[LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก 41 Volume 2 Chapter 4 มังกรตาเดียว Part 5

ตอนที่ 41 Volume 2 Chapter 4 มังกรตาเดียว Part 5

Part 5

ปีกซ้ายของกองทัพจักรวรรดิที่สี่ที่เสร็จสิ้นการวางกำลังโดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออก แต่ขวัญกำลังใจของทหารต่ำมากเนื่องจากถูกบังคับให้เดินทัพและต่อสู้โดยไม่ได้พักผ่อน ถึงกระนั้น ก็ไม่มีเสียงบ่นอิดออดใดๆ กองทหารยังคงเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ หากเป็นพวกทาสถูกเกณฑ์มาคงแตกกระเจิงกันไปหมดแล้ว

 

ทางปีกซ้ายมีบรรยากาศตึงเครียดเพราะมีเจ้าหญิงลำดับที่หกเป็นผู้รับผิดชอบ ผมสีแดงของเธอจะเปื้อนไปด้วยฝุ่นและแสดงท่าทางอ่อนล้าภายใต้ดวงอาทิตย์ แต่นั่นก็ไม่ได้ลดทอนเสน่ห์ในตัวเธอเลย รูปลักษณ์ที่ร่าเริงของเธอซึ่งอยู่ในคราบนักรบ ช่วยทำให้ขวัญกำลังใจของทหารมีมากขึ้น

 

“เฮ้อออ…”

 

ลิซถอนหายใจด้วยความรำคาญ เธอเป็นเหมือนภรรยาที่รอสามีกลับมาจากสนามรบ———-หรือเหมือนแม่ที่รอลูกกลับมา

 

“ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะพี่สาว พี่ชายน่ะสุดยอดมากเลยใช่ไหมล่ะ?”

 

ตรงหน้าของเธอมีเด็กสาวคนหนึ่ง ผิวสีน้ำตาล แต่ถูกซ่อนใต้เสื้อคลุมขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ฮู้ดที่คลุมติดกับเสื้อคลุมบดบังใบหน้าของเธอ ทำให้มองไม่เห็นสีหน้าของเธอ เธอเป็นผู้นำทัพกบฏกองทัพปลดแอค ดังนั้นมีหลายคนที่แค้นเธอและราชอาณาจักรลิชไทน์ก็อยากจะฆ่าเธอให้ตาย กองทัพจักรวรรดิที่สี่เองก็เช่นกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เธอต้องอยู่ภายใต้การดูแลของลิซจากคนที่คิดจะแสวงหาผลงาน

 

“นั่นสิน้าาาา ฉันเป็นห่วงเขาเพราะเขาเป็นคนที่บ้าบิ่น ฉันหวังว่าฮิโระจะไม่ได้รับบาดเจ็บ.”

 

“ไม่มีอะไรต้องกังวลสำหรับไอ้หนูนั่นหรอก.”

 

ทริสตอบโต้คำพูดของลิซ

 

“ข้าเองก็จะบอกว่าไม่ต้องห่วงหมอนั่นหรอก แม้ว่าข้าจะเป็นศัตรู แต่ก็เข้าใจถึงความแข็งแกร่งเขาดีเพราะเคยสู้กับเขามาก่อน…”

 

ถัดจากทริสคือกาด้าในแง่ของรูปร่างหน้าตาเขาอายุยี่สิบต้นๆ แต่ความจริงก็คือเขาเป็นซลอร์ตต้าและอายุมากกว่าร้อยปี

 

“แต่การหยุดการรุกคืบของศัตรูด้วยตัวเองนั้นมันบ้าบอมากเลยนะ ลองคิดดูสิยังไงมันก็น่าห่วงอะ.”

 

ลิซที่กำลังจะพูดจนจบประโยค ก็เจอกับชายหนุ่มที่เธอกังวลเป็นอย่างมากเพราะเขากลับมาหาเธอแล้ว ยังมีระยะห่างกันอยู่บ้าง แต่ใบหน้าของชายหนุ่มก็แสดงอาการเหนื่อยล้า

 

ลิซคว้าถุงน้ำของเธอและพูดขึ้น

 

“หลีกทางหน่อย ให้เขาเข้ามา!”

