เล่มที่ 2 ตอนที่ 65(บทที่ 120) – เตรียมต่อสู้
เซียแสดงสีหน้าประหลาดใจและภูมิใจกับการคาดเดาของตัวเอง “ผมเข้าใจแล้ว“
พี่เช่อชื่อและลุงเมสันมองผู้อาวุโสอลูฟาด้วยความตกใจจากนั้นก็หันกลับมามองกันเองด้วยความสับสน
ผู้อาวุโสอลูฟามองมาที่ฉัน ขณะครุ่นคิด จากนั้นก็ปรบมือ *แป๊ะ!* แป๊ะ! แป๊ะ!“
ทุกคนกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงและปรบมือให้
“น้องปิง เธอสุดยอดมากเลย“
“พี่ปิงเก่งมาก“ต้าหลี่ตะโกนด้วยพลังทั้งหมด เธอเสียงดังยิ่งกว่าพี่มีอา ภายใต้การนำของเธอ คนอื่นๆจึงตะโกนตาม
ฉันไม่เข้าใจว่าอลูฟากำลังหมายถึงอะไร พลังพิเศษกำลังวิวัฒนาการ?
ลองคิดดูแล้ว มันอาจเป็นเพราะว่าฉันเพิ่งมาถึงโลกใบนี้ ดังนั้นทางของฉันจึงไม่ได้รับฐานการสืบทอด แต่ได้อิทธิพลมาจากโลก พลังอำนาจของฉันเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ ซึ่งอธิบายได้เป็นอย่างดีว่าทำไมพลังของฉันถึงเหมือนปรากฏการณ์วิวัฒนาการ
ฉันมองไปยังทีมดีอาร์ พี่มีอา เสี่ยวหญิง และหมิงหยูยังคงอึ้ง ส่วนเสวี่ยวกี๋ก็ยกนิ้วให้ ในขณะที่เจ้าหญิงอาร์เซนอลยิ้มรับ
เจ้าหญิงอาร์เซนอลดูขี้เล่นและดูตัวเล็กเมื่ออยู่ในชุดเจ้าหญิง เสน่ห์ของเธอนั้นแตกต่างจากพี่เช่อชื่อที่อยู่ในเครื่องแบบทหาร แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความเซ็กซี่
ในแง่ของประสบการณ์การต่อสู้ ฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองอ่อนแอกว่าแฮร์รี่ ฉันยังสงสัยว่าหน่วยสอดแนมเคยต่อสู้กับเมตาฮิวแมนคนอื่นๆมาก่อนหรือไม่ ในทางกลับกัน ฉันได้ผ่านสถานการณ์การต่อสู้จริง อย่างน้อยก็ 2 ครั้ง
แต่แฮรี่คิดถูกบางอย่าง ในสนามรบ ไม่มีใครชนะได้ด้วยการโอ้อวด หรือไม่มีใครชนะได้ด้วยความเย่อหยิ่ง เราจะชนะกันได้ด้วยพลังที่แท้จริง
บิลเป็นเหมือนอาวุธโจมตีขนาดใหญ่ อาวุธของเขาคือคลื่นเสียง อย่างไรก็ตาม เขาจะต้องเอาปากเพื่อทำเสียงก่อน ฉะนั้น วิธีการที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการจัดการเขา คือยิงเข้าที่หัวไม่ทันตั้งตัว
เมต้าฮิวแมนหลายคนมีโอกาสถูกยิงเข้าที่หัว นั่นคือจุดอ่อน และข้อจำกัดใหญ่ที่สุดของพวกเขา
บิลค่อยๆปิดปากท่ามกลางเสียงปรบมือ เขาดึงยางมัดผมออก ผมยาวห้อยปิดใบหน้า เขาไม่ได้มองมาที่ฉัน แอบชำเลืองมองเสวี่ยกี๋และก้มหน้าด้วยความเขินอาย ดูเหมือนเขากำลังคิดว่าเสวี่ยกี๋จะต้องผิดหวังในตัวเขา เนื่องจากฉันฆ่าเขาทันทีตั้งแต่เริ่ม
