‘ถึง คุโจ ชิซึกิคุง
ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณ! มาห้องเรียน D ชั้น 5 หลังเลิกเรียนหน่อยได้ไหม!?
จนกว่าคุณจะมาพบฉัน ฉันจะรอตลอดไปและนานเท่านาน ตกลงไหม
—จาก คาสุกะ ฮินะ. ‘
ฮะ? เอ๊ะ? …นี่มันอะไรกันเนี่ย? วันนี้หลังเลิกเรียน ขณะที่ผมกำลังเก็บกระเป๋าดินสอไว้ในกระเป๋า ทุกอย่างเรียบร้อยดีจนถึงตอนนี้ อย่างไรก็ตาม ภายในกระเป๋าของผม ผมเห็นจดหมายที่มีสติกเกอร์รูปหัวใจติดอยู่ที่หน้าของของจดหมาย นั่นยังแทบใจไม่ดีเลย แต่แล้ว…เมื่อผมอ่านจดหมายตรงแถวบันไดด้านนอกของอาคารที่แยกห่างจากอาคารเรียนหลัก นี่คือสิ่งที่ผมได้!?
อืม…นี่คงไม่ใช่กับดักหรือการลงโทษที่บังคับให้เธอสารภาพกับผมใช่ไหม เพราะคาสุกะไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่ชอบรังแกคนอื่น ถ้ามีอะไร เธอเป็นผู้หญิงประเภทที่ไม่ยอมให้ใครมารังแกผมง่ายๆ ถึงแม้ว่าเราจะแทบไม่ได้ติดต่อกันเลย… อย่างที่พูด ชื่อของผมมีเขียนไว้ที่ในนั้น มันส่งถึงผมอย่างไม่ต้องสงสัย
เดี๋ยว..บางทีนี่อาจไม่ใช่คำสารภาพเลยก็ได้ และมีเหตุผลอื่นสำหรับเรื่องทั้งหมดนี้…?
เธอบอกว่าเธอมีเรื่องสำคัญจะพูด แต่ไม่ได้บอกว่านี่เป็นการสารภาพรักใช่ไหม มันเป็นแค่ความเข้าใจผิดของผมเอง อ่า…น่าอายจัง
ที่นั่น ผมได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจากหอประชุมสมาคมศิษย์เก่า โดยเฉพาะจากสนามเทนนิส ซึ่งทำให้ผมรู้สึกไม่ใจสบายแปลกๆ เธอไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม คาสุกะ อยู่ตลอดหรอกเหรอ? แต่ผมไม่เห็น คาสุกะ อยู่ศูนย์กลางของกลุ่มนั้นเหมือนทุกที ซึ่งหมายความว่าตอนนี้กำลังแยกกัน…อาจจะอยู่คนเดียว? …รอผมอยู่ในห้องเรียน D ชั้น 5…?
…ผมควรจะต้องไปใช่มั้ย…
ผมเริ่มก้าวฝีเท้าเดินไปที่นั่น แต่ผมต้องบอกก่อนว่า…ปกติผมไม่ไปห้องเรียน D ห้องนั้น ห้องเรียนปีแรกอยู่บนชั้นสองและห้องเรียนปีที่สองของเราอยู่ที่ชั้น สามจึงไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับผมในตอนนี้ แต่ห้องเรียนปีสามอยู่บนชั้นสี่ นอกจากนั้น โรงอาหาร ห้องสมุด และห้องเรียนพิเศษทั้งหมดอยู่ที่ชั้นแรก
ไม่กี่นาทีต่อมา ผมยืนอยู่หน้าห้องเรียนดังกล่าว แต่ผมได้ยินแค่ความเงียบจากข้างในเท่านั้น สมมติว่าเป็นคาสุกะที่รอผมอยู่.…ใช่ไหม?
ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ เปิดประตูแล้วก้าวไปข้างหน้า—
“จับได้แล้ว!!!”
“ตกลง~”
“อุหวา!”
