[LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก 43 Volume 2 Chapter 4 มังกรตาเดียว End Chapter

ตอนที่ 43 Volume 2 Chapter 4 มังกรตาเดียว End Chapter

Part 7

ค่ายของราชอาณาจักรลิชไทน์กำลังตื่นตระหนกเมื่อได้ยินเสียงกลองที่สะท้อนจากกองทัพจักรวรรดิที่สี่

 

“ศัตรูบุก! ทหารม้าของศัตรูเคลื่อนทัพมาแล้ว!”

 

“นำทาสไปข้างหน้าสร้างกำแพงป้องกันและส่งพลธนูไปข้างหน้าเพื่อยิงสกัดกั้น”

 

มาร์ควิสรังกิลส์ มองไปที่ขุนนางอย่างขยะแขยงแล้วกัดฟันด้วยความหงุดหงิด

 

“พวกมันเริ่มมาแล้ว…”

 

ไม่กี่วิที่ผ่านมาพวกเขาพึ่งทราบว่าผู้บัญการของกองทัพจักรวรรดิที่สี่ถูกแทนที่ จึงพยายามศึกษาตัวคนนำทัพฝ่ายศัตรู สิ่งแรกที่เขาทำคือนำทหารอูฐไปข้างหน้าเพื่อดูว่าพวกเขาจะตอบสนองอย่างไร

 

“นี่มันกำลังซัดเราเข้ามาเหรอ?”

 

พวกเขานำทัพเข้ามาในเวลาที่เหมาะสม ถ้านี่คือความสามารถของเจ้าหญิงลำดับที่หก มันน่ากลัวมาก แม้ว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่ก็เป็นที่ชัดเจนว่ามีคนที่มากความสามารถเข้าร่วมด้วย

 

อย่างที่คาดเอาไว้มหาจักรวรรดิแกรนท์ ซึ่งเป็นมหาอำนาจที่โดดเด่นในโลก อย่างไรก็ตาม ไม่มีเวลามาประทับใจเรื่องนั้น

 

“อย่าตกใจ พาทหารอูฐไปทางซ้ายและขวา!”

 

ไม่ว่าเจตนาของศัตรูจะเป็นยังไง พวกเขาก็ต้องหลีกเลี่ยงการถูกล้อม

 

“นำพลธนูไปข้างหน้า ศัตรูกำลังมาทางนี้ นี่เป็นโอกาสอันดี!”

 

จากนั้นก็ตระหนักได้ว่าชายที่อยู่ด้านหลังของทหารม้าคือชายคนนั้น

 

“อย่างที่คิด มาด้วยสินะ”

 

บาดแผลที่ชายชุดดำทิ้งไว้ยังคงลึกอยู่ ไม่ใช่แค่ทาสเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทหารทั่วไปที่ได้รับการบอกกันตามเรื่องราวและความกลัวบนใบหน้าของพวกเขา วิธีเดียวที่จะลบล้างความกลัวคือให้ความมั่นใจแก่พวกเขา ราวกับจะบดขยี้ความวิตกกังวลของเขา รังกิลส์พูดกับตัวเองว่าเขาจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ทุกวิธีทาง

 

“พลธนูเตรียมตัว!”

 

ขณะที่ออกคำสั่ง ฉากแปลกๆก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ทหารม้าของศัตรูได้กระจายตัวและแยกย้ายกันไปเมฆฝุ่นขนาดใหญ่ลอยขึ้นทำให้ท้องฟ้าเป็นสีน้ำตาล

 

“ลมแรงงั้นเหรอ…?”

 

ทหารม้าหายเข้าไปในฝุ่น ได้ยินเพียงเสียงคำรามของเกือกม้าและเสียงตะโกน สถานการณ์นั้นไม่ค่อยน่าพอใจนัก แต่เขาดีใจที่ชายชุดดำไม่อยู่ในสายตาอีกต่อไป ทหารส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่าเขาโผล่มาในสนามรบ

 

“ยังไงก็ตาม พวกเขาวางแผนที่จะซ่อนตัวอยู่ในทรายและตั้งวงล้อมงั้นเหรอ? หากเป็นกรณีนี้ พวกเรากำลังโดนดูถูกอยู่.”

 

รังกิลล์มองไปรอบๆทุกทิศทางแล้วขึ้นเสียง

 

“ปีกซ้าย ปีกขวาไปข้างหน้า! กลุ่มแรกถอยออกมา!”

 

ออกคำสั่งให้ปิดล้อมกลับไป

 

ผ่านมาจากนั้นไม่นาน

 

“…ไม่มีศัตรูโผล่มางั้นเรอะ?”

 

เขาสังเกตถึงบางอย่างแปลกๆแต่เสียงกลองและเสียงเกือกม้ายังคงทำให้แก้วหูของเขาสั่นสะเทือน

 

“ไม่ใช่……..ถอยออกไปแล้วงั้นเหรอ?”

