[LN] Inchara na Ore to Ichatsukitaitte Majikayo… 1.2

ตอนที่ 1.2

‘ถึง คุโจ ชิซึกิคุง

 

ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณ! มาห้องเรียน D ชั้น 5 หลังเลิกเรียนหน่อยได้ไหม!?

 

จนกว่าคุณจะมาพบฉัน ฉันจะรอตลอดไปและนานเท่านาน ตกลงไหม

 

—จาก คาสุกะ ฮินะ. ‘

 

ฮะ? เอ๊ะ? …นี่มันอะไรกันเนี่ย? วันนี้หลังเลิกเรียน ขณะที่ผมกำลังเก็บกระเป๋าดินสอไว้ในกระเป๋า ทุกอย่างเรียบร้อยดีจนถึงตอนนี้ อย่างไรก็ตาม ภายในกระเป๋าของผม ผมเห็นจดหมายที่มีสติกเกอร์รูปหัวใจติดอยู่ที่หน้าของของจดหมาย นั่นยังแทบใจไม่ดีเลย แต่แล้ว…เมื่อผมอ่านจดหมายตรงแถวบันไดด้านนอกของอาคารที่แยกห่างจากอาคารเรียนหลัก นี่คือสิ่งที่ผมได้!?

 

อืม…นี่คงไม่ใช่กับดักหรือการลงโทษที่บังคับให้เธอสารภาพกับผมใช่ไหม เพราะคาสุกะไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่ชอบรังแกคนอื่น ถ้ามีอะไร เธอเป็นผู้หญิงประเภทที่ไม่ยอมให้ใครมารังแกผมง่ายๆ ถึงแม้ว่าเราจะแทบไม่ได้ติดต่อกันเลย… อย่างที่พูด ชื่อของผมมีเขียนไว้ที่ในนั้น มันส่งถึงผมอย่างไม่ต้องสงสัย

 

เดี๋ยว..บางทีนี่อาจไม่ใช่คำสารภาพเลยก็ได้ และมีเหตุผลอื่นสำหรับเรื่องทั้งหมดนี้…?

 

เธอบอกว่าเธอมีเรื่องสำคัญจะพูด แต่ไม่ได้บอกว่านี่เป็นการสารภาพรักใช่ไหม มันเป็นแค่ความเข้าใจผิดของผมเอง อ่า…น่าอายจัง

 

ที่นั่น ผมได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจากหอประชุมสมาคมศิษย์เก่า โดยเฉพาะจากสนามเทนนิส ซึ่งทำให้ผมรู้สึกไม่ใจสบายแปลกๆ เธอไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม คาสุกะ อยู่ตลอดหรอกเหรอ? แต่ผมไม่เห็น คาสุกะ อยู่ศูนย์กลางของกลุ่มนั้นเหมือนทุกที ซึ่งหมายความว่าตอนนี้กำลังแยกกัน…อาจจะอยู่คนเดียว? …รอผมอยู่ในห้องเรียน D ชั้น 5…?

 

…ผมควรจะต้องไปใช่มั้ย…

 

ผมเริ่มก้าวฝีเท้าเดินไปที่นั่น แต่ผมต้องบอกก่อนว่า…ปกติผมไม่ไปห้องเรียน D ห้องนั้น ห้องเรียนปีแรกอยู่บนชั้นสองและห้องเรียนปีที่สองของเราอยู่ที่ชั้น สามจึงไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับผมในตอนนี้ แต่ห้องเรียนปีสามอยู่บนชั้นสี่ นอกจากนั้น โรงอาหาร ห้องสมุด และห้องเรียนพิเศษทั้งหมดอยู่ที่ชั้นแรก

 

ไม่กี่นาทีต่อมา ผมยืนอยู่หน้าห้องเรียนดังกล่าว แต่ผมได้ยินแค่ความเงียบจากข้างในเท่านั้น สมมติว่าเป็นคาสุกะที่รอผมอยู่.…ใช่ไหม?

 

ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ เปิดประตูแล้วก้าวไปข้างหน้า—

 

“จับได้แล้ว!!!”

 

“ตกลง~”

 

“อุหวา!”