ผมได้รับการต้อนรับจากเด็กผู้หญิงผมสีสดใส และผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ดูเหมือนเธอจะอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย คนแรกคว้าแขนผม ดึงผมไปข้างหน้าอย่างแรง! คนที่สองคว้าขาผมยกขึ้น! ในท้ายที่สุด ผมตัวลอยไปในอากาศเหมือนเปลญวน และวางลงบนเตียงที่สร้างโดยโต๊ะกลางห้อง แน่นอน ผมทำกระเป๋าตกระหว่างทาง! ราวกับว่ายังไม่เพียงพอ ผู้หญิงคนที่สาม คาสุกะ ฮินะ นั่งทับอยู่บนท้องผม!
“ห๊ะ!? ฮะ!? เอ๊ะ!? อะไรเนี่ย!?”
ตอนนี้ คาสุกะ กำลังนั่งอยู่บนท้องส่วนล่างของผม เธอกดเบาๆ ข้างหลังผม ต้นขาของเธอจับร่างกายของผมไว้ระหว่างเธอ ผมต้องยอมรับว่านี่อาจเป็นสถานการณ์ในฝันสำหรับเด็กผู้ชายทุกประเภท ใช่ไหม
อย่างไรก็ตาม ขอพูดแบบนี้! ตอนนี้ผมตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์นี้แล้ว แทนที่จะรู้สึกมีความสุข ผมแค่รู้สึกสับสนและงุนงง หมายถึง เด็กผู้หญิงผมสีสดใสกำลังคว้าแขนผม อีกคนหนึ่งจับขาผม และเราน่าจะอยู่ในจุดที่สะดวกที่สุดในโรงเรียนที่จะก่ออาชญากรรม
“คุโจ ชิซึกิคุง!”
คาสุกะยังคงนั่งอยู่บนตัวผมขณะที่เธอยิ้ม
รอยยิ้มนี้ทำให้ผมกลัวเพียงเท่านั้น
“ป-ปล่อยผมออกไปได้ไหม” ผมพูดเสียงออกมาอย่างตะกุกตะกัก
เห็นได้ชัดว่าผมประหม่าที่ต้องรับมือกับคนธรรมดาอย่างเธอ ไม่ต้องพูดถึงว่าผมฟังดูสุภาพต่อเพื่อนร่วมชั้นของตัวเอง
“ชิซึกิคุง ไม่ได้เป็นสมาชิกของชมรมอะไรใช่มั้ย!”
“ช-ใช่!”
“ถ้าต้องการให้เราปล่อยคุณไป ฉันมีคำถาม คุณไม่สนใจเข้าร่วมชมรมของเราหน่อยเหรอ”
เธอแสดงท่าทางน่ารักด้วยการเอียงศีรษะ แต่วิธีที่เธอพูดทำให้ดูเหมือนห้องเรียนนี้ถูกใช้เป็นห้องชมรมอะไรสักอย่าง?
โรงเรียนนี้มีอาคารที่ใช้สำหรับห้องชมรมโดยตรงใช่ไหม? ทำไมพวกเขาถึงใช้ห้องเรียนว่างบนชั้นสูงสุดของอาคารเรียนล่ะ
แม้ว่าผมจะละทิ้งสิ่งนี้ไป ผมก็ไม่ได้วางแผนที่จะเข้าชมรมอะไร เท่าที่ผมเห็น นี่ไม่ใช่ชมรมเกี่ยวกับกีฬา ผมไม่อยากจะไปซ้อมตอนเช้าหรือวันหยุดเลย มันน่าเบื่อจริงๆ
แล้วจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี…
“-ได้ คิดว่าอะนะ”
“จริงๆเหรอ!?”
ดวงตาของคาสึกะเบิกกว้างด้วยความตกใจ
“งั้น…ผมต้องกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนชมรมใช่มั้ย”
“ใช่!”
