเฟิงเชื่อว่าที่ดินในเขตเศรษฐกิจเหล่านี้จะขายออกในทันทีที่ระบบแลกเปลี่ยนเงินตราเริ่มเปิดใช้งาน แต่ปัญหาคือระบบแลกเปลี่ยนเงินตรานั้นยังไม่เปิดใช้งานในตอนนี้!
และเซียวเฟิงก็ไม่มีเหรียญทองมากมายในเวลานี้เช่นกัน!
“ท่านอาร์คบิชอป ท่านมีปัญหาอะไรหรือไม่? ท่านสามารถพูดออกมาได้นะ เขตเศรษฐกิจของเมืองเทียนหลงนั้นเปิดไว้ให้กับนักผจญภัย และข้าสามารถขายมันทั้งหมดให้กับท่านได้หากท่านต้องการ” เจ้าเมืองเทียนหลงพูดอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งนั้นทำให้เซียวเฟิงรู้สึกเขินอายมากขึ้นกว่าเก่า แน่นอนว่าเขาก็อยากที่จะซื้อที่ดินทั้งหมด! แต่เขามีเงินไม่พอเนี่ยซิ!
“อ่า ท่านเจ้าเมือง ที่จริงแล้วแม้ว่าจะต้องการ แต่ผม…. ผมไม่มีตังค์” เซียวเฟิงพูดด้วยความเขินอาย
“ว่าไงนะ?!” เจ้าเมืองเทียนหลงโกรธจัด เขาสะดุ้งและเซถลาลงไปนั่งกับพื้น!
“วิหารแห่งแสงนั้นมีอำนาจ และเจ้า ! เจ้ากล้าดียังไงถึงคิดเข้าครอบครองดินแดนของจักรวรรดิเสินโจวอย่างโจ่งแจ้งแบบนั้น!”
เซียวเฟิงถูกเขาทำให้ตกใจกลัว แต่แล้วชายหนุ่มก็นึกบางอย่างออก ดูเหมือนเจ้าเมืองเทียนหลงจะไม่มีทัศนคติที่ดีกับวิหารศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับ NPC ทั่วไป!
นอกจากนั้นอีกฝ่ายยังกล่าวถึงจักรวรรดิเสินโจว นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวเฟิงนึกขึ้นได้ว่ามีจักรวรรดิแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในดินแดนแห่งพระเจ้า โดยในเรื่องราวของภารกิจที่แล้ว วิหารแห่งแสงนั้นดำรงตำแหน่งในฐานะผู้มีอำนาจอยู่เสมอ ส่วนจักรวรรดินั้นก็เป็นสถานที่ที่ไม่เป็นที่รู้จัก
“ไม่ ไม่ ไม่ ผมเพียงต้องการเช่าที่ดินผืนหนึ่งในฐานะนักผจญภัย และจะซื้อมันตามราคาขายในไม่กี่วันถัดจากนี้”
“จะเช่าที่ดินผืนหนึ่งอย่างงั้นรึ?” หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เซียวเฟิงพูด เจ้าเมืองเทียนหลงก็ใจเย็นลงในที่สุด
เซียวเฟิงพยักหน้า ระบบแลกเปลี่ยนเงินตราจะเปิดภายในสิบวันอย่างแน่นอน เขาไม่ทราบว่าจำนวนเงินที่เฉียนโตวโตวจะลงทุนไปกับเกมนี้นั้นจะมีจำนวนเท่าไหร่ แต่เขาก็มีแผน B สำรองไว้ ซึ่งชายหนุ่มจะต้องทำเงินให้ได้เกินกว่า 100,000 เหรียญทองภายใน 10 วัน!
