Love Code at the End of the Worldเล่มที่ 2 57(บทที่ 112) – ต้นแอปเปิ้ลแตกหน่อ

เล่มที่ 2 ตอนที่ 57(บทที่ 112) – ต้นแอปเปิ้ลแตกหน่อ

เล่มที่ 2 ตอนที่ 57(บทที่ 112) – ต้นแอปเปิ้ลแตกหน่อ

 

เมืองโนอาห์มีเฉียนลี่ที่มองเห็นได้ไกลถึงพันลี้ ผู้อาวุโสอลูฟาแต่งตั้งให้เขาเป็นดวงตาแห่งเมืองโนอาห์ และเป็นคนที่แฮรี่อิจฉา

แฮรี่เป็นเมต้าฮิวแมนที่แข็งแรงที่สุดในเมืองโนอาห์ แต่เขาก็อิจฉาเฉียนลี่ นั่นก็หมายความว่าแฮรี่ยอมรับในพลังของเฉียนลี่

“เธอจะไปหาเฉียนลี่หรอ?”ราฟเฟิลวิ่งเข้ามา เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเราพูด แฮรี่เริ่มขมวดคิ้ว “ไปหาทำไม?”

“หลัวปิงไม่เคยเจอเฉียนลี่มาก่อน“ราฟเฟิลกล่าว “ผมจะตามทั้งสองคนนี้ไป ส่วนนายถ้าไม่อยากไปก็กลับไปได้เลย“ราฟเฟิลผลักแฮรี่

แฮรี่เลิกคิ้ว “ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของนาย ผมจะไปไหนก็ได้ที่อยากไป ขาก็เป็นขาของผม“แฮรี่จับไหล่ราฟเฟิล ยิ้มและกลอกตาอย่างเจ้าเล่ห์

เจ้าหญิงอาร์เซนอลหัวเราะ ขณะดูแฮรี่และราฟเฟิลใกล้ชิดกัน

ระหว่างที่เดินตามหลังเจ้าหญิงอาร์เซนอล พวกเราเดินไปในทางใต้ดินของโนอาห์ ที่มีลำห้วยเรียงรายทั้งสองข้างทาง แสงไฟค่อยๆสว่างย้อมไปด้วยสีเหลือง

ระยะห่างของโคมไฟแต่ละดวงห่างกันมาก คล้ายกับเดินไปตามถนนเล็กๆในชนบท กระจกใสด้านบนแสดงให้เราเห็นว่านี่คือเวลากลางคืน กลางคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวและพระจันทร์เสี้ยว

ข้างลำธารมีทุ่งข้าวสาลีอยู่ 2 ผืน ข้าวสาลีสีดำยืนนิ่งอยู่ใต้ดวงจันทร์ พวกมันมีลักษณะคล้ายเด็กหญิงถักเปียยืนเรียงเป็นระเบียบใต้แสงจันทร์ซีด ลำต้นสูงพอๆกับข้าวโพด รวงข้าวมีขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกเหมือนองุ่นดำ

ขนมปังที่เรากินทำมาจากข้าวสาลีสีดำนี้ มันช่างน่าสะอิดสะเอียน

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ตอนนี้มันมีเพียงเท่านี้

ฉันได้ยินมาจากผู้คนในเมืองโนอาห์ว่าราฟเฟิลเป็นคนปลูกข้าวสาลีดำ มันเติบโตในหนึ่งฤดูกาลซึ่งก็คือ 3 เดือน แต่ละครั้งจะสามารถผลิตได้เป็นจำนวนมากทำให้คนอยู่รอดได้ นอกจากจะไม่อร่อยแล้ว คุณสมบัติอื่นๆมัน ก็เหมาะสำหรับวันสิ้นโลก

ฉันแทบไม่เคยมาที่นี่เลย เมื่อเดินไปตามทุ่งข้าวสาลี ฉันรู้สึกสงบและผ่อนคลาย

แม้ทุ่งข้าวสาลีจะมีเพียงแค่ 2 แห่ง เราก็ไม่ควรดูถูก พวกมันเลี้ยงดูคนเมืองโนอาห์ทั้งเมือง

มีเรือนกระจกอยู่บนถนนที่ห่างออกไป เรือนกระจกถูกสร้างขึ้นมาจากแผ่นกระจก แต่ไม่มีอะไรในนั้นเลยนอกจากดินสีดำ ดินสีดำนุ่มฟูจากการพรวนดิน