“เอ่อ..ว่าแต่ขยับออกจากตัวผมก่อนได้รึยัง”
แน่นอน คาสุกะ ผู้ซื่อสัตย์ยอมปล่อยให้หลุดพ้นจากเรื่องนี้
หึๆ ง่ายจัง ถ้าเธอลงจากผม ผมจะวิ่งไปเก็บกระเป๋าใกล้ประตูแล้วบอกลาอย่างไร้เยื่อใยคอยดู
“อ๊ะ เดี๋ยวก่อน ฮินะจังเธอไม่จำเป็นต้องปล่อยเขาใช่มั้ย เรมิ ปล่อยแขนขวาของเขา เพียงแค่นี้ก็เซ็นชื่อได้แล้ว!”
“ห๊ะ!?”
“เข้าใจแล้ว”
“Ok~”
ด้วยเหตุนี้ ผู้หญิงที่ชื่อเรมีจึงอนุญาตให้ผมขยับมือขวาได้อย่างอิสระ แต่…เอ๊ะ? แม้ว่าผมจะใช้มือขวาได้อย่างเดียว แต่เกมนี้ไม่ยากที่จะเคลียร์ใช่มั้ย ไม่ใช่ว่าผมสามารถผลัก คาสุกะ ด้วยมือขวาของผมได้เหรอ
“ชิซึกิคุง ถือแแบฟอร์มอันนี้ไว้สักครู่นะเดียวฉันไปเอาปากกามาให้”
“ไม่..เดี๋ยว!..เอ่อ…”
“มันเป็นคำเชิญที่ค่อนข้างแรง แต่ฉันดีใจจริงๆ ที่คุณตกลงที่จะเข้าร่วม”
เมื่อเธอพูดอย่างนั้น เธอดูดีใจจริงๆ… ผมเดาว่าผมไม่มีทางเลือกอื่นในเรื่องนี้จึงได้แต่ยอมรับมันโดยดี..
======
หลังจากที่ทุกอย่างสงบลง และผมได้มองดูห้องเรียนรอบๆ ผมคิดว่าห้องปกติมีขนาดประมาณครึ่งหนึ่ง แล้วอีกอย่าง ที่นี้เคยใช้เป็นห้องชมรม
มันเกือบใหญ่ไปหน่อยมั้ย? สำหรับสิ่งของในนี้ ผมเห็นโต๊ะ เก้าอี้หลายตัววางอยู่ที่มุมหลังห้อง ชั้นวางหนังสือ นาฬิกาแขวน กระดานไวท์บอร์ด และโต๊ะพร้อมคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ในที่สุด พระอาทิตย์ยามบ่ายของฤดูใบไม้ผลิก็ส่องเข้ามาในห้องจากหน้าต่าง
ดังนั้นฉันผมจึงถูกจับนั่งบนเก้าอี้สุ่ม อีกอย่าง ผู้หญิงสามคนที่ดึงผมไว้ก็นั่งรอบตัวผม และยังรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างมากจากพวกเธอ
“ช่างเป็นความสำเร็จจากเรมิ! เราประสบความสำเร็จในการได้สมาชิกใหม่ของชมรม~”
“ฮิฮิฮิ ช่างเป็นทางออกที่ง่ายจริงๆ ! หากคุณพึ่งพาฉันปัญหา ดังกล่าว คือสิ่งที่ฉันจัดการก่อนอาหารเช้า”
ตรงกันข้ามกับฉันที่หมดแรง หญิงสาวที่ชื่อเรมิกระโดดขึ้นลงด้วยความตื่นเต้น เธอสบายดีจริงๆ ปัญหาอยู่ที่สาวตัวเล็กอีกคนที่อยู่ข้างเธอ! ยกมือขึ้น กระพือขาขึ้นลง พูดด้วยเสียงโลลิที่เหมือนไม่อยู่ในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้! เธอยังใช้คำภาษาอังกฤษแบบสุ่มระหว่างประโยคภาษาญี่ปุ่นของเธอ ง่ายอธิบายตนเองได้ และวิธีแก้ไขคือวิธีที่เธอพยายามแก้ไขปัญหาใช่ไหม ปัญหาก็เหมือนคำเรียกปัญหาอีกอย่างหนึ่ง แต่ก่อนอาหารเช้า…อะไรนะ!?
