บทที่ 22 ข้าวฟรีอันน่าเศร้า
“บอกมาหน่อย! ยัยนี่ใคร!” เซียวหลิงกลับไปนั่งอยู่บนโซฟาตามเดิมแล้ว เธอกอดอกแล้วมองมาที่เซียวเฟิงราวกับกำลังสอบสวนอีกฝ่าย
“ก็ไม่ได้รู้จักกันซะหน่อย!”เซียวเฟิงที่นั่งอยู่บนพื้นส่ายหัวปฏิเสธ
“เฮ้ยไอ้บ้านี่ ไม่เหมือนกับที่นายบอกตอนชวนฉันมานี่หว่า” เยี่ยจิ๋งนั่งอยู่ตรงข้ามกับเซียวหลิง โดยเธอนั่งอยู่ใกล้เซียวเฟิงมากกว่า หญิงสาวมองหน้าเซียวเฟิงที่นั่งนิ่งอยู่ที่พื้นทันที
“เดี๋ยว? อะไรนะ!!!” เซียวหลิงตะโกนออกมาอย่างก้าวร้าว ตัวเธอสั่นเทาไปด้วยความโกรธ
“นี่พี่พาผู้หญิงเข้าบ้านจริง ๆ ด้วยสินะ!”
“เปล่านะ นี่เป็นแค่ลูกค้าที่จะมาแลกเปลี่ยนของกันเฉย ๆ” เซียวเฟิงรีบบอกความจริงกับน้องสาวทันที
“แลกของผิดกฎหมายสินะ? แล้วคนที่พี่ไปมีเรื่อง ‘บนเตียง’ มาด้วยเมื่อเช้าก็คือยัยคนนี้สินะ?” เซียวหลิงตอนนี้ราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังบ้าคลั่ง
เยี่ยจิ๋งยังคงยิ้มโดยไม่ได้แสดงความหงุดหงิดออกไป แต่ขาของเธอก็เตะเซียวเฟิงไปเรื่อย ๆ เธอสวมแค่รองเท้าแตะ กับเสื้อเชิ้ตและกางเกงแบบสามส่วน ดูเข้ากันกับรูปร่างผอมสูงของเธอมาก
“เดี๋ยว ๆ! สู้แบบชกต่อยไม่ใช่บนเตียง! แล้วมันก็เป็นการแลกของในเกมเฉย ๆ” เซียวเฟิงพูดอย่างเหนื่อยใจ
“ฮึ่ม!” ดวงตาของเซียวหลิงมองจ้องไปที่เยี่ยจิ๋งอย่างเป็นศัตรู
“เขาเป็นของฉันนะ ส่วนหล่อนน่ะหาย ๆ ไปจะดีกว่า!”
“อย่าห่วงเลย จริง ๆ แล้วฉันก็อยากจะเชือดไอ้บ้านี่มากกว่าที่จะคบค้าสมาคมกันซะอีก”
ถ้าในเวลาปกติ เยี่ยจิ๋งเป็นคนที่ทั้งสวยและมีเสน่ห์ เธอนั่งยิ้มไปทาง เซียวหลิงแล้วจ้องผมสีทองของเธอไม่วางตา
“ช่างเถอะ! ก็ดี! ฉันหิวแล้ว ไปเตรียมของมาให้ฉันกินได้แล้ว!”
