[LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก 38 Volume 2 Chapter 4 มังกรตาเดียว Part 2

ตอนที่ 38 Volume 2 Chapter 4 มังกรตาเดียว Part 2

Part 2  

ฮิโระละสายตาจากซลอร์ตต้าที่ปลิวออกไป ฮิโระเดินไปหาลิซ

 

“ลิวไม่เป็นไรใช่ไหม?”

 

“ฮิ….ฮิโระ…”

 

ลิซหายใจแรงราวกับว่าพลังภูติของเธอจะควบคุมไม่ได้ ฮิโระที่เห็นแบบนั้นก็กอดคอเธอ

 

“เอาล่ะใจเย็นลงและหายใจเข้าช้าๆ ใช้เวลาในตอนนี้คิดถึงสิ่งที่สนุกสนานก็พอแล้ว.”

 

“อาณาเขต”นี้ยังเร็วเกินไปสำหรับเธอ แม้แต่อัลทิอุสที่ไดรับการขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะก็ใช้เวลาสองปีในการอดทนต่อ “อาณาเขต”นี้ (T/N:อาณาเขต คือพลังแฝงของลิเวียธาน)

 

ลิเวียธานกำลังคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย…….ฮิโระจ้องมองดาบสีแดงที่ตกลงข้างเธอ

 

“ฮิโระ ฉัน――.”

 

“ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเลย ตั้งความมุ่งมั่นอันแรงกล้าเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดภาระต่อร่างกาย”

 

ถ้ามันพยายามทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้น ฮิโระขอปฏิเสธมันในตอนนี้ ให้เธอรักษาความมุ่งมั่นเอาไว้ใจจนกว่าเธอจะพร้อมที่จะตอบรับลิเวียธาน

 

ฮิโระให้ลิซนั่งลงบนพื้นในขณะที่ลมหายใจของเธอสงบลง

 

“ปล่อยให้ส่วนที่เหลือเป็นหน้าที่ของชั้นเอง ชั้นจะรีบจบศึกนี้เอง.”

 

ฮิโระยืนขึ้นมองไปข้างหลัง

 

“แกเป็นใคร…?”

 

รอยยิ้มของฮิโระนั้นดูน่ากลัวขึ้นเมื่อเขาเห็นซลอร์ตต้าที่เข้าใกล้เขา

 

“เหหหหหหหหหห~ดูค่อนข้างแข็งแกร่งเลยนะ แล้วถ้าเจอแบบนี้ล่ะ!”

 

ชายเสื้อคลุมสีดำของฮิโระเต้นรำไปในอากาศ และเขาหลบด้วยการเคลื่อนไหวอันน้อยนิดกระแทกคมดาบสีเงินไปอย่างสุดแรง

 

“อึก ข้าถามเจ้าอยู่นะ?”

 

เนื่องจากฮิโระไม่เร็วพอซลอร์ตต้าจึงสามารถหลบเลี่ยงได้

 

“ห๊ะ!”

 

ต่อมาฮิโระที่วาดวิถีดาบอย่างแม่นยำและเล็งคมดาบไปยังจุดสำคัญของซลอร์ตต้า การโจมตีนั้นเขาก็หลีกเลี่ยงได้เช่นกัน แต่ก็ประสบความสำเร็จในการเฉือนผิวหนังของซลอร์ตต้าแบบตื้นๆ

 

ซลอร์ตต้าโต้กลับแต่ฮิโระหันร่างไปด้านข้างเพื่อหลบ ดาบใหญ่ที่ฟาดลงมาในแนวตั้งจบลงด้วยการเฉียดปลายจมูกของเขา จากนั้นฮิโระก็โจมตีซลอร์ตต้าที่ประหลาดใจทันที

 

“ตายซะ!”

 

“อั่ก!?”

