ภาพเมืองหลวงค่อย ๆ ใหญ่ขึ้นในมุมมองของรถม้าที่แล่นเข้าใกล้
จากนั้นอีก 3 ชั่วโมง พวกเขาได้มาถึงหน้าประตูเมือง ชุนหลงเห็นประตูและกำแพงเมืองที่สูงยิ่งกว่ากำแพงเมืองป่าคราม
มีทหารยืนหน้าประตูเพื่อเก็บค่าเข้าเมืองจากทุกคน
แต่ละคนจะต้องจ่าย 1 เหรียญทอง ขณะที่รถม้าจะต้องจ่ายเพิ่ม 10 เหรียญทอง
1 เหรียญทองนั้นเลี้ยงครอบครัว 3 คนได้ถึงครึ่งปีในเมืองหลวง แต่มันคือราคาเล็กน้อยสำหรับปรมาจารย์ค่ายกลอย่างชุนฟาง
คนขับรถม้าจ่ายเหรียญทองให้กับทหารและเมื่อชุนหลงได้เข้าเมืองหลวง ชุนหลงกับชุนฟางจึงลงจากรถม้า
“ไปจองห้องใหญ่ 2 ห้องใน ‘โรงเตี๊ยมหลวง’ 2 คืน”
ชุนฟางสั่งคนขับรถม้าที่โค้งคำนับก่อนจะไปยังโรงเตี๊ยมที่ดีที่สุดในเมือง
‘โรงเตี๊ยมหลวง’ นั้นอยู่ภายใต้การดูแลของราชวงศ์ ราคาเข้าพักสูงกว่าโรงเตี๊ยมอื่นในอาณาจักรชะตาฟ้ามากกว่า 10 เท่าตัว แต่บริการและห้องพักนั้นถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดในอาณาจักรแล้ว
ถึงอย่างนั้นก็มิใช่ว่าใครก็ได้จะได้เข้าโรงเตี๊ยม มีเพียงคนที่มีตำแหน่งอย่างชุนฟางและครอบครัวเท่านั้นที่จะได้พักค้างแรมที่นี่
ชุนหลงกับชุนฟางใช้เวลา 2 วันในการท่องเที่ยวในเมืองหลวงเพราะนี่คือครั้งแรกในเมืองหลวงของชุนหลง พวกเขาชิมอาหารชั้นเยี่ยมและสุราชั้นยอดในเวลากลางวัน ชุนหลงใช้เวลาบ่มเพาะพลังในยามกลางคืน
เขาจดจ่อกับการเพิ่มพลังบอลปราณที่เขาสร้างมาอยู่แล้วให้มีคุณภาพเท่ากับบอลปราณลูกที่ 55 มันเป็นขั้นตอนที่ต้องแลกมาด้วยความพยายามและหยาดเหงื่อ แต่ใน 2 คืนนี้ ชุนหลงได้เพิ่มพลังบอลปราณไปแล้ว 6 ลูก ขั้นพลังของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่พลังโดยรวมของเขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ชุนหลงประเมินว่าเมื่อเขาเปลี่ยนบอลปราณทั้งหมดและเป็นระดับรวมปราณขั้น 7 เมื่อใด เขาอาจจะเอาชนะผู้บ่มเพาะพลังระดับรวมปราณขั้น 9 ได้
ยามเช้ามาถึง ดวงอาทิตย์ขึ้นจากตะวันออกเผยให้เห็นเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนตั้งแต่เช้าตรู่
เหล่าทหารต่างระวังตัวอยู่ในรอบนอกวัง
สามัญชนและชุนนางต้องรอข้างนอกในวันนี้เพราะแขกพิเศษจากนิกายชื่อดังจะมาทดสอบคัดเลือกศิษย์นอกเข้าวังหลวงในวันนี้
ชุนฟางกับชุนหลงมาถึงหน้าทางเข้าวังหลวง ทหารหยุดพวกเขาเอาไว้
“ผู้ที่ไม่ได้เข้ารับการคัดเลือกห้ามเข้าวังหลวง!”
ดูเหมือนว่าเขาจะพูดแบบนี้มาเกิน 100 ครั้งแล้ว
–
ชุนหลงเมินทหารและหันไปมองชุนฟาง
“ท่านพ่อ ข้าไปล่ะ”
ชุนฟางมองลูกชายด้วยความภูมิใจ ตาเขาแดงขึ้นมา
“รออะไรของเจ้า? ไปซะ!”
