ยู่ฉางตงยังคงเดินหน้าต่อไป ที่ด้านหน้าของเขาเต็มไปด้วยลมกระโชกแรง
ดวงตาของบาซี่เปลี่ยนเป็นสีแดงก่อนจะตะโกนขึ้น “ข้าขออัญเชิญบรรพชนคนทรงจากทุกสารทิศ!”
ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาที่เหลือได้โยนคริสตัลที่เปล่งประกายสีม่วงออกมา
“คนทรงผู้ยิ่งใหญ่เอ๋ย ขอให้พวกท่านโปรดฟังคําวิงวอนข้า ให้ข้าได้ยืมพลัง จงปล่อย วิญญาณให้หวนคืน!”
วงเวทสีม่วงเปล่งประกายจากทั่วทุกทิศ แสงที่เปล่งออกมายิ่งใหญ่จนกระทั่งบดบังทั่วทั้งท้องฟ้า
ยู่ฉางตงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับพลังของฝ่ายศัตรู แต่ตัวเขาก็ยังดูสงบนิ่งเช่นเคย เมื่อเห็นแบบนั้นฉางตงก็รู้แล้วว่าบาซี่แข็งแกร่งกว่าที่คิด
ในบรรดาผู้ฝึกเวทมนตร์คาถา คนทรงระดับล่างมักจะทําได้เพียงใช้เวทมนตร์คาถาในการเยียวยารวมไปถึงขับไล่ใครสักคนได้เท่านั้น พวกเขาเทียบเท่าได้กับผู้มีพลังขั้นมหาราชครู ส่วนผู้ใช้เวทมนตร์คาถาระดับกลางมักจะใช้เขตแดนพลัง เวทมนตร์กับดัก คําสาป รวมไปถึงการควบคุมจิตใจของผู้อื่น ส่วนผู้ใช้เวทมนตร์ระดับสูงจะสามารถวางเขตแดนพลังอันยิ่งใหญ่รวมไปถึงยับยั้งกองทัพศัตรูทั้งกองทัพด้วยตัวคนเดียวได้ นอกเหนือจากพลังทั้งหลายที่ว่ามายังมีพลังที่สามารถควบคุมคนตายและพลังอัญเชิญบรรพชนคนทรงเข้าสู่ร่างกาย
บาซีเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ระดับสูงอย่างไม่ต้องสงสัย
ในตอนนั้นเองยู่ฉางตงก็ได้แยกร่างออกมาเป็นสามร่าง
ร่างทางซ้าย กลาง และขวาของยู่ฉางตงเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ร่างทั้งหมดพุ่งผ่านผู้ใช้เวทมนตร์คาถาทั้งหลายไป
ในเวลาเดียวกันประกายดาบอันเยือกเย็นก็ส่องประกายไปยังคอของเหล่าคนทรง สุดท้ายแล้ว หัวของพวกเขาก็ตกสู่หุบเหวลึกไป ทุกคนต่างก็เสียสละตัวเองโดยที่หวังไว้ว่าจะหยุดยู่ฉางตงไว้ได้
ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาที่เหลือรีบวิ่งไปหายู่ฉางตงพร้อมกับคริสตัลแสงสีม่วง
ยู่ฉางตงเหวี่ยงดาบอย่างรุนแรง
ดาบตัดวิญญาณสามส่วนหวนกลับ!
ผู้ใช้เวทมนตร์คาถากว่าร้อยคนถูกจัดการไป
ในตอนนั้นเองเมฆสีม่วงก็ปรากฏตัวขึ้น เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้นสายฝนสีม่วงก็โปรยปรายลงมา
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ฝนธรรมดา ฝนทุกเม็ดสามารถกัดกินเลือดเนื้อ จิตวิญญาณ และทําลายเจตจํานงของผู้ที่ถูกเม็ดฝน
ยู่ฉางตงยังคงสงบเยือกเย็น เขาหันกลับมาหายู่เฉิงไห้ในวัยหนุ่มก่อนที่จะปล่อยพลังฝ่ามือ
พลังฝ่ามือที่ดูคล้ายกับกรงเล็บได้เอื้อมไปถึงตัวของยู่เฉิงไห่ พลังฝ่ามือของยู่ฉางตงได้ผลักให้ยู่เฉิงไห่กระเด็นออกไป!
