เบ็นมองขึ้นไปยังป้ายนีออนสีแดงที่อยู่เหนือหัวของเขาซึ่งอ่านได้ว่า “โดมิน่า” มันคือชื่อของบาร์ที่อันโตนิโอพาเขามา มีกลุ่มคนต่อแถวอยู่ด้านหน้ารอเข้าไปยังด้านใน เมื่อรวมกับเสียงที่ดังทำให้บาร์แห่งนี้ดูครึกครื้นขึ้นไปอีก
“ที่นี่ดีงั้นเหรอ?” เบ็นถาม
“ใช่ มันเป็นจุดนัดรวมตัวที่มีชื่อเสียงสำหรับเด็กใหม่เลยล่ะ” อันโตนิโอตอบ
“งั้นนายก็เคยได้เด็กจากที่นี่มาก่อนสินะ?”
“…แน่น๊อน!”
“…ฉันไม่เชื่อนาย”
“…อ่า…ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นซี้ฉันต่างหาก! ชายที่ยอดเยี่ยมเคยเล่ามันให้ฉันฟัง!” อันโตนิโอพยักหน้าขึ้นลง
“…เขาเคยทำมันงั้นเหรอ?”
“…อ่า…ฉันไม่ได้อยู่ที่นั่นน่ะ…แต่พี่ชายคนนี้ออกมาเล่าผ่านทางฟอรั่ม! หมอนั่นจะโพสต์ทรีซั่มแบบไม่ซ้ำหน้ากันทุกวันเลย เพราะฉะนั้นเขาต้องชำนาญมาก…ใช่ไหม?”
“…จริงงั้นเหรอ?”
…
อันโตนิโอหุบรอยยิ้มของเขาลง “เอาละ ฟังนะ…นายก็รู้ใช่ไหมว่าฉันพึ่ง 21 ปี ฉันไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับบาร์ในแมนฮัตตันมากนัก มาดูไปพร้อมๆกันเถอะ…”
เบ็นรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมากที่จะท่องราตรีโดยใช้คำแนะนำของ “พี่ชายในกระทู้” แต่เขาก็ไม่มีแหล่งอ้างอิงที่ดีกว่านี้อีกแล้ว “เอาล่ะ…นายต้องใส่เสื้อนี่ด้วยงั้นเหรอ?”
อันโตนิโอสวมเสื้อสีน้ำตาลที่มีข้อความเขียนว่า “ปากกาของข้านั้นมโหฬาร” (My Pen Is Huge)
อันโตนิโอยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย “นายอ่านผิดแล้ว…มันเป็นการเล่นคำ…คำว่า ‘ปากกาคือ (Pen Is)’ มันควรอ่านว่า จ้าวโลกต่างหาก (Penis)
“ฉันรู้เว้ย! ฉันถามว่าทำไมนายถึงใส่มันมาต่างหาก?”
อันโตนิโอมองเบ็นราวกับมองคนบ้า “พวกสาวมือใหม่จะมองหาจ้าวโลกอันใหญ่ไงพวก ฉันต้องอธิบายให้นายฟังอีกรึไง”
เบ็นถึงกับอ้าปากค้าง ลูกพี่ลูกน้องของยิ่งโตยิ่งโง่ เขาก่นด่าอยู่ในใจ ‘ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าพวกเธอจะชอบหรือไม่ชอบ! ประเด็นคือเสื้อต่างหากโว้ย!’
อันโตนิโอลูบหัวของเขาพร้อมยิ้มอย่างขอโทษ เขานึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นอดทนกับเบ็นได้ไม่ดีเท่าที่ควร เขาพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเบ็นอายุเพียง 18 ปี ตอนที่อันโตนิโออายุเท่านั้นเขาเองก็ยังไม่เข้าใจกฎพื้นฐานของจ้าวโลกนัก…
อันโตนิโอกล่าวขอโทษเบ็น เขาเตือนตัวเองในใจ ‘พยายามใจเย็นกับเขาหน่อย เกมของจ้าวโลกมันลึกล้ำ…มันแบ่งออกเป็นชั้นๆเหมือนกับหัวหอม…เมื่อถึงเวลาเบ็นจะรู้เอง’
…
เบ็นมองไปที่ข้างเขา ‘ทำไมหมอนี่ต้องเอามือมาไว้ข้างหน้าแบบนี้ด้วย? กำลังทำความเคารพโอบีวันอยู่รึไง?’
อันโตนิโอพยักหน้าอย่างมั่นใจ “อย่ากังวลไป มันมีระดับของมันอยู่ ทำมันเป็นขั้นเป็นตอนเถอะ”
เบ็นกลอกตาของเขา “จะว่าไป…ฉันเคยเห็นของนายตอนอยู่ในซาวน่าตอนที่เรายังเด็ก มันไม่เหมือนที่โฆษณาไว้เลยนี่”
อันโตนิโอส่ายหัวพร้อมยิ้มกว้างออกมา “เมื่อถึงตอนที่พวกเธอรู้ความจริง มันก็สายไปแล้วเบ็น มันสายไปแล้ว!”
…
‘สำหรับคนบางคน มันก็สายเกินกว่าที่จะแก้แล้ว…’ เบ็นรู้สึกเสียใจที่ถามออกไป
อันโตนิโอเปลี่ยนเรื่องคุย “พวกเรามาเริ่มกันตั้งแต่ในแถวนี่กันเถอะ”
“นายหมายความว่ายังไง?”
