ชุนฟางมองบุตรชายพร้อมกับยิ้มตอบ
“ไม่ต้องกลัว จากผลปีที่แล้วมา เจ้าสอบผ่านแน่นอน”
ชุนหลงมองบิดาด้วยสีหน้าอึ้ง แต่ชุนฟางกล่าว
“ก็ได้ ไม่ต้องกลัว ข้าจะบอกสิ่งที่ข้ารู้กับเจ้าพรุ่งนี้ ไม่ต้องมองข้าแบบนั้น ที่จริงข้าคิดว่าเราควรจะเดินทางไปเมืองหลวงตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว แต่เมื่อเจ้าไม่ออกมาจากห้องอยู่นาน ข้าจึงทำได้แค่รอจนกว่าเจ้าจะบ่มเพาะพลังเสร็จก่อนออกเดินทาง”
ชุนหลงผงะอีกครั้งและอดถามบิดาไม่ได้
“พวกเรายังมีเวลาอีกหลายวันกว่าจะถึงการทดสอบที่วังหลวงไม่ใช่รึ? เมืองหลวงอยู่ไกลจากเมืองป่าครามไม่ถึงหนึ่งวันด้วยซ้ำ เราไม่จำเป็นต้องรีบไม่ใช่หรือ?”
ชุนฟางมองลูกสาวที่นั่งข้างเขาที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ ‘นิกายเมฆาทะยาน’ เลย เขาพูด
“เจ้าพูดถูกแล้ว เราไม่จำเป็นต้องรีบ ไปเตรียมตัวให้พร้อม อยากได้อะไรจงบอกข้า ข้าจะช่วยเจ้าเอง ไม่ต้องกังวล”
ชุนหลงมองผู้เป็นพ่อด้วยดวงตาชื้น
ตั้งแต่ที่ชุนหลงมาถึงโลกใบนี้ เขามั่นใจว่าเขาจะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองเหมือนในชีวิตก่อนหน้าโดยไม่ต้องหวังพึ่งพาผู้ใด เขาชินกับความคิดแบบนี้และจะไม่เปลี่ยนไปง่าย ๆ แต่พ่อแม่ ‘คนใหม่’ นั้นแสดงความสนใจและห่วงใยเขาอยู่เสมอ มันทำให้เขาเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่าครอบครัว
บิดาของชุนหลงโกรธแค้นแทนเขาที่ตระกูลหลินมาขอให้พวกเขาถอนหมั้น มารดาคิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา ทั้งให้สาวใช้มาบริการอาหาร และให้สาวใช้เหล่านั้นรายงานกลับมาถึงนาง ทั้งสารทุกข์สุขดิบหรือความต้องการของเขา แม้กระทั่งเมื่อครู่ก่อนที่สาวใช้ที่รับหน้าที่จับตาดูห้องของชุนหลงก็มาบอกนางว่านายน้อยซูบผอมเหลือแต่กระดูก ทั้งชุนฟางและชุนอันก็รีบมาที่ห้องอาหารในกลางดึกทันทีเพราะห่วงใยบุตรชาย…และเมื่อได้รู้ว่าเขากำลังฟื้นตัวเมื่อได้รับประทานอาหารจำนวนมากและดื่มน้ำไปมากในคราเดียว พวกเขาก็ไม่แม้แต่จะถามว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาเพียงแค่ยินดีที่เขาไม่เป็นอะไร
สำหรับคนส่วนมากแล้ว สิ่งนี้อาจเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรทำต่อลูก แต่กับชุนหลงที่ไม่เคยสัมผัสถึงความรักของครอบครัวมาก่อน สิ่งเหล่านี้มิอาจประเมินค่าได้เลย
ความรู้สึกอบอุ่นแผ่เข้ามาในใจ ชุนหลงมองพ่อแม่ของตนเดินกลับเรือนพักและเขาเดินกลับไปบ่มเพาะพลัง