 

ไม่นานหลังจากนั้น ฮิโระก็มาหาลิซ ลิซยื่นถุงน้ำให้เขาอย่างเงียบๆ และหลังจากขอบคุณเธอแล้ว ฮิโระก็ดื่มมัน

 

เมื่อลิซเห็นฮิโระดื่มมันในอึกเดียว เธอก็อุทานออกมา “หวาาาาา”

ตอนนี้ฮิโระกำลังดื่มน้ำจากถุงน้ำของเธอ ซึ่งเธอดื่มมันไปหลายครั้ง บางทีความหมายที่เธอจะหมายถึงนั้นทำให้เธอหน้าแดงแจ๋ เช่นเดียวกับสีผมของเธอ

 

“อ๋าาาาาาาาาาาาาา~~~~?”

 

ลิซกุมหัวขณะที่แสดงความเขินอายขณะที่เธอส่งเสียงออกมา ฮิโระได้แต่สงสัยที่ลิซแสดงท่าทีแปลกๆ

 

อย่างไรก็ตามเขาสังเกตเห็นเจตนาฆ่า ทริสจ้องมองฮิโระด้วยสีหน้าไม่พอใจ ฮิโระกลืนน้ำลายด้วยความสับสน เขาเช็ดน้ำจากมุมปากและมองไปรอบๆราวกับจะแสร้งทำตัวใสซื่อ

 

“หืมมม พวกเรามีทั้งหมดเท่านี้เหรอ?”

 

“เออออออออออ๋?”

 

ลิซดูเหมือนจะไม่เข้าใจความหมายของคำพูดของเขา

 

“เอ๋ อยากได้น้ำมากกว่านี้งั้นเหรอ เดี๋ยวฉันจะรีบไปหาเดี๋ยวนี้แหละ !”

 

เธอพูดด้วยความเข้าใจผิดและพยายามจะออกไปหาน้ำเพิ่ม ฮิโระรีบหยุดเธอ

 

“ไม่ ไม่ ใจเย็นลิซ ไม่ใช่แบบนั้น มันยังเหลืออยู่ แค่นี้พอแล้วน่า สงบสติหน่อยสิ?”

 

“…งั้นเหรอ งั้นเหรอ ล้อเล่นสินะ”

 

ลิซเอามือออกจากบังเหียนและเริ่มลูบหัวของมิลล์ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอ

 

มิลล์ซึ่งยอมให้ลูบหัวอย่างเงียบๆ เธอมองด้วยความสงสัย หลังจากนั้นไม่นานก็ส่งเสียงประท้วง

 

“พี่สาวมันเจ็บนะคะ!”

 

“ขอโทษที แต่ผมของเธอดูน่าลูบมากเลย!”

 

“ไม่เห็นจะน่าลูบตรงไหนเลยค่ะ”

 

“ไม่จริงสักหน่อย!”

 

ลิซไม่ฟังเธอและยังลูบหัวมิลล์ต่อไป แม้ว่าฮิโระจะมองไม่เห็นสีหน้าของเธอ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ว่าตอนนี้เธอกำลังโกรธ

 

เขาอดไม่ได้ที่จะสังเกตเห็นสภาพของลิซที่พยายามกลบเกลื่อนความอาย

 

“อะแฮ่ม! องค์หญิง เจ้าหนูนี่อาจจะถามว่าพวกเรามีทหารทั้งหมดแค่นี้งั้นเหรอครับ?”

 

ทริสเคลียร์ลำคอและยื่นมือช่วยเหลือลิซ

 

“แน่นอน ฉะฉะฉะฉะฉันรู้อยู่แล้วน่า!”

 

ลิซปล่อยมิลล์และชี้นิ้วไปทางฮิโระ

 

“เฮ้อร้อนเกินจนทำอะไรไม่ถูกเลย !” ลิซกล่าว

 

ฮิโระยิ้มเจื้อนๆและส่ายหัว

 

“ไม่เป็นไรหรอก มันเป็นความผิดของชั้นเองที่ไม่ยอมอธิบายให้ถี่ถ้วน.”

 

“…นี่พวกนายเคยเครียดบ้างปะเนี่ย?”

