My Death Flags Show No Sign of Ending 123 HOLD THE DOOR .

ตอนที่ 123 HOLD THE DOOR .

ขณะวิ่งไปตามหลังคาสู่อีกหลังคา ฮาโรลด์ก็จับตาดูเหล่ามอนเตอร์ไปด้วย ซึ่งตอนนี้พวกมันยังคงรวมตัวกันอยู่ใกล้ๆบริเวณจัตุรัส ไม่มีแม้วี่แววว่าพวกมันจะมุ่งหน้าไปยังที่ซึ่งหน่วยสอดแนมพบเห็นเด็กแต่อย่างใด

 

มันคงจะแย่แน่หากพวกมอนเตอร์หาเป้าหมายในการจู่โจมหรือก็คือฮาโรลด์ไม่เจอและกระจัดกระจายกันไปคนละทิศละทาง อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนสถานการณ์จะเป็นใจให้ฮาโรลด์สามารถล่อพวกมันไปทางที่ต้องการได้

 

( ใช่…สถานการณ์มันเป็นใจเกินไปจนชักจะน่าสงสัย ) – ฮาโรลด์

 

ข้อกังวลเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับพวกมอนเตอร์นั้นก็คือถ้าฮาโรลด์หายตัวไปจากการต่อสู้พวกมอนเตอร์จะทำอะไรต่อเขาก็ไม่อาจคาดเดาได้ ถึงพวกมันน่าจะอยู่ภายใต้การควบคุมของยูสทัส แต่ก็น่าจะมีข้อจำกัดอะไรอยู่บ้างซักระดับหนึ่ง แม้ว่าเขาจะมีกลยุทธ์อย่าง “ขวดยาสีแดง” ที่สามารถจำกัดการเคลื่อนไหวของพวกมอนเตอร์ให้อยู่ในระยะที่กำหนดได้ แต่ก็ใช่ว่ามันจะสามารถไว้วางใจได้แต่อย่างใด พูดตามตรง ไอ้แผน ขวดยาสีแดงเนี้ยเป็นเหมือนกับการวัดดวงเลยก็ว่าได้

“มันโชคดีจริงๆ” “ผ่านไปได้ด้วยดี” อะไรๆก็เป็นใจ จนฮาโรลด์เริ่มรู้สึกตะหงิดๆ

เป็นเวลาเกือบ 20 นาทีแล้ว ที่ฮาโรลด์ถอยออกมาจากการต่อสู้ แต่ทว่าพวกมอนเตอร์กลับยังอยู่แถวๆจัตุรัสกลางเมือง ไม่ได้มุ่งหน้าไปยังประตูหลัก

หากฮาโรลด์สามารถคงสถานการณ์ไว้อยู่แบบนี้ได้ ก็ไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่จะต้องเข้าไปสู้กับพวกมอนเตอร์อีก เขาก็ทำเพียงแค่จับตาดูพวกมันและรอจนกว่าการอพยพจะเสร็จสิ้น และค้นหาเด็กคนนั้น

 

( หรือว่านี่จะเป็นความสงบการที่พายุลูกใหญ่จะมา ) – ฮาโรลด์

 

ความคิดเหล่านี้แว๊บเข้ามาในหัวของฮาโรลด์ขณะที่เขากำลังจับตาดูพวกมอนเตอร์จากในเงามืดของสิ่งปลูกสร้างใกล้ๆจัตุรัสกลางเมือง ดังนั้นตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือนิ่งไว้ก่อน และห้ามพลาดปล่อยให้สถานการณ์เลยเถิดจนบานปลาย

สิ่งที่ทำให้เขาเชื่อแบบนี้ก็เพราะเขารู้จักตัวของยูสทัสเป็นอย่างดี รวมถึงเชื่อในดวงซวยของ ฮาโรลด์ สโตร์กคนนี้ด้วย ดังนั้นเขาจึงทำแค่เพียงซ่อนตัวอยู่ใต้เงามืด รอคอยเวลาที่การโจมตีจะเริ่มต้นขึ้น

แต่เวลาก็ไม่ต้องให้คอยนาน

หลังจากจับตาดูมาซักระยะ ราวกับเป็นการทำลายความเงียบและความตึงเครียดทั้งหมด ในที่สุด พวกมอนเตอร์ก็เริ่มออกเคลื่อนไหวพร้อมกันในลักษณะที่ดูราวกับถูกควบคุมอย่างชัดเจน ซึ่งฮาโรลด์เองก็บอกไม่ได้ว่ามันเป็นเพราะผลของ “ขวดยาสีแดง” หมดลงแล้วหรือว่ามันไม่เคยได้ผลตั้งแต่แรกอยู่แล้วและพวกมอนเตอร์ก็อยู่ภายใต้การควบคุมของยูสทัสมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าการเคลื่อนไหวของพวกมอนเตอร์นั้นเกิดจากฝีมือของยูสทัส

 

[  เป้าหมายของพวกมันคือประตูหลัก!! ] – ฮาโรลด์

 

 ในอีกแง่หนึ่ง มันก็เป็นอย่างที่ฮาโรลด์คาดเอาไว้ เพราะการเดินหมากครั้งนี้เป็นตาเดินที่ยากที่สุดที่ฮาโรลด์จะสามารถรับมือได้

ฮาโรลด์ดีดตัวออกมาจากเงามืดของปล่องไฟและลงมายังบนพื้นดิน เขาเข้าเผชิญหน้ากับพวกมอนเตอร์ที่กำลังใกล้เข้ามาอย่างไม่เกรงกลัว ถนนสายนี้ทอดยาวจากจัตุรัสกลางเมืองไปจนถึงประตูหลัก ฮาโรลด์โดดลงมาระหว่างกลางพวกมอนเตอร์และประตูหลักเอาไว้ พร้อมกับเตะไปที่พื้นอย่างแรงเพื่อเร่งความเร็วไปข้างหน้ามุ่งตรงเข้าหาฝูงมอนเตอร์ ดาบสีดำที่กำแน่นในมือทั้ง 2 ข้างเปล่งแสงออกมาจนน่าตกตะลึง

ในขณะที่แสงที่เกิดจากสายฟ้าเริ่มทวีคุณความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดร่างของฮาโรลด์ก็หายไปท่ามกลางแสงเหล่านั้น

 

[ < Kaminarikiri Rensen! > ] – ฮาโรลด์

 

ฉากนี้มันดูราวกับแสงแฟลสถูกฟาดทะลุพวกมอนเตอร์ หลังจากแสงแฟลสซิกแซกผ่านไป หลงเหลือไว้เพียงซากของเหล่ามอนเตอร์ที่เคยมีชีวิตอยู่เมื่อซักครู่กองเกลื่อนพื้น บางตัวถูกตัดบริเวณลำคอ บางตัวถูกตัดขาดครึ่ง โดยส่วนที่ถูกตัดนั้นถูกเผาจนไหม้ดำเกรียม ไร้ซึ่งรอยเลือดหยดใดๆ

เทคนิคนี้เรียกว่า “คามินาริกิริ” < อัสนีฟาดฟัน > ซึ่งฮาโรลด์เคยใช้เป็นท่าเผด็จศึกในการต่อสู้กับวินเซนต์ มันเป็น 1 ในท่าที่ทรงพลังที่สุดของเขา ทักษะขั้นสูงที่เปลี่ยนดาบให้กลายเป็นสายฟ้า แม้ว่ามันต้องเสียเวลาชาตซักพักถึงจะใช้งานได้ แต่ก็แลกมาด้วยพลังโจมตีของมันที่รุนแรงที่สุดในท่าโจมตีต่างๆที่ฮาโรลด์มี

ภายในเกมส์นั้น มันเป็นเทคนิคที่ต้องใช้คู่กับการปิดระยะผ่านการเร่งความเร็วแบบฉับพลันหลังจากชาตเสร็จและโจมตีเป้าหมายเพื่อเผด็จศึกในฉับเดียว อย่างไรก็ตาม ฮาโรลด์ประยุกต์มันให้ใช้กับการโจมตีต่อเนื่องที่ถูกผสานกับเทคนิคเร่งความเร็วแบบฉับพลันและ < Air Dash >

ด้วยการโจมตีนี้ ฮาโรลด์พุ่งเข้าหาพวกมอนเตอร์ด้วยความเร็วสูงสุด ฟันพวกมันในชั่วอึดใจ และเปลี่ยนทิศทางระหว่างอยู่กลางอากาศด้วย < Air Dash > เพื่อมุ่งไปยังเป้าหมายถัดไป

ซึ่งมันเสี่ยงมากที่อาจพลาดพุ่งเข้าชนพวกมอนเตอร์อย่างจังหากกะจังหวะผิดพลาด แต่ด้วยความสามารถทางร่างกายของฮาโรลด์ + กับการฝึกเทคนิคนี้มาอย่างหนัก จนในที่สุดเขาก็สามารถนำมันมาใช้ในการต่อสู้จริงได้

หลังจากจัดการมอนเตอร์ที่อยู่แถวหน้าได้อย่างรวดเร็ว ฮาโรลด์ก็พุ่งกระโจนไปข้างหน้า พุ่งเข้าใส่ที่เหลือพร้อมกับปลดปล่อยเวทมนตร์ชุดต่อไปทันที แต่ทว่ามันกลับไม่ได้มุ่งเป้าไปที่พวกมอนเตอร์ แต่เป็นที่เท้าของพวกมัน

 

[ < Rockneel!! > ] – ฮาโรลด์

 

หอกที่ถูกสร้างจากหินยาวเกือบ 3 เมตรพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินเป็นจำนวนมาก มันแทงเข้าพวกพวกมอนเตอร์และขัดขวางการรุกคืบเข้ามาของพวกมัน

ในพื้นที่เปิดโล่ง เวทมนตร์นี้ดูจะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่นัก แต่ว่าตอนนี้ พวกมอนเตอร์เรียงแถวอัดแน่นกรูกันเข้ามาบนท้องถนนที่ 2ฝั่งถูกขนาบข้างด้วยอาคารบ้านเรือน มันก็อีกเรื่องหนึ่ง

ด้วยระยะเท่านี้ หากเขาใช้เวทมนตร์บทนี้ซ้ำๆเรื่อยๆ เขาก็จะสามารถลดจำนวนของพวกมัน+กับปิดกั้นเส้นทางการรุกคืบของพวกมันได้ด้วยหอกไปได้พร้อมๆกัน

สำหรับตอนนี้ ที่ฮาโรลด์ทำได้ก็เพียงหยุดการรุกคืบของพวกมอนเตอร์ที่มุ่งตรงไปยังประตูหลักเท่านั้น ซึ่งแผนต่อไปคือการดึงดูดความสนใจของพวกมันเพื่อล่อไปยังทิศเหนือของเมือง

 

( ทำไมกัน! ทำไมพวกมันไม่มุ่งความสนใจมาที่ผม ?? )  – ฮาโรลด์

 

ฮาโรลด์ปีนขึ้นไปบนหลังคาและดึงดูดความสนใจของพวกมอนเตอร์ที่ถูกกำแพงหอกที่สร้างขึ้นโดยเวทมนตร์ < Rockneel > หยุดเอาไว้ด้วยการร่ายเวทมนตร์บทเล็กๆใส่พวกมัน แต่ทว่า ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พวกมันไม่แม้จะสนใจฮาโรลด์เลยซักนิด

เมื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ทั้งหมด ถือได้ว่าพวกมอนเตอร์นั้น ถูกยูสทัส “ควบคุมโดยสมบูรณ์”

หรือก็คือ “ขวดยาสีแดง” นั้นไม่มีผลอะไรตั้งแต่แรก ถึงกระนั้นในช่วงแรกของการต่อสู้พวกมันก็เคลื่อนไหวตามแผนที่ฮาโรลด์วางเอาไว้——

 

[ บ้าชิบ !! มันจงใจหลอกกันสินะ !! ] – ฮาโรลด์

 

“แผนอาจจะได้ผลก็ได้ มันจะต้องเป็นไปได้ด้วยดีแน่ๆ”

ไอ้ความคิดเหล่านั้นเป็นเหยื่อล่อชั้นดีที่ทำให้ฮาโรลด์เผลอเชื่อว่าตนสามารถควบคุมพวกมอนเตอร์ไว้ในจุดที่ต้องการได้ จากนั้น เขาก็เห็นเหล่ามอนเตอร์มุ่งตรงมายังจุดที่เขาต้องการ นั้นยิ่งตอกย้ำความเชื่อที่ว่า “ด้วยผลของยา บางทีมันอาจจะไม่เคลื่อนที่ไปไหนจากบริเวณเหล่านั้น” และนั้นทำให้ฮาโรลด์เลือกที่จะจับตาดูจนกว่าพวกมันจะเริ่มต้นเคลื่อนไหวอีกครั้ง

แน่นอนว่าผลดีของมันก็คือการซื้อเวลาให้เหล่าชาวเมืองอพยพออกไป แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นการซื้อเวลาให้ยูสทัสได้ดำเนินแผนการอะไรบางอย่างเช่นกัน

ซึ่งฮาโรลด์เองก็สงสัยการเคลื่อนไหวของพวกมอนเตอร์มาโดยตลอด ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไม่ทำอะไรผลีผลาม

แม้เขาจะระวังตัวขนาดไหน สุดท้ายเขาก็ถูกจูงจมูกให้เชื่อว่าแผนของเขาใช้ได้ผล มันสามารถรับมือกับพวกมอนเตอร์ได้ มอนเตอร์เหล่านั้นเคลื่อนไหวเข้าแผนของฮาโรลด์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเขาเชื่อซะสนิทใจ

เพราะเชื่อว่า “แผนของผมมันได้ผล” แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นกำลังวิ่งอยู่บนมือของยูสทัส

ถ้าหากยูสทัสเป็นคนเลือกทางเลือกให้แก่ฮาโรลด์ แล้วอะไรคือสิ่งที่หมอนั้นกำลังพยายามทำในสถานการณ์เช่นนี้ …

ราวกับถูกลากจมลงดิ่งลงไปในห้วงความคิด ในช่วงที่ฮาโรลด์กำลังชะงัก มอนเตอร์ตัวหนึ่งก็พุ่งผ่านบนหัวของฮาโรลด์ไป

มันคือกริฟฟินตัวหนึ่งที่ยังรอดชีวิต ซึ่งเป็นมอนเตอร์ประเภทบินเพียงชนิดเดียวจากเหล่ามอนเตอร์ทั้งหมดในสถานที่แห่งนี้ และฮาโรลด์คิดว่าเขาจัดการพวกมันด้วย < Bolt Lance > จนหมดทุกตัวแล้ว ตอนนี้มันพุ่งตรงไปยังจุดที่ฮาโรลด์ไม่ได้มุ่งความสนใจ ….

ที่ตรงนั้น มีเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่จู่ๆก็โผล่เข้ามาอยู่ที่ตรงนั้นตอนไหนก็ไม่รู้ 

“เด็กนั้นโผล่ตรงนั้นได้ยังไง? ตอนไหน?” แม้มันจะน่าสงสัย แต่ถ้าเด็กนั้นบังเอิญโผล่มาตรงนั้นจริงๆล่ะ ?…..

ในขณะที่ความคิดทั้งหลายของเขากำลังตีกันมั่วอยู่ภายในหัว ร่างของฮาโรลด์ก็พุ่งออกไปทันที

สัญชาตญานของเขาบอกมาว่าถ้าเขาไม่ลงมือตอนนี้ มันจะสายเกินไป

และก่อนที่กรงเล็บขนาดใหญ่ของกริฟฟินจะถึงตัวของเด็ก ดาบของฮาโรลด์ก็ฟันเข้าที่คอของมันเสียก่อน

เด็กคนนั้นชุ่มไปด้วยเลือดที่ถูกสาดกระเด็นมาจากมอนเตอร์ที่ถูกสังหารตรงหน้าเขา แต่สายตาของเด็กคนนั้นกลับไม่สั่นไหวใดๆ ไม่แม้จะจ้องมองไปยังมอนเตอร์ตัวนั้นหรือฮาโรลด์ เด็กคนนั้นทำเพียงจ้องมองไปยังพื้นที่ว่างเปล่า

เห็นได้ชัดว่าเด็กคนนี้มีท่าทีแปลกๆ ซึ่งฮาโรลด์ก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนี้มีสายตาเหหมือนกับใคร

เด็กคนนี้มีดวงตาเช่นเดียวกับ เวนโตสและลิเลี่ยม

กล่าวอีกนัยก็คือ เด็กคนนี้เป็นเหยื่อ”การทดลองมนุษย์” ของยูสทัสเช่นกัน

 

[ …. เจ้าหนู แกเกะกะขวางทางชั้น หลับไปซะ ] – ฮาโรลด์

 

เช่นเดียวกับที่เขาทำกับเวนโตส แต่ครั้งนี้ ฮาโรลด์ทำเพียงแค่ใช้ด้ามดาบกดไปที่ท้องของเด็กคนนั้นเบาๆ เด็กคนนั้นส่งเสียงควญครางออกมาเล็กน้อยก็ล้มพับลงที่อ้อมแขนของฮาโรลด์

ฮาโรลด์ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมฉากนี้ถึงเกิดขึ้น แต่เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ายูสทัสมีเป้าหมายอะไรบางอย่าง

แต่สำหรับตอนนี้ ฮาโรลด์สามารถช่วยเด็กเอาไว้ได้ ที่เหลือก็เพียงแค่พาไปส่งให้ถึงมือสมาชิกกลุ่มฟรีรี่และรีบออกไปจากที่นี่

ขณะที่คิดเช่นนั้น ก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นที่ดังหลังของฮาโรลด์

ฮาโรลด์กระโดดถอยห่างออกมาทันทีพร้อมกับหันกลับไป ภาพที่อยู่ตรงหน้าคือกำแพงหอกที่ถูกสร้างจากเวทมนตร์ < Rockneel > เพื่อใช้ขัดขวางพวกมอนเตอร์ถูกทำลายลงแล้ว

เมื่อพิจารณาถึงความรุนแรงและระยะทำลายของมัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นการโจมตีที่เกิดจากเวทมนตร์

แต่ฮาโรลด์ก็ไม่มีเวลาที่จะมาหาจริงว่านี่เป็นฝีมือของใคร พวกมอนเตอร์ที่เคยถูกขัดขวางตอนนี้เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง

พวกมันทั้งหมดมุ่งตรงมาที่ฮาโรลด์ และความเร็วของพวกมันเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

[ ชิ ! ] – ฮาโรลด์

 

ต่อให้เป็นฮาโรลด์ ก็ใช่ว่าเขาจะสามารถสู้กับมอนเตอร์ขณะที่อุ้มเด็กไปด้วยได้ สิ่งเขาทำได้มีเพียงคอยหลบหลีกการโจมตีของพวกมันและพยายามคิดแผนโดยเร็ว

แม้ว่าเขาจะสามารถสลัดพวกมอนเตอร์หลุดและมุ่งตรงไปยังประตูหลักได้สบายๆ แต่นั้นก็หมายความว่าประตูหลักจะต้องถูกระเบิดและปิดกั้นเพิ่อขัดขวางเหล่ามอนเตอร์ และสมาชิกคนอื่นๆของกลุ่มฟรีรี่จะถูกทิ้งเอาไว้ในเมือง

ถ้าหากเป็นเช่นนั้น พวกเขาทั้งหมดที่ติดอยู่ในเมืองก็คงจะต้องถูกเผาทั้งเป็นไม่ก็ถูกเหล่ามอนเตอร์รุมสังหาร

และถ้าหากพวกมอนเตอร์มุ่งเป้ามาที่ฮาโรลด์แต่เพียงผู้เดียว เขาอาจจะสามารถซ่อนตัวเด็กไว้ที่ไหนซักแห่ง และให้สมาชิกฟรีรี่คนอื่นๆมารับตัวไปขณะที่เขาทำหน้าที่เป็นตัวล่อ แม้ว่ามันจะฟังดูดี แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถรับประกันความปลอดภัยของเด็กได้ อีกทั้งการเคลื่อนไหวของพวกมอนเตอร์ยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาไม่อาจคาดเดาได้ ซึ่งถ้าพวกมอนเตอร์เปลี่ยนเป้าหมายไปยังตัวเด็ก แม้แต่ฮาโรลด์ก็ไม่อาจช่วยได้ทัน

การล่อพวกมอนเตอร์ไปยังใจกลางเมืองพร้อมกับอุ้มเด็กไปด้วยก็ยากเกินไปเช่นกัน แม้ว่าเขาจะสามารถทำได้หากใช้การเร่งความเร็วแบบฉับพลันและ< Air Dash >  แต่ท่านี้จำเป็นต้องใช้สมาธิเป็นอย่างมากในการควบคุมทิศทาง อีกทั้งไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเด็กตัวเล็กๆเช่นนี้จะสามารถทนแรงที่เกิดจากการเคลื่อนไหวความเร็วสูงเช่นนั้นได้

แต่ก็ใช่ว่าเขาจะสามารถเลือกที่จะหลบการโจมตีแบบนี้ตลอดไปได้

 

( ทำยังไงดี? ผมต้องทำยังไงดี !! ) – ฮาโรลด์

 

เลือกที่จะสู้ก็ไม่ได้
เลือกที่จะหนีก็ไม่ได้
เลือกที่จะหลบอยู่อย่างเดียวก็ไม่ได้

มีเพียงแค่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เลือกที่จะทิ้งชีวิตของเด็กคนนี้ หรือ ชีวิตสมาชิกฟรีรี่คนอื่นๆ

 

[ ฮาโรลด์!! ] [ บอส ! ]

 

ท่ามกลางสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ได้มีสองเสียงดังขึ้นทับซ้อนกันเข้ามาที่หูของฮาโรลด์ แม้ไม่ต้องหันไปมองเขาก็บอกได้ทันทีว่าเจ้าของเสียงคู่นั้นคือใคร

2 คนนั้นคือ ซิดและคีธ รวมถึงไอรีน เหล่าอัศวินและสมาชิกฟรีรี่บางคนที่พวกเขาทั้งหมดไม่ควรอยู่ที่นี่ รวมทั้งหมดราวๆ 10 คนเห็นจะได้

 

( นี่ก็เป็น 1 ในแผนของยูสทัสรึปล่าว ? …. แต่ก็ช่าง! ชั้นจะเล่นตามน้ำไปด้วยละกัน ) – ฮาโรลด์

 

หากมันมีทางที่จะสามารถช่วยทุกคนได้โดยที่ไม่ต้องมีใครตาย แม้ว่าทางนี้มันจะเป็นกับดัก เขาก็พร้อมที่จะเดิมพัน

สิ่งเดียวที่เขาจะขอเดิมพันกับมันก็คือชีวิตของเขาเอง

ฮาโรลด์พยายามหนีไปทางซิดและคนอื่นๆพร้อมกับหลบการโจมตีของเหล่ามอนเตอร์ไปด้วย เมื่อมาถึงแต่ยังไม่ทันกล่าวอะไร ฮาโรลด์ก็ยื่นเด็กชายคนนั้นให้สมาชิกคนหนึ่งในกลุ่ม

 

[ นี่คือเด็กที่พัดหลง พาเขาไปรวมกับหน่วยสอดแนมที่เหลือและอพยพออกไปจากเมืองซะ ] – ฮาโรลด์

[ เอ๊ะ ? ขะ-เข้าใจแล้วขอรับ! ]

[ พวกแกที่เหลือก็ตามไปคุ้มกันเด็กนั้นซะ นั้นไม่ใช่หน้าที่ของพวกอัศวินรึไง ? ] – ฮาโรลด์

[ …. เข้าใจแล้ว ]

 

ฮาโรลด์สังหารมอนเตอร์ตัวหนึ่งที่พุ่งเข้ามาจากทางด้านหลังโดยไม่แม้จะหันกลับไปมอง ขณะมองเหล่าอัศวินและสมาชิกฟรีรี่ที่เหลือวิ่งถอยห่างออกไปที่ประตูหลัก

 

[ < Shunrai Gou! > ] – ฮาโรลด์

 

ดาบสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนทะยานกวาดเป็นรูปพัดสังเหล่ามอนเตอร์ที่ดาหน้าเข้ามา

แต่เอาตรงๆ ด้วยการโจมตีเพียงเท่านี้ ยังไม่เพียงพอที่จะหยุดการรุกคืบของพวกมันทั้งหมดได้

 

[ ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่ผมได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับนาย ] – ซิด

[ ฮึ อย่าหลงตัวเองไป หน้าที่ของพวกนายก็แค่เก็บกวาดเศษที่ชั้นเหลือทิ้งไว้ให้เท่านั้นแหละ ] – ฮาโรลด์

[ นายนี่ไม่น่ารักเอาเสียเลย ไม่อยากลองพูดอะไรอย่างการขอบคุณซักหน่อยหรือยะ ? ] – ไอรีน

[ อืม สมแล้วที่เป็นบอส ] – คีธ

 

ฮาโรลด์ไม่ได้ตอบกลับคำพูดใดๆไปอีก รวมถึงซิด ไอรีน และคีธ ต่างมายืนเรียงเป็นหน้ากระดานข้างๆเขา ทุกๆคนต่างมีอาวุธอยู่ในมือ

แม้ว่าในกลุ่มตอนนี้ จะมี 2 คนที่มีธงมรณะอย่าง “พวกเราจะแต่งงานกันหลังจากจบภารกิจครั้งนี้” ปักคาหัวอยู่ แต่ฮาโรลด์ก็หมายมั่นว่าจะหักธงเหล่านั้นรวมไปถึงธงของตัวเองด้วยให้ได้

 

[ ชั้นจะเป็นคนนำและจะเปิดช่องว่างให้พวกนายได้โจมตีเอง เพราะงั้น ถ้างั้นห้ามพลาด ไม่งั้นชั้นจะเชือดพวกนายทิ้งซะ ] – ฮาโรลด์

[ โอ้วว! ] [ รับทราบ ! ] [ เข้าใจแล้ว! ]

 

แม้การตอบสนองของแต่ละคนต่อคำสั่งของฮาโรลด์จะแตกต่างกันออกไป แต่น้ำเสียงของพวกเขาแต่ละคนล้วนเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้า

My Death Flags Show No Sign of Ending

My Death Flags Show No Sign of Ending

Score 10
Status: Completed
เมื่อรู้สึกตัวอีกที เด็กหนุ่มมหาลัยธรรมดาๆอย่าง ฮิราซาวะ คาซุกิ ก็ดันมาอยู่ในร่างของตัวละครในเกมส์ ยิ่งกว่านั้น เขาดันมาอยู่ในร่างของ " ฮาโรลด์ สโตร์ก" สุดยอดตัวร้ายที่มีคนเกลียดมากที่สุดในเกมส์ เจ้าของฉายา [ ราชาสวะ ] สำหรับเขาตอนนี้ มองไปทางไหนก็เจอแต่ธงตายอยู่รายล้อมเต็มไปหมด! คาซูกิจะหาทางหลบเลี่ยงธงตายเหล่านั้นได้หรือไม่

Options

not work with dark mode
Reset