ดังนั้น เมื่อพูดเป็นคำที่ผมพอเข้าใจ มันจะเป็นประมาณ… [ว้าว เราเคลียร์ปัญหานั้นได้อย่างง่ายดาย! ถ้าพึ่งฉันนี่เหมือนกินข้าวเป็นอาหารเช้า! เอ๊ะ~!]. ..!?
“เดี๋ยวนะ ฮินะไป(ฮินะ) จะไม่แนะนำสมาชิกใหม่ของชมรมเราหน่อยเหรอ..”
“จริงๆด้วย บุช!”
“อึ้ม”
สุกะพยักหน้าไปทางทั้งสอง เผยให้เห็นรอยยิ้มอันอบอุ่นราวกับดอกไม้ที่เบ่งบาน
“ยินดีต้อนรับ ชิซึกิคุง สู่ชมรมสนับสนุนหลักสูตรแห่งอนาคตที่แปลกประหลาด”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและเป็นมิตร เกือบจะเหมือนกับว่าเธอต้อนรับผมในคลับของเธอ
“มันเป็นสโมสรสนับสนุนในอนาคตสั้น ๆ แต่คุณรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเราไหม”
“อ-อ่า…ไม่ แต่…ผมก็เคยได้ยินมานะ แต่ไม่รู้รายละเอียด”
“อย่างที่ชื่อบอก เรารวบรวมคนที่มีปัญหาในการตัดสินใจในอนาคตหลังจากเรียนจบ เพื่อให้เราสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อให้เราทุกคนสามารถไปถึงความฝันของเราได้ เราไม่ใช่กีฬาหรือสโมสรวัฒนธรรม นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยู่ในหมวดหมู่ที่แปลกประหลาด”
“ผมคิดว่า..ผมอยากจะออก”
“อ๊ะ….ทำไมล่ะ!!”
“ไม่ใช่ว่ามันน่าเกลียดอะไรแบบนั้นนะ ผมหมายถึง…การรวมตัวของผู้คน การสนับสนุนซึ่งกันและกัน นั่นคือคำที่ไม่เข้ากับภาพลักษณ์ของผมเลย… ผมเกลียดการทำงานเป็นกลุ่มตั้งแต่อนุบาล…มันมักจะล้มเหลว..”
“…อึม…ฮึ! แต่! ในการออกจาดชมรม คุณต้องมีตรารับรองของประธานชมรมและที่ปรึกษา และฉันจะไม่ยอมรับว่าคุณจะออกจากชมรมหลังจากเข้าร่วมสามนาที ตอนนี้เข้าสู่นาทีที่สี่แล้ว~”
“ไม่-คืออย่างนั้น…เอ่อ..ถ้างั้น… อืม…”
ผมหันไปมองสาวๆ คนอื่นๆหลังจากการสนทนา โดยที่ผู้หญิงที่ชื่อเรมีเป็นคนแรกที่พูดขึ้น
“ยินดีที่ได้รู้จัก~ ยืนฉันน่ารัก นั่งฉันน่ารัก เวลาเดินฉันมีเสน่ห์~ รอยยิ้มของเรมิเต็ม 100% และเธอเป็นนักเรียนมัธยมที่สวยที่สุดในโลก ชื่ออารามิยะ เรมิ~”
“…..เห๊ะ!”
การแนะนำตัวนั้นทำให้ดูเหมือนว่าเธอมีไอคิวน้อยกว่าหนึ่ง ด้วยซ้ำ….