เขาพูดรบเร้าเพราะพยายามปิดบังความเขินอาย
ชุนหลงยิ้มพร้อมกับหันกลับ เขาเดินไปหาทหารเฝ้าประตู
เขาเผยพลังรวมปราณขั้น 6 ชั้นกลาง เขาสั่ง
“ข้ามาเพื่อรับคัดเลือกนิกายเมฆาทะยาน นำทางข้าไป”
ทหารอึ้งและแอบโมโหเมื่อถูกเด็กหนุ่มกล้าหยาบคายกับตนที่เป็นทหารหลวง โดยเฉพาะกับเด็กที่มีพลังต่ำกว่าเขาซึ่งอยู่ในระดับรวมปราณขั้น 9 …แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
คำสั่งที่เขาได้รับคือใครก็ตามที่ปรารถนาจะเข้าร่วมการคัดเลือกและมีคุณสมบัติตามที่นิกายเมฆาทะยานต้องการจะต้องถูกพาไปที่โถงวัง
เขาพาชุนหลงเข้าไปในวัง พวกเขาเดินผ่านทางเดินซับซ้อนมากมายและตรงไปที่โถงวัง
ชุนหลงเห็นทหารคนอื่นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น
และยังมีทหารระดับปฐพีอีกหลายคนที่ประจำตำแหน่งอยู่เมื่อเขาเข้าไปในวังที่ลึกขึ้น
ชุนหลงกับทหารเดินมาถึงสุดทางเดิน ทหารพูดอย่างใจร้อน
“ถึงแล้ว ข้ามาได้แค่สุดทางเดินโถงวัง ข้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างใน ข้ากลับก่อน”
ชุนหลงเมินทหารอีกเป็นครั้งที่สองของวัน
‘ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงได้น่าเกลียดนัก?’
เขาคิดขณะเดินกลับหน้าประตูวัง
ชุนหลงมาถึงสุดทางเดินและผลักประตูบานใหญ่ข้างหน้า
หนุ่มสาว 21 คนอยู่ในห้องที่ชุนหลงเห็น
ห้องนี้ถูกประดับประดาไปด้วยอัญมณีและหินอันสวยงาม โต๊ะทองคำ แล้วยังมีเก้าอี้หรูหราพร้อมกับที่นั่งอันแสนสบาย
เมื่อชุนหลงมาถึง เหล่าคนหนุ่มสาวทั้งหมดที่อยู่ในห้องอยู่แล้วหันมามองเขา
ส่วนใหญ่คนที่นี่ดูอายุต่ำกว่า 20 ปี แต่ก็มีบางคนที่แก่กว่า
ชุนหลงได้ยินเสียงอันคุ้นเคยพูดกับเขา
“ว้าว น้องชายชุน ข้าไม่คิดว่าเราจะได้มาพบกันที่นี่”
ชายหนุ่มชุดขาวเดินยิ้มมาหาชุนหลง
ชุดสีน้ำเงินและใบหน้าหล่อเหลาของชุนหลงกับชายหนุ่มในชุดขาวได้ทำให้เกิดภาพอันงดงามที่ทำให้เหล่าหญิงสาวหน้าแดงระเรื่อ
ชุนหลงหันไปยิ้มให้ลู่เหวิน
ลู่เหวินเดินมาตบบ่าชุนหลงและพูด
“ฮ่าฮ่าฮ่า ใครจะเชื่อเล่าว่าเพียงเวลาอันเล็กน้อย เจ้าจะก้าวหน้าได้ถึงเพียงนี้ นี่มันเหลือเชื่อไปเลย”
เขากระซิบถาม
“เป็นเพราะโอสถที่ยอดฝีมือคนนั้นให้เจ้ารึ?”
ลู่เหวินรู้ว่าแม้เขาจะสัมผัสพลังของชุนหลงไม่ได้ ชุนหลงจะต้องอยู่ในระดับรวมปราณขั้น 6 อย่างแน่นอนในการเข้ามาในวังหลวง
ที่จริงลู่เหวินเป็นคนที่ถือตัวอยู่ภายใน แต่เมื่อเขาได้ประโยชน์จากหม้อที่ชุนฟางให้เขาในตำหนักชุน เขาจึงมองตระกูลชุนในทางที่ดีเป็นพิเศษ
ความคิดของลู่เหวินนั้นเรียบง่าย
‘ถ้าเจ้าช่วยข้า ข้าจะนับเจ้าเป็นสหาย แต่ถ้าไม่ อย่าคิดว่าข้าจะไว้หน้าเจ้า เพราะข้าคือนักปรุงยาขั้น 2 มากพรสวรรค์’
นั่นคือเหตุผลที่เขาดูอบอุ่นกับชุนหลงในครั้งนี้
ชุนหลงพยักหน้าให้ลู่เหวินและพากันไปหาที่นั่ง เสียงชายที่ไม่คุ้นและดูชิงชังดังตามหลังพวกเขา
“เจ้าคือชุนหลงอย่างนั้นสินะ?”