Love Code at the End of the Worldเล่มที่ 2 51(บทที่ 106) – เรื่องสำคัญตอนออกภาคสนาม

เล่มที่ 2 ตอนที่ 51(บทที่ 106) – เรื่องสำคัญตอนออกภาคสนาม

เล่มที่ 2 ตอนที่ 51(บทที่ 106) – เรื่องสำคัญตอนออกภาคสนาม

 

*หนึ่งสอง! หนึ่ง สอง!*เรากำลังวิ่งไปที่หน้าผา มันมีโลกไร้พรมแดนกำลังรอเราอยู่

ดินแดนแห่งแรงสีแดงซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นภาพหน้าเศร้าสำหรับฉัน ตอนนี้มันกำลังทำให้เสวี่ยกี๋ เสวี่ยวหญิงและพี่สาวมีอาตื่นเต้น พวกเธอไม่เคยออกจากเมืองโนอาห์ พวกเธอเป็นเหมือนลูกสาวล้ำค่าที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีในอ่างน้ำทองคำ ไม่เคยได้แม้แต่จะก้าวเท้าออกจากเมือง ทุกคนตื่นเต้นแม้ว่าจะได้เห็นเพียงแค่มุมเดียวของโลกใบนี้

“อ๊าาาาา!!“เสี่ยวหญิงและพี่สาวมีอาร้องตะโกนอยู่บนหน้าผา จากนั้นพวกเธอก็กระโดดโลดเต้นกันอย่างคึกคัก แม้ว่าพื้นดินจะเป็นโคลนมีกลิ่นกรดอยู่ในสายลม พวกเธอก็ยังคงมีความสุขเหมือนว่าตัวเองได้ก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่

ความแข็งแกร่งของเมต้าฮิวแมนแตกต่างจากคนทั่วไป พวกเขาคือมนุษย์ที่มีการวิวัฒนาการ แม้ว่าภัยพิบัติจะทำให้โลกถึงกาลอวสาน แต่มันก็ทำให้มนุษย์เกิดการวิวัฒนาการ

แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่สามารถวิวัฒนาการได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสติปัญญา และโชคชะตาที่ได้ถูกรับเลือก สำหรับคนอื่นๆที่โชคไม่ดี พวกเขาอาจจะพบเจอกับความตาย หรือไม่ก็กลายเป็นสัตว์ประหลาด เช่นนกศพ

หลังจากที่ฉันสมัครถึงพลังพิเศษของตน ร่างกายของฉันก็ประสบความเปลี่ยนแปลงที่น่าเหลือเชื่อ

การได้ยินของฉันคมชัดขึ้น การตอบสนองก็เร็วขึ้น ความแข็งแกร่งและการเคลื่อนไหวก็พัฒนาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เดิมทีแล้วฉันกังวลว่าพลังของฉันอาจจะเหมือนหมิงหยูซึ่งเป็นเพียงความสามารถด้านสนับสนุน อย่างไรก็ตาม เมื่อฉันว่องไวและแข็งแรงขึ้น ฉันเริ่มเชื่อแล้วว่าตัวเองสามารถสังหารศัตรูในแดนข้าศึกได้!!

เสวี่ยกี๋ยืนอยู่ข้างหน้าผากับฉัน เธอมองลงไปก้นเหวโดยปราศจากอารมณ์ใดๆบนใบหน้า ดวงตาสีซีดของเธอเปลี่ยนสีชมพูเนื่องจากสะท้อนสีดิน

“ฮาาาา!!“ทันใดนั้น เธอเบี่ยงมือขวาออกไปราวกับว่ากำลังชักดาบออกจากฝัก จากนั้นก็ชี้เป้าไปทางทิศเหนือและกล่าวว่า “พวกคนบาป!! ยอมรับผิดมาซะดีๆ!! พวกเราคือเหล่าขุนนาง มีหวาดหวั่นต่อความขลาดกลัว!!“

ร่างกายของฉันแข็งทื่อ

พี่สาวมีอาหัวเราะแล้วเดินไปข้างหน้า เธอจิ้มแขนเสวี่ยวกี๋โดยที่เธอยังคงแสดงท่าทางเหมือนหุ่นกระบอกโดยไม่สนใจพี่มีอา

เสวี่ยวหญิงมองไปทางเสวี่ยวกี๋ด้วยรอยยิ้มขบขัน

พี่สาวมีอาขยับมือของเสวี่ยกี๋ไปทางทิศตะวันตก และกล่าวว่า “เสวี่ยกี๋ เมืองภูติคราสอยู่ทางทิศตะวันตก เธอชี้ไปผิดทิศแล้ว“

เสวี่ยกี๋กระพริบตาแต่ยังคงสงบนิ่ง “โอ้” จากนั้นเธอก็หรี่ตา สายตาของเธอเหมือนแสงออโรร่าพุ่งตรงไปยังเมืองภูติคราสทางทิศตะวันตก คล้ายแสงเลเซอร์ยิงโจมตี

