นิยาย Monarch of Time MOT.52 – เดินทางออกสู่ภายนอก แม้ประตูเมืองจะไม่ไกลจากโรงเตี้ยมของเขามากนัก มันก็ต้องใช้เวลา 20 นาทีกว่าที่ชุนหลงจะไปถึง ในระหว่างทาง เขาเห็นศิษย์นอกมากมายมุ่งหน้าไปยังจุดหมายเดียวกัน ทุกคนดูฉงนกับเหตุผลที่นิกายเรียกตัวพวกเขา เมื่อชุนหลงมาถึงประตูเมืองก็เห็นคนจํานวนมากอยู่ที่หน้าประตูแล้ว หลังจากผ่านไป 40 นาที ผู้คนที่มารวมตัวกันนั้นมีจํานวนมากกว่า 50,000 คน และมีผู้เฒ่านิกาย 3 คนในชุดดําปรากฏตัวขึ้นมา ผู้เฒ่าคนแรกสุดมีผมหงอกขาวเขามีเคราสีขาวโดดเด่น ผู้คนเงียบลงเมื่อเห็นเขา เขาจึงเริ่มพูด “ข้าชื่อหลานฮง ข้าคือผู้เฒ่าใหญ่นิกายเมฆาทะยาน ข้ามั่นใจว่าพวกเจ้า หลายคนคงสงสัยถึงเหตุที่นิกายเรียกตัวพวกเจ้าอย่างเร่งด่วน ข้าจะอธิบายทุกอย่างครั้งเดียวตั้งใจฟังให้ดี” “ในทุก 3 ปี นิกายเมฆาทะยานของเราจะฝึกฝนศิษย์ใหม่ในเขตเขาอสูรทางตะวันตกของเมืองเมฆาทะยานในเทือกเขาอสูรพวกเจ้ามิได้แข่งกันเองเท่านั้นแต่พวกเจ้ายังต้องต่อสู้กับสัตว์อสูรที่ อาศัยอยู่ที่นั่นเพื่อเอาชีวิตรอด” “ในหยกประจําตัวของพวกเจ้าจะมีคะแนนพิเศษซึ่งแตกต่างจากคะแนนนิกายเจ้าจะได้คะแนนพิเศษจากคนอื่นโดยตรงถ้าหากชิงหยกประจําตัวของคนผู้นั้นมาได้เป้าหมายของพวกเจ้าคือกาเอาชีวิตรอดในเขาอสูรและรวบรวมคะแนนพิ เศษที่คนอื่นมีมาให้ได้” “เขาอสูรคือสถานที่ที่พวกเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นและมีโอกาสดีมากมายแต่เจ้าอาจตายที่นั่นก็ได้” “จะบอกว่านิกายไม่ยุติธรรมหรือโหดร้ายก็ตามใจเจ้า จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่ดีพวกเจ้าคือผู้บ่มเพาะพลังเป้าหมายของพวกเจ้าควรจะเป็นการแข็งแกร่งขึ้นแทนที่จะติดอยู่แค่ ในนิกายนิกายเองก็ไม่ต้องการพวกคนอ่อนแอในระดับรวมปราณที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมือง” เมื่อผู้เฒ่าใหญ่พูดจบประโยคเสียงของเขาแข็งขึ้นเมื่อเขาพูดต่อ
“แต่การทดสอบศิษย์นอกปีนี้จะแตกต่างจากปีที่แล้วมาครั้งนี้พวกเจ้าจะต้องแข่งกับศิษย์ต่างนิกายในเขาอสูรจะมี 3 นิกายที่ขนาดฆาทะยานของเรานั่นคือนิกายกระบี่บินหอเวหาคํารามและสํานักเหล็กกล้าศิษย์จากนิกายเหล่านั้นจะชิงคะแนนพิเศษจากเจ้าด้วย และเจ้าก็ควรจะทําเหมือนกัน” “จงจําไว้ว่าเจ้าจะตายได้ทุกเมื่อในเขาอสูร ไม่ว่าจะเพราะผู้บ่มเพาะพลังคนอื่น หรือสัตว์อสูรถ้าเจ้าอยากรอดเจ้าต้องป่าเถื่อน