Monarch of Time 60 – ชิงผลปฐพี่เข้มข้น

นิยาย Monarch of Time MOT.60 – ชิงผลปฐพี่เข้มข้น

ทุกคนรวมถึงชุนหลงตกใจที่กวนฮงรู้วิชาการต่อสู้ด้วย

มีวิชาบ่มเพาะระดับอําพันมากมายที่แพร่กระจายอยู่ในโลกมนุษย์และโลกการบ่มเพาะเช่นกัน แต่วิชาต่อสู้ระดับอําพันนั้นหายากกว่าวิชาบ่มเพาะระดับอําพันมากมายนัก

วิชาต่อสู้นั้นแตกต่างกับวิชาบ่มเพาะโดยสิ้นเชิง แม้ว่าจะต้องใช้วิชาบ่มเพาะ ในการทําให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น แต่วิชาต่อสู้ของผู้บ่มเพาะก็เป็นไพ่ตายลับเช่นกัน

แน่นอนว่าวิชาบ่มเพาะระดับทมิฬและเหนือกว่านั้นมิได้แพร่หลายบนโลกการบ่มเพาะ พวกมันถูกเก็บไว้เป็นความลับของทุกนิกายอย่างแน่นหนา มูลค่าของวิชาบ่มเพาะเหล่านั้นมีค่าเท่ากับวิชาต่อสู้ระดับทมิฬ เพราะอย่างไรก็ตาม ระดับของวิชาบ่มเพาะนั้นจะบ่งบอกได้ถึงความเร็วที่คนคนหนึ่งจะก้าวหน้าในขณะที่วิชาต่อสู้นั้นคือหนทางในการปกป้องชีวิตของตน

เด็กผู้หญิงสองคนเพิ่งจะมาถึงและเริ่มพูดคุยกัน

“ศิษย์พี่ดูสิ! ชายคนนั้นรู้วิชาต่อสู้ด้วย!”

เด็กสาวตัวเตี้ยกว่าที่ทําผมเป็นซาลาเปาสองข้างพูดขณะที่ชี้ไปยังกวนสง

“ศิษย์พี่” นั้นเพียงแค่ชําเลืองมองกวงฮงครั้งเดียวก่อนจะหันไปสนใจผลปฐพีเข้มข้น

“มันก็แค่วิชาต่อสู้ระดับอําพันชั้นต้น เขาต้องใช้เวลานานหากจะใช้วิชานั้น เขาคงตายไปแล้วถ้าต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งกับหมีดิน”

ศิษย์พี่สวมชุดสีน้ําเงินและมีใบหน้าคนงาม นางมีเส้นผมดําสั้นและร่างกายที่ผอมบาง หน้าอกของนางนั้นมีขนาดตาม มาตรฐานแต่บั้นท้ายอวบอิ่ม ถ้าหากเทียบนางกับหลิวเม่ยที่ชุนหลงได้เจอใน สํานักปรุงยาแล้ว รูปลักษณ์ของนางอาจจะด้อยกว่าเล็กน้อย แต่นางยังคงเป็นสาวงามที่เทียบได้กับหลานจินจิง

ชุนหลงมองพี่น้องฉีเสี่ยงและฉีชาน ทั้งสองพยายามดึงความสนใจจากหมีดิน กวงฮงเองก็เตรียมใช้วิชาต่อสู้เสร็จแล้ว

เขาใช้ปราณมหาศาลอัดลงไปในมีดของเขา

“มีดบิน!”

เขาฟันมีดไปข้างหน้า ปราณที่เขาอัดลงไปในมีดได้กลายเป็นใบมีดลอยไปหาหมีดิน หมีดินที่ถูกดึงความสนใจจากฉีเชี่ยงและฉีชานกําลังป้องกันตัวจากการจู่โจมของอีก 2 คนที่วงนอกด้วย อีกทั้งมันยังต้องสนใจผลปฐพี่เข้มข้นอีก

เมื่อการโจมตีของกวนฮงเข้าใกล้ มันไม่มีเวลาจะหลบหรือป้องกันด้วยกรงเล็บ และมันเป็นเวลาเดียวกับที่สองพี่น้องผสานการโจมตีหมีดินไปที่ดวงตาและหัวใจพร้อมกัน

หมีดินทําได้เพียงแค่ป้องกันตัวจากการโจมตีของสองพี่น้อง การฟันมีดของกวนฮงแล่นตรงไปที่คอของมันจนเป็นรอยฟันขนาดใหญ่ที่ลึกเกือบถึงกระดูกหมี โลหิตพุ่งกระจายสูงพ้อมกับเสียงหมีคํารามด้วยความเจ็บปวด แต่เพราะหนังที่หนาของมันจึงทําให้มันรอดชีวิตแม้ว่าจะบาดเจ็บปางตาย