การทะลวงผ่านม่านพลังของการบ่มเพาะนั้นไม่ง่าย และในที่สุดชุนหลงก็ได้เห็นปัญหาที่เหนี่ยวรั้งการก้าวเข้าสู่ขั้น 7 ของเขามาโดยตลอด
ในทุกขั้นของระดับรวมปราณ ชุนหลงต้องรวบรวมบอลพลังปราณ 3 ลูกในแต่ละชั้น ซึ่งก็คือชั้นต้น ชั้นกลาง และชั้นสูงตามลำดับ ซึ่งเป็นทั้งหมด 0 ระดับในแต่ละขั้นตามความต้องการของ ‘นาฬิกาทรายราชันย์’
ชุนหลงในตอนนี้มีพลังขั้น 6 ชั้นสูงซึ่งหมายความว่าเขารวบรวมบอลพลังปราณได้ 54 ลูกเหนือศีรษะ แม้ว่ามันจะยากในการดันบอลปราณทุกลูกหลังจากลูกก่อนหน้า มันก็ไม่ควรจะยากถึงขั้นนี้ ถึงอย่างนั้นทุกครั้งที่เขาสร้างบอลขึ้นมาอย่างที่ทำในระดับก่อนหน้า เขาจะล้มเหลวในการดันมันขึ้นไป และพลังปราณจะสลายไปในที่สุด
แต่ในครั้งนี้ ชุนหลงตัดสินใจว่าถ้าหากบอลปราณมีพลังไม่มากพอ เขาจะอัดปราณเข้าไปมากยิ่งกว่าเดิม…และการคาดเดาของเขาทำให้เขาพูดไม่ออกเมื่อทดสอบทำ
ชุนหลงสังเกตว่าบอลปราณที่เคยรวบรวมจนอิ่มตัวได้ง่ายนั้นมิอาจรองรับปราณภายในได้อีก พวกมันกลายเป็นสัตว์หิวโหยที่ต้องใช้ปราณมากขึ้นเพื่อที่จะอิ่ม
เมื่อผ่านไป 3 ชั่วโมง ชุนหลงสามารถสร้างบอลปราณพลังเต็มที่ขึ้นใหม่ได้หนึ่งลูก เขาค่อย ๆ ผลักมันขึ้นไปเหนือศีรษะ…และสุดท้ายหลังจากที่พยายามอย่างยากลำบากมาอีก 2 ชั่วโมง บอลปราณลูกที่ 55 ก็ถูกดันขึนไปรวมกับบอลปราณที่แล้วมา
ต้องใช้เวลาเกิน 5 ชั่วโมงและรุ่งสางกำลังจะมาถึงในอีกไม่นาน แต่ชุนหลงอยากจะลองทำเรื่องบ้า ๆ อีกอย่าง สิ่งที่ไม่มีใครในระดับรวมปราณเคยลอง
“ถ้าข้าใส่พลังปราณในบอลไปมากกว่าที่เคยทำ และทำให้บอลทุกลูกมีคุณภาพเท่าลูกนี้ล่ะ”
เขาพูดและมองดูบอลปราณที่สว่างจ้าที่สุดลูกที่ 55 ที่เขาสร้างขึ้น
เมื่อชุนหลงได้ต่อสู้กับองครักษ์ในตำหนัก เขาได้รู้แล้วว่าต่อให้บอลปราณใช้พลังไปจนหมด มันก็ไม่ได้หายไปไหน
พวกมันยังคงอยู่ที่เหนือศีรษะของเขาในเวลาที่เขาเข้าสู่สมาธิและอยู่ใน ‘นาฬิกาทรายราชันย์’ เขาเพิ่งแค่ต้องเติมมันให้เต็มไปด้วยปราณที่ดูดซับได้จากสิ่งรอบข้าง
ชุนหลงตัดสินใจลองความคิดบ้า ๆ ของเขาในบอลลูกแรกสุดที่เขาสร้างและดีใจที่พบว่าพลังของเขาที่เข้าไปในบอลปราณนั้นทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นอย่างช้า ๆ
–
หลัง 3 ชั่วโมง ชุนหลงเหนื่อยล้าจนหลับไป แต่เขานอนได้เพียงแค่ 2 ชั่วโมงก่อนที่พ่อของเขาจะมาปลุก
ในที่สุดก็ได้เวลาออกจากเมืองป่าครามแล้ว