เล่มที่ 2 ตอนที่ 45(บทที่ 100) – กัปตันหลัวปิง
ฉันเผชิญหน้ากับพี่เช่อชื่อเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความจริงจังของฉัน จากสายตาที่เร่าร้อนของเธอ ฉันเองก็มองเห็นความปรารถนาแบบเดียวกัน
“หลัวปิง บอกฉันหน่อยสิ ว่าจะเธอรับประกันเรื่องความปลอดภัยของพวกผู้หญิงได้?”พี่เช่อชื่อถาม
ผู้อาวุโสอลูฟา เจ้าหญิงอาร์เซนอล ลุงเมสันและคนอื่นๆมองมาที่ฉันอย่างใจจดใจจ่อ
ฉันตอบเสียงดังฟังชัดเลยว่า “ไม่!“
พี่เช่อชื่อตกใจ ทุกคนต่างสับสน
ลุงเมสันมองฉันด้วยความตื่นตระหนก “ไม่? ถ้าหากเธอทำไม่ได้ แล้วทำไมเธอถึงคิดว่าเธอจะสามารถนำทีมดีอาร์(DR)ออกไปนอกเมืองโนอาห์ได้“เขาถามเสียงดัง
ฉันหันหน้าไปมองด้านข้างด้วยความเคร่งขรึม “เพราะฉันเชื่อว่าผู้หญิงทั้งหมดในทีมดีอาร์สามารถปกป้องตัวเองได้!“
ทุกคนตะลึงงัน
ฉันพูดต่อไปว่า “ในโลกนี้ ถ้าหากยังมีคนต้องการให้คนอื่นปกป้อง นั่นก็แสดงว่าคนคนนั้นไม่มีความสามารถพอจะออกไปทำงานภาคสนาม และไม่มีคุณสมบัติพอจะติดตามฉันออกไปที่ปฏิบัติงานภาคสนาม! ดังนั้น“ฉันเงยหน้ามองพี่สาวเช่อชื่อและลุงเมสัน “เมื่อพี่ถามฉันว่าฉันรับประกันได้ไหม ฉันจึงตอบว่าไม่!! แต่ฉันอยากจะถามสาวๆในทีมดีอาร์ว่าพวกเธอปกป้องตัวเองได้หรือไม่? พวกเธอมีความสามารถในการปกป้องตัวเองตอนออกไปทำภารกิจภาคสนามได้หรือไม่?”เสียงอันสดใสของฉันดังก้องไปทั่วโรงเก็บยานบิน
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เสียงตอบกลับจากข้างหลังของฉันดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง “ได้!“
ฉันยิ้ม ฉันเชื่อมั่นในตัวสาวๆทุกคนในทีมดีอาร์ ฉันเชื่อมั่นในความสามารถของพวกเธอ เช่นเดียวกับที่ลุงเมสันและพี่สาวเช่อชื่อเชื่อมั่นในตัวแฮรี่และกองทหารสอดแนมของเขา
แฮรี่เป็นลูกชายของพวกเขา ถ้าพวกเขาไม่เชื่อในความสามารถของแฮรี่ พวกเขาจะปล่อยให้แฮรี่ออกไปเสี่ยงตายหรอ?
ในทีมที่แข็งแกร่ง นอกจากทุกคนจะได้รับหน้าที่ของตัวเองแล้ว ทุกคนยังต้องรับผิดชอบตัวเองด้วย เพราะในสงคราม ทุกคนต้องพร้อมเสียสละ รวมไปถึงกัปตันทีมด้วย แล้วถ้าหากกัปตันทีมตาย ผู้คนในทีมก็จะไปต่อไม่ได้เหรอ!! ผิดแล้ว ถึงจะไม่มีผู้นำพวกเขาก็ต้องก้าวเดินต่อไป จนกว่าภารกิจจะสำเร็จ
ฉะนั้น ฉันจึงต้องการทีมแบบนี้ ทีมของผู้หญิง!!