“ท่านเป็นคนแรกที่ถามถึงการเช่าซื้อที่ดิน และนี่ก็เป็นสิ่งที่ข้าคาดไม่ถึง แต่เขตเศรษฐกิจเองก็เตรียมพร้อมไว้สำหรับนักผจญภัยอย่างเช่นท่านอยู่แล้ว และอีกอย่างท่านก็ยังเป็นอาร์คบิชอปอีกด้วย ดังนั้นข้าจึงสามารถให้คำสัญญากับท่านได้…” เจ้าเมืองเทียนหลงพูดขึ้นหลังจากที่เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ท่านเจ้าเมือง ขอบคุณท่านมาก!” เซียวเฟิงตอบในทันที
“เดี๋ยวก่อน! ข้ายังพูดไม่จบ” เจ้าเมืองเทียนหลงพูดขัดเซียวเฟิงอีกครั้ง
“หืม?” เซียวเฟิงมึนงง
“ข้าให้ท่านเช่าซื้อที่ดินได้ แต่ข้าเองก็กำลังมีปัญหาอยู่ในตอนนี้เช่นกัน ดังนั้นข้าจะให้ท่านเช่ามันได้หลังจากที่ท่านช่วยข้าแก้ปัญหาแล้วเสร็จ” เจ้าเมืองเทียนหลงพูด
เซียวเฟิงเข้าใจแล้วว่านี่คือภารกิจ เขาพูดว่า “แล้วผมพอจะช่วยอะไรได้บ้าง? คุณบอกมาได้เลย”
“หืม ข้าชื่นชมความกล้าหาญของท่าน ทว่าข้ามีข้อสงสัย.. ข้าอยากรู้ว่าท่านได้เป็นอาร์คบิชอปแห่งวิหารแห่งแสงด้วยฐานะนักผจญภัยได้อย่างไร อะแฮ่ม… แต่มันก็ไม่ใช้กงการของข้าเช่นกัน” เจ้าเมืองเทียนหลงกระแอมแล้วพูดกับเซียวเฟิงอย่างจริงจัง
“เมื่อสองวันที่แล้ว ทหารยามหน่วยหนึ่งได้หายไปในระหว่างที่ทำงานให้กับข้าด้านนอกคฤหาสน์หลังนี้ ดังนั้นข้าก็เลยส่งทหารยามอีกสองหน่วยเพื่อออกไปตามหาพวกเขา แต่อีก 2 กลุ่มก็หายไปเหมือนกัน และหลังจากนั้นข้าก็ไม่ได้ข่าวอะไรจากพวกเขาอีกเลย ”
“ลูกน้องของข้าต่างเป็นทหารที่มีประสบการณ์ และพวกเขาไม่มีทางที่จะหายเข้ากลีบเมฆไปแบบนี้ ข้าจึงรู้ทันทีว่ามีบางสิ่งที่ร้ายแรงเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นจึงได้ส่งผู้คนอีกมากมายออกไปตามหาพวกเขา แต่คนเหล่านั้นต่างก็หายตามไปด้วยเช่นกัน!”
“ข้าได้ส่งหัวหน้านักรบออกไปตามหาพวกเขาเมื่อวานนี้ คนผู้นี้เป็นคนสนิทของข้าและจัดได้ว่าเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง ข้ามั่นใจว่าเขาจะสามารถผ่านอุปสรรคไปได้ไม่ว่าสถานการณ์จะอันตรายขนาดไหนก็ตาม”
“…แต่เขาก็ยังไม่กลับมา”
เจ้าเมืองเทียนหลงมองไปที่เซียวเฟิงและพูดว่า “ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น แต่มันอาจอันตรายกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ ดังนั้นข้าจึงต้องการให้ท่านเข้าไปยังสถานที่นั้นเพื่อนำข้อมูลกลับมารายงานข้า …ภัยอันตรายที่ซ่อนอยู่ที่นั่นนั้นเกินกว่าที่ข้าจะจินตนาการได้ ท่านยังไม่แข็งแกร่งพอ และจะถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน แต่ด้วยความที่ท่านเป็นนักผจญภัยท่านจึงเป็นอมตะ ข้าจึงเชื่อว่าท่านสามารถที่จะนำข้อมูลบางอย่างกลับมารายงานได้แม้ว่าท่านจะถูกฆ่าตายก็ตาม ท่านพร้อมที่จะเดินทางไปที่นั่นหรือไม่?”
“คุณต้องการที่จะรับภารกิจ [สัญญาณแห่งภัยอันตราย] หรือไม่?”
“คำแนะนำ ภารกิจนี้มีความยากสูง เราแนะนำให้ผู้เล่นรวมทีมกันเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ!”
