My Pick Up Artist System ตอนที่ 49 : เดทอย่างเป็นทางการครั้งแรก
***ขอแก้จากค่าสถานะความเป็นสุภาพบุรุษ เป็น ความเป็นชายแทนนะครับ***
เหลือเวลาในชีวิตอยู่อีกเพียง 5 วัน
เบ็นมองไปที่แหวนวงหนึ่ง
มันเป็นแหวนที่เขาพึ่งได้มา มันเป็นแหวนที่ไร้ประกายสีดําสนิท เขาใช้แต้มหนึ่งพันแต้มเพื่อซื้อกล่องสุ่มระดับกลางและเขาก็ได้รับมันมา
แหวนทังสเตนสีดําสนิท(ไอเทม,ไม่ธรรมดา) x1 – เพิ่มความเป็นชายให้ผู้ใส่ได้ 1 แต้มและไม่สามารถเพิ่มข้าสถานะตั้งแต่ระดับหกขึ้นไปได้
“ไม่ธรรมดา…” มันไม่ใช่ไอเทมที่อยู่ในระดับที่สูงมากนัก ทว่านี่มันเป็นไอเทมชิ้นแรกที่สามารถช่วยเพิ่มค่าสถานะให้แก่เขาได้ นั่นทําให้เขายิ่งคาดหวังถึงไอเทมที่ดีมากขึ้นกว่านี้ จากนั้นเมื่อเขาได้ลองสวมมัน เขาก็พบว่านอกจากมันจะช่วยในการเพิ่มค่าสถานะแล้ว มันยังมีคุณสมบัติเวทมนตร์อยู่อีกอย่างคือ มันสามารถปรับขนาดให้เท่ากับนิ้วของเขาได้ หลังจากเขาสวมมันไปหลายนิ้ว ท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจสวมมันไว้ที่นิ้วกลางข้างซ้าย
ด้วยค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นทําให้ค่าความเป็นชายของเบ็นเพิ่มขึ้นมาเป็นระดับ 4 เขาพยายามจะหาความต่างของมันโดยการถอดแหวนเข้าและออก มันยากที่จะสังเกตุ แต่มันให้ความรู้สึกเล็กๆว่าเขานั้นเปลี่ยนจากผู้นําที่แข็งแกร่งเป็นชายผู้ดเดือดและป่าเถื่อนที่ต้องการควบคุมทุกสิ่งรอบตัวของเขา เบ็นรู้สึกกลัวความเสี่ยงลดลงและมีความกล้ามากขึ้น รวมถึงมีความต้องการทางเพศสูงขึ้นด้วย
“ฉันจะสวมมันไว้” ทุกค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นนั้นหมายถึงตัวช่วยที่ยอดเยี่ยม เขาพร้อมแล้วสําหรับเรื่องราวที่กําลังจะเกิดขึ้นในวันนี้
*ตึก**ติก*
เบ็นเคาะประตูห้องมิยูกิและพยายามถอนหายใจอย่างหนักเพื่อผ่อนคลายความเครียดของตัวเองลง วันนี้เป็นวันสําคัญของพวกเขาทั้งคู่
และเนื่องจากพวกเขาทั้งคู่นั้นอยู่ในชั้นเดียวกัน เขาเลยเสนอจะมารับเธอที่ห้อง และออกไปเที่ยวด้วยกันเธออาจมองว่า นี่มันดูเป็นสุภาพบุรุษเหลือเกินทว่าเขากลับมองว่ามันช่วยลดอาการหน้าแตกได้เป็นอย่างดี
“ขอหนึ่งนาที!” มิยูกิตะโกนออกมาจากด้านใน
“ตามสบายเลย ไม่เป็นไรนั่นยิ่งช่วยให้ฉันมีเวลาเตรียมตัวมากขึ้นด้วยอย่างน้อยก็อีกนาที่นึ่ง”
ทว่าจริงๆแล้วมิยูกินั้นเตรียมตัวเสร็จแล้ว เธอยืนอยู่ที่หน้าประตูและมองเบ็นผ่านทางตาแมว มันมีเหตุผลอยู่ว่าทําไมในญี่ปุ่นถึงมีองค์กรฝึกสอนนินจา…
เขาอยู่ที่นี่แล้วสินะ คนที่ฉันจะออกเดทด้วยในคืนนี้ ชายที่ทําให้เธอรู้สึกหลงเสน่ห์และดึงดูดความอยากรู้อยากเห็นของเธอ ชายที่จะคอยแอบจับมือและโอบไหล่เธอไว้ขณะแกล้งทําเป็นเล่าเรื่องตลก
ชายหนุ่มที่กําลังพ่นลมหายใจใส่มือ เพื่อลองดมมันเพื่อพิสูจน์กลิ่นปาก ก่อนจะสําลักออกมาและหันไปสูดอากาศรอบตัวเขา…
ชายหนุ่มที่หลับตาและนํานิ้วมือมาทําเป็นรูปตัว V ทาบไว้ที่ปากของเขา…
ไอ้โง่นี่เลียนิ้วพวกนั้นและพยายามเขียนตัวอักษรออกมาด้วยลิ้น!
