นิยาย Monarch of Time
MOT.63 – มิอาจหลบซ่อน
“รอบภูเขากลางมีภูเขาอื่น ๆ มากมายที่หาสมบัติล่าค่าได้ด้วย”
หยงคู่พูดด้วยน้ําเสียงที่เต็มไปด้วยความปรารถนา
ชุนหลงรู้สึกแปลก เขาถาม
“ถ้าหากมีสมบัติมากมายรอบภูเขากลาง แล้วเหตุใดถึงไม่มีผู้เฒ่าจากนิกายใดไป นํามันกลับมาเล่า หรืออย่างน้อยก็ต้องมีศิษย์รุ่นก่อนหน้าที่มาทดสอบเอาไปแล้วสิ?”
หยงคู่ส่ายหน้า
“พี่ชนพดผิดไปหน่อยนะ ที่จริงเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับความลับที่ท่านไบอกกับข้า”
“ท่านปู่ของข้าคือผู้เฒ่าหอเวหาค่าราม ในอดีตเขากับผู้เฒ่าคนอื่นได้ตามเจ้าหอ เข้ามาในเทือกเขาอสูรเพื่อหาสมบัติเหล่านี้”
“ในวันนั้น สัตว์อสูรน่าสะพรึงกลัวที่เป็นขั้น 4 ชั้นสูงได้โผล่มาที่เขากลางและโจมตีพวกเขา พวกเขารอดชีวิตกลับมาไม่ถึงครึ่ง คนที่เหลือสิ้นลมที่นั่น”
“ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครที่เหนือกว่าระดับปฐพีย่างกรายมาที่เทือกเขาอสูรอีกเลย เพราะกลัวว่าจะถูกสัตว์อสูรจู่โจม นี่คือเหตุผลที่มันคือสถานที่ทดสอบของนิกายต่าง
“ส่วนภูเขารอบ ๆ เขากลางที่มีสมบัติล่าค่าน่ะหรือ? พวกมันถูกสัตว์อสูรขั้น 3 ชั้นกลางเป็นอย่างน้อยคุ้มกันอยู่ มันจึงไม่มีผู้ใดหาสมบัติเหล่านั้นกลับมาได้”
“แต่พลังปราณจากภูเขากลางนั้นหนาแน่นกว่าพลังปราณในนิกายทั้ง 4 ของเรา นั่นคือเหตุผลที่ทุกนิกายเชื่อว่ามีความลับอันยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่ในภูเขากลาง”
“แต่มันมีสัตว์อสูรขั้น 4 ชั้นสูงปกป้องอยู่…”
หยงคู่พูดจบ เขาถอนหายใจและคิดถึงสมบัติที่มิอาจได้มาครอง
“แต่ก็มีโชคดีสําหรับเราเช่นกัน ในทุก 30 ปีภูเขากลางจะระเบิดพลังปราณบริสุทธิ์ ออกมาเพื่อทําให้บรรยากาศในเขาอสูรมีพลังมากขึ้น ยิ่งเข้าใกล้ภูเขากลางในระหว่างการระเบิดเท่าใด มันก็ยิ่งดีกับการดูดซับพลังปราณบริสุทธิ์มากเท่านั้น”
เมื่อหยงคู่พูดจบ ชุนหลงกล่าว
“และยิ่งใกล้ภูเขากลาง อันตรายจากสัตว์อสูรระดับสูงก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นใช่ไหม?”
“ข้าถึงได้ชวนพี่ชุนให้มากับเรายังไงล่ะ เราปกป้องกันและกันจนกระทั่งเจอที่ซ่อน ใกล้ภูเขากลาง จากนั้นเราจะรอให้การระเบิดพลังปราณเกิดขึ้น”
ชุนหลงพยักหน้ารับคําพูดของหยงคู่ เขาพูด
“เดินทางด้วยกันฟังดูไม่เลว อย่างน้อยเราก็ไปด้วยกันจนกระทั่งถึงเขตภูเขากลางได้”
ทุกคนในกลุ่มตื่นเต้นเมื่อได้ยินว่าชุนหลงจะไปกับพวกเขา เพราะพวกเขากําลังจะได้คนที่แข็งแกร่งมาพึ่งพาเพิ่มอีกคน
“ฮ่าฮ่า ขอบคุณพี่ชุนยิ่งนัก หากมีพี่ชุนไปด้วยกัน การผจญภัยของพวกเราจะยิ่งสนุก!”
