***ขอแก้อะไรตอน1.2ก่อนหน้านี้หน่อยนะพอดีอ่านผิด>:3
จำหัวสีเหลืองก่อนหน้านี้ได้มั้ยเกี่ยวกับการเรียกชื่อ
ฮินะไป=คาสุกะ ฮินะ + รุ่นพี่(senpai)
ชิซึไป=คุโจ ชิซึกิ + รุ่นพี่(senpai)
ตอนก่อนหน้านี้แก้ให้แล้ว ไปย้อนอ่านกันได้!
ผมมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ในขณะเดียวกันผมก็พลางคิดกับตัวเอง
เดทหลังเลิกเรียน?
ในความน่าจะเป็น มันจะจบลงด้วยความอึดอัดอย่างแน่นอน เหตุผลเป็นเรื่องง่าย จริงๆ แล้วผมมีความผิดปกติในการสื่อสาร ไม่ใช่แค่แบบที่คุยโม้ทางออนไลน์ ผมแย่มากเมื่อพูดถึงการพูดคุยและโต้ตอบกับผู้อื่น..
ผมจะไม่ตั้งใจทำให้วันนี้จบลงด้วยความล้มเหลว เด็ดขาด
ถึงแบบนั้นแม้แต่คนขี้เหงาอย่างผมก็รู้ดีว่าตัวเองทำไม่ได้…
อย่างที่บอก ถ้าผมทำตัวเหมือนเคย เป็นคุโจ ชิซึกิคนธรรมดาๆ ก็จะได้เห็นสิ่งที่น่าอึดอัดใจในการออกเดตที่กำลังจะมาถึงนี้ ผมเป็นคนมีเหตุผล เนื่องจากเป็นวันที่เราจะได้รู้จักกันในระดับที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น
ผมควรทำตัวเหมือนเคยและไม่สวมหน้ากากปลอมๆ ถ้าผมทำตามความคิดของตัวเอง ผมรู้ว่าสิ่งต่างๆ จะจบลงด้วยความอึดอัด โดยพื้นฐานแล้ว แม้จะไม่ได้แสดงท่าทางปลอมๆ คาสุกะ ก็จะต้องผิดหวังอย่างแน่นอนเมื่อเธอเห็นว่าจริงๆ แล้วผมเป็นอย่างไร
นี่คือความคิดของผมในขณะที่กำลังนั่งรถไฟใต้ดินโดยมีคาสุกะ ฮินะอยู่ข้างๆ นอกจากนี้ หวังว่าเธอจะไม่คว้าหางเสื้อเครื่องแบบของผมแบบนั้น นั่นมันทำให้หัวใจเต้นแรงจริงๆ
=====
ผ่านไปประมาณสิบนาที…ตอนนี้ คาสุกะ ฮินะกับผมเราสองคนนัดเดทหลังเลิกเรียนที่อาคารห้างสรรพสินค้าหน้า ที่สถานีรถไฟเซนได ที่สวีทพาราไดซ์หรือเรียกสั้นๆ ว่า พาราไดซ์…ผมไม่เคยได้ยินชื่อมันมาก่อน ไม่รู้ว่ามันตั้งอยู่ที่ไหน
แต่คิดว่าผมน่าจะรู้ในสถานการณ์แบบนี้…ผมไม่มีเพื่อนเลยที่จะไปด้วย และไม่อยากไป มาคนเดียวก็ลำบากใจ ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน…
“สองที่นั่งใช่มั้ยคะ..?”
“ใช่ค่ะ…ไปกันเถอะชิซึกิคุง!”
เราลุกขึ้นจากที่นั่งด้านนอกร้าน และในขณะที่คาสุกะพูดดึงมือผมและพาเข้าไปข้างใน…
มันเป็นเรื่องจริงเหรอ? ผมกำลังจับมือกับสาวงามอันดับหนึ่งของโรงเรียน? ปกติผมอาจจะตกใจมากกว่านี้ แต่อารมณ์ของผมไม่สามารถทันกับการพัฒนาอย่างกะทันหันนี้ได้
“นี่ชิซึกิคุง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่คุณมาที่สวีทพาราไดซ์ใช่มั้ย”
“…ช-ใช่ แล้วทำไม..”
“ฉันจะขออธิบายสั้นๆน้า ที่นี่มีระบบบุฟเฟต์ด้วยแล้วก็ยังมีอีกหลายอย่างสำหรับคู่รัก..โดยเพียงแค่ซื้อตั๋ว!”
“อ้อ..”
“ฉันขอซื้อตั๋วสำหรับถ่ายรูปคู่2ใบด้วยค่ะ…”
“รับทราบแล้วค่ะ”
“เอ๊ะ..!”