 

ผมได้รับการต้อนรับจากเด็กผู้หญิงผมสีสดใส และผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ดูเหมือนเธอจะอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย คนแรกคว้าแขนผม ดึงผมไปข้างหน้าอย่างแรง! คนที่สองคว้าขาผมยกขึ้น! ในท้ายที่สุด ผมตัวลอยไปในอากาศเหมือนเปลญวน และวางลงบนเตียงที่สร้างโดยโต๊ะกลางห้อง แน่นอน ผมทำกระเป๋าตกระหว่างทาง! ราวกับว่ายังไม่เพียงพอ ผู้หญิงคนที่สาม คาสุกะ ฮินะ นั่งทับอยู่บนท้องผม!

 

 

“ห๊ะ!? ฮะ!? เอ๊ะ!? อะไรเนี่ย!?”

 

ตอนนี้ คาสุกะ กำลังนั่งอยู่บนท้องส่วนล่างของผม เธอกดเบาๆ ข้างหลังผม ต้นขาของเธอจับร่างกายของผมไว้ระหว่างเธอ ผมต้องยอมรับว่านี่อาจเป็นสถานการณ์ในฝันสำหรับเด็กผู้ชายทุกประเภท ใช่ไหม

 

อย่างไรก็ตาม ขอพูดแบบนี้! ตอนนี้ผมตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์นี้แล้ว แทนที่จะรู้สึกมีความสุข ผมแค่รู้สึกสับสนและงุนงง หมายถึง เด็กผู้หญิงผมสีสดใสกำลังคว้าแขนผม อีกคนหนึ่งจับขาผม และเราน่าจะอยู่ในจุดที่สะดวกที่สุดในโรงเรียนที่จะก่ออาชญากรรม

 

“คุโจ ชิซึกิคุง!”

 

คาสุกะยังคงนั่งอยู่บนตัวผมขณะที่เธอยิ้ม

 

รอยยิ้มนี้ทำให้ผมกลัวเพียงเท่านั้น

 

“ป-ปล่อยผมออกไปได้ไหม” ผมพูดเสียงออกมาอย่างตะกุกตะกัก

 

เห็นได้ชัดว่าผมประหม่าที่ต้องรับมือกับคนธรรมดาอย่างเธอ ไม่ต้องพูดถึงว่าผมฟังดูสุภาพต่อเพื่อนร่วมชั้นของตัวเอง

 

“ชิซึกิคุง ไม่ได้เป็นสมาชิกของชมรมอะไรใช่มั้ย!”

 

“ช-ใช่!”

 

“ถ้าต้องการให้เราปล่อยคุณไป ฉันมีคำถาม คุณไม่สนใจเข้าร่วมชมรมของเราหน่อยเหรอ”

 

เธอแสดงท่าทางน่ารักด้วยการเอียงศีรษะ แต่วิธีที่เธอพูดทำให้ดูเหมือนห้องเรียนนี้ถูกใช้เป็นห้องชมรมอะไรสักอย่าง?

 

โรงเรียนนี้มีอาคารที่ใช้สำหรับห้องชมรมโดยตรงใช่ไหม? ทำไมพวกเขาถึงใช้ห้องเรียนว่างบนชั้นสูงสุดของอาคารเรียนล่ะ

 

แม้ว่าผมจะละทิ้งสิ่งนี้ไป ผมก็ไม่ได้วางแผนที่จะเข้าชมรมอะไร เท่าที่ผมเห็น นี่ไม่ใช่ชมรมเกี่ยวกับกีฬา ผมไม่อยากจะไปซ้อมตอนเช้าหรือวันหยุดเลย มันน่าเบื่อจริงๆ

 

แล้วจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี…

 

“-ได้ คิดว่าอะนะ”

 

“จริงๆเหรอ!?”

 

ดวงตาของคาสึกะเบิกกว้างด้วยความตกใจ

 

“งั้น…ผมต้องกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนชมรมใช่มั้ย”

 

“ใช่!”