เขาก้มหน้าเดินกลับไปที่กองทหารของตน จนเสวี่ยกี๋หายไปจากแนวสายตา ทว่าสายตาของเธอยังคงจับจ้องไปด้านหน้า เธอเดินไปหาบิล และบิลก็หยุดเดินเมื่อเขารู้สึกว่ามีคนขวางทาง
เขาเงยหน้าขึ้นและประหลาดใจที่เห็นเสวี่ยกี๋ เขาตกใจและอยากจะเดินหนี แต่เสวี่ยกี๋ก็หยุดเขา “กัปตันของเราแข็งแกร่งจนน่าตลก การจะแพ้เธอไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรเลย“
บิลกับฉันตกตะลึง แต่ดูแล้วบิลน่าจะดีใจมากกว่า ฉันไม่รู้ว่าฉันกำลังแสดงสีหน้าอย่างไร ทว่าคำอธิบายของเสวี่ยกี๋ บ่งบอกว่าฉันทำหน้าน่าตลก
“อืม“บิลพยักหน้า ความหงุดหงิดจากการพ่ายแพ้หายไปในทันที เขาเชิดคางกลับมามีความมั่นใจเหมือนเดิม
เขาหันกลับมาหาฉัน และกำหมัดขวาแนบกับฝ่ามือซ้าย
“กัปตันหลัวปิง ขอบคุณมาก“เขาโค้งคำนับ ฉันพยักหน้าตอบและหันไปมองเสวี่ยกี๋ “กลับไปประจำแถว“
“ค่ะ!!“สาวๆทุกคนในทีมดีอาร์ วิ่งเข้าแถวข้างหลังฉันอย่างรวดเร็ว พวกเรายืนสง่างามอยู่บนทุ่งกว้างท่ามกลางสายลม แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณอันแรงกล้า
บิลเดินไปข้างหน้าแฮรี่และกล่าวว่า “ผมขอโทษกัปตัน ผมเป็นฝ่ายแพ้“
“มันไม่ใช่ความผิดของนาย” แฮร์รี่ตบไหล่ของบิล เขามองฉันด้วยหางตาของเขา “เสวี่ยกี๋พูดถูก ผู้หญิงคนนั้นแข็งแกร่งอย่างน่าตลก ดูเหมือนเราจะต้องจริงจังแล้ว“
เราทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยความเย็นชา ในที่สุดเขาก็จริงจัง
เขายิ้มเยาะ ดวงตาสีเหลืองอำพันมองเห็นถึงประกายไฟที่ลุกโชน “ไวฟุ ผมจะจริงจังแล้ว เธอก็ระวังตัวด้วย“เขาหรี่ตาแคบ จ้องมองเหมือนดวงตานกอินทรี
“นายก็เหมือนกัน“ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเข้มแล้วหันกลับ ฉันได้ยินเสียงแฮรี่พี่กำลังเตรียมทำสงคราม “พวกนายทุกคนใครจะเป็นคนต่อไป?”
“ผม!“วิลเลี่ยมพูด
“ผมเอง!!“ไคพูด
“พวกเรามีกัน 6 คน และการแกล้งพวกเธอก็ไม่สำเร็จ ฉะนั้นเราจะส่งไปทั้ง 6 คน“
ฉันมองสาวๆ ขณะที่พวกเธอก็มองฉัน
“ตอนที่ฉันสู้กับบิล ฉันต้องการให้พวกเธอรู้ว่าเมต้าฮิวแมนเองก็มีจุดอ่อน ไม่ว่าจะแข็งแกร่งเพียงใด หากเราเจอจุดอ่อน เราก็เอาชนะพวกเขาได้“
ทุกคนพยักหน้าอย่างจริงจัง
ฉันพูดต่อ “เช่นเดียวกัน พวกเธอทุกคนเองก็เต็มไปด้วยจุดอ่อน จริงๆแล้วพวกเธอไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น“
พวกเธอตกตะลึง แม้แต่เสวี่ยกี๋ที่ฝันกลางวันก็มองมาที่ฉัน
ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ความมุ่งมั่นของพวกเธออ่อนแอลง ฉันไม่ได้คิดจะทำให้พวกเธอท้อแท้