“เอาละสาวๆ กลับกันเถอะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราจะมาที่นี่ทุกวัน เก็บเสียงตะโกนเอาไว้ใช้วันหลัง“ฉันพูด

“รับทราบ!!“ทุกคนตอบอย่างพร้อมเพียง นี่คือก้าวแรกของพวกเธอที่ได้ออกสู่โลกภายนอก มันยังคงห่างไกลจากโลกแห่งความเป็นจริง

ขณะที่เราวิ่งกลับ แฮรี่ก็ตามเราจนทำ ดูเหมือนเขาจะคุ้นเคยกับเส้นทางวิ่งออกกำลังกายของฉันมาก

“หมิงหยูเป็นอย่างไรบ้าง?”ฉันถาม

เขายิ้มและพูดว่า “เธอไม่เป็นไรแล้ว เธอกำลังพักและเธอก็บอกว่าเธอฝึกต่อไหว“

ฉันพยักหน้า หมิงหยูเป็นผู้ใหญ่แล้วมั่นคง เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนว่าเธอเป็นพี่สาว อาจเป็นเพราะบทบาทในฐานะผู้รักษา เธอจึงต้องเอาใจใส่และระมัดระวังเป็นพิเศษ

วันใหม่ในเมืองโนอาห์ เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับการฝึกอบรมครั้งใหม่ของพวกเรา

ทีมช่างยังคงปฏิบัติงานในเมืองโนอาห์ต่อเนื่อง ทีมก่อสร้างก็ดูแลไม่ให้ไฟฟ้าถูกใช้ไปอย่างสิ้นเปลือง ทีมเกษตรคอยดูแลพืชผลสุก ทีมวิจัยก็สอนบทเรียนต่างๆให้เด็กๆ เพื่อรับรู้ถึงวัฒนธรรมในเมือง

มีเพียงแค่ทีมดีอาร์ที่อยู่ในสนามฝึก แฮรี่นั่งอยู่ข้างๆยิ้มให้ฉัน สายตาของเขาทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดใจ ฉันมองเขาและยิ้มอย่างมีเลศนัย คล้ายว่าเขากำลังรอให้ฉันทำผิดพลาด ทำให้ตัวเองอับอาย

ฉันขมวดคิ้วและหันไปมองสาวๆตรงหน้า หมิงหยูกลับมาสู่ทีมในสภาพที่ดีขึ้น ฉันรู้สึกได้ว่าแฮร์รี่กำลังจ้องมองที่หลังของฉัน ฉันต้องหาอะไรให้เขาทำ

“หน่วยสอดแนมมีประสบการณ์การทำงานภาคสนามที่ยอดเยี่ยม ตอนนี้ฉันขอเชิญหัวหน้าหน่วยสอดแนมมาแบ่งปันประสบการณ์ของเขากับเรา” ฉันหันไปมองแฮร์รี่ “แฮร์รี่!”

เขาอึ้ง ก่อนจะยิ้ม ลุกขึ้นและวิ่งมายืนข้างฉันอย่างรวดเร็ว เขาชำเลืองมองฉันด้วยท่าทางสนุกสนาน แต่เมื่อเขาหันไปมองสมาชิกดีอาร์ สีหน้าของเขาก็ดูเคร่งขรึม แบบเดียวกับตอนที่พี่สาวเชอชื่อฝึกเรา

เขาเอามือไขว้หลัง พูดด้วยน้ำเสียงสดใสและชัดเจน “สิ่งสำคัญที่สุดในการออกสนามคือ….กลับมาได้อย่างปลอดภัย!!“

ทุกคนเริ่มจริงจังและตั้งใจฟังแฮรี่พูด

“พวกเธอต้องจำไว้ว่าทรัพยากรอะไรก็ช่างไม่สำคัญเท่าชีวิตของเธอ!!“สิ่งที่เขาเตือนฉันทำให้ฉันนึกถึงคำพูดของผู้อาวุโสอลูฟา นี่คือหลักการของเมืองโนอาห์ ซึ่งทำให้ทุกคนอุ่นใจ

แม้แฮรี่จะบอกว่าผู้คนในโลกภายนอกถ้าไม่ตายก็เห็นแก่ตัว แต่สิ่งต่างๆในเมืองโนอาห์กลับแตกต่างออกไป ทุกคนแบ่งปัน ทั้งความใจดี อ่อนโยน โหยหาอนาคตที่สวยงาม…..ไม่มีใครเห็นแก่ตัว

ฉันเชื่อว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์จะไม่มีทางสูญพันธุ์

“ประการที่สอง อย่าบอกชื่อจริงของพวกเธอกับใคร อย่าบอกว่ามาจากไหน อย่าหลงเชื่อใครก็ตามจากโลกภายนอก!!“ฉันมองไปที่อแฮรี่ เขายังคงเคร่งขรึม “นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด เมื่ออยู่ข้างนอก จงสังเกตให้มากที่สุด“แฮรี่ชี้ไปที่ตาของเขาก่อนจะชี้ไปที่ปาก “และพูดให้น้อยลง“

“รับทราบ!!“สาวๆขานรับ

“การเปิดเผยอะไรก็ตามเกี่ยวกับเมืองโนอาห์ จะนำมาซึ่งภัยอันตรายนับไม่ถ้วนแก่เมืองโนอาห์!! พวกเธอเข้าใจใช่ไหม?”

