เล่มที่ 2 ตอนที่ 50(บทที่ 105) – วันแรกในฐานะกัปตัน
หน้าของฉันแดงก่ำ ฉันบังเอิญเหลือบไปเห็นจึงพยายามพูดด้วยท่าทางสบายๆว่า “ตอนนี้ฉันคงต้องขอตัวไปฝึกก่อน“ฉันปิดเครื่องมือสื่อสารอย่างรวดเร็ว หัวใจของฉันยังคงเต้นรัว ความฝันมันน่ากลัวมาก
สิ่งที่เกิดขึ้นในโบราณสถานโครทำให้ฉันเกลียดความวิตกกังวลและแรงกดดัน
ฉันสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ แล้วหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมา เชื่อมต่อกับเสวี่ยกี๋ พี่มีอา หมิงหยูและเสี่ยวหญิง และพูดตะโกนว่า “หมาป่าแอลฟาสาว!! ตื่น!! ฉันไม่สนใจหรอกว่าพวกเธอจะอยากหาผู้ชายมาเก็บเพิ่มหรืออยากจะไปผจญภัย หรือว่าอยากจะแก้แค้น สิ่งที่พวกเธอต้องทำคือฝึกฝนให้หนัก! ใครที่มาถึงเป็นคนสุดท้ายบ่อยที่สุดจะเสียโอกาสในการออกไปนอกสนามฝึก!!“จากนั้นฉันก็ลุกขึ้นยืน ยืดตัวอกแอ่น วันแรกของการเป็นกัปตันทีมได้เริ่มขึ้นแล้ว!!
ห้าโมงเช้า ท้องฟ้าสว่างสดใส ฉันยืนมือไขว้หลังอยู่ที่จัตุรัสตะวันออก รอเพื่อนร่วมทีมมารวมตัว
*ตุบ ตับ*เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบผ่ากลางเมืองโนอาห์ที่แสนเงียบสงบ เสวี่ยกี๋มาถึงเป็นคนแรก ตามมาด้วยพี่มีอาและเสี่ยวหญิง โดยปกติแล้วทุกคนจะตื่นประมาณเจ็ดโมง
พี่มีอายังคงหาว
คนสุดท้ายที่มาถึงคือหมิงหยู เธอมาด้วยความรีบร้อนและยังแต่งกายชุดเตรียมสู้ไม่เสร็จ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอต้องใส่ชุดเตรียมสู้ เธอยืนอยู่ที่ริมเส้นขณะที่เธอขยับปรับเครื่องแต่งกายของเธอให้เรียบร้อย “ฉันเป็นคนสุดท้ายหรือเปล่า?”
“อืม“พี่มีอามองด้วยความเสียใจ
หมิงหยูมองมาที่ฉันทันทีด้วยความรู้สึกผิด “ขอโทษนะกัปตัน ฉัน….“
“ไม่จำเป็นต้องขอโทษฉัน“ฉันมองเธอด้วยสายตาจริงจังเคร่งขรึม “หมิงหยู ฉันเข้าใจดีว่าเธอมาจากทีมแพทย์ ปกติแล้วเธอไม่ได้ฝึกฝน อย่างไรก็ตาม เธอกำลังจะออกไปข้างนอกกับพวกเรา หนูจะพูดให้ตรงประเด็นกว่านั้นคือ เธอกำลังจะเป็นคนที่ต้องไปออกทำงานภาคสนาม!! ซึ่งสิ่งที่ฉันต้องการคือความไม่ชักช้า เธอควรจะขอโทษตัวเอง!“
หมิงหยูตะลึง “ค่ะ! กัปตัน! พรุ่งนี้ฉันจะไม่มาสายอีก!“
สาวของฉันจะไม่ใช่คนที่ต้องคอยให้ท้าย พวกเธอเชื่อฟังคำสั่ง เยี่ยมมาก!!
“เริ่มต้นจากวิ่งทางไกล!!” ฉันพูด จากนั้นฉันก็พาทุกคนวิ่งจ๊อกกิ้งออกจากเมืองโนอาห์ สิ่งที่สำคัญที่สุดในฐานะคนที่ต้องปฏิบัติงานภาคสนามคือกำลัง
*ตุบตับตุบตับ*เสียงเท้าย่ำกับพื้นสะท้อนก้องอยู่ในอุโมงค์
จากสมาชิกทั้งหมดของทีมดีอาร์(DR) ฉันเป็นห่วงหมิงหยูมากที่สุด เนื่องจากปกติแล้วเธอไม่ได้เข้ารับการฝึกฝนด้านกำลัง การต้องออกแรงจนกลายเป็นเรื่องที่ลำบากที่สุด อย่างไรก็ตาม สนามรบนั้นเป็นกลางสำหรับทุกคน มันไม่ปล่อยให้ใครก็ตามได้เปรียบเพียงเพราะเป็นผู้รักษา รังสีจะไม่มีผลต่อคุณน้อยลงเพียงเพราะว่าเป็นผู้รักษา
ประตูเมืองโนอาห์เปิดกว้างรอพวกเรา ท้องฟ้าสีเทาด้านนอกและแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องผ่านช่องประตู อาบชโลมพื้นดินให้กลายเป็นสีทอง
เมื่อฉันวิ่งออกจากประตูเมืองโนอาห์ แฮรี่ก็กระโดดออกมาจากด้านข้างและวิ่งขนาบข้างฉัน เขายิ้มแก้มปริ “ไวฟุ เธอออกมาวิ่งจ๊อกกิ้งเหรอ? ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ ผมก็ออกมาวิ่งด้วย!“
ฉันไม่สนใจเขา และยังคงวิ่งเหยาะๆไปข้างหน้า แฮรี่หันมาวิ่งออกกำลังกายตั้งแต่ตอนเช้าตรู่เมื่อไหร่กัน?