“…อื้อ เข้าใจแล้ว… ยินดีที่ได้รู้จัก ตอนยืนงอหลัง นั่งทำเหมือนหลับ เดินทำให้ดูน่าสงสัย ผมเป็นนักเรียนมัธยมปลายผู้โดดเดี่ยวที่ไม่แพ้เมื่อต้องยิ้มครั้งแรก ชิซึกิ คุโจ
อารามิยะ มีผมสีบลอนด์อ่อน ๆ ที่ดูสบายและนุ่มสลวยมัดเป็นหางคู่ และจากการตัดสินของผม สารอาหารทั้งหมดของเธอที่จำเป็นสำหรับสมองในการทำงาน จะมุ่งไปที่หน้าอกของเธอเกือบ100% ที่ผมพูดไปคือเหมือนมีเครื่องรีดนมตัวโตๆ เนื่องจากสิ่งนี้จะทำให้เกิดความรู้สึกแย่ ผมสาบานว่าจะไม่พูดออกมาดังๆ เลย…นอกจากนี้ เธอยังน้อยกว่า คาสุกะ ในแง่ของส่วนสูง
“งานอดิเรกของ เรมิ คือการเซลฟี่และอัพโหลดรูปตัวเองบน ไอจี เธอยังมีผู้ติดตามบนยูทูปถึงห้าพันคน คนอีกด้วย! การอัปโหลดเซลฟี่บน ทวีตเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอทุกวัน! ชิซึไป ขอโทษที่ เรมิ น่ารักมากกก~ นายตกหลุมรักเสน่ห์ที่ชั่วร้ายของเธอไม่ได้ในขณะที่เธอแสดงรอยยิ้มนางฟ้าให้นายเห็น!”
“ชิซึไป นั่นใครน่ะ..”
“นายคือ รุ่นพี่ชิซึกิใช่ไหม นั่นเป็นเหตุผลที่ชื่อ ชิซึไป!”
“ไม่เห็นเข้าใจสักนิดเลยย!”
“สิ่งที่ฉันเข้าชมรมนี้มาคือเป็นไอดอลเพื่อคนทั้งประเทศ!”
อารามิยะ ยิ้มออกมาอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งน่าจะทำให้เด็กผู้ชายทุกคนที่ดูอยู่ตกหลุมรักเธอให้ได้
“ต่อไปก็ถึงตาฉันแล้ว ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อ ชิซากะ ฮารุกะ ชั้นปี3ห้อง2 บุช!!”
“เป็นรุ่นพี่สินะครับ… ยินดีที่ได้รู้จัก ผมชื่อคุโจ ชิซึกิจากปี2ห้อง1”
เนื่องจากนี่คือการพบกันครั้งแรกของเรา ผมพยายามแสดงความเคารพให้มากที่สุด รุ่นพี่ชิซากะมีผมยาวสีขาวอมเทามัดเป็นหางคู่ และ…แม้ว่าผมจะรู้ว่านี่เป็นเรื่องหยาบคายที่ฉันจะคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เป็นรุ่นพี่ ทั้งส่วนสูงและหน้าอกของเธอยังเล็ก ถ้าฉันต้องเดา เธออาจจะสูงไม่ถึง 150 ซม. และหน้าอกของเธอน้อยกว่าภูเขาไม่สิ—น้อยกว่าเนินเขา และเหมือนทุ่งหญ้ามากกว่า…
“ยังไงก็เถอะ นายรู้รึเปล่าคุโจ”
“เอ๊ะ..?”
“คนที่ริเริ่ม ใน การเป็นผู้นำในชั้นเรียนนั้นเป็นสิ่งที่เรียกว่าตัวละครแสงแดดและยิ่ง มี หลายกรณีคุณไม่คิดหรือว่าชุมชนสามารถตกอยู่ในสเปกตรัมเชิงลบทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการทำงานร่วมกัน ?”
“อ-อะ”
เกิดอะไรขึ้นกับเธอ…ได้โปรด พูดภาษาญี่ปุ่นให้เข้าใจหน่อยได้ไหม? ผมเข้าใจความคิดริเริ่มและการทำงานร่วมกัน แต่ตัวละครแสงอาทิตย์คืออะไร! เธอกำลังพูดถึงคนดัง..เหรอ !?