ลุงเมสันและพี่เช่อชื่อมองฉันอยู่นานมาก
ก่อนที่จะมีเสียงตบเท้าดังขึ้นจากด้านหลัง พี่มีอา เสวี่ยกี๋ เสี่ยวหญิงและหมิงหยูก้าวเดินขึ้นมายืนเคียงข้างฉัน พวกเขาแสดงความเคารพแบบทหาร “ได้โปรดให้พวกเราได้ออกไปภาคสนามด้วย!!” ถึงจะเป็นน้ำเสียงแผ่วบางแบบหญิงสาว แต่ก็ดังฟังชัดอัดแน่นไปด้วยพลัง!! พวกเธอเหมือนดอกกุหลาบป่าที่เบ่งบานอยู่ในทะเลทราย มันเป็นกุหลาบที่แข็งแกร่ง
พี่เช่อชื่อแสดงความรู้สึกมากมาย เธอมองไปที่ผู้อาวุโสอลูฟาซึ่งผู้อาวุโสอลูฟาเองก็พยักหน้าตอบ แววตาของเธอยิ่งจุดประกายความมุ่งมั่นมากขึ้น
“ตกลง หลัวปิง!!“เธอมองฉันด้วยสายตาเคร่งขรึม
“ค่ะ!“ฉันเชิดหน้ายืดอก
“ฉันขอสั่งให้เธอขึ้นเป็นกัปตันทีมดีอาร์!! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะรับหน้าที่นำทีมดีอาร์ออกปฏิบัติภารกิจ!“
“รับทราบ!!“ฉันยิ้ม ตั้งแต่ที่ฉันได้ออกจากเมืองโนอาห์ บินไปพร้อมกับมังกรน้ำแข็งและเห็นท้องฟ้ากว้างใหญ่ ฉันก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นในหัว ฉันต้องการนำทีมดีอาร์ออกไปข้างนอกให้พวกเธอได้โบยบินบนท้องฟ้าอย่างอิสระแทนที่จะเป็นดอกไม้คอยได้รับการปกป้องอยู่ในเรือนกระจก
“มีอา!!“พี่เช่อชื่อตะโกนเสียงดัง
“ค่ะ!“
“ตั้งแต่นี้ ฉันขอมอบหน้าที่ให้เธอเป็นรองกัปตันทีมดีอาร์!“
“รับทราบ!“พี่มีอายิ้มอย่างมีความสุข
“เสวี่ยกี๋ เสี่ยวหญิง หมิงหยู!“
“ค่ะ!!“
“เมื่อพวกเธอออกไปปฏิบัติภารกิจภาคสนาม พวกเธอจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของหลัวปิงอย่างเคร่งครัด!!“
“รับทราบ!“
พี่เช่อชื่อมองดูทีมดีอาร์ของเธออย่างภาคภูมิใจ ดวงตาของเธอเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา การแสดงออกของเธอดูอ่อนโยนขึ้นเมื่อเธอมองไปที่สาวๆทีมดีอาร์ “เด็กสาวโตกันหมดแล้ว!“น้ำเสียงของเธอดูนิ่มนวลมาก เธอเปรียบเสมือนแม่ของพวกเรา “ฉันเสียใจอยู่เพียงอย่างเดียวคือไม่สามารถพาพวกเธอออกไปโบยบิน แต่ตอนนี้ หลัวปิงทำได้แล้ว“
“พี่เช่อชื่อ“พวกผู้หญิงสะอื้น
“ครั้งต่อไปที่หลัวปิงออกปฏิบัติภารกิจ ก็ตามเธอไป แต่ก็ระมัดระวังตัวด้วยเข้าใจนะ?”
“พี่เช่อชื่“ทุกคนเข้ากอดพี่เช่อชื่อขณะที่พี่ใหญ่ของสาวๆก็ขอจูบหน้าผากของเด็กๆทุกคน เด็กสาวเปรียบเสมือนลูกของเธอ เป็นดั่งเลือดเนื้อของเธอ ฉันรู้ว่าโลกภายนอกมันอันตรายแค่ไหน ดังนั้นพี่เช่อชื่อจึงไม่อยากจะปล่อยให้ทีมดีอาร์ออกจากเมืองโนอาห์ไปเผชิญหน้ากับโลกอันแสนโหดร้ายที่ยืนหยัดอยู่บนกฎแห่งป่า
ผู้อาวุโสอลูฟาพยักหน้าแล้วยิ้มอย่างซาบซึ้ง สมาชิกในทีมขนถ่ายสินค้าดูอิจฉา
เจ้าหญิงอาร์เซนอลเดินมาหาฉันและยิ้มให้ลุงเมสัน “ลุงเมสัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทหารกองสอดแนมของนายมีคู่แข่งแล้ว“
“ฮ่าฮ่าฮ่า“ลุงเมสันพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “คู่แข่งตัวฉกาจ“