 

ซลอร์ตต้ากำลังถูกล้อเล่นด้วยการโจมตีที่ช้าและมั่นคงของฮิโระ อย่างไรก็ตาม เขาต้องตั้งสมาธิ ถ้าเขาเผลอแม้แต่นิดเดียวคอได้หลุดออกจากบ่า ซลอร์ตต้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไล่ตามการโจมตีของฮิโระอย่างสิ้นหวัง

 

จากนั้นการเตะรอบตัวจากฮิโระก็กระแทบแก้มของซลอร์ตต้า ร่างใหญ่โตของเขาเซไป เขาเช็ดเลือดออกจากมุมปากของเขาและจ้องมองฮิโระ

 

“หืม………ไม่คิดเลยว่าจะเจอคนที่มาได้ไกลขนาดนี้ โดนขัดอีกแล้วเหรอเนี่ย…”

 

ซลอร์ตต้าปัดผมม้าขึ้นด้วยความรำคาญ

 

“ดูเหมือนว่าจะโชคไม่ดีเลยนะ”

 

ฮิโระเห็นคริสตัลสีม่วงที่ฝังอยู่บนหน้าผากของเขาที่ถูกซ่อนเอาไว้และเปิดเผยให้เห็น

 

ในทางกลับกันฮิโระผ่อนคลายและดูเป็นธรรมชาติจนใครๆก็คิดว่าเขากำลังลดการป้องกันลง

 

แต่เผ่าปีศาจนั้นไวต่อความรู้สึก

 

มันไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะไปถึงได้แม้จะผ่านการต่อสู้มาหลายปีแล้วก็ตาม ในความเป็นจริงเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจที่เด็กหนุ่มแผ่รังสีอันน่ากลัวออกมาได้

 

“คุคุ ฮ่าฮ่าฮ่า นี่คือสิ่งที่เรียกว่าพรสวรรค์ตามธรรมชาติ!”

 

ปีศาจตนนั้นไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ได้เมื่อรู้ว่านักรบที่เก่งกาจเช่นนี้อายุน้อยกว่าเขามาก จากนั้นเขาก็เหวี่ยงดาบใหญ่ของเขาซึ่งสูงพอๆกันกับเขาราวกับโบกกิ่งไม้

 

ดาบใหญ่คำรามในอากาศรวบรวมฝุ่นพุ่งเข้าไปหาชายหนุ่มที่มีผ้าปิดตา ฮิโระตอบด้วยการเคลื่อนไหวเล็กๆ เพียงแค่ยกดาบสีขาวเงินขึ้นมา ประกายไฟลอยไปตามคมดาบเมื่อดาบใหญ่ปะทะกับคมดาบสีขาว

 

“โฮ่ว รับได้ด้วยรึ พ่อหนุ่ม!”

 

ซลอร์ตต้าเปิดช่องว่างขนาดใหญ่เมื่อโดนบล็อค อย่างไรก็ตาม ซลอร์ตต้าได้ใช้แรงของดาบใหญ่เพื่อต่อยไปที่ดวงตาของฮิโระ

 

มันควรจะเป็นจุดบอดสำหรับชายหนุ่มแต่

 

“โชคไม่ดีหน่อยนะที่มันไม่ใช่จุดบอดของชั้น.”

 

ฮิโระสามารถหลีกเลี่ยงมันได้ด้วยการหลบเพียงน้อยนิด อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ได้สร้างช่องว่างให้กับฮิโระ ถ้านี่เป็นคนปกติอาจจะคว้าโอกาสนี้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการหลอกล่อ

 

“ถ้าเป็นแบบนั้นข้าก็คงจะต้องทำให้เจ้าตาบอดจริงๆ”

 

เขาขุดนิ้วเท้าลงไปในทรายและเหวี่ยงขาขึ้นราวกับจะยกตัวเอง ทรายจำนวนมากลอยขึ้นต่อหน้าต่อตาฮิโระ ในระหว่างนี้ ซลอร์ตต้าก็พุ่งออกมาและรักษาระยะห่าง แต่เขายังคงรู้สึกอึดอัดและมองลงไปที่แขนขวาของเขา

 

“ดีใจที่ข้าไม่ได้เข้าไปตามคำเชิญของเจ้า…”

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เคยเจออะไรแบบนี้ เมื่อเขาเงยหน้าอีกครั้ง ฝุ่นที่ปกคลุมวิสัยทัศน์ของฮิโระก็ถูกกวาดออกไปในพริบตา

