เล่มที่ 2 ตอนที่ 24(บทที่ 79) – ภารกิจฉุกเฉิน
ฉันรู้สึกขอโทษที่ต่อยเขา ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต่อยเขาทำไม ฉันไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็อดไม่ได้เมื่อเห็นหน้าเขาใกล้ๆ ดูเหมือนมันจะกลายเป็นสัญชาตญาณไปแล้ว ความประทับใจแรกพบที่มีต่อเขามันย่ำแย่มาก น่าจะทำให้เกิดความชอกช้ำบางอย่าง
“เธอต่อยผมเหรอ?!” แฮรี่มองฉันด้วยสายตาสับสนและผิดหวังอย่างที่สุด “เธอ….ต่อยใบหน้าอันหล่อเหลาของผมลงได้ยังไง?”เขาชี้ไปที่หน้าของตัวเองเห็นได้ชัดว่าเขาภูมิใจในความหล่อเหลาอย่างมาก
ฉันกำลังจะขอโทษแต่เมื่อเห็นใบหน้าอันแสนไร้ยางอายของเขาผนวกกับคำพูดที่ไร้ยางอาย ฉันก็กลืนคำขอโทษของตัวเอง “ก็ใช่ ฉันต่อยนาย แล้วมันยังไง? ใครบอกให้นายแอบเข้ามาในห้องของฉันตอนที่ฉันนอนอยู่!! นายมันน่าขยะแขยงมาก“ฉันลูบหน้าตัวเอง “นายน้ำลายย้อยใส่หน้าของฉันอีกแล้วเหรอ?”
แฮรี่ยืนนิ่งด้วยความโกรธ ดวงตาของเขาเบิกกว้างพูดไม่ออก
เขาเอามือกุมขมับ สายหน้าแล้วชี้มาที่ฉัน “หลัวปิง!! ก็อย่างที่ผมเคยอธิบายให้ฟัง เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มันเป็นอุบัติเหตุ!! ผมเห็นเธออยู่ในยานอวกาศของเมืองพระจันทร์เงิน ท่ามกลางเขตแผ่รังสี ผมจึงไปรับตัวเธอออกมา เธอขอให้ผมช่วยชีวิตเธอ ซึ่งมันก็ทำให้ผมสงสัยว่าทำไมเธอถึงอยากออกจากเมืองพระจันทร์เงิน ยิ่งไปกว่านั้น เธอเป็นผู้หญิง!! มีผู้หญิงคนไหนในโลกที่ไม่อยากไปเมืองพระจันทร์เงินบ้าง? ดังนั้น….. ผม….. ผมก็บังเอิญ…..“เขาอ้ำอึ้งหน้าแดง เกาหัวแล้วชี้ไปที่โต๊ะ “ถ้าผมเข้ามาในห้องเธอไม่ได้ แต่ทำไมเจ้านั่นถึงจะนอนอยู่ที่นี่ได้?!” เขาไม่สามารถอธิบายการกระทำของตัวเองได้ เขาจึงเลือกเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
ฉันมองไปนั่งข้าง และได้รู้ว่าราฟเฟิลนอนหลับฟุบอยู่บนโต๊ะ!!