“เข้าใจแล้ว!!“

แฮรี่พยักหน้า “สุดท้าย ทำภารกิจให้สำเร็จและกลับมาด้วยชัยชนะ!!“แฮรี่มองด้วยความภาคภูมิใจ ความเคร่งขรึมของเขาจางหายไปอย่างรวดเร็ว เขาชี้ไปที่ตราดาวสีเงินที่หน้าอกแล้วพูดว่า “ดูนี่สิ นี่คือหลักฐานความแข็งแรงของผม!!“

“ช่างเหอะ“นผลักเขาออกไปก่อนที่เขาจะพูดจบ เขากลายเป็นคนไร้สาระ นี่คงเป็นลักษณะเด่นของเขา

เขาถึงกับสะดุดจากนั้นก็ยืนข้างๆ พร้อมกับหัวเราะ

ฉันมองดูบรรดาสาวๆและถามว่า “ได้ยินที่กัปตันแฮรี่พูดหรือไม่?”

“ได้ยินค่ะ!!“

“ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้ทุกคนก็คิดรหัสแทนตน!! เราจะใช้มันทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก!!“

“ค่ะ!!“ทุกคนแล้วดมความคิด

พี่สาวมีอาขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก เหมือนว่าการคิดรหัสชื่อจะเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับเธอ

ดวงตาของเสี่ยวหญิงเป็นประกาย เห็นได้ชัดว่าเธอมีชื่ออยู่ในหัวแล้ว

เสวี่ยกี๋มองไปข้างหน้าอย่างไร้ความรู้สึก

หมิงหยูดูสงบขณะที่เธอพยักหน้า

เวลาทำภารกิจจำเป็นต้องมีชื่อรหัส ตอนที่ฉันพูดกับพ่อ พวกเราก็ใช้ชื่อรหัสเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นชื่อจำพวกนกอินทรีย์ เสือขาว หรือไม่ก็ตอนแรก ตอนฉันอายุน้อย ท่านลุงเคยเรียกฉันว่าเจ้าเด็กน้อย

ตอนนี้ฉันเป็นกัปตันแล้ว เจ้าเด็กน้อย ฟังดูไม่เจ๋งเอาซะเลย

Love Code at the End of the World

Love Code at the End of the World

Score 10
Status: Completed

เรื่องย่อ

หลัวปิงเด็กสาวอายุ 16 ปีกำลังจุดธูปขอพรแต่แล้วสิ่งที่เธอได้คือการข้ามกาลเวลาข้ามอวกาศมาสู่ดวงดาวแคนซัส ซึ่งในขณะเดียวกันดวงดาวแคนซัสก็กำลังจะถึงจุดจบ

ด้วยความที่ไม่รู้เกี่ยวกับโลกต่างดาว หลัวปิงจึงหวาดกลัว โชคดีที่เมืองโนอาห์ให้ที่พักพิงแก่เธอ เธอจึงได้รับโอกาสในการออกสำรวจโลกใหม่

ความขาดแคลนทำให้โลกถึงคราวอวสาน กัมมันตรังสีแพร่กระจายอย่างหนัก อาหาร น้ำ ทรัพยากรขาดแคลน ภัยอันตรายพบเจอได้ทุกหนแห่งผลลัพธ์จากสภาพแวดล้อมอันป่าเถื่อน ทำให้มนุษย์บางคนได้รับการวิวัฒนาการและเข้าถึงพลังพิเศษ ในขณะที่หลายต่อหลายคนก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดหรือวิญญาณ มนุษย์ที่มีร่างกายต้านทานรังสีจะถูกเรียกว่านักผจญรังสี และนักผจญรังสีส่วนใหญ่ก็จะมีพลังพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของตน และพวกเราจะเรียกพวกเขาว่าพวกเหนือมนุษย์(เมต้าฮิวแมน)

เมื่อไม่รู้ว่าจะกลับไปยังโลกของเธอได้อย่างไร หลัวปิงจึงติดชะงักอยู่ที่นี่และต้องหาวิธีเอาตัวรอด เธอต้องพึ่งพาทักษะการต่อสู้ที่เธอได้เรียนรู้จากพ่อของเธอและพลังพิเศษใหม่ที่เธอพัฒนา ตลอดไปถึงความช่วยเหลือจากเหล่าคนที่เธอชอบ หลัวปิงจะช่วยเหลือโลกใหม่อันแสนแปลกประหลาดนี้ได้หรือไม่?

Options

not work with dark mode
Reset