ตู้ม!
ตอนนี้ยู่เฉิงไห่อยู่ไกลจากขอบเขตของฝนสีม่วงไปเป็นที่เรียบร้อย
“ศิษย์พี่!” ยู่เฉิงไห่ส่งเสียงร้องเรียก
วินาทีต่อมา ฝนสีม่วงก็ตกลงใส่ยู่ฉางตง
ถ้ามองจากภายนอก ไม่มีทางเลยที่จะมองเห็นยู่ฉางตงได้อีก ไม่มีใครรู้ว่ายู่ฉางตงยังมีชีวิต หรือว่าตายไปแล้วกันแน่
ยู่เฉิงไห่รู้สึกได้ถึงพลังงานที่ช่วยให้ตัวเขาบินได้กําลังอ่อนแรง มันหมายความว่าเจ้าของพลังอย่างยู่ฉางตงกําลังอ่อนแอเช่นกัน ยู่เฉิงไห่ที่รู้แบบนั้นรู้สึกประหม่า ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ตัวเขาก็ถูกบดบังไปด้วยฝนสีม่วง
ในทางกลับกันบาซี่และเหล่าผู้ใช้เวทมนตร์คาถาที่รอดมาได้ดูเหมือนจะมั่นใจว่ายู่ฉางตง ผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบจะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้จะไม่ตายแต่เขาจะต้องอ่อนแรงเต็มที่ การเสียสละผู้คนมากมายเพื่อใช้เวทมนตร์คาถาครั้งนี้ถือเป็นการเสียสละอย่างสูงส่ง…
ตราบใดที่สามารถสังหารยู่ฉางตงได้ ก้อนเนื้อร้ายที่กัดกินของบาซูก็จะจางหายไป
ฝนสีม่วงได้โปรยปรายยาวนานกว่าสิบห้านาที
เมื่อมาถึงตอนนี้พลังงานที่แบกรับยู่เฉิงไห่อยู่ก็ดูเหมือนจะจางหายไป ยู่เฉิงไห่กําลังตกลงสู่หุบเหว!
ในตอนนั้นเองดาบพลังงานนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกจากหยาดฝนสีม่วง ดาบพลังงานทั้งหมดก่อตัวกันก่อนที่จะกลายเป็นร่ม มันหมุนรอบตัวเองอย่างรวดเร็วเพื่อสกัดกั้นสายฝนสีม่วงเอาไว้
ยู่ฉางตงกําลังยืนอยู่บนอากาศ ที่มือของเขาว่างเปล่า สายตาของเขาเย็นชา ทันใดนั้นเองร่างของยู่ฉางตงก็แยกออกเป็นสามร่าง!
เมื่อบาซี่เห็นแบบนั้นตัวเขาก็หนาวไปถึงกระดูก
“เจ้ายังมีชีวิตอยู่อย่างงั้นเหรอ!?”
ยู่ฉางตงที่อยู่ท่ามกลางสายฝนไม่ได้ดูร้อนใจหรือบาดเจ็บแต่อย่างใด ตัวเขากําลังฝ่าสายฝน ก่อนที่จะเหวี่ยงดาบพลังงานไปมา ทุกการเหวี่ยงดาบของเขาได้ปัดสายฝนออกจากตัว มันเป็นหนึ่งในวิธีที่ยู่ฉางตงใช้ฝึกฝนดาบท่ามกลางสายฝน แม้จะยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนแต่ยู่ฉางตงก็ไม่เปียกฝนแม้แต่หยดเดียว นี่คือวิถีดาบที่ถูกขัดเกลามาอย่างดีของยู่ฉางตง
“เป็นไปไม่ได้…” ริมฝีปากบาซี่สั่นเทา แววตาของเขาเปลี่ยนไปในแบบที่ไม่เคยเป็น ไม่นานนัก ร่างทั้งสามก็เข้ามาใกล้บาซี่
ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาที่เหลืออีกห้าคนได้ปกป้องบาซี่ด้วยร่างกายที่มี
บาซีรีบโบกไม้เท้า “เจ้าไม่มีดาบ เจ้าจะไปจัดการข้าได้ยังไง?!”
สีหน้าของยู่ฉางตงยังคงเยือกเย็น ดาบพลังงานได้ปรากฏขึ้นระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลาง “ใครบอกกันว่าข้าต้องใช้ดาบในการฆ่าเจ้า?”