“ฉันว่าฉันน่าจะคิดผิดแล้วแหละ…” มิยูกิยืนหลังพิงประตู เธอไม่อยากจะเห็นสภาพน่าทุเรศนั่นอีกต่อไปฉันควรปฏิเสธดีไหมนะ?”
เธอมองกลับไปที่ตาแมวอีกครั้งราวกับจะพิจารณาดูอีกรอบ ครั้งนี้เบ็นนั้นยืนรอเธออยู่เงียบๆราวกับสุภาพบุรุษใบหน้าของเธอก็เริ่มผ่อนคลายออกมา “ไม่สิฉันยังไม่เคยออกเดทกับคนอเมริกามาก่อนเลย บางทีนี่มันอาจจะเป็นแค่วัฒนธรรมที่ต่างกัน ฉันควรเปิดใจให้กว้างเข้าไว้นอกจากนี้ฉันเองก็ต้องรักษาคําพูดด้วย…”
เบ็นนั้นเหมือนจะยืนอยู่เฉยๆ แต่ที่นอกระยะของตาแมวนั้น มือของเขากําลังกวัดแกว่งจ้าวโลกเล่นอยู่ เขาพยายามจัดตําแหน่งให้จ้าวโลกนั้นมองเห็นได้อย่างชัดเจนที่สุด เขาเข้าใจดีถึงการทําการตลาดและเสนอขายจ้าวโลก “เพื่อที่จะสําเร็จในด้านนี้นั้นใช้ความสามารถเพียงแค่ 1% ส่วนอีก 99% ที่เหลือ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องการตลาด
*แคร็ก สุดท้ายประตูก็ถูกเปิดออก มิยูกิเดินออกมาในชุดเดรสยาวสีดํา เธอแต่งหน้าบางๆและสวยอย่างธรรมชาติในแบบที่เธอเป็น เธอยิ้มออกมาอย่างสุภาพ “สวัสดีจ๊ะ คุณเบนจามิน…”
เบ็นอดกลั้นอย่างหนักที่จะตะโกนใส่หน้าเธอว่า “คุณแม่งโคตรคาวาอี้เลย…”
เขาเลือกที่จะยิ้มออกมา “สวัสดีคุณมิยูกิ พวกเราไปกันเลยไหม?”
เธอพยักหน้า“ได้สิแล้วพวกเราจะไปที่ไหนกันดีล่ะ?”
เบ็นรู้ว่าเธอนั้นรู้ว่าเขาอายุเท่าไหร่และไม่อยากให้เขาไปดื่มนัก ดังนั้นเขาเลยไม่กล้าพาเธอไปที่บาร์ “มีร้านน้ําชาดีๆอยู่แถวนี้หรือพวกเราจะไปที่ห้องฉันกันดีที่นั่นมีชาลิปตัน”
“ไปร้านน้ําชากันเถอะ!”
เบ็นยักไหล่จากนั้นก็พาเธอออกไปที่ด้านนอก สิ่งหนึ่งที่รบกวนเบ็นมาตลอดตั้งแต่เขาพบหน้ามิยูกิคือ
[ระดับค่าแรงดึงดูดใจของเป้าหมายในปัจจุบัน: สงสัย]
เบ็นจําได้ว่าครั้งล่าสุดที่เขาเจอเธอ ค่าแรงดึงดูดใจของเธอนั้นอยู่ในระดับถูกดึงดูดใจ ผ่านไปแค่ไม่กี่วันมันกลับลดต่ําลงถึงสองระดับ “หืม..ฉันจําได้ว่าเบลูก้าบอกไว้ว่าค่าแรงดึงดูดใจและความสบายใจนั้นจะลดต่ําลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะหากพวกเขาเพิ่มค่าแรงดึงดูดใจกับอีกฝ่ายด้วยการรุกเข้าใส่ละก็ ค่าแรงดึงดูดใจจะยิ่งลดต่ําลงเร็วขึ้นเท่านั้น นี่คือข้อเสียของมันของการที่มันสามารถเพิ่มได้ง่ายและรวดเร็วกว่าความสบายใจมาก” เขาขมวดคิ้วออกมา “นั่นหมายความว่าฉันต้องสร้างความสัมพันธ์กับสาวคนเดิมใหม่ทุกครั้งที่เจอหน้ากันสินะ
เบ็นรู้สึกว่าตําแหน่ง VIP ของเขานั้นลดต่ําลงเนื่องจากไม่ได้ใช้งาน…แต่เขาก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไปแม้ว่ามันจะท้าทายมากกว่าเดิน แต่เขาก็ต้องแค่รับมือกับมันเพิ่มขึ้นเท่านั้น ในความเป็นจริงแล้ว เบ็นนั้นคิดถูกเพียงแค่ครึ่งเดียว เพราะระยะเวลาทําให้แรงดึงดูดใจของมิยูกิที่มีต่อเขานั้นลดลงไปหนึ่งระดับแต่ที่มันลดลงไปอีกระดับเป็นเพราะท่าทางแปลกๆของเขาก่อนหน้านี้
