Part 2
“ขอโทษนะคะไม่ทราบว่าขอนั่งข้างๆได้ไหมคะ?”
เมื่อฮิโระมองขึ้นไปก็พบกับหญิงสาวในชุดสีแดงยืนอยู่
เธอมีผมบลอนด์หยักศกถูกมัดเป็นมวย ไหลลงมาจากไหล่ขวาไปด้านหน้า ในขณะที่ดวงตาสีฟ้าแวววาวของเธอจ้องมองมาราวกับมองทะลุฮิโระ ร่างกายที่ได้สัดส่วนอันแสนเย้ายวนดึงดูดสายตาชายหนุ่ม
กระโปรงของเธอถูกกรีดเผยให้เห็นขาอ่อนที่สวยงามชวนหลงใหล
อย่างไรก็ตามไม่ใช่รูปร่างหน้าตาที่กวนใจฮิโระ เสียงของขุนนางรอบข้างต่างหากที่ส่งเสียงด้วยความไม่พอใจ ผู้หญิงคนนั้นใช้ช่องว่างในตอนนั้นปิดระยะห่างเข้าหาฮิโระ
“อ่าา ขอโทษด้วยนะคะ ฉันชื่อ มิสต์ คาเลียร่า โรซ่า ฟอน เคลไฮนต์(Myste Caliara Rosa von Kelheit) อดีตเจ้าหญิงลำดับที่สาม และปัจจุบันเป็นรักษาการหัวหน้าตระกูลเคลไฮนต์ ท่านน่าจะทราบเรื่องนี้แล้วใช่ไหมคะ”
หลังจากแนะนำตัวสั้นๆ ดัชเชสก็ยิ้มออกมา
“เข้าใจแล้ว เข้าใจดีเลยล่ะ ว่าทำไมลิซถึงได้กระตือรือร้นมีแรงล้นเหลือขนาดนั้น มีรูปลักษณ์ที่ดูผิดปกติ เช่นเดียวกับสีผมและดวงตาเลยนะคะ”
ฮิโระไม่ได้แสดงความประหลาดใจ แต่ในใจของเขาเต้นรัวไม่หยุด
(มันจะเร็วเกินไปไหม ทำไมเธอรีบโผล่มาจัง?)
เขาคาดหวังว่าจะติดต่อเธอเป็นลำดับท้ายๆ
(เป็นไปได้ไหมว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันจนมุมสุดๆ?)
ไม่มีเวลาให้คิดนานตอนนี้จะให้เธอรู้สิ่งที่เขาคิดไม่ได้เด็ดขาด
แม้ว่าเธอจะเป็นพี่สาวของลิซ แต่ตอนนี้เธอเป็นผู้รักษาการของตระกูลเคลไฮนต์ เธอกำลังเข้าหาฮิโระเพื่อเอาเปรียบเขาแน่ๆ ยิ่งฮิโระประหม่ามากเท่าไร เธอก็จะทำในสิ่งที่เธอต้องการได้มากขึ้น
ไม่อยากให้เธอเป็นฝ่ายริเริ่ม ฮิโระแกล้งทำเป็นสงบ ชี้ให้นั่งข้างๆด้วยมือของเขา
“เชิญเลยครับยังไงก็ไม่มีใครนั่งอยู่แล้ว.”
“ดีใจที่ได้ยินเช่นนั้นค่ะ”
โรซ่าวางแก้วหนึ่งแก้วที่เธอถืออยู่ในมือทั้งสองข้าง อันที่เต็มไปด้วยของเหลวสีแดงไว้บนโต๊ะต่อหน้าฮิโระ มันอาจเป็นไวน์หรืออะไรสักอย่าง แต่เนื่องจากความเป็นไปได้ที่จะผสมบางสิ่งบางอย่าง ฮิโระจะไม่ดื่มมัน
“เอ่อ ผมไม่ดื่มแอลกอฮอลล์…”
“อ่า ขอโทษด้วยนะคะ ถ้าอย่างนั้นก็มั่นใจได้ค่ะ นี่น้ำเปล่า.”
คราวนี้เธอก็เอาแก้วที่มีน้ำใสๆมาวาง
กลิ่นดอกกุหลายจั๊กจี้จมูกของฮิโระทันทีที่โรซ่านั่งข้างเขา
“เอ่อไม่ทราบว่าพี่สาวของลิซต้องการอะไรเหรอครับ?”
“ก็แบบว่าน้องสาวฉันเขียนจดหมายเรื่องนายไม่หยุดเลย และเนื่องจากนายทำอะไรมากมายเพื่อน้องสาวของฉัน ฉันจึงแวะมาทักทายน่ะ.”
“ผมต่างหากที่เป็นหนี้ลิซ และก็ยินดีที่ได้พบกับคุณพี่สาวของลิซครับ”
“เอ่อ ฝ่าบาทฮิโระ ไม่จำเป็นต้องพูดทางการกับดิฉันก็ได้ค่ะ มาผ่อนคลายกันดีกว่า เหนือสิ่งอื่นใดตำแหน่งท่านสูงกว่าดิฉัน นั่นจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่ผู้อื่นเอานะคะ.”
