นิยาย Monarch of Time
MoT.67 – ส่วนใน
ในความคิดของหยงคู่นั้นมิอาจเชื่อมโยงประติดประต่อว่าความตายของหว่องฮัวเกี่ยวข้องกับชุนหลงโดยตรงแม้ชุนหลงจะแข็งแกร่ง แต่เขาก็สังหารในพริบตาไม่ได้โดยเฉพาะกับคนที่แข็งแกร่งอย่างหว่องชั่วต่อให้เขาเป็นระดับปฐพี่ขั้น 3 ชั้นสูงก็ตามดีแต่เมื่อหยงคู่คิดว่าชุนหลงแข็งแกร่งกว่าเขาเล็กน้อยเขาจึงคิดว่าชุนหลงน่าจะ รู้ถึงเบาะแสในความตายและพิการของสองคน
ชุนหลงเพียงแต่ส่ายหน้ากับคําถามของหยงคู่
เขาไม่ยอมรับว่าสิ่งที่เขาทําเป็นฝีมของเขา เขาเก็บไว้เป็นไพ่ตายในเวลาที่สําคัญที่สุดเท่านั้นในอดีตเมื่อเขาใช้เขตแดนราชันย์ในวังหลวงแรงกดดันของมันนั้นคล้ายกับวิชาแรงโน้มถ่วงของโลกมนุษย์
แต่เมื่อมาเป็นขั้น 8 ในระดับรวมปราณ เขตแดนราชันย์ได้พัฒนาขึ้น สิ่งที่แสดงออกมามิใช่แค่แรงกดดันอย่างในอดีตแต่มันเป็นการหยุดความเคลื่อนไหวของทุกสิ่งอบตัวชุนหลงเป็นเวลาชั่วคราว
เหมือนกับว่าชุนหลงเพิ่งจะได้เข้าถึงพลังระดับต้นเมื่อเริ่มบ่มเพาะมัน และมันจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นตามความเติบโตในระดับพลังของเขา
หยงคู่กับหญิงสาว 3 คนผิดหวังเมื่อเห็นท่าทางของชุนหลง ถ้าหากเขาไม่เห็นอะไรพวกเขาก็จะไม่รู้เลยว่าเกิดสิ่งใดขึ้น
ศัตรูที่สังหารได้โดยไม่รู้ตัวและไม่เห็นการโจมตีนั้นน่ากลัวเพียงใดกัน?
หยงคู่หยิบหยกประจําตัวสีแดง 2 ชิ้นออกมา
“จริงด้วย! พวกมันมี 7 คะแนนติดตัว บอกตามตรงนะพี่ชุน ข้ากับศิษย์น้องเข้าร่วมการทดสอบนิกายครั้งนี้ด้วย 2 เหตุผล เหตุแรกคือการรับพลังปราณที่จะระเบิดจากภูเขากลางเพื่อเพิ่มพลังบ่มเพาะ ส่วนเหตุผลที่สองก็คือการตามหาบุพผานรกให้ท่านปู่เรารู้ว่าเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะได้คะแนนใน 100 อันดับแรกด้วยพลังของเรา เราจึงไม่หวังที่จะรวบรวมคะแนนเลย ท่านปู่ของข้าคือผู้เฒ่าหอเวหาคํารามคะแนน 10 หรือ 100 ของนิกายนั้นไร้ค่ากับข้าอยู่แล้ว”
เมื่อหยงคู่พูดจบ เขายื่นหยกประจําตัวทั้งสองชิ้นให้กับชุนหลง
ชุนหลงไม่ปฏิเสธ
“ขอบคุณมาก ถ้าเจ้าหาบุพผานรกเจอ ข้าจะช่วยเจ้าเอามันมา แต่ข้าไม่คิดว่าจะหามันได้ง่าย ๆ”
หยงคู่ส่ายหน้า
“ไม่นะพี่ชุน 7 คะแนนพิเศษจะไปเทียบกับสมุนไพรขั้น 3 ล้ําค่าอย่างบุพผานรกได้อย่างไร?”
