My Disciples Are All Villains 573 กลีบดอกบัวสามกลีบ

ตอนที่ 573 กลีบดอกบัวสามกลีบ

  ในตอนนี้ลู่โจวกำลังสับสนในการกระทำของผู้อาวุโสทั้งสี่ แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตามพวกเขาก็ไม่ได้รบกวนอะไรการฝึกฝน ท้ายที่สุดแล้วเมื่อใดก็ตามที่ตัวเขาเก็บตัวฝึกฝน เหล่าสาวกทั้งหมดที่มีก็ยังไม่กล้าที่จะรบกวนตัวเขาอยู่ดี
  ไม่ว่าจะยังไงก็ตามพลังชีวิตที่มารวมตัวกันมันหนาแน่นจนเกินไป แม้ว่าพลังมันจะไม่ได้เป็นประโยชน์กับคนหนุ่มสาวมากนัก แต่สำหรับผู้สูงอายุทั้งหลายแล้ว พลังชีวิตไม่ได้ต่างอะไรไปจากสมบัติล้ำค่าเลย
  จนถึงตอนนี้ลู่โจวได้ใช้การ์ดพลังชีวิตไปกว่า 10 ใบแล้ว เมื่อดูที่เมนูระบบ ลู่โจวก็มองเห็นจำนวนวันของอายุขัยที่เพิ่มมากขึ้น
  อายุขัย: 25,593 วัน
  ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ การ์ดพลังชีวิตแต่ละใบจะช่วยเพิ่มอายุขัยให้กับลู่โจวราวๆ 500 วัน
  ลู่โจวไม่ได้รีบร้อนที่จะเพิ่มพลังวรยุทธที่มี และเพราะแบบนั้นตัวเขาจึงเลือกที่จะใช้การ์ดพลังชีวิตต่อ
  “ใช้การ์ดพลังชีวิตอีกใบ”
  ผู้อาวุโสทั้งสี่เริ่มคุ้นชินกับสภาพรอบตัว ในตอนนี้ทุกคนยังคงดูดซับพลังชีวิตที่ลอยอยู่บนอากาศ
  ในไม่ช้าลู่โจวก็ได้ใช้การ์ดพลังชีวิตไปกว่าอีก 10 ใบ อายุขัยที่ตัวเขามีในตอนนี้คือ 30,593 วัน
  “82 ปีแล้วสินะ”
  ลู่โจวถอนหายใจ ในตอนนี้เหลือเพียง 18 ปีเท่านั้นตัวเขาก็จะเหลืออายุขัยมากกว่า 100 ปี สำหรับคนธรรมดาทั่วไป อายุขัยกว่า 18 ปีนั้นมีค่ามากมายมหาศาลแค่ไหน? ถ้าหากเป็นผู้ฝึกยุทธทั่วไป เวลากว่า 18 ปีคงจะผ่านไปในพริบตา แต่สำหรับผู้ฝึกยุทธที่ใกล้ตาย เวลาเท่านี้ก็มีค่ามากแล้ว
  ลู่โจวรีบสละความคิดที่ฟุ้งซ่านออกก่อนที่จะใช้การ์ดพลังชีวิตต่อไป
  หลังจากที่ใช้การ์ดวิเศษไปกว่าหลายสิบครั้ง ในที่สุดพลังชีวิตที่เริ่มมารวมตัวกันก็เริ่มจางหายไป ลู่โจวมองไปที่เมนูระบบอีกครั้ง
  อายุขัย: 35,593 วัน
  “ประมาณ 97 ปีแล้วสินะ เหลืออีกแค่ 3 ใบเท่านั้น”
  ลู่โจวรีบใช้การ์ดพลังชีวิตอย่างรวดเร็ว
  อายุขัย: 37,093 วัน
  และในที่สุดลู่โจวก็มีอายุขัยประมาณ 101 ปี
  ลู่โจวถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ตัวเขาไม่ได้เห็นอายุขัยที่มากขนาดนี้มาก่อน
  หลังจากนั้นไม่นานผลการเปลี่ยนแปลงของการ์ดพลังชีวิตก็เริ่มแสดงออกมา
  ลู่โจวได้เอียงศีรษะก็เพื่อที่จะมองเส้นผมของตัวเอง ในตอนนี้เส้นผมของเขาแทบที่จะเป็นสีเทาจนหมดแล้ว ในตอนที่ตัวเขาได้มาต่างโลกในช่วงแรก ผมที่ลู่โจวมีล้วนแต่เป็นสีขาวโพลน ในตอนนี้มันเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด รอยพับบนแขนหรือแม้แต่รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าเองก็ลดน้อยลง ผิวของเขาเองดูอ่อนเยาว์กว่าแต่ก่อนมาก