ฉันพูดความจริง มันคงไม่มีประโยชน์ที่พูดแต่เรื่องดีเพื่อเสริมขวัญกำลังใจ เราจะต้องกำจัดความภาคภูมิใจของเราออก จากนั้นก็เรียนรู้จุดอ่อนของเราในตอนต่อสู้ ในระหว่างการฝึกครั้งหน้า เราจะเรียนรู้วิธีการซ่อนหรือเสริมจุดอ่อนของตน ให้กลายเป็นคนที่ไม่มีจุดอ่อน
ฉันมองพี่มีอา “พี่มีอา พลังปืนใหญ่ของเธอจะไร้เรี่ยวแรงทันทีที่เธอพลังงานหมด นั่นก็หมายความว่าเธอจะใช้งานมันอีกไม่ได้“
พี่มีอาขมวดคิ้วด้วยความกังวล
ฉันหันกลับไปหาเสวี่ยกี๋ “เสวี่ยกี๋ การใช้งานพลังพิเศษของเธอขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ” ฉันมองขึ้นไปบนฟ้า “และสภาพอากาศวันนี้ ก็ทำให้เธอใช้พลังพิเศษไม่ได้ ถ้าเธอต้องเผชิญหน้ากับศัตรูด้วยสภาพอากาศเช่นนี้ เธอจะทำอย่างไร“
เสวี่ยกี๋มองไปด้านข้าง ครุ่นคิดอย่างหนัก
ฉันมองไปทางหมิงหยู “หมิงหยู พลังพิเศษของเธอคือการรักษา มันไม่เหมาะกับการต่อสู้ เธอคิดว่าเธอจะใช้พลังพิเศษของเธอในตอนต่อสู้ได้อย่างไร“
หมิงหยูถอนหายใจและมองไปที่มือของเธอที่มีแสงสีเขียวจางๆไว้ช่วยชีวิตผู้คน แต่มันใช้ต่อสู้ไม่ได้ แม้แต่ตัวสำรองเธอก็เป็นไม่ได้
ฉันมองไปทางเสี่ยวหญิง ก่อนที่ฉันจะพูด เธอก็พูดขณะที่เธอใช้นิ้วของเธอเต้นดุ๊กดิ๊กไปดุ๊กดิ๊กมา “พลังพิเศษของฉันมีโอกาสน้อยที่จะถูกใช้“ฉันพยักหน้าเห็นด้วย โดยที่ฉันเข้าใจดีว่าการเคลื่อนไหวพริบตา ไม่ได้หมายถึงการเทเลพอร์ต แต่น่าจะเป็นพลังคล้ายๆหมิงหยู ซึ่งอาจใช้ในการขนถ่าย ฉันเองก็ไม่แน่ใจ
ท้ายที่สุด ฉันหันไปหาเจ้าหญิงอาร์เซนอล เจ้าหญิงอาร์เซนอลยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ฉันจะทำให้เธอต้องประหลาดใจ“
“ได้เลย แล้วฉันจะรอดู“ฉันหันกลับไปมองทุกคน “อย่าท้อถอยแม้ว่าจะมีจุดอ่อน เพราะคนของแฮรี่ก็มีจุดอ่อนเช่นกัน บทเรียนในวันนี้คือ ฉันขอให้ทุกคนเรียนรู้ในการระบุจุดอ่อนของศัตรู แม้ว่าเธอจะไม่ได้ใช้พลังพิเศษของพวกเธอ พวกเธอก็สามารถเอาชนะได้ด้วยวิธีอื่น“
“เข้าใจแล้วกัปตัน!!“ทุกคนกลับมามีความกระปรี้กระเปร่ากระตือรือร้น
ฉันหันไปมองแฮร์รี่ พวกเขาเข้ายืนแถว ตรงข้ามเราแล้ว การจัดทีมของพวกเขาเหมือนที่ฉันเดาไว้
เมื่อบิลพ่ายแพ้ในรอบแรก เขาจะไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ในรอบต่อไปได้
เซียเองก็ยังไม่สามารถควบคุมพลังวิเศษของตนเองได้ ฉะนั้น เขาอาจจะลอยขึ้นไปบนอวกาศแล้วก็ตาย ดังนั้นเซียก็จะไม่เข้าร่วม
นั่นจึงทำให้สมาชิกของทีมเหลืออยู่เพียงแค่ 6 คน ก็คือกัปตันแฮรี่ วิลเลี่ยมกระสุน 4 นิ้วมือ เฮอร์คิวลิสไค มนุษย์ล่องหนมูริม คาเมไลอ้อนมอสซี่ จอมกระโดดอวกาศโจอี้
ฉันตั้งชื่อเล่นให้กับพวกเขา