 

เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากของซลอร์ตต้า เขากยกไหล่ขึ้นและเช็ดขอบปาก

 

“ขอชื่มชมจากใจแม้ว่าจะเป็นศัตรูก็ตาม แต่เจ้าที่ไปถึงจุดสูงสุดของการต่อสู้ได้ตั้งแต่อายุยังน้อยได้ยังไง? ยังไงก็ตามข้าไม่มีเวลามาชมเจ้านานนัก”

 

สายตาของชายทั้งสองมองข้ามกัน พวกเขาต่างอ่านเกมล่วงหน้า จากนั้นก็ก้าวมาข้างหน้าสองก้าว ผู้ชนะจะสามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาจะไม่เคลื่อนไหวแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ทั้งคู่มีสมาธิกับการเคลื่อนไหวในครั้งแรกโดยทำให้พวกเขาเค้นสมองคิด

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า——แบบนี้ก็ดีนี่ ไม่รู้สึกอะไรแบบนี้มานานแล้ว อดไม่ได้ที่จะสนุกกับการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดและความตาย ข้าไม่เคยรู้สึกถึงความสุขจากก้นบึ้งของหัวใจมาก่อน!”

 

แรงสั่นสะเือนของนักรบทำให้ซลอร์ตต้า—————สั่นสะท้านด้วยความดีใจ

 

“มาฆ่ากันจนกว่าจะตายไปข้างหนึ่งดีกว่า เฮ้ย “มังกรตาเดียว” คนที่ยืดหยัดเป็นคนสุดท้ายคือผู้ชนะ เข้าใจง่ายใช่ไหมล่ะ ชื่อของข้าคือ กาด้า เมเทโอ!”

 

เขาเลียริมฝีปากที่แห้งผากของเขาให้เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว จากนั้นปลายดาบใหญ่ของเขาซึ่งสูงเท่าลำตัวของเขาก็ถูกฝังอยู่ในทราย ฮิโระมองไปหนึ่งครั้งและยักไหล่

 

“ชั้นล่ะงงจริงๆว่าทำไมเผ่าปีศาจถึงชอบการต่อสู้ ชั้นไม่อยากให้เกิดการฆ่าฟันโดยไม่จำเป็น.”

 

แต่ตรงกันข้ามกับคำพูดของเขา ฮิโระมีรอยยิ้มอันแสนดุร้ายบนใบหน้า

 

การแสดงออกบนใบหน้าของเขาไม่เหมาะกับวัยเลย———–ลิซที่เห็นมองเขาด้วยความเป็นห่วง ฮิโระมองเธอที่อยู่ข้างๆและระงับเจตนาฆ่าของเขา

“แต่ตอนนี้เริ่มจะหงุดหงิด เพราะแกทำให้ข้าต้องบาดเจ็บ”

 

ต่อไปความว่างเปล่าเข้ามาครอบงำชายหนุ่ม เขาจมลงไปในเหวแห่งความมืดและปลดอารมณ์ทั้งหมดออกไป

 

ฮิโระยกแขนขวาไปที่หน้าอกยกดาบสีขาวเงินไปในแนวนอนและชี้ปลายดาบไปที่ศัตรู ครู่ต่อมาก็เกิดประกายไฟระหว่างทั้งสองเสียงแหลมสูงดังก้องไปทั่วสนามรบ

 

ไม่มีใครที่จะยอมกันและกันทั้งคู่ต่างเล็กช่องว่างของศัตรู อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างของความสามารถพวกเขาเริ่มชัดเจน กาด้าเริ่มช้าลงเมื่อเทียบกับความเร็วของฮิโระที่เพิ่มขึ้น บางทีอาจตัดสินได้ว่ามันอันตรายที่จะวัดพลังกัน

 

“…นั่นอะไรน่ะ เจ้ากำลังปกปิดพลังอันมหาศาลที่ถูกปลดปล่อยออกมางั้นเหรอ แต่ไม่มีการกล่าวถึงดาบนั้นในวรรณกรรมหรือประวัติศาสตร์ใดๆ อย่างน้อยนั่นก็ไม่เคยมีอยู่ในที่ข้าอ่านเลย.”