เมื่อทุกคนคิดว่าการต่อสู้เกือบจบลงแล้ว เสียงร้องแหลมก็ดังมาจากฟ้า อินทรีขนาด 6 ศอกที่มีขนสีเทาคมได้ปรากฏตัวจากท้องฟ้าและบินโฉบลงมาที่หมีดิน หมีดินที่บาดเจ็บหันหนีทันทีที่เห็นอินทรี มันไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว

อินทรีไล่ล่าหมีดินอย่างไม่หยุดหย่อนไปทั่วป่า

ขณะที่ทุกคนหันไปสนใจอินทรีปีกเหล็กที่กําลังไล่ตามหมีดิน ชุนหลงที่กําลัง รอโอกาสอยู่ก็เปิดรอยแยกมิติ และปรากฏตัวที่ผลปฐพีเข้มข้นพอดิบพอดี มันใช้เวลาเพียงเล็กน้อยที่เขาปรากฏตัวในถ้ําและชิงผลปฐพีเข้มข้นก่อนจะเปิดรอยแยกมิติอีกครั้งเพื่อหนีออกจากถ้ําไปที่อีกฟาก

แต่ทันทีที่เขากําลังหนีศิษย์พี่” จาก “หอเวหาคําราม” ก็ได้ส่งเสียงดัง

“ผลปฐพี่เข้มข้น!!”

ทุกคนหันไปที่ถ้ําทันที สิ่งที่พวกเขาได้เห็นคือภาพแผ่นหลังชุนหลงที่หันหลังให้หายไปในรอยแยกมิติ

แม้ว่าจะเห็นชุดสีเหลืองซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นศิษย์นิกายเมฆาทะยาน พวกเขาก็ไม่เห็นสิ่งอื่นใด เพราะเขาหายตัวไปเฉย ๆ

“ไม่นะะะะะะะ ผลปฐพี่เข้มข้นของข้า!”

ทั้ง ศิษย์พี่ และกวนฮงตะโกนพร้อมกัน

กลุ่มของกวนองสูญเสียมากที่สุดในครั้งนี้และเป็นพวกแรกที่พบผลปฐพี่เข้มข้นแล้วยังต่อสู้จนหมีดินบาดเจ็บด้วย และความพยายามทั้งหมดก็เพียงเพื่อให้คนอื่นมาฉวยโอกาสงับเหงื่อและขโมยรางวัลของพวกเขาไปจากใต้จมูก

ดวงตาของกวนฮงลุกเป็นไฟเมื่อมอง “ศิษย์พี่” ชุดสีน้ําเงินที่เพียงจะตะโกนว่า ผลปฐพีเข้มข้นนั้นเป็นของนาง

เมื่อคนที่ขโมยได้หายไปแล้ว พวกกวนฮงไม่รู้จะระบายความแค้นที่ใด และเวลานี้พวกเขาก็ได้เจอที่ระบายความรู้สึกแล้ว ทั้ง 5 ได้มองไปยังเด็กผู้หญิงสองคนจากหอเวหาคําราม

“เจ้าเป็นใคร?”

กวนฮงและพี่น้องตระกูลฉีถามด้วยความคุกคามและเข้าล้อมเด็กผู้หญิงทั้งสอง

“ศิษย์พี่” เมินพวกเขาและเดินหนี แต่กวนฮงก็ได้มาขวางทางนาง

“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร หากคิดจะหนี เจ้าก็ต้องทิ้งคะแนนพิเศษมาซะ!”

โทสะของเหล่าหญิงสาวแสดงผ่านแววตา พลังขั้น 3 ชั้นสูงระเบิดออกมา และมุ่งตรงไปยังกวนฮง การต่อสู้อันดุเดือดระหว่างหญิงสาวสองคนกับกลุ่ม 5 คนได้เริ่มขึ้น

ในขณะเดียวกัน ชุนหลงได้ปรากฏตัว ถัดจากอีกด้านราว 100 ศอก เขาได้ยินเสียงการต่อสู้ที่เกิดขึ้นจากอีกฟาก

ชุนหลงส่งพลังจิตไปยังหินกาลเวลา เพื่อเก็บผลปฐพี่เข้มข้นก่อนจะมุ่งหน้าสู่ส่วนที่ลึกเข้าไปของเทือกเขาอสูร เขาหนีจากที่เกิดเหตุไปโดยไม่มีใครรู้ตัว