 

“เอ่อ..ว่าแต่ขยับออกจากตัวผมก่อนได้รึยัง”

 

แน่นอน คาสุกะ ผู้ซื่อสัตย์ยอมปล่อยให้หลุดพ้นจากเรื่องนี้

 

หึๆ ง่ายจัง ถ้าเธอลงจากผม ผมจะวิ่งไปเก็บกระเป๋าใกล้ประตูแล้วบอกลาอย่างไร้เยื่อใยคอยดู

 

“อ๊ะ เดี๋ยวก่อน ฮินะจังเธอไม่จำเป็นต้องปล่อยเขาใช่มั้ย เรมิ ปล่อยแขนขวาของเขา เพียงแค่นี้ก็เซ็นชื่อได้แล้ว!”

 

“ห๊ะ!?”

 

“เข้าใจแล้ว”

 

“Ok~”

 

ด้วยเหตุนี้ ผู้หญิงที่ชื่อเรมีจึงอนุญาตให้ผมขยับมือขวาได้อย่างอิสระ แต่…เอ๊ะ? แม้ว่าผมจะใช้มือขวาได้อย่างเดียว แต่เกมนี้ไม่ยากที่จะเคลียร์ใช่มั้ย ไม่ใช่ว่าผมสามารถผลัก คาสุกะ ด้วยมือขวาของผมได้เหรอ

 

“ชิซึกิคุง ถือแแบฟอร์มอันนี้ไว้สักครู่นะเดียวฉันไปเอาปากกามาให้”

 

“ไม่..เดี๋ยว!..เอ่อ…”

 

“มันเป็นคำเชิญที่ค่อนข้างแรง แต่ฉันดีใจจริงๆ ที่คุณตกลงที่จะเข้าร่วม”

 

เมื่อเธอพูดอย่างนั้น เธอดูดีใจจริงๆ… ผมเดาว่าผมไม่มีทางเลือกอื่นในเรื่องนี้จึงได้แต่ยอมรับมันโดยดี..

 

======

 

หลังจากที่ทุกอย่างสงบลง และผมได้มองดูห้องเรียนรอบๆ ผมคิดว่าห้องปกติมีขนาดประมาณครึ่งหนึ่ง แล้วอีกอย่าง ที่นี้เคยใช้เป็นห้องชมรม

 

มันเกือบใหญ่ไปหน่อยมั้ย? สำหรับสิ่งของในนี้ ผมเห็นโต๊ะ เก้าอี้หลายตัววางอยู่ที่มุมหลังห้อง ชั้นวางหนังสือ นาฬิกาแขวน กระดานไวท์บอร์ด และโต๊ะพร้อมคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ในที่สุด พระอาทิตย์ยามบ่ายของฤดูใบไม้ผลิก็ส่องเข้ามาในห้องจากหน้าต่าง

 

ดังนั้นฉันผมจึงถูกจับนั่งบนเก้าอี้สุ่ม อีกอย่าง ผู้หญิงสามคนที่ดึงผมไว้ก็นั่งรอบตัวผม และยังรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างมากจากพวกเธอ

 

“ช่างเป็นความสำเร็จจากเรมิ! เราประสบความสำเร็จในการได้สมาชิกใหม่ของชมรม~”

 

“ฮิฮิฮิ ช่างเป็นทางออกที่ง่ายจริงๆ ! หากคุณพึ่งพาฉันปัญหา ดังกล่าว คือสิ่งที่ฉันจัดการก่อนอาหารเช้า”

 

ตรงกันข้ามกับฉันที่หมดแรง หญิงสาวที่ชื่อเรมิกระโดดขึ้นลงด้วยความตื่นเต้น เธอสบายดีจริงๆ ปัญหาอยู่ที่สาวตัวเล็กอีกคนที่อยู่ข้างเธอ! ยกมือขึ้น กระพือขาขึ้นลง พูดด้วยเสียงโลลิที่เหมือนไม่อยู่ในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้! เธอยังใช้คำภาษาอังกฤษแบบสุ่มระหว่างประโยคภาษาญี่ปุ่นของเธอ ง่ายอธิบายตนเองได้ และวิธีแก้ไขคือวิธีที่เธอพยายามแก้ไขปัญหาใช่ไหม ปัญหาก็เหมือนคำเรียกปัญหาอีกอย่างหนึ่ง แต่ก่อนอาหารเช้า…อะไรนะ!?