 

ซลอร์ตต้าที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี และดวงตาของเขาดูเหมือนจะมองแทงทะลุหัวใจของเขา

 

“มังกรตาเดียว ข้าขอถามเจ้าอีกครั้ง เจ้าไปได้สิ่งนั้นมาจากไหน?”

 

“พรของ “เบเบนสเลฟ” คือ “คลื่น” พรของ “ลิเวียธาน” คือ “พละกำลังเหนือมนุษย์” สมบัติล้ำค่าทั้งห้าของโลกแต่ละชิ้นมีลักษณะพิเศษเป็นของตัวเอง ไม่มีชิ้นไหนที่เหมือนกัน ถ้าเช่นนั้นก็พอจะนึกออกแล้วใช่ไหม.”

 

ฮิโระพูดต่อด้วยสีหน้าชวนนึกถึง

 

“ถ้างั้นชั้นจะโชว์ให้เห็นเอง.”

 

หลังจากหายใจเข้าเล็กน้อย ฮิโระก็ยกเอ็กซ์คาลิเบอร์ขึ้นสู่ท้องฟ้าและพุ่งไป

 

“ห๊ะ?”

 

กาด้าตกใจ แต่แล้วแสงอันศักดิ์สิทธิ์ก็เข้ากระทบเขา

 

แสงศักดิ์สิทธิ์————การโจมตีอันรุนแรงที่เกิดจากความเร็วสูงของ “ความเร็วศักดิ์สิทธิ์” ที่เร็วจนทิ้งเสียงของโลกไว้เบื้องหลัง

 

หลังจากต้านมันไว้ได้ กาด้าวาง “เบเบนสเลฟ” ไว้ข้างหน้าเขา แต่แขนขวาของเขาลอยขึ้นและเลือดพุ่งออกมา ก่อนที่จะทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดอย่างรุนแรง กาด้าถูกแสงจากดาบโจมตีเรื่อยๆ

 

ไม่สามารถหยุดหรือหลีกเลี่ยงได้ และร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยเลือดในพริบตา

 

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกห์!”

 

กาด้าพยายามสวนกลับแต่ไม่มีทางที่เขาจะต่อกรศัตรูที่มองไม่เห็นได้และไล่ตามภาพลวงตาของฮิโระอย่างสิ้นหวัง ความเปล่งประกายของประกายแสงเพิ่มมากขึ้นราวกับว่ากำลังจะเยาะเย้ยเขาและจำนวนบาดแผลก็เพิ่มขึ้นมาก

 

“ข้างหลังต่างหากล่ะ”

 

ฮิโระโผล่เข้าทางด้านหลังกาด้าและเตะไปที่หลังของเขา เขากำลังจะปลิวไป แต่กาด้าก็ปล่อยพลังเวทย์ออกมาใช้ทรายเพื่อต้านแรงกระแทก

 

“อั๊ก!”

 

ขณะที่กาด้ากัดฟันและพลิกร่างของเขา คมดาบของ “เบเบนสเลฟ” ก็เฉือนอากาศอันมืดมนออกไป แต่ก่อนที่จะเข้าใกล้ฮิโระก็หลบได้

 

“ฮ่าห์ ! ต่อให้เป็นเจ้าก็คงเคลื่อนไหวในอากาศไม่ได้หรอก!”

 

ราวกับว่ากำลังรอโอกาสนี้ กาด้าแทง “เบเบนสเลฟ” เข้าหาฮิโระ

 

“น่าเสียดาย ที่ชั้นทำได้”

 

ฮิโระทำให้อาวุธภูติปรากฏใต้เท้าของเขา ใช้มันเป็นฐานที่มั่นและตั้งท่าฟาดฟันลงมาด้วยแรงมหาศาล

 

“――ชิ!”