“ครับ ครับ ได้ครับ” เซียวเฟิงเดินเข้าไปในครัวอย่างเหนื่อยใจ
“ไอ้งั่ง นี่น้องสาวนายเหรอ?” หลังจากที่มองไปรอบ ๆ เยี่ยจิ๋งก็เดินตามเซียวเฟิงมาในครัวแล้วก็มาถามแหย่เขาเล่น
เซียวเฟิงยังคงเมินเธอ เธอเลยพูดต่อไปเรื่อย ๆ “ไม่คิดเลยนะว่านายจะเป็นพวกคลั่งน้องสาว นายนี่มันเพี้ยนจริง ๆ”
“หยุดพล่ามได้แล้ว! หรืออยากจะกลับไปแบบมือเปล่า” เซียวเฟิงกำลังหั่นผักสำหรับข้าวต้มอยู่ เขาเพิ่มปริมาณลงไปสำหรับเยี่ยจิ๋งด้วย
“อ่า ไม่ถามก็ได้ นายเป็นพวกคลั่งน้องสาวแล้วไม่อยากให้ใครรู้ งั้นก็รีบ ๆ จัดการธุระเถอะ ฉันสัญญาว่าจะไม่เอาไปบอกใครแน่ ๆ”
“ไว้คุยทีหลัง เดี๋ยวเซียวหลิงจะรอนาน” เซียวเฟิงพูดโดยไม่ได้หยุดเตรียมอาหาร แล้วเขาก็สะกิดใจอะไรบางอย่าง “แล้วทำไมเธอเข้ามาได้? แถมไม่เคาะประตูอีกต่างหาก?”
“ก็ประตูมันไม่ได้ปิด ก็เลยเข้ามาได้”
“ประตูไม่ได้ปิด?” เซียวเฟิงนิ่งไป ใจหายแล้วหันไปหาเซียวหลิงที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น “เซียวหลิง ตอนบ่ายมีอะไรเข้ามารึเปล่า?”
“เปล่านะ…” เซียวหลิงเดินมาหา เสียงของเธอฟังดูไม่มั่นใจแบบแปลก ๆ
คิ้วของเซียวเฟิงย่นทันที แต่เขาก็เปลี่ยนสีหน้าทันทีจนเธอก็ไม่ทันได้สังเกตเห็น
“นี่น้องนายย้อมผมเหรอ?” เยี่ยจิ๋งรู้สึกเบื่อมากเลยชวนเซียวเฟิงคุยต่อ
“เปล่า นี่สีธรรมชาติ”
“ว้าว! ผมบลอนด์ธรรมชาติ งั้นตาของเธอก็ด้วยสินะ? เป็นชาวต่างชาติเหรอ?”
“ลูกครึ่งน่ะ พ่อเป็นคนจีน แม่เป็นคนอังกฤษ”
“ขอจับผมหน่อยได้ไหม?” เยี่ยจิ๋งตาเป็นประกาย
“ถ้าเธอไม่ว่าก็ตามสบาย แต่ถ้าเธอไม่ชอบก็อย่าบังคับเธอ ไม่งั้นฉันหักแขนเธอแน่” เซียวเฟิงพูดออกมาโดยไม่หันมามอง แต่ฟังดูไม่ล้อเล่นสักนิด
“อ่า ฉันว่าไม่ต้องก็ได้นะ”
เยี่ยจิ๋งใจแป้วทันที เธอมองเซียวเฟิงในคราบแม่บ้านที่วิ่งไปวิ่งมาโดยไม่ไปกวนเขาอีก แล้วในที่สุด ข้าวต้มกับเนื้อทอดก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว
“ว้าว ไม่คิดว่านายจะทำอาหารเป็นนะเนี่ย”
กลิ่นหอมอบอวลไปทั่วห้องนั่งเล่น หลังจากที่อาหารวางลงบนโต๊ะ เยี่ยจิ๋งก็อดชมเขาไม่ได้ ซึ่งหาได้ยากมาก ๆ …นี่เป็นเวลาอาหารค่ำแถมเธอก็ไม่ได้กะที่จะมากินข้าวด้วยอยู่แล้ว เธอเลยเลือกที่จะนั่งเฉย ๆ ส่วนเซียวหลิงลงมือกินในทันที เมื่อเธอกัดเนื้อทอดก็มีเสียงกรุบกรอบดังออกมา ยิ่งทำให้เยี่ยจิ๋งเริ่มหิวตามไปด้วย ทว่าเธอก็ยังรู้สึกเกรงใจอยู่จนเซียวเฟิงต้องเอ่ยปากชวน