 

ดังนั้น เมื่อพูดเป็นคำที่ผมพอเข้าใจ มันจะเป็นประมาณ… [ว้าว เราเคลียร์ปัญหานั้นได้อย่างง่ายดาย! ถ้าพึ่งฉันนี่เหมือนกินข้าวเป็นอาหารเช้า! เอ๊ะ~!]. ..!?

 

“เดี๋ยวนะ ฮินะไป(ฮินะ) จะไม่แนะนำสมาชิกใหม่ของชมรมเราหน่อยเหรอ..”

 

“จริงๆด้วย บุช!”

 

“อึ้ม”

 

สุกะพยักหน้าไปทางทั้งสอง เผยให้เห็นรอยยิ้มอันอบอุ่นราวกับดอกไม้ที่เบ่งบาน

 

“ยินดีต้อนรับ ชิซึกิคุง สู่ชมรมสนับสนุนหลักสูตรแห่งอนาคตที่แปลกประหลาด”

 

เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและเป็นมิตร เกือบจะเหมือนกับว่าเธอต้อนรับผมในคลับของเธอ

 

“มันเป็นสโมสรสนับสนุนในอนาคตสั้น ๆ แต่คุณรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเราไหม”

 

“อ-อ่า…ไม่ แต่…ผมก็เคยได้ยินมานะ แต่ไม่รู้รายละเอียด”

 

“อย่างที่ชื่อบอก เรารวบรวมคนที่มีปัญหาในการตัดสินใจในอนาคตหลังจากเรียนจบ เพื่อให้เราสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อให้เราทุกคนสามารถไปถึงความฝันของเราได้ เราไม่ใช่กีฬาหรือสโมสรวัฒนธรรม นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยู่ในหมวดหมู่ที่แปลกประหลาด”

 

“ผมคิดว่า..ผมอยากจะออก”

 

“อ๊ะ….ทำไมล่ะ!!”

 

“ไม่ใช่ว่ามันน่าเกลียดอะไรแบบนั้นนะ ผมหมายถึง…การรวมตัวของผู้คน การสนับสนุนซึ่งกันและกัน นั่นคือคำที่ไม่เข้ากับภาพลักษณ์ของผมเลย… ผมเกลียดการทำงานเป็นกลุ่มตั้งแต่อนุบาล…มันมักจะล้มเหลว..”

 

“…อึม…ฮึ! แต่! ในการออกจาดชมรม คุณต้องมีตรารับรองของประธานชมรมและที่ปรึกษา และฉันจะไม่ยอมรับว่าคุณจะออกจากชมรมหลังจากเข้าร่วมสามนาที ตอนนี้เข้าสู่นาทีที่สี่แล้ว~”

 

“ไม่-คืออย่างนั้น…เอ่อ..ถ้างั้น… อืม…”

 

ผมหันไปมองสาวๆ คนอื่นๆหลังจากการสนทนา โดยที่ผู้หญิงที่ชื่อเรมีเป็นคนแรกที่พูดขึ้น

 

“ยินดีที่ได้รู้จัก~ ยืนฉันน่ารัก นั่งฉันน่ารัก เวลาเดินฉันมีเสน่ห์~ รอยยิ้มของเรมิเต็ม 100% และเธอเป็นนักเรียนมัธยมที่สวยที่สุดในโลก ชื่ออารามิยะ เรมิ~”

 

“…..เห๊ะ!”

 

การแนะนำตัวนั้นทำให้ดูเหมือนว่าเธอมีไอคิวน้อยกว่าหนึ่ง ด้วยซ้ำ….

 

“…อื้อ เข้าใจแล้ว… ยินดีที่ได้รู้จัก ตอนยืนงอหลัง นั่งทำเหมือนหลับ เดินทำให้ดูน่าสงสัย ผมเป็นนักเรียนมัธยมปลายผู้โดดเดี่ยวที่ไม่แพ้เมื่อต้องยิ้มครั้งแรก ชิซึกิ คุโจ

 