 

กาด้าที่ถูกบังคับให้ป้องกัน ก็เดาท่าทางของฮิโระไม่ถูก แม้ว่าจะหยุดดาบเขาไว้ได้ กำปั้นก็จะลอยมา แม้ว่าจะหลบกำปั้นได้ แต่การเตะก็จะโดนเข้าที่ท้อง หากจับขาได้ดาบก็จะจ่อไปที่คอของเขา

 

“บ้าเอ้ย ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป”

 

ขณะที่กาด้าระบายความหงุดหงิดออกมา เขาก็พยายามโจมตีอย่างสิ้นหวัง แต่ไม่มีประโยชน์ที่จะฟันใส่ในทิศทางที่ผิดพลาด

 

ภายใต้แสงแดดที่ร้อนระอุ การเคลื่อนไหวอันรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจะลดพลังกายของเขามากขึ้น ภายในไม่กี่วินาทีกาด้าก็มีเหงื่อท่วมตัวและมีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก และเขาก็คุกเข่าลงราวกับว่าเขาถึงขีดจำกัดแล้ว

 

ฮิโระที่ตระหนักเห็นกาด้า หายใจแรงและซ้ำแล้วซ้ำเล่า และชี้เอ็กซ์คาลิเบอร์ไปที่พื้น

 

“…ชั้นว่าพอได้แล้วมั้ง?”

 

“อย่ามาพูดบ้าๆ ข้ายังสู้ไหว!”

 

มันแย่เกินไป ฮิโระถอนหายใจกับการที่ได้รับการตอบกลับแบบไม่คิด

 

“งั้นเหรอ ชั้นอุตสาห์คาดหวังให้นายยอมแพ้และยอมจำนน”

 

หลังจากเช็ดเหงื่อที่ออกจากใบหน้าแล้ว ฮิโระก็ใช้เวลาสักครู่เพื่อหายใจและมองไปรอบๆ

 

“โอร่าาาาาาาาาาา!”

 

ทหารของมหาจักรวรรดิแกรนท์กำลังไล่ฆ่าศัตรู พวกเขาลากศัตรูลงมาจากอูฐและล้อมพวกเขาเป็นกลุ่มทำให้กลุ่มกบฏเริ่มแตกแยก

 

“อย่ากลัว ! พวกเรามีเทพแห่งสงครามอวยพรอยู่”

 

ในชุดเกราะหนักๆเขาเป็นตัวแทนนำผู้คน กองทัพจักรวรรดิที่สี่ผู้พิทักษทางตอนใต้ของมหาจักรวรรดิแกรนท์

 

ผู้บังคับบัญชาการคนสี่สองของกลุ่มแรกถูกฆ่าตาย อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้เสียขวัญกำลังใจและสู้อย่างที่เคยทำมา นอกจากนี้ ปีกทั้งสองของกองทัพจักรวรรดิที่สี่กำลังปิดล้อมฝั่งกบฏอย่างสมบูรณ์

 

จากนั้นเสียงตะโกนและเสียงกรีดร้องของทหารฝ่ายศัตรูดังก้องไปทั่วสนามรบ กลิ่นของความตายและคาวเลือดผสมกับลมพัดผ่านจมูก

 

ฮิโระหันหลังให้กับนรกแห่งนี้ พูดกับซลอร์ตต้า

 

“ยิ่งไปกว่านั้น นายไม่เหลือพลังพอที่จะดึงพลังของดาบจักรพรรดิปีศาจได้อีกแล้ว.”

 

ฮิโระนั้นเคยต่อสู้กับผู้ใช้ดาบปีศาจในอดีตมามากมาย แต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เอาชนะได้ง่าย เขาคนนั้นใช้ เจ้านี่ได้โหดกว่านี้และสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของฮิโระได้ แม้ว่าการป้องกันของเอ็กซ์คาลิเบอร์จะช่วยเพิ่มความสามารถทางกายภาพให้กับฮิโระอย่างมาก แต่ก็ไม่มีทางที่ฮิโระจะเอาชนะผู้ถือครองดาบจักรพรรดิปีศาจได้ง่ายขนาดนี้ ถ้าเทียบกับเมื่อก่อน แถมผู้ใช้สมัยก่อนก็ยังแข็งแกร่งจนสามารถดึงพลังของดาบจักรพรรดิปีศาจมาได้ถึงขีดสุด เรียกได้ว่าเป็นยุคมืดสำหรับเผ่ามนุษย์เลย