“พวกเราไม่จำเป็นต้องเข้าไปด้านในเพื่อจีบเด็กใหม่ พวกเราสามารถทาเนยบนบิสกิตของพวกเราได้ตั้งแต่ข้างนอกนี่แหละ และหากเป็นแบบนั้นแล้วเมื่อพวกเราเข้าไปด้านใน พวกเราจะได้ไม่ต้องเริ่มตั้งแต่จานเปล่า พวกเราจะมีสาวไว้คุยเลยตั้งแต่ต้น”
ฟังดูเป็นความคิดที่ไม่เลวเลยสำหรับเบ็น เขาเลือกที่จะทำตามอันโตนิโอ
อันโตนิโอย่างกรายเข้าไปด้านหลังของแถวพร้อมพูดประโยคเด็ดสำหรับเที่ยวกลางคืนออกมา “ว่าไงสาวๆ? คืนนี้พวกเธอมาเมาจนตายกันไปข้างหนึ่งเลยใช่ไหม?”
พวกสาวๆมองไปที่เสื้อของเขาพร้อมแสดงท่าทีที่อยู่ระหว่างความไม่ชอบใจและความรังเกียจ พวกเธอไม่คิดจะตอบกลับไปเป็นอันขาด…ฝันไปเถอะ
หลังจากลองอีกสองสามรอบผลมันก็ออกมาคล้ายๆเดิม อันโตนิโอคิดว่าประโยคเปิดนี่อาจจะไม่ได้ผล เขาเลยพยายามใช้ท่าทางที่เต็มไปด้วยความมั่นใจเข้าหาพวกเธอแทน เขาเดินเขาไปหาสาวพร้อมยกนิ้วโป้งขึ้นมา พร้อมใช้มันชี้ไปยังเสื้อของเขาด้วยท่าทีมั่นใจพร้อมพยักหน้าและมองเข้าไปในดวงตาของพวกเธอ
ไม่กี่นาทีให้หลัง ในขณะที่พวกเขาทั้งสองคนรออยู่ในแถว เบ็นก็ตบหลังอันโตนิโอเบาๆเพื่อปลอบเขา “ฉันคิดว่าข้างนอกนี่แสงมันมากไปหน่อยนั่นแหละปัญหา ลองอีกครั้งที่ด้านในสิข้างในแสงมันยอดเยี่ยมกว่ามาก”
“…อ่า นายพูดถูก มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน” อันโตนิโอเงยหน้าขึ้นมา
เบ็นคิดในใจ ‘แสงด้านในน่าจะดีกว่ามาก…หวังว่ามันจะมืดพอที่จะทำให้ไม่มีใครเห็นเสื้อนี่…’
หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง พวกเขาก็มาถึงต้นแถว มันถึงเวลาตรวจบัตรแล้ว
เบ็นหยิบบัตรปลอมขึ้นมาพร้อมมองไปยังรูปคนแก่ยิ้มอย่างกวนส้นที่อยู่ในบัตร จากที่ระบบได้บอกไว้เขาน่าจะสามารถเข้าไปด้านในได้ แต่เขาไม่รู้เลยว่ามันจะได้ผลได้ยังไง แต่มันมีราคาถึง 500 แต้ม ถ้าหากมันไม่ได้ผล เขาจะปล่อยขายมันผ่านอีเบย์และพยายามเรียกคืนสิ่งที่เขาสูญเสียไปผ่านแฟนคลับของแดนนี่ เดวิโต้ เบ็นยื่นบัตรให้แก่คนตรวจ
ในขณะที่คนตรวจบัตรมองกลับไปกลับมาระหว่างเบ็นกับบัตร เขาพยายามงอเข่าลงและพองแก้มเพื่อให้คล้ายกลับรูปถ่ายมากที่สุด เพื่ออะไรก็ไม่รู้…
มันได้ผล! คนตรวจบัตรไม่แม้แต่จะมองเป็นรอบที่สองเลยด้วยซ้ำ เขาปล่อยให้เบ็นผ่านไปโดยง่าย
‘มันเป็นไอเท็มเวทมนตร์จริง!’ เบ็นบอกกับตัวเองราวกับกำลังฉีกประตูแห่งศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งไป
เบ็นเดินตามอันโตนิโอเข้าไปในบันไดหินสีเทาและเข้าไปยังบาร์ ทุกๆก้าวที่เข้าไปใกล้ เสียงดนตรีก็จะดังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาเดินผ่านประตูไม้บานใหญ่เข้าไปยังลานเต้นมืดๆ เสียงเพลงดังกระหึ่มไปทั่ว ทั้งชายและหญิงต่างอัดแน่นเต็มทุกพื้นที่ พวกเขาหัวเราะและส่ายร่างกายกันอย่างเมามันส์
อันโตนิโอเอนตัวเข้าไปหาเบ็นพร้อมกระซิบบางอย่างเข้าไปในหูของเขา ทว่าเบ็นไม่ได้ยินมัน เสียงเพลงมันดังมาก ทว่านั่นก็ไม่ใช่สาเหตุ มีบางสิ่งที่แจ้งเตือนอยู่ภายในหูของเขาซึ่งดึงดูดความสนใจทั่วร่างของเขาไปที่มัน การแจ้งเตือนจากระบบ!
[ตรวจพบดันเจี้ยน]
[เริ่มต้นอีเว้นต์สุดพิเศษ]