อารามิยะ มีผมสีบลอนด์อ่อน ๆ ที่ดูสบายและนุ่มสลวยมัดเป็นหางคู่ และจากการตัดสินของผม สารอาหารทั้งหมดของเธอที่จำเป็นสำหรับสมองในการทำงาน จะมุ่งไปที่หน้าอกของเธอเกือบ100% ที่ผมพูดไปคือเหมือนมีเครื่องรีดนมตัวโตๆ เนื่องจากสิ่งนี้จะทำให้เกิดความรู้สึกแย่ ผมสาบานว่าจะไม่พูดออกมาดังๆ เลย…นอกจากนี้ เธอยังน้อยกว่า คาสุกะ ในแง่ของส่วนสูง

 

“งานอดิเรกของ เรมิ คือการเซลฟี่และอัพโหลดรูปตัวเองบน ไอจี เธอยังมีผู้ติดตามบนยูทูปถึงห้าพันคน คนอีกด้วย! การอัปโหลดเซลฟี่บน ทวีตเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอทุกวัน! ชิซึไป ขอโทษที่ เรมิ น่ารักมากกก~ นายตกหลุมรักเสน่ห์ที่ชั่วร้ายของเธอไม่ได้ในขณะที่เธอแสดงรอยยิ้มนางฟ้าให้นายเห็น!”

 

“ชิซึไป นั่นใครน่ะ..”

 

“นายคือ รุ่นพี่ชิซึกิใช่ไหม นั่นเป็นเหตุผลที่ชื่อ ชิซึไป!”

 

“ไม่เห็นเข้าใจสักนิดเลยย!”

 

“สิ่งที่ฉันเข้าชมรมนี้มาคือเป็นไอดอลเพื่อคนทั้งประเทศ!”

 

อารามิยะ ยิ้มออกมาอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งน่าจะทำให้เด็กผู้ชายทุกคนที่ดูอยู่ตกหลุมรักเธอให้ได้

 

“ต่อไปก็ถึงตาฉันแล้ว ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อ ชิซากะ ฮารุกะ ชั้นปี3ห้อง2 บุช!!”

 

“เป็นรุ่นพี่สินะครับ… ยินดีที่ได้รู้จัก ผมชื่อคุโจ ชิซึกิจากปี2ห้อง1”

 

เนื่องจากนี่คือการพบกันครั้งแรกของเรา ผมพยายามแสดงความเคารพให้มากที่สุด รุ่นพี่ชิซากะมีผมยาวสีขาวอมเทามัดเป็นหางคู่ และ…แม้ว่าผมจะรู้ว่านี่เป็นเรื่องหยาบคายที่ฉันจะคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เป็นรุ่นพี่ ทั้งส่วนสูงและหน้าอกของเธอยังเล็ก ถ้าฉันต้องเดา เธออาจจะสูงไม่ถึง 150 ซม. และหน้าอกของเธอน้อยกว่าภูเขาไม่สิ—น้อยกว่าเนินเขา และเหมือนทุ่งหญ้ามากกว่า…

 

“ยังไงก็เถอะ นายรู้รึเปล่าคุโจ”

 

“เอ๊ะ..?”

 

“คนที่ริเริ่ม ใน การเป็นผู้นำในชั้นเรียนนั้นเป็นสิ่งที่เรียกว่าตัวละครแสงแดดและยิ่ง มี หลายกรณีคุณไม่คิดหรือว่าชุมชนสามารถตกอยู่ในสเปกตรัมเชิงลบทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการทำงานร่วมกัน ?”

 

“อ-อะ”

 

เกิดอะไรขึ้นกับเธอ…ได้โปรด พูดภาษาญี่ปุ่นให้เข้าใจหน่อยได้ไหม? ผมเข้าใจความคิดริเริ่มและการทำงานร่วมกัน แต่ตัวละครแสงอาทิตย์คืออะไร! เธอกำลังพูดถึงคนดัง..เหรอ !?

 

“โอเคมั้ย  ชิซึกิคุง? คุณเข้าใจที่รุ่นพี่ชิซากะพยายามจะพูดหรือเปล่า?”

 

“..…ถ้าให้ผมต้องเดา มันอาจจะเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับ [อืม อืม! ความแตกต่างมากมายในชั้นเรียน มีความสามารถในการแสดงและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว พวกเขามีพลังที่จะนำทุกคนมารวมกันเป็นเพื่อน!รึเปล่า~?] บางทีนะ..”