 

“ก็ไม่รู้หรอกว่าไปได้ดาบจักรพรรดิปีศาจมาได้ยังไง แต่ชั้นเดาว่าตอนนี้นายกำลังสูญเสียมันไป ต่อให้ชั้นไม่บอก นายก็คงรู้อยู่แล้วใช่ไหม”

 

“…แน่นอน อันที่จริงข้าก็คิดจะยอมแพ้ ข้ารู้เหตุผลอย่างชัดเจนอยู่แล้ว แต่ข้าก็ต้องสู้ต่อไป”

 

“นายเอาชนะชั้นไม่ได้หรอก ถ้าไม่สามารถดึงพลังของดาบจักรพรรดิปีศาจได้”

 

นอกเหนือจากพันปีที่แล้วทวีปกลางปัจจุบันถูกครอบครองโดยเหล่าภูติ

 

แต่ว่าไม่มีภูติในราชอาณาจักรลิชไทน์ แต่ถึงกระนั้นพลังเวทย์ก็ผสมกับอนุภาคจนทรงพลังได้มากขนาดนี้ ไม่ว่าจะมีหินเวทย์สักกี่อัน เขาก็ไม่สามารถแสดงพลังที่แท้จริงได้ในทวีปกลางที่มีพลังภูติหนาแน่น

 

นอกจากนี้หากไม่สามารถดึงพลังที่แท้จริงของดาบจักรพรรดิปีศาจออกมาได้ก็เอาชนะฮิโระไม่ได้

 

“ดังนั้นชั้นอยากให้นายยอมแพ้ แน่นอนว่าจะไม่ทำอะไร”

 

นั่นเป็นเรื่องโกหก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในอนาคตหากพวกเขาขัดขืนก็ไม่มีทางเลือก หากบอกพวกเขาตามความจริงจะมีแต่ให้เขารั้นหัวชนฝามากกว่า

 

ไม่ว่าจะมองทะลุคำโกหกหรือไม่ กาด้าก็ไม่พยักหน้า แต่ตอบด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น

 

“ฮืมมม ถ้าเอาชนะข้าด้วยกำลังมันน่าจะง่ายกว่านะ”

 

ฮิโระคาดหวังเขาให้พูดแบบนั้น ดังนั้นจึงคาดการณ์การเคลื่อนไหวต่อไป นั่นคือการทำลายเจตนาในการต่อสู้ของเขา ในการทำแบบนั้นต้องทำให้เขาได้สติ

 

“ไม่ใช่ว่านายมีคนที่นายต้องปกป้องอยู่เหรอ?”

 

กาด้ายังคงไร้อารมณ์ แต่ฮิโระไม่พลาดเพราะเห็นเขาไหล่กระตุกเล็กน้อย

 

“ภายในค่ายหลักคงมีใครสักคนที่สำคัญกับนายมากสินะ?”

 

มีหลายครั้งที่ระหว่างการต่อสู้กาด้าเสียสมาธิ ตอนนี้ก็เหมือนกัน แม้ว่าจะตกอยู่ในอันตราย แต่ก็ยังเฝ้ามองทางด้านหลัง

 

“หุบปาก!”

 

กาด้าจ้องมองเขาโดยไม่ซ่อนอารมณ์โกรธ ราวกับสารภาพออกมา

 

ฮิโระคิดถึงเรื่องนั้นและพูดด้วยท่าทางจริงจัง

 

“ลิซ พอจะยืนไหวไหม?”

 

“เอ๋ อืม ตอนนี้ค่อนข้างโอเคแล้ว.”

 

“ถ้างั้นชั้นอยากให้เธอไปที่ค่ายหลักของศัตรูและพาตัวหญิงสาวที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของพวกนั้นมา”

 

เมื่อฮิโระพูดแบบนั้นตามที่คาดไว้กาด้าไม่ยอมง่ายๆ

 

“คิดว่าข้าจะปล่อยให้ไปงั้นเเรอะ?”