ความตายมีอยู่ทุกหนแห่งในเขาอสูรและเจ้ามี 2 ทางเลือกเท่านั้น จะเป็นผู้ฆ่าหรือ…ผู้ถูกฆ่าผู้เฒ่าจจะให้คะแนนพิเศษกับเจ้าแต่ละคน” ส่วนผู้เฒ่าใหญ่หลานฮงนั้น เมื่อพูดจบ เขาชี้ไปที่ผู้เฒ่าจหัวล้านที่อยู่ข้างกาย หลังจากที่ทุกคนได้รับคะแนนพิเศษเพิ่มในหยกประจําตัวแล้วหลานฮงได้นําหน้าทุกคนไปยังนอกเมืองทางตะวัน ตกก่อนจะตะโกนเสียงดัง “ทุกคนตามข้ามา” ศิษย์ส่วนใหญ่รู้สึกใจหายเมื่อตามหลานฮง “ทําไมจู่ ๆ พวกเราต้องมาเสี่ยงชีวิตอย่างไร้เหตุผลกัน?” “นั่นสิ ไม่มีใครบอกเรื่องนี้กับเรามาก่อนไม่อย่างนั้นข้าคงจะไม่เข้าร่วมนิกายเมฆาทะยาน” “นิกายโหดร้ายนัก พวกเขาไม่ได้ถามความสมัครใจของเราก่อนจะสั่งด้วยซ้ํา” ชุนหลงได้ยินเสียงพร่ําบ่นของคนที่หวาดกลัวรอบตัวเขาเพียงแค่หัวเราะเบา ๆหลังจากที่เขาได้พูดคุยกับเสียงในความมืดข้างในหินกาลเวลา สภาพจิตใจของเขาได้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขากําลังจะคว้าโอกาสทุก อย่างที่มีเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้นเวลา 3 เดือนในนิกายไม่ได้มอบอะไรให้เขานอกจากบ่มเพาะพลังและนั่นทําให้เขาเหนื่อยหน่ายเต็มทนนี่คือโอกาสออกจากนิกายและเป็นโอกาสดีที่เขาจะได้เสี่ยงอันตราย “นี่คือโอกาสดีที่ข้าจะได้ทดสอบกายาราชันย์นิรันดร์ของข้า เขาคิดและเดินตามกลุ่มคนไปยังเขาอสูร หลานฮงรู้ถึงความรู้สึกของบรรดาศิษญ์นอกดีแต่เขาก็ไม่สนใจมากนัก “ผู้เฒ่าลู่จะอธิบายเรื่องรางวัลที่นิกายจะมอบให้เจ้าตามผลลัพธ์ที่เจ้าทําได้ นี่คือผู้เฒ่าลู่คนเดียวกับที่พาชุนหลงจากอาณาจักรชะตาฟ้ามายังนิกายเมฆาทะยานผู้เฒ่าลู่เจิง ลู่เจิงที่ตามหลังผู้เฒ่าใหญ่ไม่แม้แต่หันมองกลับเขาเริ่มพูดโดยหันหลังให้ ทุกคน “พวกเจ้าจะได้รางวัลที่แตกต่างกันจากนิกายตามผลลัพธ์ที่พวกเจ้าทําได้ถ้าหากพวกเจ้ารักษาคะแนนพิเศษหนึ่งคะแนนได้จนจบการทดสอบเจ้าจะได้ รับ 10 คะแนนนิกายขณะที่คนที่เก็บได้ 10 คะแนนพิเศษจะได้ 100 คะแนนนิกาย” “ผู้ที่มีอันดับ 100 จะได้ 1,000 คะแนนนิกายและทุกอันดับเหนือจากนั้นจะได้รับ 100 คะแนนเพิ่มขึ้นไปอีกนอกเหนือจากนั้นจะมีรางวัลพิเศษกับ 10 อันดับแรกและ 3 อันดับแรกด้วย” “10 อันดับแรกจะได้รับอาวุธจากปรมาจารย์ค่ายกลระดับเงิน ส่วน 3 อันดับแรกจะได้แหวนมิติ” เมื่อผู้เฒ่าลู่พูดจบ ศิษย์ทุกคนตกตะลึงรางวัลในปีนี้นั้นดีกว่าปีที่แล้วมาอย่างเห็นได้ชัด “ท่านผู้เฒ่า แล้วผู้ที่ได้อันดับหนึ่งเล่า?”