” ที่นั่นเราปลูกอะไร?”ฉันถามคราวๆ

ทุกคนมองมาที่ฉันและราฟเฟิลก็ยิ้ม “แอปเปิ้ล แอปเปิ้ลของเธอ“

ฉันรู้สึกประหลาดใจ

ราฟเฟิลเดินไปที่เรือนกระจก เขากวักมือเรียกฉัน “มานี่สิ“

เจ้าหญิงอาร์เซนอลเดินไปพร้อมกับฉัน เธอยกชายกระโปรงขึ้นและเดินอย่างระมัดระวัง ขณะที่แฮรี่ส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย เขาดูจะไม่สนใจเรื่องไร่นา สนใจอยู่อย่างเดียวคือการต่อสู้

“มันอยู่นั่น“ราฟเฟิลชี้นิ้วเข้าไปข้างใน ทั้งหมดที่ฉันเห็นคือดิน ฉันไม่รู้เลยว่าเขาชี้ไปที่ไหนกันแน่ “มันอยู่ตรงนั้น!! ผมปลูกเมล็ดแอปเปิ้ลไว้ตรงนั้นทั้งหมด 4 เมล็ด“ราฟเฟิลยิ้มอย่างเขินอาย ภายใต้แสงจันทร์ที่อ่อนโยน ดวงตาของเขาดูอบอุ่น ราวกับว่าเขากำลังมองดูลูกๆ ที่รักของเขาอย่างอ่อนโยน

*บรี๊ซซซซซ!*ไฟรอบๆกระพริบ *พรึบบ* ไฟดับ เป็นเรื่องปกติมากที่ไฟฟ้าจะไม่พอใช้ในเมืองโนอาห์

อย่างไรก็ตาม ขณะที่แสงดับลง แสงจันทร์ก็ส่องจากด้านบนสู่เรือนกระจก สายตาของฉันเห็นจุดสีเขียวเล็กน้อย!

“มันงอก!!“ฉันอุทานด้วยความตกใจ!

“อะไร?”แฮรี่ก็ดูจะสนอกสนใจและขยับเข้ามาใกล้ฉัน

“ตรงไหน? อยู่ตรงไหน?”เจ้าหญิงอาร์เซนอลก้าวมาข้างหน้าด้วยความตื่นเต้น เธอรีบเปิดประตูเรือนกระจก

ทุกคนเดินเข้าไปข้างใน มีเพียงแค่ราฟเฟิลที่ยังคงยืนอึ้ง เขามองไปตามนิ้วมือของฉัน นัยน์ตาสีฟ้าอมเทาของเขาเป็นประกายภายใต้แสงจันทร์

พวกเราเดินตรงไปข้างๆต้นหน่ออ่อน มีอยู่ต้นเดียวเท่านั้นที่แตกหน่อ มันดูเล็กมากท่ามกลางดินอ่อนนุ่ม มันแทบจะไม่เห็นหากไม่สังเกตให้ดี ถ้าไม่ใช่เพราะไฟดับ ฉันก็คงไม่เห็นต้นอ่อนน้อยน่ารักนี้

“มันแตกหน่อจริงๆด้วย!!“เจ้าหญิงอาร์เซนอลประสานมือเข้าด้วยกัน ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรักและอ่อนโยน

เธอพูดด้วยน้ำเสียงเบาบาง ราวกับกำลังกังวลกลัวว่าจะทำให้ต้นน้อยๆพวกนี้ตกใจ

“ราฟเฟิล นายจะเป็นพี่เลี้ยงที่ดีมาก“แฮรี่มองราฟเฟิลที่ยังคงยืนตกตะลึงอยู่ข้างนอก ราฟเฟิลยิ้มกว้างเต็มใบหน้า แต่งแต้มไปด้วยแสงจันทรา เหมือนน้ำแร่ที่หยดลงไปในหัวใจ ปลอบโยนทุกคน

ในที่สุดราฟเฟิลก็ฟื้นคืนสติกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง เมื่อเขาเข้าไปใกล้ เขาย้ำฝีเท้าด้วยน้ำหนักเบาที่สุด

“มันมีสีเขียว!!“ราฟเฟิลพูดอย่างงุนงง เขาไม่ได้ฟังที่คนอื่นพูด เขากำลังใช้มันสมองและไอคิวคิดคำนวณ

“ต้นกล้าทุกต้น ก็เป็นสีเขียวเหมือนกันหมด!!“ฉันพูด ทุกคนมองไปยังข้าวสาลีสีดำนอกห้อง ก็ได้ ข้าวสาลีสีดำเป็นสีดำ