มันเป็นภารกิจที่ยาก และดูเหมือนว่าเขาจะถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน แต่เซียวเฟิงก็จำเป็นที่จะต้องรับภารกิจนี้เพื่อที่จะชิงเขตเศรษฐกิจมา อีกอย่างเขาก็ไม่คิดว่าเขาจะถูกฆ่า!
“ผมตกลง!”
“ดีมาก! ท่านกล้าหาญมาก ข้าจะรออยู่ในคฤหาสน์นี้เพื่อรอฟังข่าวดี ขอท่านโปรดกลับมาเร็วๆ ล่ะ! ท่านอาจจะพบกับหัวหน้านักรบคนนั้นก็เป็นได้ เขานั้นแข็งแกร่งมาก และข้าเชื่อว่าเขายังมีชีวิตอยู่”
หลังจากที่รับภารกิจนั้นแล้ว เซียวเฟิงก็ไม่มีสิ่งใดที่จะทำต่อได้อีก เขาบอกลาเจ้าเมืองเทียนหลงและออกจากคฤหาสน์ทันที
“แล้วเจอกันใหม่ ท่านอาร์คบิชอป!” NPC คนใช้ออกมาส่งเขาด้วยความเคารพ ส่วนโรสและสมาชิกคนอื่นของกิลด์มิดซัมเมอร์ก็ได้จากไปแล้ว พวกเขารอคอยอยู่อย่างยาวนานแต่ก็ไม่เจอกับคนใช้ และพวกเขาก็ยังติดพันกับภารกิจอยู่ ดังนั้นจึงสามารถทำได้เพียงแค่จากไป
เซียวเฟิงหยุดคิดถึงพวกเขาทันทีที่รู้สึกตัว เพราะยังไงก็ถือเป็นศัตรูกัน และไม่มีทางที่จะร่วมมือกันเพื่อทำภารกิจนี้ให้สำเร็จได้! เขาจะฆ่าพวกเธอแน่ถ้าเจอกันในสนามรบ!!
เซียวเฟิงเดินออกจากเมืองและเปิดดูแผนที่ของระบบ ตำแหน่งของภารกิจนั้นอยู่ค่อนข้างไกล ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีเวลาพอในการอัพเลเวล ชายหนุ่มจึงได้แต่หวังว่าผู้เล่นคนอื่นจะช้าลง
มันเป็นเวลาตีสองหรือตีสาม แต่ก็ยังมีผู้เล่นอยู่มากมายในเมืองเทียนหลง ขณะที่เซียวเฟิงเดินออกจากเมืองเขาก็ได้เผชิญหน้ากับกลุ่มผู้เล่นที่มีชื่อนำหน้าดูมส์เดย์ลีค!
“หัวหน้ากิลด์ ฉันได้ขอให้ผู้เล่นบางส่วนเดินไปทั่วเมืองเทียนหลงแล้ว นี่เป็นเมืองหลักที่เหมาะสมกับการพัฒนาของพวกเรา มีมอนสเตอร์หลากหลายระดับ และเลเวลของพวกมันนั้นอยู่ในช่วง 10 ถึง 30 นี่จึงเป็นสถานที่ที่เป็นที่นิยมในการอัพเลเวลในช่วงนี้ นอกจากนี้ยังมีจุดผลิตมากมายสำหรับวัสดุต่างๆ และอีกหลายจุดที่ดรอบวัสดุหายาก!” ลอว์ก็อตเดินตามชายคนหนึ่งที่เป็นหัวหน้าของผู้เล่นเหล่านี้ เขากำลังพูดและโบกมือด้วยความตื่นเต้น
“ที่สำคัญกว่านั้น มีใครบางคนได้รับภารกิจโซนมา ซึ่งทางเข้าโซนก็อยู่ไม่ไกลจากเมืองนี้! ลองคิดดูซิ! ที่แห่งนี้มีทรัพยากรเหลือเฟือ และยังมีจุดอัพเลเวลที่สำคัญหลายจุด ยิ่งไปกว่านั้นมันก็ยังตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้าโซนอีกด้วย เมืองหลักเมืองนี้ต้องได้รับความนิยมในหมู่ผู้เล่นแน่นอน! นี่เป็นสถานที่ที่ดีในการเริ่มต้นของพวกเรา!”
