ตอนที่ 1682 ค่ายกลแมลงนี้ทรงพลังมาก
ปัจจุบันทุกคนไม่คิดว่าแมลงปีกวิเศษจะแสดงท่าอะไรแบบนี้
ทุกคนรู้ว่าปีกมันสามารถเปลี่ยนเป็นรูปแบบต่างๆได้ แต่ทว่า ไม่มีใครรู้ว่าจะสามารถแปลงเป็นอาวุธเต๋ได้ด้วยนับประสาอะไรกับการครอบครองความสามารถของอาวุธเดําเหล่านั้น
ปีกทั้งสิบสองเปลี่ยนเป็นระฆังให้ พอพวกมันสั่นเสียงดัง ระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นก็กระจายออกไป
ร่างที่พุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็วของจิ้งจอกแดงช้าลงกว่าเดิมเป็นสิบเท่าราวกับเขาตกลงไปในบ่อโคลน
ปีกของแมลงปีกวิเศษอีก 48 ปีกพลันแปลงเป็นกระบี่ หอก ดาบ และง้าว ฉวยโอกาสนี้โจมตีจิ้งจอกแดง
ตอนจิ้งจอกแดงเห็นแบบนี้ ร่างของเขาก็พลันเปลี่ยนไปอีก
ครั้งนี้ เขาแปลงเป็นชายกล้ามโตที่สูงกว่า 2.5 เมตร ร่างกายของเขายังใหญ่ยิ่งกว่าหัวล้านเตี้ย
ในเวลาเดียวกับที่เขาแปลงร่างเสร็จ ตัวของเขาก็พลันเปลี่ยนเป็นสีทองแดง ผิวมันปกคลุมด้วยพลังสวรรค์และเขาก็ตั้งรับการโจมตีนี้
หลินฮวงสังเกตเห็นว่าการโจมตีของแมลงปีกวิเศษไม่ได้ทิ้งบาดแผลไว้บนตัวของจิ้งจอกแดงเลย
การแปลงร่างอย่างนี้อาจไม่ใช่พลังกฎเกณฑ์ มันคือความสามารถของนิ้วทองคําหลินฮวงสรุปสิ่งที่เห็นขณะมองจิ้งจอกแดงหัวเราะใส่แมลงปีกวิเศษอย่างเย่อหยิ่งมันมีหลักการอะไรเบื้องหลัง?มันไม่น่าจะแปลงเป็นใครก็ได้ที่เขาเคยเจอ หรือว่าจะเป็นหลังเขาฆ่าใครสักคน เขาจะสามารถแปลงเป็นคนนั้นและได้รับความสามารถทั้งหมด…”
“บุคลิกของเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง…งั้นราคาสําหรับการใช้นิ้วทองค่าของเขาก็คือเขาจะได้รับบุคลิกใหม่ทุกครั้งที่ได้รับสิทธิ์แปลงร่าง?
ในหัวใจเขา หลินฮวงลอบคาดเดา
“ถ้าการได้รับบุคลิกแยกไม่ใช่ราคาของการใช้ งั้นความสามารถของนิ้วทองคํานี้ก็ถือว่าทรงพลังมาก
หลังแปลงเป็นชายกล้ามโต รูปแบบการต่อสู้ของจิ้งจอกแดงก็เปลี่ยนเป็นนักรบคลั่ง
เขาเริ่มเข้าใกล้แมลงปีกวิเศษขึ้นโดยไม่สนใจอะไร คํารามราวกับเขาเสียสติ เมินทุกการโจมตีของศัตรู
แมลงปีกวิเศษมีประสบการณ์ต่อสู้สูง มันเปลี่ยนกลยุทธ์การต่อสู้ทันที
ปีกมันแปลงเป็นระฆังขนาดใหญ่เพื่อยับยั้งการเคลื่อนไหวของศัตรูเพิ่ม
อีกด้าน อาวุธโจมตีเดิมมันยังเปลี่ยนเป็นอาวุธเต๋โจมตีจิตวิญญาณ พวกมันเปลี่ยนเป็นหัวผี