“พี่เช่อชื่อ“ฉันมองพี่สาวเช่อชื่อ ซึ่งเธอก็ให้ค่อยๆปล่อยสาวๆออกจากอ้อมกอด ฉันกล่าวด้วยความเคร่งขรึมว่า “ก่อนที่ฉันจะนำทีมดีอาร์ออกไปปฏิบัติภาคสนาม ฉันต้องการให้พวกเธอผ่านการฝึกภาคสนามก่อน“
“ได้เลย เธอรับผิดชอบได้เลย“พี่เช่อชื่อเชื่อมั่นในตัวของฉัน จากนั้นเธอก็มองไปที่เหล่าเด็กผู้หญิงและกล่าวว่า “ตามผู้นำหลัวปิงเข้ารับการฝึกตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป พวกเธอไม่เคยผ่านการฝึกภาคสนามดังนั้นมันอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่ฉันเชื่อว่าพวกเธอทำได้“
“อืม!“เหล่าเด็กผู้หญิงพยักหน้าอย่างมุ่งมั่น ฉันเชื่อว่าพวกเธอมีนิสัยแน่เข้มแข็ง และไม่อยากจากพวกเด็กผู้ชาย ฉันจึงต้องทำความเข้าใจในความสามารถและกำหนดบทบาทให้พวกเธอระหว่างการออกปฏิบัติภาคสนาม
ดูเหมือนว่าพวกเรายังต้องผ่านการฝึกอีกมากกว่าจะได้โบยบิน
ซึ่งรวมถึงตัวของฉันเองด้วย ฉันได้เรียนรู้ข้อบกพร่องของฉันที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติภารกิจล่าสุด
“กัปตัน!!” ทันใดนั้นพี่มีอาและสาวๆคนอื่นก็เรียกฉัน ฉันมองไปที่พวกเธอ ซึ่งพวกเธอก็รีบกระโดดเข้ามาหาฉัน โดยเฉพาะกับเสี่ยวหญิงที่มาไวสุด ก่อนที่เธอจะมาถึง หน้าอกของเธอก็มาถึงตัวฉันก่อน แรงกระแทกทำให้ฉันถึงกับสะดุด
“เสี่ยวหญิง! ระมัดระวังหน้าอกหน่อย!“พี่มีอากล่าวทุกคนส่งเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน “ฮ่าฮ่าฮ่า….“
เสี่ยวหญิงทำหน้ามุ่ยแล้วหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่อิจฉาหน้าอกของเธอ
“อ๊ากกกกก!“ใครบางคนตะโกนร้อง ทำให้ทุกคนสนใจ มันจะต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น ปรากฏว่า พวกเขามองเห็นกรงเล็บของมังกรน้ำแข็งกำลังดึงเอาตัวหุ่นยนต์ของเมืองพระจันทร์เงินออกมา มันทำให้ทุกคนของทีมขนถ่ายสินค้าตกใจเป็นอย่างหนัก
“หุ่นยนต์ที่มันอะไร?”ทุกคนมองดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ฉันยิ้ม “หุ่นยนต์เมืองพระจันทร์เงินที่ถูกจับกุม“
“เมืองพระจันทร์เงิน?!”ทุกคนร้องอุทานด้วยความประหลาดใจต่างคนต่างเข้าล้อมรอบมัน นี่คือตัวแทนของเทคโนโลยีที่ล้ำเลิศที่สุดในโลก
“ทุกคนสามารถดูและสัมผัสได้แต่จะต้องระมัดระวัง“ผู้อาวุโสอลูฟาเตือน
“ยินดีด้วย หลัวปิง“เจ้าหญิงอาร์เซนอลยิ้มให้กับฉัน ซึ่งฉันก็ยิ้มตอบ เธอดูจะอิจฉา “ตอนนี้เธอเป็นผู้นำทีมแล้ว“
“อืม!“ฉันกลายเป็นกัปตัน และจะได้เติบโตไปพร้อมกับสมาชิกในทีมของฉัน
ทรัพยากรถูกจัดสรรให้กับพี่เหมยซีและคนอื่นๆ เด็กๆได้รับนมผงกับแป้งข้าว แม้ว่าพวกเขาจะเป็นแค่เด็ก แต่ผู้อาวุโสอลูฟากล่าวว่าทุกคนสามารถลองในสิ่งที่ไม่เคยลองได้
มีเพียงเด็กเท่านั้นที่มีสิทธิพิเศษในการกินอาหาร ในขณะที่ผู้ใหญ่ทำได้เพียงแค่จ้องมองด้วยความหิวโหย ในที่สุดพี่เช่อชื่อก็เปิดกระป๋องนมและเด็กๆก็เข้ามาลองชิม พวกเขาเอานิ้วจิ้มนมผง ในขณะที่พวกผู้ใหญ่น้ำตาไหลด้วยความดีใจ มันช่างเป็นภาพที่น่าจดจำ