 

“ฉันไม่ได้ดูแปลกประหลาดขนาดนั้นสักหน่อย!”

 

แม้ว่าโดยพื้นฐานแล้วเราจะนั่งติดกัน แต่เนื่องจากความสูงต่างกัน เธอจึงต้องมองมาที่ผม แม้จะทำหน้าบึ้งด้วยท่าทางน่ารัก อ่า…มันสมเหตุสมผลแล้วตอนนี้ เนื่องจากท่าทางและวิธีพูดของเธอคล้ายคลึงกัน…หรือมากกว่านั้นเหมือนกับเด็กสาวที่มีพลัง การแปลประโยคของผมทำให้เธอดูอ่อนกว่าวัยมาก

 

“รุ่นพี่ก็พูดปกติได้นิครับ..”

 

“ฉันกำลังบอกว่า ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ ฉันคือ อินฟลูเอนเซอร์ ที่ดีที่สุด ชิซากะ ฮารุกะ!โฮ๊ะ—”

 

เธอแสดงรอยยิ้มที่มั่นใจไม่เหมาะกับรูปร่างหน้าตาของเธอ

 

“แล้วเป้าหมายในอนาคตของรุ่นพี่ชิซากะคืออะไรเหรอคะ..”

 

“ฮึ่ม….เป็นเกียรติมากที่ถาม”

 

“…..ผมอยากกลับบ้าน—”

 

“ฉันผู้ยิ่งใหญ่ชิซากะ ฮารุกะ ผู้นี้ทำงานเป็น CEO ในบริษัทแห่งหนึ่งแล้ว!”

 

“หือ…รุ่นพี่ชิซากะ ประธานบริษัทกับ CEO ต่างกันยังไง”

 

“เอ๊ะ!? อืม อืม … เอ๊ะ? ประธานบริษัทและ CEO ต่างกัน…!อย่างนั้นเหรอ…?”

 

*กรี้งงงงงงง*

 

===เสียงออดเลิกเวลาเรียน===

 

“~~! ฮึไม่มีเวลาอธิยาย บริษัทที่คุณปู่ของฉันก่อตั้งไม่ได้มาจากพ่อ เพื่อที่จะได้ไม่ล้มละลาย ฉันก็ได้สืบทอดเป็นประธานบริษัท”

 

“อ่ะ…อาฮะ-“

 

“อย่างไรก็ตาม ฉันจะพยายามนำบริษัท ของคุณปู่ ไปสู่ระดับสากลและ ระดับ สากล มากขึ้น ดังนั้นฉันจึง มี ความเกี่ยวข้องกับชมรม แห่งนี้ “

 

“แล้วบริษัทของรุ่นพี่ชิซากะ ทำเกี่ยวกับอะไรเหรอ”

 

“เอ๊ะ….อะ..เอ่อ”

 

“ใช่ๆ มันควรเป็นคำถามแรกๆที่พวกเราควรถามเลยนะ”

 

“เอ่อ..ส-สินค้าพิเศษน่ะ”

 

“สินค้าพิเศษ หมายความว่ายังไงคะ..”

 

“มัน…เป็นบริษัทที่เน้นสินค้าที่จะทำให้คนมีความสุข ! อืม…อืม มันเป็นของที่กระตุ้นร่างกายของคนในทางบวก คล้ายๆเทียนไขอะไรประมาณนั้น!”

 

“เทียน? เทียนหอมอโรมาใช่มั้ย? ใช้มาสก์ตา รุ่นพี่คงกำลังพูดถึงของที่ใช้สำหรับการนอนหลับสบาย ใช่ไหม แต่ว่า…สิ่งที่เป็นสินค้าที่กระตุ้นร่างกาย?”

 

“เดี๋ยวก่อน..! ไม่ใช่แบบนั้น ก็…ประมาณว่า เครื่องนวด ล่ะมั้ง”

 

ทำไมรุ่นพี่ชิซากะถึงหน้าแดง? เธอควรจะภูมิใจในบริษัทของเธอ และเธอไม่แม้แต่จะสบตาผมด้วยซ้ำ

 

“รุ่นพี่ฮารุกะไม่เคยบอกเราเลยว่าเธอรับผิดชอบบริษัทแบบไหน…แล้วชิซึกิคุงล่ะ?”

