บทที่ 15 ฉันกำลังอารมณ์ไม่ดี
“แฮ่!”
ส่วนสูงของซอมบี้สูงเกือบ 2 เมตร และการโจมตีด้วยโซ่เหล็กของมันก็ไกลถึง 3 เมตร ยิ่งกว่านั้นคนที่เลเวลต่ำกว่า 10 ไม่มีทางที่จะมีสกิลทำยาถอนพิษได้ และถึงจะเป็นโล่ที่ดีหรือค่าความทนทานมากแค่ไหน มันก็ลดความเสียหายพิษแบบนี้ไม่ได้!!
เลเวลของคนในหมู่บ้านสูงสุดอยู่ที่ 10 หมายความว่าซอมบี้ตรงหน้านี่เป็นมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งสุด ๆ ในเวลานี้เลย!!
เซียวเฟิงไม่รู้เลยว่าเสี่ยวหม่าไปโดนซอมบี้โจมตีได้ยังไง แต่เขาก็ยังหนีมาได้ และถึงเจ้าตัวตรงหน้าจะแข็งแกร่งมาก ๆ แต่มันก็เป็นแค่อุปสรรคเล็ก ๆ และเซียวเฟิงก็ไม่ได้กลัวมันแต่อย่างใด!!
พลาด!
หลังจากหลบการโจมตีจากโซ่อีกระลอกได้ เขาก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วฟาดไม้เท้าลงไปบนตัวของซอมบี้นั่น …แต่กลับตีไม่เข้าเลย!!
เขามีเลเวลแค่ 5 และดูท่าว่าซอมบี้ตัวนี้ความแข็งแกร่งจะระดับเดียวกับพวกคนที่เปลี่ยนคลาสมาแล้ว ดังนั้นโอกาสที่จะโจมตีโดนของชายหนุ่มจึงเห็นได้ชัดเลยว่าไม่มากพอ
อีกอย่าง เซียวเฟิงก็กลัวที่จะโดนพิษของมันอีกรอบ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทุ่มกำลังทั้งหมดไปที่การโจมตีได้ ทำให้ไม้เท้าพลาดออกจากเป้าหมาย
“แฮ่ !”
ซอมบี้คำรามแล้วฟาดโซ่ใส่เซียวเฟิงอีกรอบ
เขารีบย่อตัวหลบโซ่ที่วาดผ่านหัวเขาไป ต่อจากนั้นก็พุ่งต่อไปด้านหน้าแล้วใช้ไม้เท้าในมือฟาดเข้าไปที่ท้องของซอมบี้
-26!
ค่าความเสียหายลอยขึ้นบนหัวของซอมบี้ และถึงเซียวเฟิงจะใช้อาวุธที่ดีที่มีค่าความแข็งแกร่งสูงมาก ๆ แต่ด้วยความต่างของเลเวล จึงทำให้เขาสร้างความเสียหายได้น้อยมาก ๆ
ซอมบี้ฟาดโซ่ใส่เซียวเฟิงอย่างบ้าคลั่ง เซียวเฟิงรู้สึกแขยงกับหนองที่ไหลออกมาตามตัวของมัน จึงทำให้เขาต้องระวังตัวยิ่งกว่าตอนที่สู้กับราชาหมาป่าเสียอีก
พลังชีวิตของซอมบี้ลดลงเรื่อย ๆ ในขณะที่พลังชีวิตของเขาเองก็ลดลงไปพร้อม ๆ กันด้วย ทว่าโชคยังดีที่ดาเมจของเซียวเฟิงนั้นทำได้แรงกว่า ทำให้ในที่สุดพลังชีวิตของซอมบี้ก็หมดลง
“คุณจัดการมอนสเตอร์ระดับสุดยอดซอมบี้ถ้ำลับ ได้รับค่าประสบการณ์ 102 หน่วย”
ร่างของมันกองอยู่กับพื้นแล้วละลายไปราวกับหิมะ ก่อนจะมอบค่าประสบการณ์ให้อย่างมหาศาล “ว้าว! สุดยอดมากเลยท่านนักรบ! แม้แต่มอนสเตอร์ระดับสูงก็ยังไม่ใช่คู่มือท่านเลย!” เสี่ยวหม่ามีท่าทางปลาบปลื้มในตัวเขา ทว่าเซียวเฟิงกลับไม่ได้สนใจ เพราะเขารู้มาตลอดว่าเสี่ยวหม่าพร้อมที่จะเผ่นตั้งแต่ที่สู้อยู่กับซอมบี้แล้ว
“ไปกันเถอะ ฉันจะไปส่งนายที่หมู่บ้าน”
เสี่ยวหม่ามีเลเวลอยู่ที่ 7 ทำให้เขาวิ่งได้ไวมาก ดังนั้นถ้าปล่อยกลับไปคนเดียวก็คงไม่มีปัญหา แต่เซียวเฟิงกังวลเกี่ยวกับหมอกสีดำรอบ ๆ ตัวอีกฝ่าย ดังนั้นเขาจึงตามไปส่งถึงหมู่บ้าน