พวกเขาเดินคุยกันตลอดระหว่างทางที่ไปยังบ้านน้ําชา เบ็นรู้ดีว่าเขานั้นจําเป็นต้องสร้างความดึงดูดใจต่ออีกฝ่าย
เล่นมุกตลก
[ระดับค่าแรงดึงดูดใจของเป้าหมายในปัจจุบัน: สนใจ(+1)]
หยอกล้อ
[ระดับค่าแรงดึงดูดใจของเป้าหมายในปัจจุบัน: ถูกดึงดูดใจ (+1)]
เผลออุทานคําหยาบออกมา
[ระดับค่าแรงดึงดูดใจของเป้าหมายในปัจจุบัน: สนใจ (-1)]
พยายามฟื้นฟูบรรยากาศด้วยการเล่นมุกตลก
[ระดับค่าแรงดึงดูดใจของเป้าหมายในปัจจุบัน: (+1)]
ไม่นานนักพวกเขาก็นั่งลงบนโต๊ะของร้านน้ําชาสไตล์ตะวันตก พวกเขาทั้งคู่ต่างดื่มชาและเริ่มพูดคุยกัน มิยูกิบอกเบ็นเกี่ยวกับครอบครัวของตัวเธอและเรื่องราวของตัวเอง เธอนั้นกําลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาโทคณะวิทยาศาสตร์สาขาการสื่อสาร และพึ่งย้ายจากญี่ปุ่นมาอเมริกาเมื่อเทอมที่แล้ว
เธอนั้นเป็นคนที่ตั้งใจเรียนและออกไปเที่ยวไม่บ่อยนัก เธอเลยไม่ค่อยมีเพื่อนมากเท่าไหร่ เมื่อได้ฟัง เบ็นยิ่งคิดว่าเธอนั้นเป็นสาวที่อ่อนหวาน ขี้อาย และมีความเป็นผู้หญิงแบบหัวโบราณหน่อยๆ ซึ่งเป็นผู้หญิงที่พบเห็นได้ยากในวัฒนธรรมตะวันตก ในทุกวันนี้ที่ผู้หญิงต่างเลือกละทิ้งบทบาททางเพศในฐานะผู้หญิงลง และพยายามทําตัวให้เหมือนกับพวกผู้ชายมากขึ้น
เบ็นเองก็พยายามเล่าจุดแข็งของตัวเองออกไปเช่นกัน “ฉันสามารถเอาชนะเกมดาร์คโซลได้ทุกภาค…” (1)
[ระดับค่าแรงดึงดูดใจของเป้าหมายในปัจจุบัน: สนใจ (-1)]
แสดงว่าเธอไม่ชอบเรื่องพวกนี้สินะ ช่างมันอย่างน้อยฉันก็พอได้รู้เรื่องที่เธอชอบและสนใจได้บ้างแล้ว” เขากลับมาใช้แผนการแบบเดิม เพื่อสร้างความประทับใจของมิยูกิที่มีต่อตัวเอง
หนึ่งชั่วโมงให้หลัง ในที่สุดเขาก็เริ่มก้าวหน้าขึ้นมาแล้ว
[ระดับค่าแรงดึงดูดใจของเป้าหมายในปัจจุบัน: ถูกดึงดูดใจ (+1)]
[ระดับค่าความสบายใจของเป้าหมายในปัจจุบัน: คนรู้จัก (+1)]
พวกเขาออกจากร้านน้ําชาและเดินไปตามสวนสาธารณะกลางเมืองวอชิงตัน ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่านักศึกษาและบุคลากรของมหาลัยนิวยอร์กอยู่ที่นี่
“คุณชอบผู้ชายแบบไหนงั้นเหรอ?” เบ็นถาม
มิยูกิคิดและจ้องมองไปบนท้องฟ้า “ฉันชอบคนที่กตัญญ…และดูแลผู้หญิงได้ดี…”
เบ็นพยักหน้า
เธอพูดต่อ “เป็นคนซื่อสัตย์ ขยันขันแข็ง และชอบกระชากหัวฉัน…
เบ็นพยักหน้า
แต่เขาก็ชะงักขึ้นมา เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เธอพูดอะไรออกมานะ?!?
มิยูกิยังคงพูดต่อไป “ดุดันราวกับสัตว์ปา…น่ายําเกรง และทําให้ฉันสําลักออกมาได้…”
Dark Soul เกมที่โคตรยากกกกกกก ดังนั้นในบริบทนี้เป็นเลยอยากอวดว่าจุดแข็งของฉันคือฉันสามารถเคลียร์เกมดาร์คโซลได้