  ลู่โจวอยากที่จะเห็นใบหน้าของตัวเองเต็มที แต่น่าเสียดายที่ศาลาปีศาจลอยฟ้าไม่มีกระจก ในห้องที่ลู่โจวอยู่ไม่มีของสิ่งใดที่จะดูเงาสะท้อนตัวเองได้
  ‘ช่างมันเถอะ ยังไงซะฉันก็ยังเป็นตาแก่ที่หล่อเหลาอยู่ดี’
  ลู่โจวยืนขึ้นก่อนที่จะเหยียดแขนและขา ในตอนนี้ตัวเขารู้สึกดีมาก
  การ์ดพลังชีวิตที่ลู่โจวมีเหลืออยู่เหลือเพียง 16 ใบ ถ้าหากลู่โจวไม่ได้คำนึกถึงมูลค่าของการ์ดตามกาลเวลา ตัวเขาก็คงจะใช้การ์ดทั้งหมดไปแล้ว
  “ต่อไปก็ถึงเวลาเพิ่มพลังวรยุทธแล้วล่ะนะ”
  ลู่โจวรีบพลิกฝ่ามือ
  ซู่วว!
  พลังอวตารขนาดจิ๋วได้ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ รอบดอกบัวมีกลีบสีทองอร่ามสองกลีบกำลังหมุนรอบอยู่
  ลู่โจวได้มุ่งความสนใจทั้งหมดก่อนที่จะเริ่มรวบรวมพลัง ในชั่วพริบตาเดียว ดอกบัวของร่างอวตารก็เริ่มเปล่งแสงสว่างขึ้น
  …
  ในขณะเดียวกันผู้อาวุโสทั้งสี่ก็ยังคงอยู่ในห้องโถง พวกเขายังคงดูดซับพลังชีวิตที่รั่วไหลออกมา หลังจากนั้นไม่นานพลังชีวิตทั้งหมดก็จางหายไป
  ทั้งสี่คนลืมตาขึ้นมาอย่าพร้อมเพรียงกัน
  ซูยู่ชูเป็นฝ่ายเริ่มพูด “ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าพี่ใหญ่จะรวบรวมพลังชีวิตมากมายขนาดนี้…ดูเหมือนว่านี่จะถึงขีดจำกัดแล้วล่ะ”
  เล้งลั่วพูดต่อ “บางทีท่านปรมาจารย์อาจจะกำลังค้นหาวิชาแห่งการเยียวยารักษาอยู่ก็เป็นได้ และเพราะแบบนั้นตัวเขาจึงต้องใช้พลังชีวิตจำนวนมาก”
  “ข้าเองก็คิดแบบนั้น…แต่ถึงแบบนั้นการจะใช้วิชาแห่งการรักษากว่า 30 ครั้งได้…ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย…”
  ซูยู่ชูขมวดคิ้ว “เจ้ากล้านินทาพี่ใหญ่ลับหลังอย่างงั้นเหรอ? ข้าจะเล่าให้เขาฟังแน่”
  “ไม่ ไม่ ไม่…ยกโทษให้ข้าด้วยผู้อาวุโสซู ข้าก็แค่ล้อเล่น” ฮั๊ววู่เด๋ารีบโบกมือปฏิเสธ
  “แล้วพวกเจ้ารู้สึกยังไงบ้าง?” เล้งลั่วถามออกมา
  “ไม่เลวเลย” ฝานลี่เทียนพูดต่อ “พลังชีวิตที่หนาแน่นแบบนั้นมีประโยชน์ต่อเส้นพลังลมปราณทั้งแปดของพวกเรา…นอกจากนี้มันยังยืดอายุขัยของพวกเราได้ด้วย ข้อเสียมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น…พลังชีวิตที่ได้มันไม่เพียงพอไงล่ะ!”
  “ผู้อาวุโสฝาน เจ้าไม่ควรที่จะโลภมากจนเกินไป”
  ในขณะที่ผู้อาวุโสทั้งสี่กำลังสนทนากัน ในตอนนั้นก็มีแสงสว่างจ้าส่องประกายมาจากศาลาตะวันออก
  ซู่วว!
  ลำแสงสีทองได้ส่องออกมาจากภายในห้อง มันเป็นลำแสงที่เปี่ยมไปด้วยพลัง