นิยาย Monarch of Time MOT.52 – เดินทางออกสู่ภายนอก
แม้ประตูเมืองจะไม่ไกลจากโรงเตี้ยมของเขามากนัก มันก็ต้องใช้เวลา 20 นาทีกว่าที่ชุนหลงจะไปถึง
ในระหว่างทาง เขาเห็นศิษย์นอกมากมายมุ่งหน้าไปยังจุดหมายเดียวกัน ทุกคนดูฉงนกับเหตุผลที่นิกายเรียกตัวพวกเขา
เมื่อชุนหลงมาถึงประตูเมืองก็เห็นคนจํานวนมากอยู่ที่หน้าประตูแล้ว
หลังจากผ่านไป 40 นาที ผู้คนที่มารวมตัวกันนั้นมีจํานวนมากกว่า 50,000 คน และมีผู้เฒ่านิกาย 3 คนในชุดดําปรากฏตัวขึ้นมา
ผู้เฒ่าคนแรกสุดมีผมหงอกขาวเขามีเคราสีขาวโดดเด่น ผู้คนเงียบลงเมื่อเห็นเขา เขาจึงเริ่มพูด
“ข้าชื่อหลานฮง ข้าคือผู้เฒ่าใหญ่นิกายเมฆาทะยาน ข้ามั่นใจว่าพวกเจ้า หลายคนคงสงสัยถึงเหตุที่นิกายเรียกตัวพวกเจ้าอย่างเร่งด่วน ข้าจะอธิบายทุกอย่างครั้งเดียวตั้งใจฟังให้ดี”
“ในทุก 3 ปี นิกายเมฆาทะยานของเราจะฝึกฝนศิษย์ใหม่ในเขตเขาอสูรทางตะวันตกของเมืองเมฆาทะยานในเทือกเขาอสูรพวกเจ้ามิได้แข่งกันเองเท่านั้นแต่พวกเจ้ายังต้องต่อสู้กับสัตว์อสูรที่ อาศัยอยู่ที่นั่นเพื่อเอาชีวิตรอด”
“ในหยกประจําตัวของพวกเจ้าจะมีคะแนนพิเศษซึ่งแตกต่างจากคะแนนนิกายเจ้าจะได้คะแนนพิเศษจากคนอื่นโดยตรงถ้าหากชิงหยกประจําตัวของคนผู้นั้นมาได้เป้าหมายของพวกเจ้าคือกาเอาชีวิตรอดในเขาอสูรและรวบรวมคะแนนพิ เศษที่คนอื่นมีมาให้ได้”
“เขาอสูรคือสถานที่ที่พวกเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นและมีโอกาสดีมากมายแต่เจ้าอาจตายที่นั่นก็ได้”
“จะบอกว่านิกายไม่ยุติธรรมหรือโหดร้ายก็ตามใจเจ้า จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่ดีพวกเจ้าคือผู้บ่มเพาะพลังเป้าหมายของพวกเจ้าควรจะเป็นการแข็งแกร่งขึ้นแทนที่จะติดอยู่แค่ ในนิกายนิกายเองก็ไม่ต้องการพวกคนอ่อนแอในระดับรวมปราณที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมือง”
เมื่อผู้เฒ่าใหญ่พูดจบประโยคเสียงของเขาแข็งขึ้นเมื่อเขาพูดต่อ
“แต่การทดสอบศิษย์นอกปีนี้จะแตกต่างจากปีที่แล้วมาครั้งนี้พวกเจ้าจะต้องแข่งกับศิษย์ต่างนิกายในเขาอสูรจะมี 3 นิกายที่ขนาดฆาทะยานของเรานั่นคือนิกายกระบี่บินหอเวหาคํารามและสํานักเหล็กกล้าศิษย์จากนิกายเหล่านั้นจะชิงคะแนนพิเศษจากเจ้าด้วย และเจ้าก็ควรจะทําเหมือนกัน”
“จงจําไว้ว่าเจ้าจะตายได้ทุกเมื่อในเขาอสูร ไม่ว่าจะเพราะผู้บ่มเพาะพลังคนอื่น หรือสัตว์อสูรถ้าเจ้าอยากรอดเจ้าต้องป่าเถื่อน ความตายมีอยู่ทุกหนแห่งในเขาอสูรและเจ้ามี 2 ทางเลือกเท่านั้น จะเป็นผู้ฆ่าหรือ…ผู้ถูกฆ่าผู้เฒ่าจจะให้คะแนนพิเศษกับเจ้าแต่ละคน”
ส่วนผู้เฒ่าใหญ่หลานฮงนั้น เมื่อพูดจบ เขาชี้ไปที่ผู้เฒ่าจหัวล้านที่อยู่ข้างกาย
หลังจากที่ทุกคนได้รับคะแนนพิเศษเพิ่มในหยกประจําตัวแล้วหลานฮงได้นําหน้าทุกคนไปยังนอกเมืองทางตะวัน ตกก่อนจะตะโกนเสียงดัง
“ทุกคนตามข้ามา”
ศิษย์ส่วนใหญ่รู้สึกใจหายเมื่อตามหลานฮง
“ทําไมจู่ ๆ พวกเราต้องมาเสี่ยงชีวิตอย่างไร้เหตุผลกัน?”