ชุนหลงยิ้ม เขาถามเมื่อได้สร้างความชอบพอจากหยงคู่แล้ว
“ข้ามีเรื่องจะถาม นิกายจะไม่สนใจหรือถ้าศิษย์หาสมบัติล้ําค่าใกล้ภูเขากลางเจอ?”
หยงคู่ส่ายหน้า
“พวกเขาจะไม่สนใจได้อย่างไร? ต่อให้มีคนหาสมบัติล้ําค่าเจอ คนคนนั้นจะซ่อนโดยไร้ซึ่งแหวนมิติได้? พอออกจากเทือกเขาอสูรเมื่อใด เหล่าผู้เฒ่าจะมาตรวจสอบสมบัติของเรา ถ้าหากเจอสมบัติ พวกเขาจะเสนอคะแนนนิกายให้ถ้าหากมันเป็นของมีค่า”
“พูดก็พูดเถอะ ต่อให้เจอของล้ําค่า มันก็ไม่มีโอกาสซ่อนจากสายตานิกายได้ สุดท้ายจะถูกบังคับขายมันเป็นคะแนน”
“นอกเสียจากจะมีแหวนมิติ โดยปกติแล้วระดับปฐพี่ขั้นต้นที่มีแหวนมิตินั้นจะเป็นคนจากตระกูลใหญ่และนิกายจะไม่ใช้ตําแหน่งมายุ่งเกี่ยวกับคนตระกูลใหญ่โดยที่เหตุผลไม่หนักพอ แต่ถ้าหากสมบัติชิ้นนั้นสําคัญมากพอล่ะก็…อะไรก็เกิดขึ้นได้
ชนหลงยิ้มและประสานมือขอบคุณหยงคู่ แต่ลึก ๆ ในใจแล้วเขาเริ่มที่จะชิงชังทั้ง 4 นิกาย
“พวกเราถูกบังคับให้เสี่ยงชีวิตในการทดสอบนี้ แต่ถ้าหากเจอของมีค่า เราก็ต้องเอามันไปแลกกับคะแนนนิกายอยู่ดีอย่างนั้นหรือ? นิกายจะต้องมั่นใจว่าทุกคนถูกค้นตัวเพราะเผื่อว่าคนผู้นั้นจะพยายามซ่อนบางอย่างจากนิกายสินะ?”
เมื่อชุนหลงคิดเช่นนี้ ความคิดของเขาต่อนิกายเมฆาทะยานก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
ขณะนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว พวกเขาตัดสินใจพักค้างคืนที่นี่ก่อนจะเดินทางไปยังภูเขากลางตอนรุ่งสาง
หยงคู่จุดไฟกองเล็ก ๆ นั่งล้อมวง พวกเขาเริ่มย่างเนื้อหมาป่าโลหิต
“ศิษย์พี่ สัตว์อสูรรอบ ๆ เราจะไม่ถูกไฟเรียกเข้ามาเหรอ?”
หญิงสาวที่ชุดขาวคนเมื่อครู่ได้เปลี่ยนชุดใหม่และถามหยงคู่ด้วยความกังวล
ชุนหลงส่ายหน้าขณะที่หยงคู่ยิ้มตอบ
“ตอนที่หมาป่าโลหิตตาย ร่างกายพวกมันจะปล่อยพิษออกมา ถ้าหากสัตว์อสูรตัวอื่นที่ต่ากว่าขั้น 3 กินเข้าไป พวกมันจะตายจากพิษนี้ แต่ถ้าเราย่างมัน พิษจะถูกขับออกมาพร้อมกับไขมันของหมาป่าเหลือแต่เนื้อที่สะอาดปลอดภัย ไม่มีสัตว์อสูรต่ำกว่าขั้น 2 จะมาที่นี่ถ้าได้กลิ่นเลือดของหมาป่าโลหิตหรอก ซากศพของพวกมันก็คือสิ่งที่คุ้มครองพวกเราด้วย”
ชุนหลงพยักหน้าเมื่อฟังหยงคู่อธิบาย เขาประทับใจที่หยงคู่พูดทุกอย่างได้ถูกต้อง ดูเหมือนหยงคู่จะเตรียมตัวมาดีในครั้งนี้
“แต่ศิษย์พี่ ถ้าหากมีสัตว์อสูรขั้น 3 เจอเราล่ะ?”
“สัตว์อสูรระดับ 3 จะออกมานอกเขตของตัวเองอย่างไม่มีเหตุผลร?”
หยงคู่ถามกลับ ในตอนนั้นเองพวกเขาก็ได้ยินเสียงตื่นเต้นของชายจาก 300 ศอก ไกลออกไปพวกเขาตะโกน
“หัวหน้า พวกเราเจอเหยื่อแล้ว!