 

เมื่อถึงเวลาที่คิดว่าจะโดนบุก มันก็สายไปเสียแล้ว ทหารม้าหายไปทั้งหมด เขากำลังไตร่ตรองถึงจุดประสงค์ของศัตรู จากนั้นก็โดนขัดด้วยเสียงของทหาร

 

“ผู้ชายชุดำ เขาโผล่มาอีกแล้ว”

 

เสียงดังกล่าวดังมาจากแถวหน้า ความสับสนเข้าผ่านกองทัพและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

 

“เกิดบ้าอะไรขึ้นวะ…?”

 

โดยไม่ให้เวลาเขาคิดด้วยซ้ำ รังกิลล์เงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ พื้นที่รอบๆเกิดความโกลาหลขึ้น และมีการพังทลายของกองทัพ ไม่เพียงแค่นั้นทหารยังหยุดชะงักโดยสิ้นเชิง

 

รังกิลล์ปวดหวัและเอามือแตะหน้าผาก มองไปที่เดียวกันกับทหาร

 

ชายคนหนึ่งในชุดสีดำเสื้อคลุมสีดำยืนอยู่ตรงนั้น

 

ภาพของการสังหารหมู่กลับเข้ามาในใจเขา ร่างกายของเขาสั่นสะท้านไปด้วยความกลัว รังกิลล์ไม่ได้มีเวลามากพอที่จะสั่นกลัว

 

หลังจากตบแก้มของตัวเองเพื่อดึงสติกลับมา รังกิลล์หายใจเข้าเล็กน้อยและอ้าปาก

 

“อย่าเสียขบวน! ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นชายเพียงคนเดียว กลัวอะไร?”

 

“แต่ว่าไอ้หมอนั่นมันจัดการกองทัพหนึ่งพันคนด้วยตัวคนเดียว!”

 

“อย่าไปกลัว พวกเราเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว”

 

เพื่อตอบโต้กับชายชุดดำพวกเขารวบรวมทหารชำนาญการหนึ่งร้อยนายและจัดตั้งหน่วยพิเศษขึ้นมา สำหรับคนที่สามารถต่อกรกับทหารหนึ่งพันนายได้ แม้ว่าจะเป็นระดับหัวกะทิหนึ่งร้อยนายอาจจะไม่เพียงพอ แต่ตราบใดที่ซื้อเวลาได้ ก็ไม่มีปัญหา ในขณะที่จมปลักอยู่กับหน่วยหัวกะทิ จะต้อนกองทัพจักรวรรดิที่สี่ออกไป

 

ท้ายที่สุดแล้วจำนวนที่มากกว่าก็ไม่สามารถต่อต้านได้ด้วยตัวคนเดียว

 

“แกจะต้องได้รับสิ่งนี้.”

 

รังกิลล์ชักดาบออกจากเอวแล้วเล็งไปที่ผู้ถือธง ทหารอูฐหนึ่งร้อยนายที่ได้รับเลือดเป็นพลทะลวงในการโจมตี เขาเริ่มรุกคืบเข้าไป

 

“เมื่อการต่อสู้ระหว่างพวกพลทะลวงกับชายชุดดำเริ่มต้นขึ้น พวกเราจะบุกเข้ากองทัพจักรวรรดิที่สี่ จากนั้นจะให้พวกพลทะลวงเหล่านั้นล่อชายคนนั้นเอาไว้.”

 

“ครับ ถ้างั้นจะไปแจ้งกองทัพให้เตรียมพร้อม”

 

“อืม”

 

ยังไงก็ตาม การต่อสู้ไม่ได้เริ่มขึ้นสักที รังกิลล์จึงได้แต่สงสัยและผู้ส่งสารก็เข้ามาหา

 

“ตัวปลอมครับ ! ชายคนนั้นเป็นตัวปลอม!”

 

“หือ หมายความว่าไงตัวปลอม?”

 

“มันแค่ท่อนซุงที่ผูกไว้กับถุงทรายและคลุมด้วยผ้าสีดำครับ.”

 

มีเสียงดังสนั่นขึ้น มันเป็นเสียงของบางสิ่งที่ผู้ส่งสารทำหล่นจากหลังของเขา มันเป็นท่อนซุงที่มีผ้าคลุมสีดำอยู่

 

“…หือ บ้าอะไรวะเนี่ย?”

 

เขาตกใจจนพูดไม่ออก บางทีเขาอาจจะกลัวเกินไปจนตกกลอุบายแบบเด็กๆนี่เข้าจังๆ

 

“ข้างหน้าเองก็มีเหมือนกันครับ.”

 

“…หะ?”