ราฟเฟิลเป็นคนดี เขาเว้นระยะห่างกับฉันตลอดทั้งคืน
แต่ริมฝีปากของเขาเหมือนจะขยับระหว่างที่เขาบ่นพึมพำว่า “รังสีที่หายไป 10000 แฮกเกอร์ เครื่องชำระล้างทำความสะอาดได้เพียงแค่ 200 แฮกเกอร์ต่อชั่วโมง…..“
แฮกเกอร์เป็นหน่วยวัดการแผ่รังสีในโลกซึ่งตั้งชื่อตามศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญรังสีลึกลับแฮกเกอร์โจนส์ ว่ากันว่าเมื่อซักกะบาทตกสู่พื้นโลกเมื่อ 1 ปีก่อนวันสิ้นโลก ศาสตราจารย์แฮกเกอร์โจนส์ได้เข้าตรวจสอบและค้นพบรังสีที่ไม่ทราบชนิด ในท้ายที่สุด 1 ปีถัดมา วันสิ้นโลกก็มาถึง รังสีได้ปกคลุมไปทั่วทั้งโลก
“เป็นไปไม่ได้ที่จะทำความสะอาดรังสีได้เร็วขนาดนั้น“
“เขายังไม่ตื่น แต่กลับพูดอยู่“ฉันมองแฮรี่อย่างงุนงง
แฮรี่ไม่ได้สนใจที่จะมองราฟเฟิลเลยด้วยซ้ำ “ราฟเฟิลเป็นพวกซินเนสทีเซีย เป็นไปได้สูงมาก ที่สมองอีกครึ่งซีกจะทำงานขณะที่เขาหลับ มันคือพลังพิเศษของเขา เขาเองก็เป็นเมต้าฮิวแมน“
ห๊ะ? ฉันคิดมาตลอดว่าสมองของราฟเฟิลพัฒนาได้ดีกว่ามนุษย์อย่างเรา แต่ปรากฏว่าเขาก็เป็นเมต้าฮิวแมน
ฉันลุกขึ้นจากเตียงเมินเฉยแฮรี่ที่เกาะอก เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมประหลาด ฉันเดินเข้าไปหาราฟเฟิลแล้วขยับหน้าเข้าไปใกล้ๆหน้าของเขาเพื่อดูให้ชัด ซึ่งมันทำให้ฉันรู้ว่าต่อให้ดวงตาสีฟ้าอมเทาของเขาจะเปิดอยู่ แต่รู้ม่านตาของเขาไม่ได้โฟกัสอะไรเลย
“เฮ้ เฮ้ เฮ้ อย่าเข้าไปใกล้!!“แฮรี่ดึงฉันออกมา “ระเบียบการของโนอาห์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของชายและหญิงเป็นเรื่องที่เข้มงวดมาก!! ผู้ชายไม่สามารถนอนในห้องของผู้หญิงได้ตามที่ใจต้องการ!! เธอปล่อยให้เขามาค้างคืนในห้องของเธอได้อย่างไร”
“ตอนนั้น นายเองก็เอาฉันมาซ่อนไว้ในห้องของนาย!!“ฉันตะโกนกลับ มันเป็นคำกล่าวหา ผู้พิพากษามีอิสระในการเผาบ้านในขณะที่คนทั่วไปห้ามใช้แม่ตะเกียงไฟ ยิ่งไปกว่านั้น ราฟเฟิลอาจจะหลับไปเพียงเพราะเขาเหนื่อยมาก เขาไม่ได้ปิดประตูด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้น แฮรี่จะเข้ามาในห้องนี้ได้อย่างไร?
จากผู้ชายทั้งหมดในเมืองโนอาห์ ราฟเฟิลเป็นคนที่มีพิษมีภัยน้อยที่สุด เขาเป็นสุภาพบุรุษซะยิ่งกว่าสุภาพบุรุษ
แฮรี่ถึงกับจุกขณะที่โดนฉันประณาม ดวงตาของเขากรอกลิงค์ไปทั่ว ในที่สุดเขาก็ทำได้เพียงแค่จ้องมองราฟเฟิลและเตะเขา “เจ้ากระต่ายฟ้า!! ตื่น!!” เขาระเบิดความโกรธที่มีใส่ราฟเฟิล
ราฟเฟิลผื่นขึ้นพร้อมกับสยายผมที่ห้อยอยู่ข้างใบหน้า มันเหมือนหูกระต่ายที่ขยับได้จริงๆ รูม่านตาขยายออกด้วยความตกใจขณะที่เขากระพริบตาด้วยความสับสน เมื่อทุกอย่างกระจ่าง เขาถึงกับสะดุ้ง มองฉันก่อนจะหันไปมองแฮรี่ “ผมเผลอหลับไปหรอ?”