หัวผีเป็นสิบพลันส่งเสียงกรีดร้องแหลม สร้างระลอกคลื่นการโจมตีวิญญาณเทพ
ไม่เพียงมันจะทําให้จิ้งจอกแดงขยับตัวได้ยากขึ้น แต่เขายังรู้สึกเหมือนโดนเข็มแหลมที่มหัวเขารู้สึกราวกับวิญญาณเทพของเขาโดนผู้นับหมื่นกัดกิน
ครั้งนี้สุดท้ายเก้าอสรพิษก็ทนไม่ไหวอีกและลงมือ
ลิ้นของเขาตวัดออกไปเหมือนสายฟ้า ขดรอบเอวของจิ้งจอกแดง ลากเขาออกสนามรบ
“ไปพักซะ”
พอเห็นจิ้งจอกแดงยังกุมหัวด้วยความเจ็บปวด เก้าอสรพิษก็สั่งและส่งสัญญาณให้ซิลเวอร์ด้วยหางตา
โดยธรรมชาติ ซิลเวอร์ไม่กล้าปฏิเสธ เขาเปลี่ยนเป็นแสงสีเงินและเข้าประชิดแมลงปีกวิเศษ
แม้จะสังเกตว่าศัตรูเปลี่ยนคน แมลงปีกวิเศษก็ยังสงบ
การต่อสู้กับจิ้งจอกแดงก่อนหน้านี้ได้เพิ่มความมั่นใจของมัน
มันใช้เทคนิคเดียวกันกับซิลเวอร์
แม้การเคลื่อนไหวของซิลเวอร์จะช้าลง แต่วิญญาณเทพดูเหมือนจะไม่บาดเจ็บอะไร
ตอนแมลงปีกวิเศษเห็นแบบนี้ หัวผีก็พลันเปลี่ยนเป็นพระพุทธรูป
พระพุทธรูปที่ทําจากไม้กําลังสวมมนต์พร้อมตีปลาไม้ในมือ(เครื่องดนตรีพุทธศาสนา)
ชั่วขณะนั้น เสียงสวดมนต์ในอากาศก็มาพร้อมกับเสียงปลาไม้และเสียงกระดิ่ง
หลินฮวงรู้สึกราวกับเขาเข้าวัด สิ่งเดียวที่ขาดคือรูป
เทคนิคนี้ก็ยังเป็นการโจมตีวิญญาณเทพ มันแค่ใช้คนละวิธี
แต่ทว่า นอกจากร่างกายของเขาที่ช้าลง ซิลเวอร์ยังไม่ได้รับผลกระทบอื่น
จากนั้นแมลงปีกวิเศษถึงตระหนักว่าวิญญาณเทพของศัตรูมันอาจผิดปกติ ทําให้มันต้านทานการโจมตีวิญญาณเทพได้
โดยไม่ลังเล มันตัดสินใจเปลี่ยนวิธี
ที่ละหนึ่ง พระพุทธรูปเปลี่ยนเป็นกระบี่ หอก ดาบ และง่าวอีกครั้ง
มันท่าเช่นนี้เพื่อทดสอบว่าอาวุธชนิดใดจะได้ผลกับศัตรูมากสุด
แต่ทว่า อาวุธทั้งหมดที่เทียบได้กับอาวุธเต่ขั้นสูงงกลับทําได้แค่ทิ้งรอยลึกไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตรบนตัวซิลเว
ซิลเวอร์ยังสามารถซ่อมแซมรอยเหล่านี้ได้ทันที พวกมันไม่ทิ้งไว้บนตัวเลย
“เป็นเผ่าจักรกลที่ทรงพลังมาก”หลินฮวงตกอยู่ในห้วงความคิด
เขากําลังพิจารณาว่าเขาจะตอบสนองยังไงถ้าเจอศัตรูเช่นนี้ และไม่สามารถใช้พลังทําลายการป้องกันได้
ซิลเวอร์ยังต้านทานการโจมตีวิญญาณเทพได้เพราะเขาคือสิ่งมีชีวิตจักรกลที่ไม่มีวิญญาณเทพเลย
จิตสํานึกของเขาเก็บไว้ในแหล่งพลังจักรกลที่ไหนสักแห่งในตัวเขา
โดยธรรมชาติ การโจมตีวิญญาณเทพจึงไม่ได้ผลกับเขา