พวกสัตว์ป่าข้างทางไม่ใช่ปัญหาของเซียวเฟิงแม้แต่น้อย เขาส่งเสี่ยวหม่าที่ทางเข้าหมู่บ้าน ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเป็นพิเศษ ก่อนที่ชายหนุ่มจะแยกออกตัวไปทางตะวันออกของหมู่บ้าน
เขายังเหลือภารกิจของนักบวชฝึกหัดอยู่ และตั้งแต่เขาออกมา เขาก็ตัดสินใจที่จะสะสางภารกิจให้เสร็จทั้งหมด ทางเหนือของหมู่บ้านคือป่าที่ชายหนุ่มเคยไปมาแล้ว ส่วนทางตะวันออกคือทุ่งราบที่มีสัตว์อยู่มากมาย รวมทั้งแมลงที่มีปีกหลาย ๆ ปีกกับสีที่คล้าย ๆ ผีเสื้อ นอกจากนั้นก็มีผู้คนอยู่เต็มไปหมด ที่ตรงกลางของพื้นราบดูยกสูงขึ้นทำให้โดดเด่นไม่น้อย และบริเวณนั้น มันก็คือหน้าผาที่มีดอกไม้สีขาวอยู่เต็มไปหมด บริเวณนั้นดูเหมือนทางลาดชันโทรม ๆ ที่ไม่ใหญ่นักแต่สูงมาก ซึ่งระหว่างที่เขาปีนขึ้นไป ชายหนุ่มก็ได้พบผู้เล่นคนอื่น ๆ ด้วย
“เร็วเข้า! ระวังอย่าให้พวกวิหคกิ้งก่าหาเราเจอได้ เงียบ ๆ ไว้”
มีผู้เล่นจำนวนมากอยู่บนผาแห่งนี้ มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ในจำนวนนั้นผู้หญิงส่วนมากเป็นนักบวช พวกเขาต่างก็กำลังเก็บดอกไม้สีขาวอยู่บนพื้น
ดอกไม้จิตบริสุทธิ์!
เซียวเฟิงแปลกใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าแค่ข้ามคืนจะมีผู้เล่นมาถึงเลเวล 5 เยอะขนาดนี้ และพวกเธอก็กำลังทำภารกิจเดียวกันกับเขาอีกด้วย เป็นไปได้ว่าคงจะมีคนช่วยพวกเธอ เพราะเป็นไปได้ยากมากที่คลาสนักบวชจะสามารถเก็บเลเวลเอง แถมยังเป็นผู้หญิงอีก ฉะนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาถึงเลเวลนี้ได้ด้วยตัวเอง คงเป็นพวกกิลด์ต่าง ๆ ที่ลงแรงลงเวลามาช่วยพวกนักบวช เพราะเวลาที่พวกเขาต้องการที่จะบุกเข้าไปยังโซนต่าง ๆ หรือจัดการกับบอส เหล่านักรบและนักบวชก็ถือเป็นสองคลาสที่มีความจำเป็นสูงที่สุด
….เหมือนจะเป็นที่รู้กันในการเล่นเกมแล้วว่าถ้าคุณต้านมันไว้ได้ บอสเก่งแค่ไหนก็จัดการคุณไม่ได้!!
เหมือนในกรณีตรงหน้านี้ ระหว่างที่พวกเธอทำภารกิจ ก็มีพวกผู้ชายที่เก่งกว่ามาคอยคุมเชิงไว้ ซึ่งชายหนุ่มก็สังเกตได้ว่าพวกกลุ่มคนตรงหน้านั้นต่างก็เป็นสมาชิกของกิลด์หลาย ๆ กิลด์รวมกัน แต่การเก็บของพวกผู้หญิงนั้นช้ามาก ๆ เพราะพวกเธอไม่มีสกิลคอยช่วยเลย จึงทำให้กว่าจะเก็บได้ 1 ชิ้นกินเวลาเกือบ ๆ 1 นาที ซึ่งมันก็นานจนคนยืนเฝ้าเริ่มที่จะกระวนกระวายขึ้นมาแล้ว เซียวเฟิงทำการปีนขึ้นไปสูงขึ้นอีก แต่น่าแปลกที่ไม่เห็นมอนสเตอร์สักตัว เขาจำได้ว่าตอนที่นักบวชให้ภารกิจ อีกฝ่ายได้เตือนเรื่องวิหคกิ้งก่าอะไรสักอย่างเอาไว้ด้วย
ไม่นานเซียวเฟิงก็สังเกตความผิดปกติได้ พอเขาขึ้นมายืนอยู่ด้านบน เขาก็เห็นบางอย่างอยู่ตรงกลางของลานกว้าง!!! มันคือรังของนกขนาดยักษ์!