“พวกเราก็ออกมาวิ่งออกกำลังกายเหมือนกัน“เสียงของพี่มีอาและเสี่ยวหญิงดังมาจากด้านหลังแถว แฮรี่ตกตะลึงและหันกลับไปมองพวกเธอ เขาตัวแข็งไปชั่วขณะ ปล่อยให้สาวๆวิ่งผ่าน
“เธอ? ทำไมพวกเธอถึงอยู่ที่นี่?”แฮรี่มองพวกสาวๆด้วยสายตาโง่เขลา เห็นได้ชัดว่า เขาคาดการณ์ผิด ปกติแล้วฉันวิ่งจ๊อกกิ้งคนเดียวมาตลอด แต่วันนี้ฉันพาทีมดีอาร์ออกมาวิ่งด้วย
พี่มีอาและผู้หญิงคนอื่นๆหยุดอยู่ตรงหน้าเขาด้วยรอยยิ้มทะเล้น มีเพียงแค่เสวี่ยกี๋ที่วิ่งตามติดฉันอยู่ด้านหลัง
“ฮ่าฮ่าฮ่า!! เหมือนจะมีใครบางคนอยากจะใช้เวลาอยู่กับกัปตันของเราสองต่อสอง นายพลาดโอกาสแล้ว พวกเราจะออกมาวิ่งที่นี่ทุกวัน!“เสี่ยวหญิงยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อเห็นแผนของแฮรี่ล้มเหลว
ฉันหันกลับไปแล้วตะโกนว่า “ฉันบอกให้พวกเธอหยุดวิ่งแล้วหรือ?”
พี่มีอาและเสี่ยวหญิงถึงกับสะดุ้ง
หมิงหยูมองไปที่แฮรี่ เหมือนว่าเธอไม่รู้จะพูดอะไร เธอจึงสายหน้าและเดินตามหลังเสี่ยวหญิง
ฉันหันหลังกลับแล้ววิ่งต่อ ขณะที่สาวๆเองก็วิ่งตามหลังฉัน
แฮรี่สบตาฉัน และวิ่งเร่งความเร็วเพื่อมาขนาบข้างฉัน เขาวิ่งเหยาะๆ ขณะที่มองฉัน “ไวฟุ ทำไมเธอถึงพาคนอื่นๆมาวิ่งกับเธอด้วย?”
“อย่าชวนคุยตอนวิ่ง!! มิฉะนั้นก็อย่ามาวิ่งตาม!“ฉันตอบตรงไปตรงมา
แฮรี่ไม่พูดอะไรต่อ เขาทำหน้ามุ่ย แต่ก็ยิ้มขณะวิ่งข้างๆฉัน พวกเรายังคงวิ่งต่อไปภายใต้แสงแดดแย้มฟ้า
หลังจากวิ่งได้ประมาณ 3 กิโลเมตร หมิงหยูก็ไม่สามารถวิ่งได้อีกต่อไป เธอหอบใบหน้าซีดเซียวเหงื่อท่วมตัว และลงไปนั่งกับพื้น
“กัปตัน!! หมิงหยูไม่ไหวแล้ว“พี่มีอาช่วยพยุงหมิงหยู เราไม่มีทางเลือกนอกจากหยุดวิ่ง
หมิงหยูหอบขณะที่เธอพูดว่า “ขอ ขอโทษ“
“หมิงหยู ก็อย่างที่ฉันบอกไปก่อนหน้านี้ ไม่ต้องขอโทษพวกเรา“ฉันนั่งยองตรงหน้าเธอ ซึ่งเธอก็มองฉันด้วยความรู้สึกผิด ฉันจึงยิ้มและตอบว่า “เธอไม่เคยผ่านการฝึกฝนมาก่อน เธอจึงต้องฝึกฝนแบบค่อยเป็นค่อยไปทีละขั้นที่ละตอน แฮรี่!!“
“ครับผม ไวฟุ!!“แฮรี่วิ่งมาพร้อมกับรอยยิ้ม เขามีพลังเหลือล้น ไม่หอบเลยแม้จะวิ่งมาไกลถึง 3 กิโลเมตร
ฉันมองไปที่เขาแล้วสั่งมา “แบกหมิงหยูกลับ“
“ว่าไงนะ?!”แฮรี่ตกใจ
หมิงหยูเองก็ตกใจเหมือนกัน เธอมองแฮรี่อย่างเขินอายแล้วก้มหน้า
แฮรี่มองไปที่หมิงหยูแล้วยิ้ม “ได้เลย!“