ร่างกายของยู่ฉางตงพุ่งตรงไปก่อนที่นิวจะเคลื่อนไหว ดาบพลังงานของเขาได้เสียบแทงเข้ากับผู้ใช้เวทมนตร์คาถาทั้งห้า
ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาทั้งห้าถูกจัดการ ยู่ฉางตงยังคงเคลื่อนที่ต่อไปด้วยความเร็วสูง
ฉัวะ!
ดาบพลังงานได้ตัดผ่านไม้เท้าก่อนที่จะแทงทะลุหัวใจของบาซี
ฉางตงไม่ได้หันกลับไปมองบาซี่ซะด้วยซ้ํา เขาหันกลับมาก่อนที่จะพุ่งไปหายู่เฉิงไห่แทน
บาซ่เหลือบมองยู่ฉางตงในขณะที่เอามือจับหน้าอก
ฝนสีม่วงเริ่มจะจางหายไป
วงเวทสีม่วงเองก็เริ่มจางหายเช่นกัน
เหนือหุบเหวลึกเต็มไปด้วยความเงียบอีกครั้ง…
ชั่วพริบตาเดียวบาซีก็เป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ เขาพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อที่จะรักษาระดับความสูงเอาไว้ แผนที่เตรียมมาสมบูรณ์แบบ ทั้งการใส่ร้ายชาวรั่วหรี่ การออกแบบกับดัก และการซุ่มโจมตีเหนือเหวลึก สิ่งเดียวที่บาซี่ค่านวณพลาดไปมีเพียงอย่างเดียว สิ่งนั้นก็คือความแข็งแกร่งของยู่ฉางตง
บาซ่เหลือบมองลงมา ตัวเขาเห็นยู่ฉางตงกําลังพุ่งลงไป ยู่ฉางตงพยายามที่จะไปหาชายหนุ่มที่มาด้วยกัน การรับรู้ของบาเริ่มเลือนราง ในระหว่างที่ยังมีสติข้าก็ตะโกนขึ้น “ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็จะทําให้เจ้าติดอยู่ในกันบึงของหุบเหวนี่!”
ยู่ฉางตงยังคงพุ่งลงไป
หุบเหวที่ลึกกว่าแสนฟุตดูเหมือนจะลึกจนไม่มีจุดสิ้นสุด…
มีผู้ฝึกยุทธจํานวนมากตามหาความลับของหุบเหวลึก หลังจากที่ผู้ฝึกยุทธจํานวนมาก พยายามมาอย่างหนักกว่าหลายรุ่น ทุกคนก็เริ่มสรุปผลอย่างเห็นพ้องต้องกัน ใครก็ตามที่ลงไปที่ก้นหุบเหวมักจะต้องตาย มีเพียงผู้ที่ยอมแพ้กลางทางแล้วกลับสู่ด้านบนเท่านั้นที่จะรอดกลับมาได้
ยู่ฉางตงลงไปสู่หุบเหวกว่าหลายชั่วโมง แสงจากท้องฟ้าเริ่มริบหรี่ลง ความเงียบสงัดเริ่มเข้าปกคลุมรอบข้างแทน
ยู่ฉางตงได้ใช้พลังฝ่ามืออีกครั้ง!
พลังฝ่ามือที่คล้ายกับกรงเล็บพุ่งเข้าหายู่เฉิงไห่ที่กาลังตกลงสู่หุบเหว
เมื่อเห็นแบบนั้นบาซี่ก็ได้ตะโกนขึ้น “ยอมแพ้ซะเถอะ!”
ดวงตาของยู่ฉางตงเปล่งประกายไปด้วยความมุ่งมั่น
พรึบ!
พลังฝ่ามือคว้ายู่เฉิงไห่ก่อนที่จะดึงขึ้นมา
บาซูพูดต่อ “สายไปแล้วล่ะ!”