แฮรี่ใบหน้าเกรี้ยวกราด “อืม!“
ราฟเฟิลยืนแข็งทื่อที่เดิม ใบหน้าแดงแจ๋
ฉันรู้สึกว่าพวกเขากำลังทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ” นายกำลังจะทำอะไร? ฉันเคยนอนอยู่ในโกดังของราฟเฟิลด้วยซ้ำ“
“แล้วมันจะเหมือนกันได้อย่างไง?”แฮรี่กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม เหมือนทหารที่เคร่งวินัยเตรียมบรรยาย “โกดังกลับห้องนอนเป็นสถานที่ที่แตกต่างกัน การนอนบนพื้นดินก็ยังแตกต่างจากการนอนบนเตียง นอกจากนี้ ตอนที่เธอนอนอยู่ในโกดัง เธอก็มีพี่สองอยู่ด้วย ไม่ได้มีแค่เธอกับราฟเฟิลอยู่ด้วยกันสองต่อสอง เธอเข้าใจไหม?”
*ชิ* ฉันไม่อยากจะเสวนากับแฮรี่ “ตอนนั้นก็มีแค่นายกับฉันที่อยู่ในห้องของนาย“
“นั่นแหละคือสาเหตุที่แม่ของผม โยนผมลงมาจากชั้น 3!!”แฮรี่พูดด้วยความโกรธ เขาหันหน้าหนีทำท่าบึ้งตึง “ผมถูกประจานกลางที่สาธารณะ” เขากัดฟัน
เมื่อเขาพูดถึงเรื่องนั้น ฉันก็จำได้ว่ามันเป็นอะไรที่มีความสุขมาก พี่เช่อชื่อได้ลงโทษเขากับลุงเมสันอย่างสาสม
“ขะ ขอโทษ“ราฟเฟิลรีบเก็บหนังสือเล่มเล็กของเขาอย่างเร่งรีบ
“หมายความว่าอะไร ขอโทษนั่นน่ะ? กลับไปทำงาน!!“แฮรี่เหมือนจะไม่พอใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นวันนั้น เขายื่นมือไปจับคอเสื้อราฟเฟิล จนราฟเฟิลสะดุด
เขาจ้องมองใบหน้าแดงระเรื่อของราฟเฟิลจากนั้นก็ชี้มาที่ฉัน “หลัวปิง เธอไม่ควรปล่อยให้ผู้ชายคนไหนเข้ามาในห้องของเธอได้ ซึ่งมันก็รวมถึงเจ้ากระต่ายน้อยคนนี้ด้วย!!” เขาชี้นิ้วไปที่ราฟเฟิลผู้ที่กำลังตีเขาด้วยสมุดเล่มเล็ก “นายคือกระต่ายน้อย!! หลัวปิง ควรจะเป็นฝ่ายปกป้องนายแทน!!” ราฟเฟิลผลักแฮรี่ออกไปด้านข้าง แขนเสื้อของเขาขยับขึ้น เผยให้เห็นสร้อยข้อมือที่ฉันมอบให้กับเขาโดยไม่ตั้งใจ
แฮรี่คว้าข้อมือราฟเฟิล และจ้องมองไปที่สร้อยข้อมือ “มันมาจากไหน?”
“หลัวปิง มอบมันให้ผม!! หี!!“ราฟเฟิลปัดมือแฮรี่ออก แฮรี่จ้องมองมาที่ฉัน “เธอให้ของขวัญกับเจ้ากระต่ายหรอ?!” เขามองฉันด้วยความไม่เชื่อราวกับว่าฉันมอบของขวัญให้กับศัตรูของเขา
แฮรี่และราเฟิลหันเหความสนใจไปที่สร้อยข้อมือจึงหยุดเถียงกัน ในที่สุดห้องนี้ก็กลับมาสู่ความสงบ
“เสียงเอะอะอะไรกัน?”ทันใดนั้นเจ้าหญิงอาร์เซนอลก็มาปรากฏตัวที่ประตู เธอมองมาที่พวกเราด้วยความอยากรู้อยาก “ฉันได้ยินเสียงทุกคนดังมาตั้งแต่อยู่ที่บันได“
แฮรี่หันหลังแล้วจากไป “ไปรวมตัวกันที่โรงเก็บเครื่องบิน!!“
“อืม ผมเข้าใจแล้ว“ราฟเฟิลเก็บหนังสือเล่มเล็กและจากไปพร้อมกับความโกรธ
ทั้งสองคนเดินออกจากประตู แทรกตัวผ่านเจ้าหญิงอาร์เซนอล คนนึงไปทางซ้าย ส่วนอีกคนไปทางขวา