เขานั่งยองๆตรงหน้าหมิงหยู “ขึ้นมาได้เลย หมิงหยู“
“ฉะ ฉันไม่เป็นไร นายไม่ต้องแบกฉัน“หมิงหยูรู้สึกนาย
แฮรี่ส่ายหน้า “กระโดดขึ้นมาได้เลย ไม่ต้องกังวล พ่อบอกว่าลูกผู้ชายต้องทำตามคำสั่งภรรยา ภรรยาของฉันสั่งให้ผมแบกเธอกลับ ดังนั้นผมก็จะแบบเธอกลับเอง“
หมิงหยูหลงไปกับคำพูดของแฮรี่
“หมิงหยู เธอกำลังคิดอะไร“พี่มีอาช่วยพยุงหมิงหยูขึ้นไปบนหลังแฮรี่ “เธอแทบจะยืนด้วยขาตัวเองไม่ได้เลย“
เสี่ยวหญิงมองหมิงหยูด้วยความกังวล
เสวี่ยกี๋ยังคงมองตรงไปข้างหน้า “พวกเราไปต่อกันได้หรือยัง“เธอถามซ้ำๆ
แฮรี่แบกหมิงหยูไว้บนหลังและยืนตรงหน้าฉันด้วยรอยยิ้มทะเล้น “ไวฟุ รอผมด้วยนะ ผมจะรีบกลับมาทันทีที่ส่งเธอเสร็จ“
ฉันขมวดคิ้วและกรอกตาไปที่เขา ก่อนจะหันหลังกลับแล้วพูดว่า “พวกเธอที่ ไปกันต่อ!“ฉันยังคงพาทุกคนวิ่งจ็อกกิ้ง เมื่อฉันมองกลับไป ฉันเห็นแฮรี่กำลังแบกหมิงหยูอยู่บนหลัง ภายใต้แสงเงายามเช้า ร่างของเขาเคลื่อนไหวเร็วมาก พลังของเขาคืออะไรกันแน่?
“พลังพิเศษของแฮร์รี่คืออะไร?”ฉันวิ่งช้าลงเพื่อจะได้ถามสาวๆคนอื่นๆ
“เดี๋ยวเธอจะได้เห็นเอง“พี่มีอาหัวเราะ เหมือนเธอต้องการจะทำให้มันดูลึกลับยิ่งขึ้น
ฉันมองไปที่เสี่ยวหญิงและถามว่า “เสี่ยวหญิง แล้วพลังของเธอล่ะ?”ในระหว่างการฝึก ฉันไม่เคยเห็นแฮรี่และเสี่ยวหญิงใช้พลังพิเศษของตัวเองเลย ฉันรู้แค่ว่าแฮรี่สามารถรักษาตัวเองได้ ซึ่งฉันก็เห็นมันกับตาตัวเองตอนที่อยู่บนมังกรน้ำแข็ง อย่างไรก็ตาม เพียงแค่พลังรักษาตัวไม่มีทางที่จะทำให้เขาได้รับชื่อเสียง ฐานะมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองโนอาห์แน่ เมต้าฮิวแมนที่แข็งแกร่งที่สุดควรจะมีพลังโจมตีรุนแรง
“ฮ่าฮ่าฮ่า เดี๋ยวเธอจะเห็นเอง“เสี่ยวหญิงก็พยายามทำตัวลึกลับเช่นกัน
ก็ได้ ตอนนี้ไม่มีภารกิจให้ออกปฏิบัติในอนาคตอันใกล้ ด้วยเรี่ยวแรงในปัจจุบันของหมิงหยู พวกเราจะไม่ออกไปจากเมืองโนอาห์อีกแน่อย่างน้อยก็ 2-3 เดือนข้างหน้า
ฉันตะโกน “วิ่งให้ไว สาวๆ! อย่าวิ่งแบบกุ้งขานิ่ม!!“
“ค่ะ กัปตัน!!“
“ว่าแต่กุ้งขานิ่ม มันคืออะไร?”
“ฉันก็ไม่รู้ อาจจะคล้ายกับชายตาบอดขาอ่อนแรงมั่ง?”
ในโลกที่ขาดแคลนทรัพยากร เป็นธรรมดาที่พวกเธอจะไม่เคยเห็นกุ้ง ยิ่งพิจารณาจากสีหน้าที่แสดงออก พวกเธอน่าจะไม่เคยได้ยินคำว่ากุ้งด้วยซ้ำ