 

“อ่า…ผมคิดไม่ออก..ก็ผมถูกบังคับไม่ใช่หรอกเหรอ!”

 

ทันใดนั้น อารามิยะ ก็…

 

“เรมิอยากจะเป็นไอดอลที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ ดังนั้นฉันจึงอยากรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของแฟนๆ ของฉัน!”

 

“ฮะ…!? วิถีชีวิตของแฟนๆ…”

 

“ใช่ สิ่งที่แฟนๆ ชอบ สิ่งที่พวกเขาต้องการจาก เรมิคนนี้และ..”

 

“โอ้..จะว่าไปแล้ว แทนที่จะเป็นเหตุผลที่เธอต้องการผมยังไม่ได้ยินเกี่ยวกับหลักสูตรในอนาคตของเธอเลยใช่ไหมคุณคาสุกะ”

 

“~~~~!”

 

เกิดอะไรขึ้นกับคาสุกะ? เธอหน้าแดงอย่างโกรธจัด ดูกระสับกระส่ายอย่างสุดขีด ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอบอุ่นแปลก ๆ และเธอก็กระสับกระส่ายขณะที่เธอดันนิ้วเข้าหากัน แต่ว่า..

 

*กรี๊งงงงงงง*

 

====เสียงออดดังครั้งที่สอง====

 

อารามิยะ ชี้ให้เห็นโดยไม่ตั้งใจ แล้ว คาสุกะ

 

“ร-เรมิจัง รุ่นพี่ชิซากะ กลับบ้านได้แล้ว~ ฉันจะล็อคประตูแล้ว!!!!!”

 

คาสุกะพูดในลักษณะที่ค่อนข้างตื่นตระหนก โดยที่ อารามิยะ และรุ่นพี่ ชิซากะ มองหน้ากันและแสดงรอยยิ้มอย่างมีเล่ห์กล

 

อะไรละนั่น… พวกเขากำลังวางแผนอะไรบางอย่าง? ผมพนันได้เลยว่ามันเป็นเรื่องที่ผมไม่รู้ แต่นั่นยิ่งคิดมันทำให้ผมยิ่งกลัวมากขึ้น….

 

“ถ้าอย่างนั้น ชิซึไป ฮินาไป พวกเราขอกลับก่อนนะ~”

 

พวกเขาเป็นนักเรียนทั้งคู่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถขัดกับเสียงระฆังสุดท้ายของวันได้ นั่นเป็นเสียงระฆังเตือนครั้งแรกอารามิยะ ก้าวออกจากห้องด้วยขั้นตอนง่ายๆ และรุ่นพี่ ชิซากะก็เดินตามเขาออกไปไป..

 

ผมค่อยๆลุกจากเก้าอี้ตัวเอง ตราบใดที่ไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้น…เพื่อเตรียมตัวกลับบ้านเช่นกัน

 

“….ชิซึกิคุง..คุณอยู่ต่ออีกสักหน่อยได้ไหม…”

 

======

 

ตัดจบ!!!!!!! ขอบ่นอะไรสักอย่างหน่อยได้ม้ายย คือแบบ งงกับบทพูดของแต่ละตัวละครมากกกกก ด้วยที่ยิ่งไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนยิ่งทำให้งง ถ้าอ่านส่วนไหนไม่เข้าใจก็ขอโทษ…

[LN] Inchara na Ore to Ichatsukitaitte Majikayo…

[LN] Inchara na Ore to Ichatsukitaitte Majikayo…

Score 10
Status: Completed
คุโจ ชิซูกิ นักเรียนมัธยมปลายในเงามืด ใช้ชีวิตตามวันเวลาอย่างอิสระ จู่ๆ เขาก็ได้รับคำสารภาพรักอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยจากคาสุกะ ฮินะ เด็กสาวมัธยมปลายผู้โดดเด่น แม้จะปฏิเสธเธอไปแล้วว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่เขาชอบ ด้วยที่เธอไม่ยอมแพ้เธอเลยขอให้เขา "เปลี่ยนเธอให้เป็นผู้หญิงในอุดมคติ"

Options

not work with dark mode
Reset