ถ้าอยากฆ่าซิลเวอร์ด้วยการโจมตีวิญญาณเทพ มันต้องมีวิญญาณเทพที่ทรงพลังจนสามารถทําลายเข้าไปในแหล่งพลังจักรกลภายในตัวเขาและลบล้างจิตสํานึกด้วยพลัง
วิญญาณเทพของแมลงปีกวิเศษเห็นได้ชัดว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น
แม้กระทั่งหลินฮวงก็ยังไม่มั่นใจว่าจะทําได้ เหนือสิ่งอื่นใด อีกฝ่ายคือจ้าวเทวะขั้นสูง
และซิลเวอร์ก็ยังเป็นเด่นในแง่การป้องกันกายภาพด้วย
สิ่งมีชีวิตจักรกลบริสุทธิ์จะเป็นเลิศในความสามารถป้องกันกายภาพ แม้จะอยู่ในจักรวาลก็ตาม
ไม่เพียงจะมีความสามารถป้องกันสูง แต่พวกมันยังแข็งแกร่งด้วย พวกมันไม่ได้ด้อยไปกว่าอสูรประเภทสายต่อสู้จากยุคโบราณเลย
เพื่อฆ่าคนที่มีความสามารถป้องกันเช่นนี้ วิธีดีสุดก็ยังเป็นการปราบด้วยกําลัง ไม่ว่าจะเป็นพลังผนึกเต่ที่แข็งแกร่งกว่าอีกฝ่าย หรือจะเป็นอาวุธเต่ที่มีพลังพอจะทําลายการป้องกันของอีกฝ่าย
แต่ทว่าอสูรแมลงปีกวิเศษก็เห็นได้ชัดว่าทําไม่ได้
หลินฮวงก่าลังจินตนาการถึงการเอาตัวเขาไปแทนที่แมลงปีกวิเศษ โดยใช้ระดับความสามารถปัจจุบันของแมลงปีกวิเศษเขาจําลองมันในหัวและตระหนักว่ามันยากมากที่จะทําลายการป้องกันของศัตรูแม้เขาจะเป็นผู้บ่มเพาะดาบที่มีความสามารถโจมตีรุนแรง
“ตอนนี้ มันชักยาก!”หลินฮวงเหลือบมองแมลงปีกวิเศษด้วยความเห็นใจ
วิธีโจมตีใดๆที่แมลงปีกวิเศษใช้ล้วนโดนซิลเวอร์ปราบจนสมบูรณ์
นอกจากทักษะประเภทควบคุมที่ยังมีผล การโจมตีทางจิตวิญญาณกับกายภาพล้วนได้ผล
ขณะที่หลินฮวงกําลังคิดว่าแมลงปีกวิเศษไม่หลงเหลือกลยุทธ์อื่นแล้ว การเปลี่ยนแปลงก็พลันปะทุขึ้นบนสนามรบ
แมลงปีกวิเศษส่งเสียงร้อง และแมลงกลายพันธุ์อีกสิบตัวด้านหลังก็เคลื่อนไหวพร้อมกันที่ละตัวพวกมันเริ่มผสานเข้ากับค่ายกลแมลงของแมลงปีกวิเศษ
พอแมลงกลายพันธุ์รวมร่างกัน กลิ่นอายของแมลงปีกวิเศษก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
กลิ่นอายของมัน ที่แต่เดิมจากจ้าวเทวะขั้นสูงธรรมดาได้พุ่งเป็นจุดสูงสุดของจ้าวเทวะขั้นสูงทันที
“ค่ายกลแมลงนี้ทรงพลังมาก”
หลินฮวงอดเล็กคิ้วไม่ได้ตอนเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น พอค่ายกลแมลงผสานกันเต็มที่ พลังของแมลงปีกวิเศษก็อยู่ห่างจากจ้าวเทวะขั้นสูงสุดเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น
เก้าอสรพิษที่สงบมาตลอดพลันเปลี่ยนสีหน้า
การเพิ่มพลังของค่ายกลแมลงนี้ทําให้เขารู้สึกถึงภัยคุกคาม