คาสุกะเผยรอยยิ้มที่เบ่งบานราวกับออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ แต่…
“ฉันต้องให้พนักงานดูรูปถ่ายของเราที่เราดูเหมือนเป็นคู่รักกัน”
ไม่ไม่ไม่ไม่! ไม่เกิดขึ้นมันไม่มีความคล้ายคลึง! ภาพที่ทำให้เราดูเหมือนคู่รัก? มันคงเป็นภาพที่น่าอายมากที่จะเอามาโชว์ให้คนอื่นดูใช่ไหม! ทำไมเราต้องแสดงให้คนอื่นเห็นด้วย!?
“…เราทำแบบนั้นไม่ได้หรอกเหรอ…”
“ไม่..ฉันหมายถึง..เอ่อ”
“อีกอย่าง ฉันซื้อตั๋วสำหรับคอร์สนั้นแล้ว เลยต้องถ่ายรูปตอนนี้เลย”
“แล้ว..ถ้าเอาตั๋วไปคืนล่ะ..”
“ไม่ได้ผลนะ..ฉันคิดว่า~”
น่ารัก~ การที่เธอดูมีความสุขที่ได้ถ่ายรูปคู่กับผม ทำให้เธอดูอ่อนกว่าวัยและน่ารักกว่าอายุจริงนิดหน่อย…แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ทำให้ผมเข้าใจความรู้สึกของหนุ่มๆ ทุกคนที่สารภาพรักกับเธอไปก่อนหน้านี้ นิดหน่อย. นั่นเป็นวิธีที่น่ารัก ผมเดาว่ามันเป็นท่าทางของผู้หญิง
“ถ้าอย่างนั้น เรามาประสานแขนกัน! แบบนี้!”
เธอพูดและประสานแขนของเธอเข้ากับผมทันที แต่…หน้าอกของเธอ! มันโดน….ผมอยู่!”
แม้จะสวมเสื้อเบลเซอร์ของเธอ ผมก็ยังรู้สึกนุ่มนิ่ม อบอุ่น และทุกๆ อย่างก็ดูดี แต่เหนือสิ่งอื่นใด เธอไม่อายหรือไงกับเรื่องนี้!? เธอกำลังกดหน้าอกของเธอลงบนแขนเด็กผู้ชาย
“ฮิฮิฮิ..”
“มีอะไรเหรอ..”
“ฉันแค่มีความสุขที่ได้คล้องแขนกับชิซึกิคุง ฉันชอบมาก”
เธอยิ้มด้วยท่าทางน่ารักที่จะทำให้ทุกคนตกหลุมรักเธอ
ในเวลาเดียวกัน เธอหยิบสมาร์ทโฟนออกมา…
“ชิซึกิคุง…”
“มีอะไร..เหรอ เอ๊ะ…!”
“ฉันอยากส่งรูปนี้ให้คุณทีหลังด้วย เพราะงั้น…คุณช่วยบอก LINE ID ของคุณหน่อยได้มั้ย..”
“…..”
“ไม่ชอบ..แบบนั้นจริงๆหรอกเหรอ…”
“เปล่าๆ ฉันแค่คิดว่ามันค่อนข้างแปลกดีน่ะ ม-ไม่มีอะไรจริงๆ”
“เย้!”
แต่ก่อนหน้านั้น เราให้ภาพพนักงานดูก่อน ดังนั้นจึงถูกพาไปที่นั่งด้านใน จากนั้นผมก็หยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองออกมาแล้วแลก LINE IDกับเธอในที่สุด
ว่าแต่…บรรยากาศของที่นี่มันเป็น…?
ผนังสีขาวตกแต่งด้วยลวดลายดอกไม้สีชมพู สีเหลือง และสีฟ้า บัฟเฟอร์ส่วนใหญ่เป็นคุกกี้หรือเค้ก และที่สำคัญที่สุด…90% ของลูกค้าทั้งหมดยกเว้นผมเป็นผู้หญิง! ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาทั้งหมดดูทันสมัยมาก เหมือนที่พวกเขาตั้งใจเลือกเสื้อผ้าอินเทรนด์! นอกจากนั้น จริงๆ แล้วพวกเขาไม่ได้กินอะไรมากด้วยซ้ำ แค่มีสมาร์ทโฟนที่ตกแต่งอย่างแปลกๆ อยู่ในมือ แล้วพูดว่า ‘เราควรใส่สิ่งนี้ในไอจีด้วยรึเปล่าน้า’อย่างแน่นอน!’
“เสร็จแล้ว! แค่นี้ฉะนก็สามารถฟังเสียงของคุณได้ตลอดเวลาแล้ว ชิซึกิคุง~”
“….”
“มีอะไรรึเปล่า…”
“อ๊ะ…เปล่า! นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดแบบนั้นกับฉัน นั่นเลยไม่รู้จะพูดอะไรดี..”