 

นั่นคือตรงที่กองทัพจักรวรรดิที่สี่และกองทัพกบฏต่อสู้กัน มีรอยขุดขนาดใหญ่ในพื้นดินที่สามารถมองลงไปได้จากทุกด้าน ท่ามกลางศพมีท่อนซุงจำนวนมากปกคลุมด้วยผ้าสีดำราวกับว่าเป็นหลุมฝังศพ

 

“ทำเหมือนกับตรูเป็นคนโง่”

 

เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ ทุกคนรู้ว่าชายชุดดำนั้นเก่งกาจ แต่ไม่มีการรับประกันเลยว่าจะไม่ซ่อนตัวภายใต้ท่อนซุงเหล่านั้น หรือมีตัวจริงปะปนอยู่ หลายคนต่างคิดแบบเดียวกัน นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาลังเลจะลงมือ

 

“สงสัยเหลือเกินว่าจุดประสงค์ที่ทำลงไปคือการออกไปจากที่นี่ หรือกำลังปิดล้อมพวกเรา ไม่ว่าจะเหตุไหน ก็ไม่เคยคิดว่าศัตรูจะทำได้ดีขนาดนี้.”

 

ฝั่งตรงข้ามกับกองสุสานกองทัพจักรวรรดิที่สี่กำลังล่าถอยโดยแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัด มันเป็นการล่อให้เหยื่อกินเบ็ดอย่างดี หากพวกเขาจะเข้าโจมตีเขาก็จะต้องผ่านจุดนี้ไป หากมันเป็นกำดัก ไม่เพียงแต่จะเสียเปรียบด้านสมรภูมิรบ แต่ยังต้องตายฟรีอีกด้วย

 

นอกจากนี้ หากชายชุดดำคนนั้นซ่อนตัวอยู่ก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะแยกออกได้เลย ยิ่งสู้ก็ยิ่งแพ้ทางศัตรู

 

“ถ้าเราเลี่ยงสถานการณ์ตรงนี้และไล่ตามฝ่ายตรงข้าม…”

 

ไม่เพียงแต่ฝ่ายตรงข้ามจะใช้แผนสกัดกั้นเท่านั้น แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่ขบวนทัพของเขาจะถูกขัดขวางอีกด้วยและถูกบังคับให้เข้าสู่การต่อสู้ ถ้าเป็นแบบนั้นไม่ว่าเลือกเดินทางไหนก็หายนะ

 

“แม้ว่าจะเป็นดินแดนของศัตรู แต่ก็สามารถควบคุมสนามรบได้อย่างอิสระ แถมทำให้ตัวเองได้เปรียบอยู่ฝ่ายเดียว ฝ่ายตรงข้ามมันมีสัตว์ประหลาดอย่างเทพเจ้าแห่งสงครามรึไงเนี่ย”

 

หลังจากหัวเราะเยาะเย้ยเล็กน้อย รังกิลล์ก็มองไปบนท้องฟ้า กลางคืนกำลังมาถึง หากพวกเขาปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปจะเกิดแต่การทำลายล้างเกิดขึ้น

 

รังกิลล์แสดงสีหน้ามืดมน เส้นทางสู่ชัยชนะถูกปิดกั้นอย่างสมบูรณ์แบบ กำลังใจในการรบถูกบดขยี้ย่อยยับ หากพวกเขาหาทางออกในสถานการณ์นี้ไม่ได้ ก็เตรียมรับความพ่ายแพ้

 

รังกิลล์ราวกับเจอกำแพงที่มองไม่เห็นตั้งตระหง่านอยู่ไกลๆ

[LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก

[LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก

Score 10
Status: Completed
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกขนานนามกันว่า “วีรบุรุษแห่งสงคราม.” ณ ต่างโลกที่ซึ่งถูกเรียกว่า อเลเทีย ชายหนุ่มที่ช่วยอาณาจักรที่กำลังจะล่มสลายโดยประเทศข้างเคียง ได้ทำการเข้ากอบกู้และก่อตั้งจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ขึ้นมาและทิ้งมันเอาไว้ให้กับคนรุ่นหลังและกลับโลกที่เขาจากมา เหลือทิ้งไว้ความทรงจำ สามปีผ่านไป ชายหนุ่มผู้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกๆวันก็ถูกเรียกกลับไปต่างโลกอีกครั้ง ยังไงก็ตามแต่ สิ่งที่รอเขาอยู่คือ อเลเทียในอีก 1,000 ปีข้างหน้าเสียแล้ว ชายหนุ่มที่เคยรุ่งโรจน์ได้กลายเป็น “เทพนิยาย”ที่ถูกเล่ากันเป็นตำนานในฐานะ “คู่หูราชาวีรบุรุษทมิฬ”

Options

not work with dark mode
Reset