 

ฮิโระแสร้งทำไม่ได้ยินคำพูดของกาด้า จากนั้นก็ถามคำถามอีกครั้ง

 

“ดังนั้น……นี่คือทัพทั้งหมดที่พวกเรารวบรวมได้? ทหารสำรองอยู่ไหนล่ะ?”

 

มีเพียงปีกซ้ายเท่านั้นที่ถูกสร้างขึ้นและเตรียมพร้อมสำหรับการจู่โจม

 

ก่อนออกจากที่นี่ ฮิโระส่งข้อความไปหานายพลไคโลให้ส่งหน่วยสำรองมาเป็นปีกขวาให้กับทัพของฮิโระ แต่ว่าไม่มีหน่วยสำรองถูกส่งมาเลย ทางด้านหลังปีกซ้ายมีทหารที่ได้อาวุธจากเหล่ากบฏและถูกรวบรวมเอาไว้เยอะมาก หลายๆคนกำลังนั่งพักเอาแรงอยู่

 

“ถ้ามีใครมีข้อเสนอ ชั้นไม่รังเกียจหรอก แต่”

 

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่มีแผนจะทำอะไรเลย แต่พวกนั้นกำลังลดการระวังตัวลง พวกนั้นต่างเต็มไปด้วยอีโก้หนาๆจนไม่ยอมฟังคำสั่งใคร

 

ลิซเปิดปากพูดต่อฮิโระที่สงสัย

 

“อืม เขาบอกว่าเขาเป็นผู้บัญชาการ เขาจะไม่รับฟังคำสั่งจากใครแม้จะเป็นเจ้าชายลำดับที่สี่ก็ตาม”

 

ลิซเอานิ้วชนเข้าหากันและทำหน้าขอโทษ

 

“ฉันเองก็ส่งจดหมายไปสองสามครั้งแล้ว แต่ได้รับแจ้งว่าทหารม้าสองพันนายที่ฉันนำทัพอยู่ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการบุกเข้าราชอาณาจักรลิชไทน์ที่กำลังอ่อนแอ ฉันไม่สามารถเกลี้ยกล่อมพวกเขาได้ ขอโทษด้วยนะ”

 

“เข้าใจแล้ว ไม่ใช่ความผิดของลิซหรอกนะ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้.”

 

ลิซดูหดหู่และก้มหัว อาจเป็นเพราะฮิโระพูดอย่างตรงไปตรงมา ฮิโระรู้สึกได้ถึงความโกรธของทริสที่พร้อมจะชักดาบออกมาได้ทุกเมื่อ

 

ฮิโระไม่กล้ายืนยันว่าเขาโกรธเพราะตอบสนองต่อคำพูดของลิซหรือเพราะฮิโระเกาะแกะลิซมากเกินไป

 

“…ลิซ สำหรับตอนนี้กลับไปที่ค่ายหลักก่อน ชั้นคิดว่ามันคงจะดีที่ไปพบนายพลไคโลตัวต่อตัว และมันจะเป็นเรื่องยากที่ชั้นจะไปคุยโดยที่ไม่มีลิซ ขอพึ่งพาหน่อยนะ.”

 

ลิซดีใจที่ฮิโระพึ่งพาเธอ

 

“ได้สิ ไว้ใจฉันได้เลย!”

 

ลิซยิ้มแย้มราวกับดอกไม้ผลิบาน ฮิโระโล่งใจและตบหน้าอกของเขา

 

“ฉันจะแสดงให้เห็นเองถึงสิ่งดีๆที่ฉันสามารถทำได้”

 

“ไม่แค่แนะนำสั้นๆก็พอ”

 

“จะพามิลล์ไปด้วยไหม?”

 

กาด้าถามด้วยความหงุดหงิด

 

“จากที่ฟังสิ่งที่พวกนายคุยกัน ข้าคิดว่านายพลไคโลเป็นคนที่เชื่อถือไม่ได้ มันอาจจะอันตรายเกินไปที่จะพามิลล์ไปด้วย?”