  ผู้อาวุโสทั้งสี่คนต่างก็ตกตะลึงก่อนที่จะหันหน้าไปทางลำแสงอย่างพร้อมเพรียงกัน
  แม้ว่าพลังที่หลุดรอดออกมาจะไม่ได้ทรงพลังอะไรมากมาย แต่ถึงแบบนั้นผู้อาวุโสทั้งสี่ที่ผ่านประสบการณ์อันโชกโชนมาต่างก็คุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้ดี..
  “ผลิกลีบอย่างงั้นเหรอ? ท่านปรมาจารย์กำลังผลิกลีบอย่างงั้นเหรอ?” ฝานลี่เทียนสงสัย ตัวเขาทั้งตกใจแล้วก็สับสน
  “ท่านปรมาจารย์มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบแล้ว…ท่านปรมาจารย์พยายามที่จะฝึกฝนตัวเองไปสู่ขั้นที่ 10 อย่างงั้นเหรอ?” ดวงตาของฮั๊ววู่เด๋าเบิกกว้าง
  “มันจะเป็นไปได้ยังไง?” เล้งลั่วรีบลุกขึ้นยืนก่อนที่จะมองไปทางลู่โจว
  ซูยู่ชูส่ายหัวก่อนที่จะพูดออกมา “ไม่ว่าพลังจะทรงพลังมากแค่ไหน แต่พลังระดับนี้มันเป็นเพียงพลังระดับผู้มีพลังอวตารดอกบัวสามถึงสี่กลีบเท่านั้น”
  “อย่ามัวคาดเดาให้เสียเวลาเลย” ฝานลี่เทียนหันกลับมาก่อนที่จะยกขวดน้ำเต้าขึ้น “ในเมื่อมีครั้งแรกก็ย่อมที่จะมีครั้งที่สอง ข้าจะไม่แปลกใจเลยถ้าหากท่านปรมาจารย์จะฝึกฝนจนมีอะไรสำเร็จ คงจะดีกว่าถ้าหากพวกเราไม่อยากรู้อยากเห็นจนเกินควร”
  “ผู้อาวุโสฝานพูดมีเหตุผลแล้ว” ฮั๊ววู่เด๋าหันกลับมาก่อนที่จะเดินออกจากศาลาตะวันออกไป
  ผู้อาวุโสคนอื่นๆ ต่างก็เดินจากไปเช่นกัน
  “สิ่งที่พี่ใหญ่ได้ทำในวันนี้ดูแตกต่างไปจากเดิม ข้าคิดว่าข้าจะอยู่ที่นี่ต่อไปเพื่อปกป้องพี่ใหญ่เอง…”
  “ข้าเองก็จะอยู่ด้วย” ฝานลี่เทียนเองก็ยืนหยัดที่จะยืนอยู่
  …
  พลังงานสีทองได้พุ่งออกมาเป็นระยะ มันเป็นเครื่องบ่งบอกว่ามีการผลิกลีบเกิดขึ้น
  ลู่โจวมองไปที่กลีบดอกบัวทั้งสามกลีบก่อนที่จะพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
  มันเป็นไปตามคาด ลู่โจวตั้งใจที่จะเก็บแต้มบุญเอาไว้ให้มากขึ้น ท้ายที่สุดแล้วลู่โจวก็ให้ความสำคัญกับการผลิกลีบดอกบัวให้เป็นส่วนท้าย และเพราะแบบนั้นมันเลยทำให้พลังวรยุทธของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
  ลู่โจวสามารถเก็บแต้มบุญไว้ใช้ต่อไปได้ ในตอนนี้มันคงจะดีกว่าถ้าหากสามารถเก็บแต้มบุญและยกระดับพลังวรยุทธที่มีได้ด้วย หลังจากที่มีพลังอวตารดอกบัวสามกลีบแล้ว ลู่โจวก็ไม่สามารถยกระดับพลังวรยุทธของตัวเองด้วยความรวดเร็วเหมือนกับแต่ก่อนได้
  “ซื้อกลีบดอกบัวทองคำ”
  “ติ้ง! ใช้แต้มบุญ 50,000 แต้ม ได้รับกลีบดอกบัวทอง x1”
  “ใช้งาน”
  มันไม่เหมือนกับตอนที่ลู่โจวผลิกลีบดอกบัวด้วยตัวเอง ตัวเขารู้สึกได้ถึงพลังวิเศษทันที พลังลมปราณอันมหาศาลได้ล้อมรอบก่อนจะเปลี่ยนแปลงเป็นพลังเข้าสู่ร่างอวตารอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักพลังอวตารก็เริ่มส่องแสงออกจากร่างอวตารอีกครั้ง