 

จิตวิญญาณการต่อสู้ของกาด้าเพื่มมากขึ้น และพื้นที่รอบตัวเริ่มบิดเบี้ยว ฮิโระรู้สึกได้ถึงพลังเวทย์ที่หลั่งไหลออกมา ผิวหนังของเขารู้สึกราวกับว่าความร้อนกำลังเผาไหม้

 

ฮิโระค่อนข้างตกใจ เพราะเป็นเรื่องผิดปกติที่กาด้าจะใส่ใจเผ่าอื่นมากกว่าตัวเอง โดยพื้นฐานแล้วเผ่าปีศาจมักจะดูถูกเผ่าอื่นๆ

 

อย่างน้อยเมื่อหนึ่งพันปีที่แล้วการเลือกปฏิบัติต่อเชื้อชาติโดยเผ่าพันธุ์ปีศาจนั้นค่อนข้างโดดเด่นมากกว่าเผ่าอื่นๆ พวกเขามองเผ่าอื่นเป็นทาสและดูหมิ่น พวกเขาอ้างว่าเผ่าปีศาจแข็งแกร่งกว่าเผ่าอื่นๆ อาจกล่าวได้ว่าเป็นความเย่อหยิ่งนี้ทำให้พันธมิตรสี่เผ่าพันธุ์โค่นล้มพวกเขา ในหมู่เผ่าปีศาจ กาด้าถึงเป็นกรณีที่แปลกประหลาด  

 

“ลิซ ชั้นอยากให้เธอทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่กับชั้น.”

 

ค่ายหลักของกองทัพกบฏถูกล้อม หากเป็นแบบนั้นผู้นำของฝ่ายตรงข้ามจะถูกฆ่าตาย หากกดดันมากเกินไปพวกเขาจะไม่ยอมจำนน ดังนั้นการต่อสู้จะดำเนินต่อไปจนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งล่มสลาย

 

ในแผนการใหญ่หากสิ่งใดไม่เป็นที่ปรารถนา ทุกอย่างจะพังไม่เป็นท่าแม้แต่กองทัพจักรวรรดิที่สี่ก็ไม่สามารถต้านทานราชอาณาจักรลิชไทน์ที่จะลุกขึ้นต่อสู้ได้

 

(เพื่อให้ได้เปรียบ พวกเราต้องหลีกเลี่ยงความเสียหายสำคัญ)

 

ในการทำเช่นนั้นชัยชนะเป็นสิ่งจำเป็นที่ขุนนางที่เป็นฝ่ายกลางไม่มีที่ว่างสำหรับการคัดค้าน ดังนั้นสิ่งสำคัญลำดับแรกคือการทำให้กลุ่มกบฏยอมจำนน สิ่งที่ดีที่สุดควรทำคือการสกัดกั้นกองทัพราชอาณาจักรลิชไทน์ที่จะบุกมาในภายหลัง

 

“ลิซ ขอร้องล่ะ”

 

“อืมได้สิ”

 

เธอกระโดดขึ้นหลังม้าและมุ่งหน้าไปยังค่ายหลักของศัตรู

 

“ไม่ยอมให้ไปหรอกน่า!”

 

กาด้ากำลังจะไล่ตามเธอไป แต่ฮิโระยืนอยู่ตรงหน้าและชี้เอ็กซ์คาลิเบอร์มาที่เขา

 

“คิดว่าชั้นจะปล่อยให้นายไล่ตามเธอไปงั้นเหรอ เพราะงั้นชั้นจะจับนายไว้ตรงนี้แหละ”

 

แรงจูงใจของเขานั้นเป็นที่รู้กันดี ลิซน่าจะทำได้ดีในการจับตัวหญิงสาวคนนั้นมา

 

“ฮืมมม ถ้าต้องการจะจับข้า อย่างน้อยก็ต้องตัดขาข้าทั้งสองข้าง!”

