Monarch of Time MOT.40 – ความลับที่หลายคนรู้
“เสี่ยวจู้หยานกับเล่ยปงมาแล้ว”
ผู้คนส่งเสียงเมื่อมองไปยังกลางลานประลอง
ชายหนุ่ม 2 คนยืนเผชิญหน้ากัน
ทั้งสองสวมชุดสีเหลือง แต่ทั้งสองใช้อาวุธที่แตกต่างกัน
หนึ่งคนเป็นชายรูปหล่อที่แบกค้อนเหล็กบนหลัง ชุนหลงรู้ว่าเขาเป็นใครในทันที เพราะใบหน้าเขาเหมือนกับเสี่ยวฉีโถวอย่างมาก
“นั่นเสี่ยวจู้หยาน”
ลู่เหวินพูดและชี้ไปที่คนแบกค้อน
“ก็ต้องใช่สิ”
ชุนหลงคิดพลางพยักหน้ารับ
“ส่วนคนผมสีเหลืองอ่อนที่ใช้หอกคือเล่ยปง ผู้มีอันดับ 101 ของลานประลอง”
เจ้าอ้วนฟู่กําลังจะอธิบายต่อ แต่เสี่ยวจู้หยานเริ่มพูดออกมาก่อน
“เล่ยปง เจ้าคิดจริง ๆ รีว่ามีโอกาสเอาชนะข้า? เจ้าแพ้ข้าไปหนึ่งครั้งแล้ว ครั้งนี้เจ้าจะแพ้ข้าอีก”
“เสี่ยวจู้หยาน อย่าคิดว่าข้าเป็นคนเดียวกับเมื่อ 4 เดือนก่อน เจ้าเป็นระดับปฐพีขั้น 5 ชั้นสูงขณะที่ข้าเป็นแค่ชั้นกลาง แต่วันนี้ผลประลองจะไม่เหมือนเดิม”
“ถ้าเช่นนั้นก็แสดงให้ข้าเห็นว่ามันจะแตกต่างกันยังไง”
เสี่ยวจู้หยานพูดเยาะเย้ย ร่างกายของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นวัตถุที่คล้ายกับหินเมื่อถือค้อน
“นั่นคือกายาหินของเสี่ยวจู้หยาน ในขอบเขตพลังเดียวกัน แทบจะไม่มีการโจมตีใดที่ทะลวงพลังป้องกันและทําร้ายเขาได้”
“ยังไม่แน่หรอก วิชาหอกสายฟ้าของเล่ยปงแข็งแกร่งมากและตอนนี้เขาอยู่ในระดับปฐพีขั้น 5 ชั้นสูงแล้ว เขาจะต้องชนะได้แน่”
ผู้คนเริ่มคาดเดากันไปต่าง ๆ นานาถึงผลการประลองเมื่อเล่ยปงถือหอกวิ่งไปที่เสี่ยวจู้หยาน
“การต่อสู้ของพวกเขาแตกต่างกันมาก เล่ยปงใช้รูปแบบโจมตี ส่วนเสี่ยวจู้หยานคือการต่อสู้ในแบบของการป้องกัน”
เมื่อลู่เหวินพูดจบ เล่ยปงก็มาถึงหน้าเสี่ยวจู้หยานแล้ว หอกของเขาแทงไปทางลําตัวของเสี่ยวจู้หยาน
เสี่ยวตู้หยานถอยหลังไป 6 ก้าวและกระอักเลือด ไม่มีรอยแผลในกายาหินของเขาแต่เกราะหินส่วนหนึ่งแตกและหล่นลงพื้นหลังจากปะทะกับเล่ยปง
เสี่ยวโถวกับหลินอู๋หน้าซีดเมื่อเห็นเสี่ยวจู้หยานบาดเจ็บ
ถึงอย่างนั้น เสี่ยวจู้หยานก็มิอาจเจ็บปวดมากนัก กายาหินของเขาค่อย ๆ ฟื้นสภาพกลับมา เขามองเล่ยปงและพูด
“เจ้าโจมตีได้รุนแรง แต่น่าเสียดายที่ยังไม่ใช่คู่มือของข้า”
เล่ยปงตอบด้วยความมั่นใจ
“เจ้าเพิ่งจะกระอักเลือดไปไม่ใช่เรอะ? เจ้าจะอวดดีต่อหน้าข้าไปถึงเมื่อไหร่”
เมื่อเล่ยปงจะแทงหอกอีกครั้ง พลังของเสี่ยวจู้หยานก็เริ่มพุ่งสูงขึ้นและสูงขึ้น จากขั้น 5 ชั้นสูงไปจนมั่นคงที่ขั้น 6 ชั้นต้น
เล่ยปงไม่หยุดวิ่งและแทงหอกไปอีกครั้ง แต่ลึกในดวงตานั้นมีความโกรธเช่นเดียวกับความผิดหวังให้เห็น
เสี่ยวจู้หยานตั้งรับหอกของเล่นปงได้อย่างง่ายดายด้วยค้อนและเมื่อเขาปล่อยหมัดใส่ลําตัวเล่ยปง เล่ยปงก็กระเด็นไปจนถึงขอบลานประลอง
เล่ยปงลุกขึ้นยืนกลับมา เลือดไหลออกจากมุมปาก เขาถาม
“เจ้าเป็นขั้น 6 ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เสี่ยวจู้หยานไม่ตอบ เขาถามกลับ
“คิดว่าเป็นเจ้าคนเดียวที่เพิ่มพลังขึ้น?”
“ต่อให้เจ้าเป็นขั้น 6 ชั้นต้น เจ้าก็ไม่มีโอกาสที่จะชนะศิษย์ในในอีก 5 เดือนได้หรอก เลิกถือตัวได้แล้ว”
เล่ยป่งพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา
“ไม่ว่าข้าจะประลองกับศิษย์ในได้หรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับคนอย่างเจ้าที่มาถึง 100 อันดับแรกไม่ได้ไม่ใช่รึ?”
เล่ยปงออกจากลานประลองไปด้วยความเศร้า เสี่ยวฉีโถวกับหลินอู๋รีบไปแสดงความยินดีกับเสี่ยวจู้หยานก่อนจะออกไปจากลานประลองอย่างเบาใจ
ชุนหลงกําลังจะบอกลาเจ้าอ้วนฟู่และลู่เหวินพอดี เจ้าอ้วนฟู่มองชุนหลงด้วยความจริงจัง
“น้องชาย เจ้าต้องพัฒนาพลังของเจ้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้ ข้าได้ยินว่ามีนักปรุงยาคนหนึ่งในหอสมบัติของเราหาโอสถทลายม่านปราณแบบพิเศษเจอและทําให้คนกลายเป็นขั้น 7 ชั้นต้นหรือแม้แต่ชั้นกลางในระดับรวมปราณได้โดยตรง ข้าพยายามซื้อมันให้กับเจ้า แต่มันก็ถูกคนระดับสูงกว่าในนิกายซื้อไปก่อน”
ชุนหลงกับลู่เหวินตกตะลึงในคําพูดของเจ้าอ้วน ความรู้สึกอบอุ่นเริ่มเกิดขึ้นในหัวใจชุนหลง
“สิ่งที่ข้ากําลังจะบอกถือเป็นความลับที่หลายคนรู้อยู่แล้ว เจ้าต้องเพิ่มพลังให้มากที่สุดในอีก 2 เดือนที่จะมาถึง เพราะถึงตอนนั้นจะเป็นเวลาของการทดสอบศิษย์นอก”