“อ่า~ ความผิดปกติของการสื่อสาร น่ารัก~”
ผู้หญิงคนนี้เรียกผมว่าน่ารัก ไม่ต้องพูดถึง ว่าเป็นเพราะผมไม่สามารถสนทนาได้อย่างเหมาะสม
“แล้วนี่มันยังไง…หลักสูตรคู่รักแสนหวานแสนหวาน…แตกต่างจากปกติ”
“นั่นสินะ..”
ในขณะที่เรากำลังคุยเรื่องนี้กัน..
“ขออภัยที่ให้รอนะค้า~ นี่เป็นคอร์สสตรอเบอรี่ออฟรุตสำหรับคู่รักแสนหวานแสนหวานของคุณค่ะ”
พนักงานเอาแก้วสตรอเบอร์รี่โอเลทแก้วใหญ่มาให้เรา แต่…อะไรนั่น ทำไมถึงมีหลอนฟางสองเส้นพันกัน..?
“…เอ๊ะ..พวกเรา..จะต้องดื่มสิ่งนี้ด้วยกันเหรอ..”
“ช-ใช่..”
คาสุกะยิ้มออกมาอย่างมีความสุขและเขินอาย..
แม้แต่นางฟ้าก็อาจยังหลงรักรอยยิ้มนั้น เดี๋ยว..!? ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่! ไม่เกิดขึ้น เป็นไปไม่ได้ ไม่ดี ไม่ดี! มันน่าอายยิ่งกว่าถ่ายรูปกับเธอเสียอีก! ไม่ นี่กำลังข้ามระดับความเขินอายและไปถึงระดับความอับอายในที่สาธารณะแล้ว!
“เอ่อ ก็แค่บอกให้รู้ แต่ว่า…”
“มันจะดีจริงๆเหรอ…”
“ถ้าเราไม่ดื่มสตรอเบอรี่ ออฟรุตนี้ด้วยกัน พวกเขาจะขึ้นราคา!”
“ห๊ะ…อะไรนะ มันเป็นเรื่องตลกใช่มั้ย..”
“เอ๊ะ~นี่เป็นครั้งแรกที่คุณมาที่สวีทพาราไดซ์ใช่มั้ย..”
“ใช่แล้วมันยังไงต่อ..”
“หึ้ม..ไม่มีทางที่คุณจะรู้เรื่องนี้มากไปกว่าฉันใช่ไหม.”
“ก-ก็นะ…เธอก็น่าจะพูดถูก…”
เ”อาล่ะ ตัดสินใจได้แล้ว! งั้นเรามารักกันมากๆ ตกลงไหม”
…และด้วยเหตุนี้ เราจึงตัดสินใจว่า คาสุกะกับผมจะดื่มสตรอว์เบอร์รีโอเลต์นี้ด้วยกัน..
“…..”
น่าอายจัง!! หน้าคาสึกะอยู่ห่างจากผม 10 ซม.!? ตาเธอโตมาก! ขนตาเธอ…ยาวจัง! ผิวเธอ…ขาวมาก! ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอมีกลิ่นที่ดีจริงๆ! เมื่อผมคิดว่าคาสุกะคุ้นเคยกับสิ่งนี้ ผมเห็นแก้มของเธอแดงก่ำ ทำให้ผมได้รู้สึกว่ากำลังมองดูหญิงสาวที่กำลังมีความรักอยู่
“ชิซึกิคุง”
คาสุกะขยับริมฝีปากออกจากฟาง
“มีอะไรเหรอ…”
“ฮะฮะ..ฉันแค่คิดว่ามันน่าอายจริงๆ ฉันคิดว่ามันจะเป็นความสำเร็จที่ง่ายดาย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันทำแบบนี้กับชิซึกิคุง มันเลยทำให้ฉันรู้สึกเขิน..กว่าปกติ”
“แล้วทำไมเธอถึงตัดสินใจ สั่งสิ่งนี้มาแต่เเรก..”
“เอ๊ะ ฉันหมายถึง… มันน่าอาย แต่ฉันอยากจะจีบชิซึกิคุงมากกว่านี้..”
“…..”
“ฮะฮะ..ฉันรักนายมากเลยนะซิซึกิคุง~”
“……”
สุดท้ายก็ต้องดื่มสตรอเบอรี่ออฟรุตกับคาสุกะ ทุกหยดจนหยดสุดท้าย…มันมีแบบนี้จริงๆเหรอ.. ขึ้นราคาถ้าไม่ดื่มด้วยกัน? ถ้าไม่ใช่เพราะกฎนั้น ผมคงไม่ตกลงกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน…
“นี่..เราไปกินเค้กกันต่อไหม!”
จบ~~