ทันใดนั้นเองยู่ฉางตงก็รู้สึกถึงแรงดึงดูดอันมหาศาลจากหุบเหวลึก มันเป็นแรงดึงดูดที่รั้งตัวของยู่เฉิงไห่เอาไว้ ตัวเขาต้องการที่จะลอยตัวขึ้นด้วยพลังลมปราณที่มี แต่พลังแรงดึงดูดมันมีมากเกินไป ยู่ฉางตงทําได้แค่เพียงรักษาระดับความสูงเอาไว้
ในตอนที่ยู่ฉางตงกําลังจมอยู่ในความมืดมิด ในตอนนั้นตัวเขาก็ได้พูดออกมาอย่างเยือกเย็น “ถ้าหากเขาจะต้องตาย ชาวลั่วหลานเองก็ต้องตายเช่นกัน!”
บาซี่ไออย่างรุนแรงก่อนที่จะถามด้วยความสงสัย “ทําไมกันล่ะ?”
บาซีคิดว่ายู่ฉางตงจะต้องโทษชาวรัวหรี่ ถ้าหากยู่ฉางตงตายในเขตแดนของชาวรัวหลี ชาวศาลาปีศาจลอยฟ้าจะต้องไปแก้แค้นชาวรั่วหลีแน่
“จะต้องพยายามให้มากกว่านี้” ยู่ฉางตงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะดึงให้ยู่เฉิงไห่กลับมาลอยตัว ยู่เฉิงไห่หมดสติไปในระหว่างร่วงหล่น ยู่ฉางตงได้ใช้พลังฝ่ามือซัดเข้าใส่ยู่เฉิงไห่
ยู่เฉิงไห่หลุดออกจากแรงโน้มถ่วง
บาซี่ไม่เข้าใจเลยว่าทําไมยู่ฉางตงถึงต้องทําขนาดนั้น “ทําไมเจ้าต้องดิ้นรนขนาดนั้นเพื่อมนุษย์ธรรมดาด้วย?” สําหรับบาซี่มันไม่คุ้มค่าเลยที่ยอดฝีมือจะเสียสละชีวิตเพื่อคนธรรมดา
ท้ายที่สุดยฉางตงที่พยายามดึงยู่เฉิงไหขึ้นมาด้วยพลังฝ่ามือก็เริ่มตกลงไปอีกครั้ง
ยู่ฉางตงมองไปที่ทางยู่เฉิงไห่ก่อนที่จะพูดขึ้น “มีหลายอย่างที่ไร้เหตุผล หลายอย่างที่ความคุ้มค่าเพียงอย่างเดียวไม่สามารถใช้เป็นตัดสินได้”
บาซีดเหมือนจะเข้าใจแล้ว ตัวเขาคิดถึงความขัดแย้งที่ลั่วหลานมีต่อดินแดนหยานในอดีต บาซี่จดจําซากศพทั้งเจ็ดหมื่นชีวิตในทะเลทรายได้ เขายังจําได้ดีที่แม่น้ํากลั่วเคยย้อมไปด้วยสีแดงเลือด ความขัดแย้งที่มีไม่เคยสิ้นสุดไป สงครามเองก็เช่นกัน บรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของเขาเคยว่าไว้ มนุษย์ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่เก่งกาจในการต่อสู้มากที่สุด แล้วอะไรคือสาเหตุของความเก่งกาจนั่น?
“บางทีนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทําให้ชาวดินแดนหยานแข็งแกร่งกว่าชนเผ่านับแสน…” บาซี่ปลดปล่อยพลังสีม่วงสุดท้ายออกมา
เมฆที่ดูนุ่มนิ่มพาตัวของยู่เฉิงไห่ไปสู่คูสวรรค์
“น่าเสียดายที่ข้าไม่มีแรงจะช่วยเจ้าแล้ว…ข้าหวังว่าเจ้าจะไว้ชีวิตของชาวลั่วหลาน” หลังจากที่พูดจบบาซีก็หลับตาลง ในไม่ช้าร่างของเขาก็ถูกเปลวไฟสีม่วงดูดกลืน นี้เป็นการแสดงเกียรติยศครั้งสุดท้ายของคนทรงผู้ยิ่งใหญ่ มันเป็นการเสียสละตัวเองเพื่อไม่ให้ร่างของเขาถูกควบคุมโดยคนทรงคนอื่นๆ เปลวไฟกลืนกินร่างของเขาอย่างช้าๆ …ท้ายที่สุดร่างของบาซีก็เหลือแต่เพียงเถ้าถ่าน เถ้าถ่านตกลงสู่เหวลึกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด…