“ข้าได้รู้จากคนมากมายว่าตามตำนาน มีผู้ก่อตั้งโลกภายใน หนึ่งคือสมาชิกเผ่ามังกร หนึ่งคือจิ้งจอกเก้าหาง สุดท้ายคือพระจากเผ่าพุทธ ประเด็นนี้ข้าสามารถยืนยันได้ทีหลังจากช่องทางใต้ดิน มันไม่ใช่แค่ตำนาน”
“แต่ทว่า ผู้ก่อตั้งเหล่านี้ดำรงอยู่แค่สักพักระหว่างการก่อตั้งโลกภายในช่วงแรก ต่อมา พวกเขาก็เงียบหายไป
“หลังผู้ก่อตั้งทั้งสามหายไปเบื้องหลัง เทพสวรรค์ขั้นสูงก็โผล่ออกมาทีละคน ส่วนใหญ่เหล่านี้ใช้ชีวิตสั้นๆ สถานการณ์นีดำรงอยู่สามพันปีก่อน เมื่อราชาทั้งหกยึดครองแต่ละดินแดนเพื่อรักษาระบบตรวจสอบและสมดุล”
“ท่ามกลางทั้งหก สองในนั้นโผล่มาช่วงแรกๆ แทบจะภายในร้อยปีที่ผู้ก่อตั้งทั้งสามเงียบไป
“หนึ่งในสองคือคนสี่หน้าที่มีใบหน้าสี่หน้า แต่ละหน้ามีบุคลิกต่างกัน แต่ละบุคลิกยังมีความสามารถเทวะต่างกัน”
“อีกคนคืองูสาวสามหางที่เชี่ยวชาญเทคนิคภาพลวงตาและการสะกดจิต”
“สำหรับคนอื่นที่น่าจะครอบครองข้อมูลเกี่ยวกับผนึก ตัดสินตามช่วงเวลา มันน่าจะเป็นสองคนนี้แหละ มันเป็นไปได้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาอาจมีชิ้นส่วนผนึกของเจ้าปราสาทกับตัว…”
หลินฮวงสรุปผลการตรวจสอบของเขาคร่าวๆ ในเวลาเดียวกันยังใช้พลังเทวะเพื่อฉายข้อมูลที่เขาพบ
แน่นอน มีแค่ทั้งสามที่นั่งบนโต๊ะถึงเห็นได้ เพราะเวอชุโอโวได้สร้างม่านลวงตารอบพื้นที่ที่พวกเขานั่ง
คนนอกจะเห็นแค่ทั้งสามกำลังดื่มและคุยกัน
จิ่วเจี้ยนพูดขึ้นหลังมองข้อมูลที่หลินฮวงรวบรวมมา
“ข้าเองก็พบคล้ายกับหลินเซี่ย”
“หลังหาเกี่ยวกับสามผู้ก่อตั้ง ข้าก็ใช้ความพยายามส่วนใหญ่เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาหลังพวกเขาเงียบไป แต่ก็แทบไม่มีผล ทุกอย่างที่ข้าพบยืนยันไม่ได้ มีข่าวลือนับสิบที่ว่าทั้งสามลงเอยอย่างไร”
“ต่อมา เขาได้เปลี่ยนจุดมุ่งเน้นของการตรวจสอบไปยังราชาทั้งหกแทน แต่ทว่า ข้าก็ไม่พบะไรที่เป็นประโยชน์เพราะข้ากังวลว่าจะทำให้อีกฝ่ายตื่นตัว”
หลินฮวงอดพยักหน้าไม่ได้ตอนได้ยิน
“ข้ามีความคิดเหมือนกับเจ้า เดิมข้าอยากได้รับข้อมูลจากลูกน้องพวกเขา แต่ทว่า หลังพิจารณา ข้าก็ละทิ้งความคิด ข้าไม่อยากทำให้ใครตื่นตัว”
‘การเจาะจงลูกน้องพวกเขาเป็นสิ่งที่ถูก แต่เราจะต้องวางแผนให้ดี”เวอชุโอโซพยักหน้า’เหนือสิ่งอื่นใด ทั้งหกคือยอดฝีมือชั้นนำในหมู่เทพสวรรค์ มันยากเกินไปที่จะจัดการโดยตรง”
“ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้หลินเซี่ยจะบีบเป้าหมายลงเป็นแค่คนสองคนตามช่วงเวลา ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่านี่จะถูก ยังมีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองจะไม่รู้อะไรเลยถึงผนึกเจ้าปราสาท และความลับก็ถูกถือครองโดยอีกสี่ เราต้องได้รับข้อมูลเพิ่มก่อนตัดสินใจ”
“เราต้องหาโอกาสจับเป้าหมายเราและทำให้สำเร็จแต่ทีแรก!”
“ถ้าเราล้มเหลวครั้งแรก ที่เหลืออีกห้าจะต้องระวังตัวกว่าเดิม นี่จะเพิ่มความยากของเรา”
“ข้าได้ทำการตรวจสอบบางอย่างในสองวันนี้ ข้อมูลที่ข้าได้รับเหมือนกับที่เจ้าสองคนพูด”
“ผนึกเจ้าปราสาทน่าจะถูกแบ่งเป็นสาวส่วน และก็อยู่ในมือผู้ก่อตั้งโลกภายในทั้งสาม สำหรับการหายตัวไปของทั้งสาม พวกเขาอาจหายไปเพื่อจงใจซ่อนตัวไม่ให้คนชิงผนึกไป บางทีอาจมีเรื่องเกิดขึ้นกับพวกเขา รวมถึงโดนขโมยไปอะไรทำนองนั้น”
“ถ้าเป็นแบบนั้น บางคนในหมู่ราชาทั้งหกควรรู้เกี่ยวกับผนึก”
“ความเป็นไปได้สองคือชิ้นส่วนผนึกเจ้าปราสาทนั่นอยู่ในการครอบครองของราชาคนใดคนหนึ่ง”
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริง งั้นนี่ก็จะเป็นประโยชน์ต่อเรา นี่เพราะทันทีที่เราระบุได้ว่าคนคนนั้นมีชิ้นส่วน ทั้งหมดที่เราจะต้องทำคือหาทางชิงมาให้ได้”
“ความเป็นไปได้ที่สามเลวร้ายสุด ซึ่งคือหลังผู้ก่อตั้งทั้งสามซ่อนตัว ผนึกเจ้าปราสาทได้ตกอยู่ในมือใครก็ไม่รู้ การโผล่ของราชาทั้งหกอาจไม่เกี่ยวกับผนึก และทั้งหกก็อาจไร้เบาะแสเกี่ยวกับผนึกเจ้าปราสาทเช่นกัน”
“ถ้าเป็นแบบนั้น มันหมายความว่าทุกสิ่งที่เราทำมาสูญเปล่า เราจะต้องหาเบาะแสใหม่”
“ถ้ามันคือความเป็นไปได้ที่สาม ข้าคิดว่าเราคงไม่ต้องเสียเวลาในเมืองภูตผีนี้อีก แค่ตรงไปหาเมืองต่อไป”สีหน้าของจิ่วเจี้ยนไม่ได้ดูเหมือนเขากำลังพูดเล่น เขาวางแผนทำแบบนั้นจริง
แม้จะพูดแบบนั้น พวกเขาก็ต้องลงมือก่อน
นี่เพราะ ตามสถานการณ์ปัจจุบันในเมืองภูตผี การค้นหาเบาะแสใหม่อีกครั้งอาจทำได้ยากกว่าการไปเมืองภูตผีใหม่เพื่อมองหาผนึกเจ้าปราสาทอันใหม่
“เหนือสิ่งอื่นใด เรามีเวลาแค่สองวันและข้อมูลที่เราสามคนได้รับก็จำกัด จากข้อมูลจำกัดที่เรามี ความเป็นไปได้ทั้งสามมีโอกาส มากรองรายละเอียดของข้อมูลที่เราได้รับและคุยถึงก้าวต่อไปกันเถอะ”
ขณะที่เวอชุโอโซพูด เขาก็คัดแยกข้อมูลที่รวบรวมและส่งมันให้หลินฮวงกับจิ่วเจี้ยนผ่านคลื่นจิต
หลินฮวงก็จิ่วเจี้ยนก็แบ่งปันข้อมูลเช่นกัน
ทั้งสามใช้เวลาผสานข้อมูลไม่นานนัก
เวอชุโอโซเหลือบมองทั้งสอง”ข้าก่อน”
“ไม่มีทางที่เราจะยืนยันได้ว่าความเป็นไปได้ทั้งสามอันไหนจริง แต่ทว่า สิ่งที่น่าเชือ่ถือสุดคือราชาทั้งหก”
“ตามการวิเคราะห์ของหลินเซี่ย เจ้าสี่หน้ากับงูสามหางน่าสงสัยสุดในหมู่ทั้งหก แถม นอกจากช่วงเวลา ไม่มีเบาะแสอื่นที่จะพิสูจน์ว่าอีกสี่มีโอกาสสูงที่จะครอบครองข้อมูลของผนึกเจ้าปราสาท”
“ดังนั้น ข้าคิดว่ามันดีสุดที่จะเลือกทั้งสองเป็นเป้าหมายแรก”
หลินฮวงพยักหน้าเล็กน้อย
ข้างเขา จิ่วเจี้ยนก็พยักหน้าเช่นกัน”ข้าไม่ขอออกความเห็น”
“งั้นก็มาพยายามหาข้อมูลเพิ่มจากลูกน้องของทั้งสองคนนี้กัน”เวอชุโอโซพูดต่อ”ก่อนอื่นให้ตรวจสอบรายชื่อลูกน้องพวกมันและหาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับลิ่วล้อเหล่านี้ จากนั้นก็ลงมือเมื่อพวกมันอยู่ลำพัง..”
“มีอีกเรื่องี่เราต้องจำไว้คือ อย่าฆ่าเด็ดขาด”เวอชุโอโซเตือนทุกคน”ลูกน้องเหล่านี้อาจมีบางสิ่งคล้ายระบบเตือนตะเกียงวิญญาณ เมื่อสมาชิกตาย ตะเกียงวิญญาณที่เกี่ยวข้องจะโดนทำลาย เราจะทำให้พวกมันตื่นตัว”
หลินฮวงพยักหน้าตอนได้ยิน ในทางกลับกัน จิ่วเจี้ยนกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ถ้าเราแยกทางกัน ต่อให้หลินเซี่ยกับข้าจะสอบปากคำพวกมันได้ แต่ก็ไม่มีทางที่เราจะลบความทรงจำได้..”
หลินฮวงยังคงเงียบตอนได้ยินจิ่วเจี้ยนพูด เขาไม่อธิบายว่าเขามีเทคนิคเช่นนั้น
เวอชุโอโซเหลือบมองจิ่วเจี้ยน”ทำให้สลบ จากนั้นข้าจะจัดการเอง”
“ทำการติดต่อกับลูกน้องคนใดที่เราสามารถคุยด้วยได้ ไม่ว่าสถานะพวกมันจะเป็ฯยังไง เราจะพยายามรับข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับเจ้าสี่หน้าและงูสามหาง มันไม่เป็นไรถ้าเราได้รับข้อมูลซ้ำๆ..”
เวอชุโอโซร่างแผนคร่าวๆ หลังจากนั้น ทั้งสามก็เริ่มคุยถึงรายละเอียดเจาะจงว่าจะดำเนินการตามแผนอย่างไร
“ข้าได้รู้จากคนมากมายว่าตามตำนาน มีผู้ก่อตั้งโลกภายใน หนึ่งคือสมาชิกเผ่ามังกร หนึ่งคือจิ้งจอกเก้าหาง สุดท้ายคือพระจากเผ่าพุทธ ประเด็นนี้ข้าสามารถยืนยันได้ทีหลังจากช่องทางใต้ดิน มันไม่ใช่แค่ตำนาน”
“แต่ทว่า ผู้ก่อตั้งเหล่านี้ดำรงอยู่แค่สักพักระหว่างการก่อตั้งโลกภายในช่วงแรก ต่อมา พวกเขาก็เงียบหายไป
“หลังผู้ก่อตั้งทั้งสามหายไปเบื้องหลัง เทพสวรรค์ขั้นสูงก็โผล่ออกมาทีละคน ส่วนใหญ่เหล่านี้ใช้ชีวิตสั้นๆ สถานการณ์นีดำรงอยู่สามพันปีก่อน เมื่อราชาทั้งหกยึดครองแต่ละดินแดนเพื่อรักษาระบบตรวจสอบและสมดุล”
“ท่ามกลางทั้งหก สองในนั้นโผล่มาช่วงแรกๆ แทบจะภายในร้อยปีที่ผู้ก่อตั้งทั้งสามเงียบไป
“หนึ่งในสองคือคนสี่หน้าที่มีใบหน้าสี่หน้า แต่ละหน้ามีบุคลิกต่างกัน แต่ละบุคลิกยังมีความสามารถเทวะต่างกัน”
“อีกคนคืองูสาวสามหางที่เชี่ยวชาญเทคนิคภาพลวงตาและการสะกดจิต”
“สำหรับคนอื่นที่น่าจะครอบครองข้อมูลเกี่ยวกับผนึก ตัดสินตามช่วงเวลา มันน่าจะเป็นสองคนนี้แหละ มันเป็นไปได้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาอาจมีชิ้นส่วนผนึกของเจ้าปราสาทกับตัว…”
หลินฮวงสรุปผลการตรวจสอบของเขาคร่าวๆ ในเวลาเดียวกันยังใช้พลังเทวะเพื่อฉายข้อมูลที่เขาพบ
แน่นอน มีแค่ทั้งสามที่นั่งบนโต๊ะถึงเห็นได้ เพราะเวอชุโอโวได้สร้างม่านลวงตารอบพื้นที่ที่พวกเขานั่ง
คนนอกจะเห็นแค่ทั้งสามกำลังดื่มและคุยกัน
จิ่วเจี้ยนพูดขึ้นหลังมองข้อมูลที่หลินฮวงรวบรวมมา
“ข้าเองก็พบคล้ายกับหลินเซี่ย”
“หลังหาเกี่ยวกับสามผู้ก่อตั้ง ข้าก็ใช้ความพยายามส่วนใหญ่เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาหลังพวกเขาเงียบไป แต่ก็แทบไม่มีผล ทุกอย่างที่ข้าพบยืนยันไม่ได้ มีข่าวลือนับสิบที่ว่าทั้งสามลงเอยอย่างไร”
“ต่อมา เขาได้เปลี่ยนจุดมุ่งเน้นของการตรวจสอบไปยังราชาทั้งหกแทน แต่ทว่า ข้าก็ไม่พบะไรที่เป็นประโยชน์เพราะข้ากังวลว่าจะทำให้อีกฝ่ายตื่นตัว”
หลินฮวงอดพยักหน้าไม่ได้ตอนได้ยิน
“ข้ามีความคิดเหมือนกับเจ้า เดิมข้าอยากได้รับข้อมูลจากลูกน้องพวกเขา แต่ทว่า หลังพิจารณา ข้าก็ละทิ้งความคิด ข้าไม่อยากทำให้ใครตื่นตัว”
‘การเจาะจงลูกน้องพวกเขาเป็นสิ่งที่ถูก แต่เราจะต้องวางแผนให้ดี”เวอชุโอโซพยักหน้า’เหนือสิ่งอื่นใด ทั้งหกคือยอดฝีมือชั้นนำในหมู่เทพสวรรค์ มันยากเกินไปที่จะจัดการโดยตรง”
“ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้หลินเซี่ยจะบีบเป้าหมายลงเป็นแค่คนสองคนตามช่วงเวลา ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่านี่จะถูก ยังมีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองจะไม่รู้อะไรเลยถึงผนึกเจ้าปราสาท และความลับก็ถูกถือครองโดยอีกสี่ เราต้องได้รับข้อมูลเพิ่มก่อนตัดสินใจ”
“เราต้องหาโอกาสจับเป้าหมายเราและทำให้สำเร็จแต่ทีแรก!”
“ถ้าเราล้มเหลวครั้งแรก ที่เหลืออีกห้าจะต้องระวังตัวกว่าเดิม นี่จะเพิ่มความยากของเรา”
“ข้าได้ทำการตรวจสอบบางอย่างในสองวันนี้ ข้อมูลที่ข้าได้รับเหมือนกับที่เจ้าสองคนพูด”
“ผนึกเจ้าปราสาทน่าจะถูกแบ่งเป็นสาวส่วน และก็อยู่ในมือผู้ก่อตั้งโลกภายในทั้งสาม สำหรับการหายตัวไปของทั้งสาม พวกเขาอาจหายไปเพื่อจงใจซ่อนตัวไม่ให้คนชิงผนึกไป บางทีอาจมีเรื่องเกิดขึ้นกับพวกเขา รวมถึงโดนขโมยไปอะไรทำนองนั้น”
“ถ้าเป็นแบบนั้น บางคนในหมู่ราชาทั้งหกควรรู้เกี่ยวกับผนึก”
“ความเป็นไปได้สองคือชิ้นส่วนผนึกเจ้าปราสาทนั่นอยู่ในการครอบครองของราชาคนใดคนหนึ่ง”
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริง งั้นนี่ก็จะเป็นประโยชน์ต่อเรา นี่เพราะทันทีที่เราระบุได้ว่าคนคนนั้นมีชิ้นส่วน ทั้งหมดที่เราจะต้องทำคือหาทางชิงมาให้ได้”
“ความเป็นไปได้ที่สามเลวร้ายสุด ซึ่งคือหลังผู้ก่อตั้งทั้งสามซ่อนตัว ผนึกเจ้าปราสาทได้ตกอยู่ในมือใครก็ไม่รู้ การโผล่ของราชาทั้งหกอาจไม่เกี่ยวกับผนึก และทั้งหกก็อาจไร้เบาะแสเกี่ยวกับผนึกเจ้าปราสาทเช่นกัน”
“ถ้าเป็นแบบนั้น มันหมายความว่าทุกสิ่งที่เราทำมาสูญเปล่า เราจะต้องหาเบาะแสใหม่”
“ถ้ามันคือความเป็นไปได้ที่สาม ข้าคิดว่าเราคงไม่ต้องเสียเวลาในเมืองภูตผีนี้อีก แค่ตรงไปหาเมืองต่อไป”สีหน้าของจิ่วเจี้ยนไม่ได้ดูเหมือนเขากำลังพูดเล่น เขาวางแผนทำแบบนั้นจริง
แม้จะพูดแบบนั้น พวกเขาก็ต้องลงมือก่อน
นี่เพราะ ตามสถานการณ์ปัจจุบันในเมืองภูตผี การค้นหาเบาะแสใหม่อีกครั้งอาจทำได้ยากกว่าการไปเมืองภูตผีใหม่เพื่อมองหาผนึกเจ้าปราสาทอันใหม่
“เหนือสิ่งอื่นใด เรามีเวลาแค่สองวันและข้อมูลที่เราสามคนได้รับก็จำกัด จากข้อมูลจำกัดที่เรามี ความเป็นไปได้ทั้งสามมีโอกาส มากรองรายละเอียดของข้อมูลที่เราได้รับและคุยถึงก้าวต่อไปกันเถอะ”
ขณะที่เวอชุโอโซพูด เขาก็คัดแยกข้อมูลที่รวบรวมและส่งมันให้หลินฮวงกับจิ่วเจี้ยนผ่านคลื่นจิต
หลินฮวงก็จิ่วเจี้ยนก็แบ่งปันข้อมูลเช่นกัน
ทั้งสามใช้เวลาผสานข้อมูลไม่นานนัก
เวอชุโอโซเหลือบมองทั้งสอง”ข้าก่อน”
“ไม่มีทางที่เราจะยืนยันได้ว่าความเป็นไปได้ทั้งสามอันไหนจริง แต่ทว่า สิ่งที่น่าเชือ่ถือสุดคือราชาทั้งหก”
“ตามการวิเคราะห์ของหลินเซี่ย เจ้าสี่หน้ากับงูสามหางน่าสงสัยสุดในหมู่ทั้งหก แถม นอกจากช่วงเวลา ไม่มีเบาะแสอื่นที่จะพิสูจน์ว่าอีกสี่มีโอกาสสูงที่จะครอบครองข้อมูลของผนึกเจ้าปราสาท”
“ดังนั้น ข้าคิดว่ามันดีสุดที่จะเลือกทั้งสองเป็นเป้าหมายแรก”
หลินฮวงพยักหน้าเล็กน้อย
ข้างเขา จิ่วเจี้ยนก็พยักหน้าเช่นกัน”ข้าไม่ขอออกความเห็น”
“งั้นก็มาพยายามหาข้อมูลเพิ่มจากลูกน้องของทั้งสองคนนี้กัน”เวอชุโอโซพูดต่อ”ก่อนอื่นให้ตรวจสอบรายชื่อลูกน้องพวกมันและหาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับลิ่วล้อเหล่านี้ จากนั้นก็ลงมือเมื่อพวกมันอยู่ลำพัง..”
“มีอีกเรื่องี่เราต้องจำไว้คือ อย่าฆ่าเด็ดขาด”เวอชุโอโซเตือนทุกคน”ลูกน้องเหล่านี้อาจมีบางสิ่งคล้ายระบบเตือนตะเกียงวิญญาณ เมื่อสมาชิกตาย ตะเกียงวิญญาณที่เกี่ยวข้องจะโดนทำลาย เราจะทำให้พวกมันตื่นตัว”
หลินฮวงพยักหน้าตอนได้ยิน ในทางกลับกัน จิ่วเจี้ยนกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ถ้าเราแยกทางกัน ต่อให้หลินเซี่ยกับข้าจะสอบปากคำพวกมันได้ แต่ก็ไม่มีทางที่เราจะลบความทรงจำได้..”
หลินฮวงยังคงเงียบตอนได้ยินจิ่วเจี้ยนพูด เขาไม่อธิบายว่าเขามีเทคนิคเช่นนั้น
เวอชุโอโซเหลือบมองจิ่วเจี้ยน”ทำให้สลบ จากนั้นข้าจะจัดการเอง”
“ทำการติดต่อกับลูกน้องคนใดที่เราสามารถคุยด้วยได้ ไม่ว่าสถานะพวกมันจะเป็ฯยังไง เราจะพยายามรับข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับเจ้าสี่หน้าและงูสามหาง มันไม่เป็นไรถ้าเราได้รับข้อมูลซ้ำๆ..”
เวอชุโอโซร่างแผนคร่าวๆ หลังจากนั้น ทั้งสามก็เริ่มคุยถึงรายละเอียดเจาะจงว่าจะดำเนินการตามแผนอย่างไร