 

“แต่ถ้าพวกเราไม่พาไป นายอาจจะหนีไปกับเธอได้”

 

ลิซมองกาด้าไปด้านข้าง และสายตาของเธอแสดงความเย็นชาพร้อมความขยะแขยง

 

“ฉันไม่ยกโทษให้นายหรอกนะที่พาเด็กน้อยตัวแค่นี้มาทำสงคราม ดังนั้นฉันจะพาเธอไปด้วย ฉันไม่อยากให้นายพาเธอไปทำสงครามอีก”

 

กาด้ายักไหล่พึมพำว่า “กล่าวหากันแรงไปแล้ว”

 

และฮิโระเป็นคนเดียวที่สังเกตเห็นอาการของมิลล์ จากมุมมองของฮิโระเขาสามารถของเห็นใบหน้าของมิลล์ที่ดูเศร้าๆได้ แต่เธอไม่ได้พูดอะไรเพราะสิ่งที่ลิซพูดมันถูกต้อง เธอเป็นเด็กฉลาด

 

ฮิโระจึงตัดสินใจดำเนินบทสนทนาต่อเพื่อไม่ให้เกิดบรรยากาศอึดอัด

 

“คุณทริส ปล่อยให้พวกทหารได้พักผ่อนกันก่อนเถอะครับ”

 

“แน่ใจเหรอไอ้หนุ่ม ราชอาณาจักรลิชไทน์อาจจะเข้ามาโจมตีเรา”

 

“มันกลับกันเลยครับ หากกองทัพที่เหลือกำลังพักผ่อนแล้วมีแค่ปีกซ้ายที่ตื่นตัว พวกเขาจะรู้ว่าสายบัญชาการเราถูกขัดขวางและจะบุกเข้ามาโจมตีได้.”

 

“อืม แต่ว่าถ้าเราไม่ระวังตัวเอาไว้ พวกมันจะไม่ยิ่งกล้าบุกเข้ามาอีกเหรอ?”

 

“ก็มีโอกาสเป็นไปได้ หากพวกมันกล้าพอที่จะเข้าใส่พวกเรา แต่คราวนี้ศัตรูของเราไหวพริบดี ตอนที่ชั้นไปซื้อเวลาหมอนั่นก็สังเกตการณ์จนจบ นอกจากนี้ สำหรับพวกทหารและก็ม้าด้วยให้เขาได้พักกันเถอะ.”

 

ความจริงที่ว่าเขาเคยต่อสู้กันครั้งหนึ่งแต่ฝ่ายเขาก็ไม่ได้เดินเกม หากกองทัพของมหาจักรวรรดิแกรนท์ไม่เคลื่อนไหว พวกเขาคงจะต้องสงสัย มันเป็นการคำนวณอันผิดพลาดในส่วนของนายพลไคโลที่ไม่เต็มใจที่จะส่งกองกำลังสำรองออกมา แต่ในทางกลับกันมันมีประสิทธิภาพในการทำให้ศัตรูระแวงมากขึ้น เมื่อทริสมั่นใจ ฮิโระก็เข้าหาสวิฟเดรค

 

“อืม ถ้างั้นก็ขอฝากด้วยล่ะ”

 

“อืม โดนฝากมาขนาดนี้ เอาล่ะถึงเวลาไปคุยกับนายพลไคโล!”

ทริสตบหลังฮิโระอย่างแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังค่ายหลัก

 

 

[LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก

[LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก

Score 10
Status: Completed
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกขนานนามกันว่า “วีรบุรุษแห่งสงคราม.” ณ ต่างโลกที่ซึ่งถูกเรียกว่า อเลเทีย ชายหนุ่มที่ช่วยอาณาจักรที่กำลังจะล่มสลายโดยประเทศข้างเคียง ได้ทำการเข้ากอบกู้และก่อตั้งจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ขึ้นมาและทิ้งมันเอาไว้ให้กับคนรุ่นหลังและกลับโลกที่เขาจากมา เหลือทิ้งไว้ความทรงจำ สามปีผ่านไป ชายหนุ่มผู้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกๆวันก็ถูกเรียกกลับไปต่างโลกอีกครั้ง ยังไงก็ตามแต่ สิ่งที่รอเขาอยู่คือ อเลเทียในอีก 1,000 ปีข้างหน้าเสียแล้ว ชายหนุ่มที่เคยรุ่งโรจน์ได้กลายเป็น “เทพนิยาย”ที่ถูกเล่ากันเป็นตำนานในฐานะ “คู่หูราชาวีรบุรุษทมิฬ”

Options

not work with dark mode
Reset