“ฉันก็คิดว่าลอว์ก็อตพูดถูกเหมือนกัน เมืองนี้นั้นเหมาะกับการเริ่มต้น ซึ่งก็หมายความว่ามอนสเตอร์รอบๆ จะต้องอยู่ในเลเวลที่ต่ำ ดังนั้นจึงเป็นการง่ายสำหรับพวกเราที่จะป้องกันการโจมตีจากเหล่ามอนสเตอร์!” ผู้เล่นอีกคนที่มีชื่อก็อตออฟวอร์เองก็พูดขึ้นเช่นกัน
“แต่ปัญหาหลักๆ ก็คือเมืองนี้เป็นที่เกิดของกิลด์มิดซัมเมอร์เช่นกัน เราจะต้องปะทะกับพวกมันแน่นอนถ้าเราเลือกที่จะตั้งกิลด์ของเราในเมืองนี้”
ชื่อของผู้ชายที่เดินนำหน้าอยู่คือดูมส์เดย์ก็อต และเขาก็เป็นหัวหน้ากิลด์ตัวจริงของกิลด์ดูมส์เดย์ลีค! ซึ่งขณะนี้เจ้าตัวก็กำลังลังเลอย่างหนัก!
“เฮ้! หัวหน้า! กิลด์ดูมส์เดย์ลีคไม่กลัวกิลด์มิดซัมเมอร์อยู่แล้ว! อดีตหัวหน้าของกิลด์มิดซัมเมอร์ได้ออกไปแล้ว และหัวหน้าคนปัจจุบันก็เป็นผู้เล่นหญิง ชื่อของเธอคือโรส คุณรู้หรือเปล่า ? …เราไม่เห็นต้องไปกลัวผู้หญิงคนนี้เลย! นอกจากนี้กิลด์มิดซัมเมอร์ก็ยังอยู่ภายใต้เครือมิดซัมเมอร์กรุ๊ป และเป้าหมายสำคัญของพวกเขาก็คือการทำเงิน จะไม่มีความขัดแย้งขนาดใหญ่ระหว่างพวกเราสองกิลด์แน่ เพราะพวกเขาจะประสบความสูญเสียทางการเงินที่มหาศาลไปเปล่าๆ และพวกคณะกรรมการย่อมไม่เห็นด้วยกับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจะจากไปและมอบเมืองเทียนหลงให้กับเราแน่นอน!!” ลอว์ก็อตพูดด้วยความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด
ดูมส์เดย์ก็อตยังคงลังเลอยู่ ส่วนก็อตออฟวอร์ก็กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เป็นจังหวะเดียวกับที่เซียวเฟิงซึ่งสวมชุดมือใหม่กำลังเดินตรงมาหาพวกเขาพอดี ชายหนุ่มกำลังดูแผนที่และไม่ได้สังเกตเห็นกลุ่มคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
“นั่น! ไอ้บัดซบ! เขาก็อยู่ในเมืองเทียนหลงด้วย!” ลอว์ก็อตเงยหน้าขึ้น และรู้ทันทีว่านั่นคือเซียวเฟิง หลังจากนั้นใบหน้าของเขาก็พลันเปลี่ยนสีแล้วพูดอย่างเย็นชาออกมา
“อย่าให้มันหนีไปได้! ล้อมมันไว้! ฉันไม่คิดว่ามันก็อยู่ในเมืองเทียนหลงด้วย!” หลังจากยืนยันว่านั่นเป็นเป้าหมายของพวกเขา ก็อตออฟวอร์พลันยิ้มอย่างน่ากลัวและออกคำสั่งให้ผู้เล่นกลุ่มใหญ่ของกิลด์ดูมส์เดย์ลีคเข้าล้อมรอบเซียวเฟิงทันทีหลายสิบคน
“โอ้! เกิดอะไรขึ้น?”
“พวกเขาจะสู้กันเหรอ?”
“เกิดอะไรขึ้น? พวกเขากำลังอยู่ในเมืองหลักนะ! พวกเขาต้องการอะไร!”
ผู้เล่นที่ยืนอยู่รอบๆ ต่างถูกดึงความสนใจ พวกเขาเดินเข้ามาด้วยความอยากรู้อยากเห็น