“โอเคมั้ย ชิซึกิคุง? คุณเข้าใจที่รุ่นพี่ชิซากะพยายามจะพูดหรือเปล่า?”
“..…ถ้าให้ผมต้องเดา มันอาจจะเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับ [อืม อืม! ความแตกต่างมากมายในชั้นเรียน มีความสามารถในการแสดงและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว พวกเขามีพลังที่จะนำทุกคนมารวมกันเป็นเพื่อน!รึเปล่า~?] บางทีนะ..”
“ฉันไม่ได้ดูแปลกประหลาดขนาดนั้นสักหน่อย!”
แม้ว่าโดยพื้นฐานแล้วเราจะนั่งติดกัน แต่เนื่องจากความสูงต่างกัน เธอจึงต้องมองมาที่ผม แม้จะทำหน้าบึ้งด้วยท่าทางน่ารัก อ่า…มันสมเหตุสมผลแล้วตอนนี้ เนื่องจากท่าทางและวิธีพูดของเธอคล้ายคลึงกัน…หรือมากกว่านั้นเหมือนกับเด็กสาวที่มีพลัง การแปลประโยคของผมทำให้เธอดูอ่อนกว่าวัยมาก
“รุ่นพี่ก็พูดปกติได้นิครับ..”
“ฉันกำลังบอกว่า ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ ฉันคือ อินฟลูเอนเซอร์ ที่ดีที่สุด ชิซากะ ฮารุกะ!โฮ๊ะ—”
เธอแสดงรอยยิ้มที่มั่นใจไม่เหมาะกับรูปร่างหน้าตาของเธอ
“แล้วเป้าหมายในอนาคตของรุ่นพี่ชิซากะคืออะไรเหรอคะ..”
“ฮึ่ม….เป็นเกียรติมากที่ถาม”
“…..ผมอยากกลับบ้าน—”
“ฉันผู้ยิ่งใหญ่ชิซากะ ฮารุกะ ผู้นี้ทำงานเป็น CEO ในบริษัทแห่งหนึ่งแล้ว!”
“หือ…รุ่นพี่ชิซากะ ประธานบริษัทกับ CEO ต่างกันยังไง”
“เอ๊ะ!? อืม อืม … เอ๊ะ? ประธานบริษัทและ CEO ต่างกัน…!อย่างนั้นเหรอ…?”
*กรี้งงงงงงง*
===เสียงออดเลิกเวลาเรียน===
“~~! ฮึไม่มีเวลาอธิยาย บริษัทที่คุณปู่ของฉันก่อตั้งไม่ได้มาจากพ่อ เพื่อที่จะได้ไม่ล้มละลาย ฉันก็ได้สืบทอดเป็นประธานบริษัท”
“อ่ะ…อาฮะ-“
“อย่างไรก็ตาม ฉันจะพยายามนำบริษัท ของคุณปู่ ไปสู่ระดับสากลและ ระดับ สากล มากขึ้น ดังนั้นฉันจึง มี ความเกี่ยวข้องกับชมรม แห่งนี้ “
“แล้วบริษัทของรุ่นพี่ชิซากะ ทำเกี่ยวกับอะไรเหรอ”
“เอ๊ะ….อะ..เอ่อ”
“ใช่ๆ มันควรเป็นคำถามแรกๆที่พวกเราควรถามเลยนะ”
“เอ่อ..ส-สินค้าพิเศษน่ะ”
“สินค้าพิเศษ หมายความว่ายังไงคะ..”
“มัน…เป็นบริษัทที่เน้นสินค้าที่จะทำให้คนมีความสุข ! อืม…อืม มันเป็นของที่กระตุ้นร่างกายของคนในทางบวก คล้ายๆเทียนไขอะไรประมาณนั้น!”