“เอาสวยมาก“ราฟเฟิลประคองต้นอ่อนด้วยมือ ทุกการกระทำของเขาดูน่ารัก อันที่จริง เมืองโนอาห์ตั้งชื่อเล่นได้เหมาะสมกับเขามาก เขาเหมือนกระต่ายสีเทาที่มีหูย้อย จริงสิ ฉันเคยเห็นเขาใช้ชื่อกระต่ายหูพับในศูนย์เอกสารเมืองโนอาห์ด้วย

ที่นี่ไม่ค่อยมีความบันเทิง จะมีก็แค่ตอนหนังคืนวันศุกร์ ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ก็เป็นสารคดี เพื่อบอกต่อให้กับผู้คนรุ่นหลังได้รู้ว่าโลกใบนี้เคยเป็นอย่างไร วัฒนธรรมและอารยธรรมจะได้สานต่อไม่ถูกลืมเลือน

แฮรี่เคยบอกว่าเขตที่อยู่ในโลกภายนอกได้สูญเสียอารยธรรมไปแล้ว คนข้างนอกไม่รู้จักแม้แต่คำพูด ภาษา หลังจากที่ฉันได้ยิน มันทำให้ฉันนึกถึงสังคมชนเผ่าดึกดำบรรพ์ที่ซ่อนอยู่ในป่าลึก

*พรึบบ*ทันใดนั้นแสงสว่างก็กลับคืน แสงไฟอ่อนๆส่งไปที่ต้นอ่อน ราฟเฟิลประคบประหงมเป็นอย่างดี เพื่ออนาคตมันจะได้กลายเป็นต้นแอปเปิ้ลแสนอร่อย

ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกกังวลอะไรบางอย่าง ฉันมองไปที่ต้นข้าวสาลีสีดำ ราฟเฟิลจะไม่ปลูกลูกแอปเปิ้ลรสชาติจืด ใช่ไหม?

หลังออกจากเรือนกระจก ราฟเฟิลก็ดื่มด่ำไปกับความสุขที่ต้นแอปเปิ้ลแตกหน่อ ไม่น่าแปลกใจที่เขาตื่นเต้น เพราะเขาทุ่มเทความพยายามให้กับมันเป็นอย่างมาก

 

Love Code at the End of the World

Love Code at the End of the World

Score 10
Status: Completed

เรื่องย่อ

หลัวปิงเด็กสาวอายุ 16 ปีกำลังจุดธูปขอพรแต่แล้วสิ่งที่เธอได้คือการข้ามกาลเวลาข้ามอวกาศมาสู่ดวงดาวแคนซัส ซึ่งในขณะเดียวกันดวงดาวแคนซัสก็กำลังจะถึงจุดจบ

ด้วยความที่ไม่รู้เกี่ยวกับโลกต่างดาว หลัวปิงจึงหวาดกลัว โชคดีที่เมืองโนอาห์ให้ที่พักพิงแก่เธอ เธอจึงได้รับโอกาสในการออกสำรวจโลกใหม่

ความขาดแคลนทำให้โลกถึงคราวอวสาน กัมมันตรังสีแพร่กระจายอย่างหนัก อาหาร น้ำ ทรัพยากรขาดแคลน ภัยอันตรายพบเจอได้ทุกหนแห่งผลลัพธ์จากสภาพแวดล้อมอันป่าเถื่อน ทำให้มนุษย์บางคนได้รับการวิวัฒนาการและเข้าถึงพลังพิเศษ ในขณะที่หลายต่อหลายคนก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดหรือวิญญาณ มนุษย์ที่มีร่างกายต้านทานรังสีจะถูกเรียกว่านักผจญรังสี และนักผจญรังสีส่วนใหญ่ก็จะมีพลังพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของตน และพวกเราจะเรียกพวกเขาว่าพวกเหนือมนุษย์(เมต้าฮิวแมน)

เมื่อไม่รู้ว่าจะกลับไปยังโลกของเธอได้อย่างไร หลัวปิงจึงติดชะงักอยู่ที่นี่และต้องหาวิธีเอาตัวรอด เธอต้องพึ่งพาทักษะการต่อสู้ที่เธอได้เรียนรู้จากพ่อของเธอและพลังพิเศษใหม่ที่เธอพัฒนา ตลอดไปถึงความช่วยเหลือจากเหล่าคนที่เธอชอบ หลัวปิงจะช่วยเหลือโลกใหม่อันแสนแปลกประหลาดนี้ได้หรือไม่?

Options

not work with dark mode
Reset