ด้านนี้ของหน้าผาเป็นด้านที่ผู้เล่นสามารถเดินขึ้นมาได้ ส่วนอีกด้านหนึ่งอัดแน่นไปด้วยถ้ำที่เยอะราวกับรังผึ้ง แถมพวกผู้เล่นชายที่เฝ้าระวังอยู่ พวกเขาต่างมองมาทางถ้ำพวกนี้ด้วยท่าทางกดดันแทบจะตลอดเวลา ชายหนุ่มจึงเข้าใจแทบจะได้ในทันทีแล้วก็ถอยออกมา
“นักบวชชายเหรอ น่าประหลาดใจจริง ๆ” บนพื้นที่นี้มีคนอยู่ไม่มาก ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นจุดสนใจในทันที ทำให้พวกผู้เล่นชายที่ยืนว่าง ๆ อยู่แถวนั้นพูดแสดงความเห็นออกมา
“ฉันเจอนักบวชชายแฮะ น่าสนใจจริง ๆ”
“โรคจิตปะเนี่ย! ทำไมผู้ชายถึงเลือกใช้ตัวละครอาชีพผู้หญิงกัน?”
“พูดอย่างงั้นก็ไม่ถูกนะ พวกบุรุษพยาบาลในโรงพยาบาลก็มีถมเถไป”
“ฮ่าฮ่า!”
“ทำไมถึงมาทำภารกิจคนเดียวล่ะ? ฉันว่าแถวนี้ไม่มีใครอยากช่วยนายหรอกนะ”
“มีคนอยากช่วยเขาไหม? ส่วนฉันขอผ่านละกัน!”
“ฉันก็ไม่อ่ะ ไม่ดีต่อหัวใจเลย”
สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจคือทุกคนต่างหันมามองเขา และต่างก็พากันหาที่ระบายอารมณ์ด้วยการหัวเราะใส่เซียวเฟิงยกใหญ่ ชายหนุ่มจึงรู้สึกแปลก ๆ พร้อมกับอารมณ์ที่เริ่มขุ่นมัวขึ้นมานิด ๆ แล้ว
“พวก นี่นายเป็นเกย์รึเปล่า? อยากได้คนช่วยทำภารกิจไหม?” บางคนก็แสดงความเห็นออกมาตรง ๆ เลย
“เฮ้ย ๆ ฉันกำลังอารมณ์เสียนะเว๊ย”
ชายหนุ่มโมโหมาก เขาเลยเดินไปทางด้านขอบหน้าผาโดยที่ไม่พูดอะไร
“ฮ่าฮ่า นายเศร้าขนาดนั้นเลยเหรอ? ขนาดว่าจะโดดหน้าผาตายเนี่ยนะ?!”
“ฮ่าฮ่า”
เซียวเฟิงหันมายิ้มให้กลุ่มคนที่ขำอย่างชื่นบาน ก่อนจะเตะหินตรงเท้าอย่างสบายใจ
“เฮ้ย! อย่า อย่าทำแบบนั้น!”
“พวก! เราคุยกันได้น่า! อย่าหุนหันสิ!” กลุ่มคนที่อยู่แถวนั้นจ้องมาทางเซียวเฟิงหน้าตาตื่น และแล้วพวกเขาก็ต้องหน้าเสียเพราะเซียวเฟิงตอบมาว่า
“ไปตายซะ!” พูดจบเขาก็ชิ่งลงเขาไปทันที
หินที่ถูกเตะกระเด็นไปทางด้านเขาที่สูงชัน และในระหว่างทางที่ตกลงไปนั้น… มันก็ได้ส่งเสียงไปตลอดทางของถ้ำ!!
ก็อง ก็อง ก็องงงง…
ยังคงเงียบสนิท
พวกข้างบนต่างได้ยินเสียงของหินที่กลิ้งลงไปตามเนินเขา ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันยืนตัวแข็ง หลังจากนั้น…
“แกว๊ก!!!”
ดูท่าว่าจะมีใครบางคนไปโดนรังของตัวต่อเข้าให้ เพราะตอนนี้พวกนกจำนวนมากต่างพากันบินออกมานอกรัง!
“แกว๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ!”
นกขนาดยักษ์จำนวนนับไม่ถ้วนโผบินออกมาจากถ้ำ ขนาดตัวของมันใหญ่มาก ปีกของมันยาวกว่า 1 เมตร พวกมันมีจำนวนมากถึงหลักร้อยหรือไม่ก็หลักพัน ฝูงพวกมันเยอะมากจนสามารถบังท้องฟ้าได้อย่างง่ายดาย ในตอนนี้ เงาจำนวนมากปิดบังหน้าผาและท้องฟ้าไว้ราวกับเมฆฝน
“ฉิบหายแล้ว! วิ่ง!”
“ไอ้บ้านั่นเรียกพวกมันมาทั้งฝูงเลย!”
ผู้คนต่างแตกตื่นและวิ่งหนีตาย แต่ก็หนีกันไม่ทัน สักพักพวกนกยักษ์ก็ปกคลุมไปทั่วหน้าผา แล้วผู้คนก็หายไปหมดภายในเวลาไม่นาน
“โอ้พระเจ้า ยกโทษให้ด้วย”
มีแค่เซียวเฟิงเท่านั้นที่รอดออกมาได้ เขามองกลับไปบนนั้นด้วยท่าทางเวทนา