  ซู่วว!
  กลีบดอกบัวสีทองอร่ามได้ผุดขึ้นมาจากทางด้านล่าง
  ในตอนนี้ลู่โจวมีพลังอวตารดอกบัวสี่กลีบแล้ว!
  ลู่โจวสัมผัสได้ถึงพลังลมปราณที่เพิ่มพูนอยู่ในจุดพลังลมปราณมากขึ้น มันเป็นอิทธิพลมาจากร่างอวตารของเขานั่นเอง
  ลู่โจวรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ตัวเขาในตอนนี้ไม่ได้ขาดทักษะ ประสบการณ์ หรือแม้แต่ความรู้ พลังเท่านั้นคือสิ่งที่ขาด
  “ซื้อกลีบดอกบัวทองคำ!” ลู่โจวสั่งการอีกครั้ง
  “ติ้ง! ใช้แต้มบุญ 50,000 แต้ม ได้รับกลีบดอกบัวทอง x1”
  “ใช้งาน!”
  …
  ผู้อาวุโสทั้งสี่แววตาเป็นประกาย ทุกคนต่างก็ยืนอยู่ใต้ลำแสงที่ปรากฏขึ้นจากศาลาตะวันออก
  “ตาของข้ากำลังฝาดไปรึเปล่า?” ฮั๊ววู่เด๋าขยี้ตา
  “ข้าเองก็เห็นแบบนั้น นั่นเป็นความรู้สึกที่ไม่เหมือนใคร นี่มันเป็นการผลิกลีบดอกบัวสองครั้ง!” เล้งลั่วกล่าวออกมาอย่างมั่นใจ
  “ผลิกลีบดอกบัวสองกลีบติดต่อกัน?” ซูยู่ชูได้แต่สับสน
  “ผู้อาวุโสฝาน ทำไมเจ้าไม่พูดอะไรเลยล่ะ?”
  “ข้าคิดว่ามันหาได้ยากมาก แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ซะทีเดียวที่จะผลิกลีบดอกบัวสองครั้งติดได้ แต่การผลิกลีบดอกบัวสามครั้งได้มันเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้แน่”
  เสียงของฝานลี่เทียนยังไม่ทันที่จะได้จางหายไป ในตอนนั้นเองก็มีพลังงานอันคุ้นเคยออกมาจากห้องภายในศาลาตะวันออก
  ผลิกลีบดอกบัวสามกลีบติดต่อกัน!
  ฝานลี่เทียน “!!!”
  ทุกๆ คนต่างก็มองฝานลี่เทียนราวกับว่าตัวเขาเป็นชายชราผู้โง่เขลา

My Disciples Are All Villains

My Disciples Are All Villains

Score 10
Status: Completed
ลู่โจว ชายคนหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลและพบว่าตัวเขานั้นกำลังอยู่ในร่างกายของใครบางคนอยู่ เขาคนนี้กำลังอยู่ในร่างกายของปรมาจารย์ผู้ชั่วร้ายนามว่าจีเทียนเด๋า ชายคนนี้เป็นผู้ที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของโลกใบใหม่นั่นเอง! แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น ร่างกายของจีเทียนเด๋าผู้นี้นั้นแก่ชราเกินไป พลังวรยุทธ์ทั้งหมดที่เคยมีเองยังสูญหายไปอีกด้วย นี่ฉันจะต้องกลายเป็นคนแก่ไร้ค่าไปแล้วอย่างงั้นหรอ? นอกจากตัวเขาแล้วยังมีลูกศิษย์ที่โหดเหี้ยมและเป็นจอมมหาวายร้ายอีก 9 คน ลูกศิษย์ทั้ง 9 ต่างก็จ้องที่จะโค่นอาจารย์คนนี้อยู่ตลอดเวลา

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options

not work with dark mode
Reset