 

ฮิโระหลบไปด้านข้างของกาด้าที่กำลังพุ่งเข้ามา

 

“มาจบเรื่องนี้กันดีกว่า ช่วยหลับไปสักพักได้ไหม?”

 

ฮิโระเข้าใกล้กาด้าแล้วกระแทกกำปั้นใส่ใบหน้าของเขา เขาคว้าคอของกาด้าและกระแทกเข่าไปที่ท้องของเขา หันหลังกลับเตะเข้าไปที่สันคอของกาด้า

 

“อั๊ก.”

 

ฮิโระคว้าใบหน้าของกาด้าที่ส่ายไปมาแล้วล้มลง ฝุ่นจำนวนมากก่อตัวขึ้น ทำให้เขาต้องปัดฝุ่นเหล่านั้นที่มาเกาะเสื้อผ้าของเขา  จากนั้นกาด้าก็ล้มฟุบลงไปบนกองทราย

 

เมื่อกาด้าที่หมดสติอยู่ข้างๆ ฮิโระจึงบอกทหารที่อยู่ใกล้เคียง

 

“มัดเขาให้แน่นเพื่อไม่ให้หนีไปได้”

 

จากนั้นเขาก็หยิบเอ็กซ์คาลิเบอร์ขึ้นมา ฮิโระยังโจมตีใส่กลุ่มกบฏที่คิดต่อต้าน

 

“ฮี้!?”

 

“มันมาแล้ว!”

 

เมื่อพวกเขาเห็นว่ากาด้าแพ้แล้ว พวกกบฏก็ตัวสั่นไปด้วยความกลัวอย่างมาก บางคนพยายามจะหนี แต่พวกเขาทำไม่ได้เพราะโดนล้อใ

 

“ใครที่คิดจะหนี เตรียมใจตายไว้ได้เลย เพราะหัวของพวแกจะหลุดออกจากบ่า!”

 

หากพวกเขาหนีไม่ได้ ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องต่อต้าน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน และพวกเขาก็ถูกฆ่าตายในพริบตา

 

ทุกครั้งที่มีคลื่นดาบ จะมีเสียงกรีดร้องและเลือดกระเซ็นไปทั่ว กองเลือดจำนวนมากก่อตัวขึ้นในทะเลทรายและเมื่อศัตรูจมลง พันธมิตรของฮิโระก็ตะโกนก้องด้วยความดีใจ

 

เมื่อถึงเวลากองศพจำนวนมากก็ก่อขึ้น เสียงตะโกนก็ดังขึ้นจากแนวรบที่สอง เมื่อตระหนักได้ถึงความพ่ายแพ้ของเหล่ากบฏพื้นที่โดยรอบก็เริ่มไร้การต่อต้าน

 

“…เอาล่ะตอนนี้ก็รอให้ลิซพาเธอมา”

 

 

สนับสนุนค่าเล่ม ค่าข้าว ค่าน้ำ ค่าไฟ แล้วแต่ตามสะดวก

[LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก

[LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก

Score 10
Status: Completed
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกขนานนามกันว่า “วีรบุรุษแห่งสงคราม.” ณ ต่างโลกที่ซึ่งถูกเรียกว่า อเลเทีย ชายหนุ่มที่ช่วยอาณาจักรที่กำลังจะล่มสลายโดยประเทศข้างเคียง ได้ทำการเข้ากอบกู้และก่อตั้งจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ขึ้นมาและทิ้งมันเอาไว้ให้กับคนรุ่นหลังและกลับโลกที่เขาจากมา เหลือทิ้งไว้ความทรงจำ สามปีผ่านไป ชายหนุ่มผู้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกๆวันก็ถูกเรียกกลับไปต่างโลกอีกครั้ง ยังไงก็ตามแต่ สิ่งที่รอเขาอยู่คือ อเลเทียในอีก 1,000 ปีข้างหน้าเสียแล้ว ชายหนุ่มที่เคยรุ่งโรจน์ได้กลายเป็น “เทพนิยาย”ที่ถูกเล่ากันเป็นตำนานในฐานะ “คู่หูราชาวีรบุรุษทมิฬ”

Options

not work with dark mode
Reset