“ถ้าอยากกินก็กินได้เลย ทำมาพอสำหรับทุกคนนั่นแหละ” เซียวเฟิงเกือบที่จะหลุดขำออกมา ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวก็หิวแท้ ๆ แต่ก็ยังทำฟอร์มนิ่งเฉย
“เยี่ยม! งั้นทานแล้วนะคะ!” เธอกำลังรอคำนี้อยู่เลย เธอรีบพุ่งเข้าครัวไปหยิบชามและตะเกียบมานั่ง และสวาปามอาหารตรงหน้าโดยไม่รักษาภาพลักษณ์สักนิด
เสียงกรุบกรอบดังไปทั่ว
ทุกครั้งที่เธอกัดลงไป กลิ่นอันน่าอร่อยก็กระจายไปทั่วทั้งปากบวกกับน้ำจิ้มยิ่งทำให้มันสุดยอดมากขึ้นไปอีก แล้วเยี่ยจิ๋งก็จัดการเนื้อทอดชิ้นที่ 2 และ 3 ลงไปอย่างรวดเร็วจนเธอเกือบจะเผลอกัดลิ้นตัวเองในตอนที่กิน เธอไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาก่อน เธอจึงดื่มด่ำกับมันจนลืมตัว
“อ๊า! กินเยอะไปแล้วนะ! นี่เป็นของฉันนะ!” เซียวหลิงร้องลั่นในตอนที่เห็นเนื้อทอดชิ้นโปรดกำลังจะถูกกินหมดในชั่วพริบตา เธอรีบแย่งจานเนื้อทอดมาอย่างรวดเร็ว
“ใจแคบจัง” แต่ก็ช้ากว่าเยี่ยจิ๋ง ระหว่างนั้นเยี่ยจิ๋งยังคงแย่งเนื้อทอดมาเรื่อย ๆ แต่เซียวเฟิงอยากให้เซียวหลิงกินผักมากกว่านี้ เขาจึงตักผักใส่จานของเซียวหลิงไม่หยุด ปกติแล้วมื้อเย็นของเยี่ยจิ๋งมีแค่แอปเปิลลูกเดียว แต่เพราะข้าวต้มกับเนื้อทอดแล้วก็พวกผัก วันนี้เธอเลยกินซะเต็มคราบมากกว่าเซียวเฟิงและเซียวหลิงรวมกันซะอีก
“โอเค งั้นเริ่มการแลกของกันเลยเถอะ” เธออิ่มจนแทบจุก จนต้องนั่งอยู่บนโซฟานานมากกว่าจะนึกออกว่าตัวเองมาที่นี่เพื่ออะไร หญิงสาวเอาหมวกสำหรับเล่นเกมออกมาแล้ว เยี่ยจิ๋งรู้ว่าเซียวเฟิงออกจากเกมตรงไหน เธอจึงวิ่งมาถึงได้อย่างรวดเร็ว
“เลิกส่องซะที แล้วเอาเงินมาได้แล้ว” เซียวเฟิงพยายามเร่งเธอ แต่เยี่ยจิ๋งก็ยังคงยืนจ้องเขี้ยวสีชาดของเธออยู่อย่างงั้น
“เฮ้ย! นี่จะไม่สนอย่างอื่นนอกจากเงินเลยรึไง” เยี่ยจิ๋งที่กำลังตื่นเต้นจึงเมินเซียวเฟิง ก่อนที่จะออกจากเกมและเซียวเฟิงก็ตามออกมาติด ๆ
“เอาบัญชีมาหน่อย” พวกเขายังคงอยู่บนโซฟา เยี่ยจิ๋งเปิดโทรศัพท์แล้วโอนเงินค่ามีดสั้นให้กับเซียวเฟิง “เดี๋ยว? ทำไมให้มาแค่ 2,000 หยวน?”
เซียวเฟิงดูตังค์ที่เข้ามาหาเขาแล้วก็ทำหน้าแปลก ๆ
“20 เหรียญทองก็ประมาณ 2,000 หยวนนะ นี่ไม่รู้เหรอ?” เจ้าตัวพูดพร้อมกับตีหน้าซื่อ