“นั่นสิ ไม่มีใครบอกเรื่องนี้กับเรามาก่อนไม่อย่างนั้นข้าคงจะไม่เข้าร่วมนิกายเมฆาทะยาน”
“นิกายโหดร้ายนัก พวกเขาไม่ได้ถามความสมัครใจของเราก่อนจะสั่งด้วยซ้ํา”
ชุนหลงได้ยินเสียงพร่ําบ่นของคนที่หวาดกลัวรอบตัวเขาเพียงแค่หัวเราะเบา ๆหลังจากที่เขาได้พูดคุยกับเสียงในความมืดข้างในหินกาลเวลา สภาพจิตใจของเขาได้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขากําลังจะคว้าโอกาสทุก อย่างที่มีเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้นเวลา 3 เดือนในนิกายไม่ได้มอบอะไรให้เขานอกจากบ่มเพาะพลังและนั่นทําให้เขาเหนื่อยหน่ายเต็มทนนี่คือโอกาสออกจากนิกายและเป็นโอกาสดีที่เขาจะได้เสี่ยงอันตราย
“นี่คือโอกาสดีที่ข้าจะได้ทดสอบกายาราชันย์นิรันดร์ของข้า
เขาคิดและเดินตามกลุ่มคนไปยังเขาอสูร
หลานฮงรู้ถึงความรู้สึกของบรรดาศิษญ์นอกดีแต่เขาก็ไม่สนใจมากนัก
“ผู้เฒ่าลู่จะอธิบายเรื่องรางวัลที่นิกายจะมอบให้เจ้าตามผลลัพธ์ที่เจ้าทําได้
นี่คือผู้เฒ่าลู่คนเดียวกับที่พาชุนหลงจากอาณาจักรชะตาฟ้ามายังนิกายเมฆาทะยานผู้เฒ่าลู่เจิง
ลู่เจิงที่ตามหลังผู้เฒ่าใหญ่ไม่แม้แต่หันมองกลับเขาเริ่มพูดโดยหันหลังให้ ทุกคน
“พวกเจ้าจะได้รางวัลที่แตกต่างกันจากนิกายตามผลลัพธ์ที่พวกเจ้าทําได้ถ้าหากพวกเจ้ารักษาคะแนนพิเศษหนึ่งคะแนนได้จนจบการทดสอบเจ้าจะได้ รับ 10 คะแนนนิกายขณะที่คนที่เก็บได้ 10 คะแนนพิเศษจะได้ 100 คะแนนนิกาย”
“ผู้ที่มีอันดับ 100 จะได้ 1,000 คะแนนนิกายและทุกอันดับเหนือจากนั้นจะได้รับ 100 คะแนนเพิ่มขึ้นไปอีกนอกเหนือจากนั้นจะมีรางวัลพิเศษกับ 10 อันดับแรกและ 3 อันดับแรกด้วย”
“10 อันดับแรกจะได้รับอาวุธจากปรมาจารย์ค่ายกลระดับเงิน ส่วน 3 อันดับแรกจะได้แหวนมิติ”
เมื่อผู้เฒ่าลู่พูดจบ ศิษย์ทุกคนตกตะลึงรางวัลในปีนี้นั้นดีกว่าปีที่แล้วมาอย่างเห็นได้ชัด
“ท่านผู้เฒ่า แล้วผู้ที่ได้อันดับหนึ่งเล่า?”