ชุนหลงส่ายหน้าและไม่ตอบ หยงคู่นั้นจริงใจกับเขาและบอกข้อมูลสาคัญมามากมายถ้าหากพวกเขาได้เจอกับบุพผานรกเข้า ชุนหลงจะต้องพยายามช่วยเขาให้ได้มันมาแต่สมุนไพรขั้น 3 อย่างบุพผานรกนั้นมักจะถูกสัตว์อสูรขั้น 3 ซึ่งมีระดับเทียบเท่ากับผู้บ่มเพาะระดับสวรรค์คุ้มกันเอาไว้และประเด็นสําคัญก็คือในเทือกเขานรกแห่งนี้จะมีบุพผานรกอยู่ตั้งแต่แรกหรือไม่
ชุนหลงเก็บคะแนนพิเศษจากหยกประจําตัวทั้ง 2 ชิ้นของเสี่ยวลี่และเสี่ยวหวังรวมกับคะแนนของหว่องฮั่ว 13 คะแนนที่ได้มาก่อนและ 5 คะแนนที่เขามีอยู่แล้วเท่ากับว่าเขามีคะแนนพิเศษอยู่ 25 คะแนน
หลังจากโยนหยกนิกายทิ้งไป ชุนหลงกับคนที่เหลือเริ่มรับประทานเนื้อหมาป่าโลหิต
“อาาาา เนื้อนี่อร่อยจริง ๆ!”
“ใช่แล้วศิษย์พี่ เราน่าจะกินหมาป่านี่บ่อย ๆ!”
“จริงด้วยศิษย์พี่ เนื้อนี่อร่อยดีนะ”
ขณะที่ 3 หญิงสาวชื่นชมรสชาติเนื้อ ชุนหลงสัมผัสได้ว่าร่างกายของเขาเริ่มดูดซับพลังในเนื้ออย่างช้าๆผู้บ่มเพาะปราณนั้นจะใช้พลังงานในเนื้อของสัตว์อสูรเพื่อฟื้นฟูปราณได้เร็วขึ้นแต่มันไม่ช่วยให้พลังของพวกเขาก้าวหน้า
แต่มันแตกต่างจากผู้บ่มเพาะกายา ชุนหลงสัมผัสได้ว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยหลังจากได้กินเนื้อสัตว์อสูร
หยงคู่เพียงแต่ยิ้มรับค่าของ 3 หญิงสาวก่อนจะถาม
“มันง่ายที่พวกเราฆ่าฝูงหมาป่าโลหิตพวกนี้?”
เหล่าหญิงสาวหน้าแดงด้วยความอับอาย ถ้าหากพวกนางไม่โชคดีจนได้เจอกับชุนหลงพวกนางก็คงจะถูกหมาป่าโลหิตพวกนี้กินเป็นอาหารแทนที่จะได้กินพวกมันตอนนี้แล้ว
หยงคู่ยิ้มเมื่อเห็น 3 สาวเขินอาย
“ไม่ต้องห่วง หากข้าเพิ่มพลังอีกสองชั้นจนเป็นระดับปฐพขั้น 3 ชั้นสูงเราจะล่าหมาป่าโลหิตได้สบาย ๆ”
จากนั้น แววตาหยงคู่ได้จริงจังขึ้น
“นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้ผ่อนคลายในการทดสอบเช่นนี้ จากนี้ไปเราจะต้องระวังตัวมากขึ้นเราจะเข้าส่วนในของเทือกเขาอสูรแล้ว”
“ศิษย์พี่ ส่วนในคืออะไรเหรอ?”
หมิงจูถามเมื่อทุกคนหันไปสนใจหยงคู่
“ท่านปู่บอกว่าเทือกเขาอสูรแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ส่วนนอกที่พวกเราอยู่ตอนนี้ส่วนในที่พวกเราจะได้เขาไปในอีกไม่ใช้และส่วนกลางที่อันตรายที่สุดที่มีไม่กี่คนจะเข้าไปและรอดชีวิตกลับมาได้”
“ส่วนนอกคือส่วนที่ง่ายที่สุด เราจะเจอแค่สัตว์อสูรขั้น 1 หรือขั้น 2 ชั้นต้นเท่านั้นแต่ก็มีบางจุดในส่วนอกที่มีสัตว์อสูรขั้นสูงกว่าอาศัยอยู่แต่พวกมันมักจะอยู่กับที่และเราไม่ควรจะไปยุ่งกับมันแต่ส่วนในนั้นต่างออกไปหากพลาดแม้ก้าวเดียวพวกเราจะตายกันหมด”