“เทียน? เทียนหอมอโรมาใช่มั้ย? ใช้มาสก์ตา รุ่นพี่คงกำลังพูดถึงของที่ใช้สำหรับการนอนหลับสบาย ใช่ไหม แต่ว่า…สิ่งที่เป็นสินค้าที่กระตุ้นร่างกาย?”
“เดี๋ยวก่อน..! ไม่ใช่แบบนั้น ก็…ประมาณว่า เครื่องนวด ล่ะมั้ง”
ทำไมรุ่นพี่ชิซากะถึงหน้าแดง? เธอควรจะภูมิใจในบริษัทของเธอ และเธอไม่แม้แต่จะสบตาผมด้วยซ้ำ
“รุ่นพี่ฮารุกะไม่เคยบอกเราเลยว่าเธอรับผิดชอบบริษัทแบบไหน…แล้วชิซึกิคุงล่ะ?”
“อ่า…ผมคิดไม่ออก..ก็ผมถูกบังคับไม่ใช่หรอกเหรอ!”
ทันใดนั้น อารามิยะ ก็…
“เรมิอยากจะเป็นไอดอลที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ ดังนั้นฉันจึงอยากรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของแฟนๆ ของฉัน!”
“ฮะ…!? วิถีชีวิตของแฟนๆ…”
“ใช่ สิ่งที่แฟนๆ ชอบ สิ่งที่พวกเขาต้องการจาก เรมิคนนี้และ..”
“โอ้..จะว่าไปแล้ว แทนที่จะเป็นเหตุผลที่เธอต้องการผมยังไม่ได้ยินเกี่ยวกับหลักสูตรในอนาคตของเธอเลยใช่ไหมคุณคาสุกะ”
“~~~~!”
เกิดอะไรขึ้นกับคาสุกะ? เธอหน้าแดงอย่างโกรธจัด ดูกระสับกระส่ายอย่างสุดขีด ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอบอุ่นแปลก ๆ และเธอก็กระสับกระส่ายขณะที่เธอดันนิ้วเข้าหากัน แต่ว่า..
*กรี๊งงงงงงง*
====เสียงออดดังครั้งที่สอง====
อารามิยะ ชี้ให้เห็นโดยไม่ตั้งใจ แล้ว คาสุกะ
“ร-เรมิจัง รุ่นพี่ชิซากะ กลับบ้านได้แล้ว~ ฉันจะล็อคประตูแล้ว!!!!!”
คาสุกะพูดในลักษณะที่ค่อนข้างตื่นตระหนก โดยที่ อารามิยะ และรุ่นพี่ ชิซากะ มองหน้ากันและแสดงรอยยิ้มอย่างมีเล่ห์กล
อะไรละนั่น… พวกเขากำลังวางแผนอะไรบางอย่าง? ผมพนันได้เลยว่ามันเป็นเรื่องที่ผมไม่รู้ แต่นั่นยิ่งคิดมันทำให้ผมยิ่งกลัวมากขึ้น….
“ถ้าอย่างนั้น ชิซึไป ฮินาไป พวกเราขอกลับก่อนนะ~”
พวกเขาเป็นนักเรียนทั้งคู่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถขัดกับเสียงระฆังสุดท้ายของวันได้ นั่นเป็นเสียงระฆังเตือนครั้งแรกอารามิยะ ก้าวออกจากห้องด้วยขั้นตอนง่ายๆ และรุ่นพี่ ชิซากะก็เดินตามเขาออกไปไป..
ผมค่อยๆลุกจากเก้าอี้ตัวเอง ตราบใดที่ไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้น…เพื่อเตรียมตัวกลับบ้านเช่นกัน
“….ชิซึกิคุง..คุณอยู่ต่ออีกสักหน่อยได้ไหม…”
======
ตัดจบ!!!!!!! ขอบ่นอะไรสักอย่างหน่อยได้ม้ายย คือแบบ งงกับบทพูดของแต่ละตัวละครมากกกกก ด้วยที่ยิ่งไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนยิ่งทำให้งง ถ้าอ่านส่วนไหนไม่เข้าใจก็ขอโทษ…