“เข้าใจแล้วครับ————เอ่อ โอเค แบบนี้ได้ไหม?”
“ใช่แบบนั้นแหละค่ะ อย่างน้อยก็ควรรู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหนนห่อยนะคะ.”
เธอยิ้มในขณะที่ดื่มไวน์ จากนั้นก็หัวเราะคิกคักและเอียงแก้วของเธอ
“น่าเสียดายที่ท่านไม่ดื่มไวน์มันรสชาติเยี่ยมไปเลยนะคะ.”
“พอดีไม่ค่อยชอบน่ะ”
ไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นยังไม่บรรลุนิติภาวะ—–ในโลกนี้เขาถือเป็นผู้ใหญ่แล้ว
“น่าเสียดายนะคะ แต่ในอนาคตท่านต้องหัดสังสรรค์กับคนอื่นเพื่อผลประโยชน์”
“ชั้นไม่คิดว่ามันเป็นเวลาที่ดีที่จะดื่มหรอก เพราะวันนี้มันเกิดเรื่องบ้าๆมากมายเลย”
“อืม ระมัดระวังตัวเกินไปรึเปล่าค่ะ หรือเป็นแค่พวกขี้อายกันแน่เอ่ย?”
“ชั้นคิดว่าชั้นขี้ขลาดมากกว่า.”
“ดิฉันไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะว่าสิ่งนี้จะมาจากชายคนหนึ่งที่เข้าเฝ้าฝ่าบาทได้อย่างสง่างาม ทำไมถึงได้ด้อยค่าต้นเองถึงขนาดนั้นคะ?”
ฮิโระทำสีหน้าเย็นชาเมื่อเธอมองมาทางเขาด้วยความสนใจ
“กลัวจะเสียใจภายหลังน่ะ ตัวอย่างเช่น ในสนามรบ—–ไม่ว่าจะร้องไห้หรือกรีดร้องมากแค่ไหน ไม่ว่าจะอ้อนวอนขอมีชีวิตต่อมากเพียงใด ถ้าปล่อยพวกนั้นหลุดรอดไปได้ คนอื่นจะไม่มีความสุข ถึงกระนั้น มันก็เป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อไม่ให้ภัยย้อนกลับมาหาตัวเอง”
“……….”
เธอดูตะลึงเพราะสีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไป หรืออาจเป็นเพราะเธอตระหนักได้ถึงความบ้าคลั่งที่มีอยู่ในตัวเขา โรซ่ารินไวน์หนึ่งแก้ว เทออกมา จากนั้นก็เรียกบริกรและขอไวน์ใหม่ หลังจากเพลิดเพลินกับไวน์ขาวที่บริกรนำมา เธอก็ถามฮิโระ
“ไม่ทราบว่าอายุเท่าไรเหรอคะ?”
“ชั้น 17”
“นั่นเป็นความคิดที่บิดเบี้ยวมากค่ะสำหรับในช่วงอายุของคุณ ดิฉันชักอย่างจะรู้อดีตของคุณให้มากขึ้นแล้วสิคะ.”
“ไม่มีอดีตที่ดีนักหรอก ผ่านปัญหาต่างๆมามากมายเลยล่ะ.”
“งั้นเหรอคะ? แล้วถ้า———–ตัวอย่างเช่นดิฉันกลายเป็นศัตรูของคุณขึ้นมาในตอนนี้?”
“ชั้นจะไม่ทำอะไร จะขีดเส้นแบ่ง แต่ถ้าข้ามเส้นมา ก็เตรียมหัวหลุดจากบ่าได้เลย.”
“จะไม่ฆ่าฉันตอนนี้ใช่ไหมคะ?”
“ถ้าชั้นทำแบบนั้นก็แค่คนป่าเถื่อน ไม่ได้คิดสั้นขนาดนั้น.”
“ความคิดของคุณนี่มันตรงไปตรงมาดีนะคะ?”
“ถ้าสูญเสียซึ่งเหตุผล ก็ไม่ต่างไปจากสัตว์ร้ายหรอก มันมีแต่จะสร้างศัตรูมากขึ้น และมันไม่ส่งผลดีต่อชั้นด้วย มันจะสร้างปัญหาให้กับสหายของชั้น และเหนือสิ่งอื่นใด จะมีแต่ความเสียใจที่รออยู่เบื้องหน้า.”
ความเสียใจที่ผ่านรูม่านตาของฮิโระ แม้จะเป็นเพียงชั่วขณะ แต่โรซ่าไม่สังเกตเห็นมัน
เธอพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับประเมินคำพูดของฮิโระและไขว้แขนตรงหน้าอกของเธอ
“หืมม เหมือนแซทโทเบลเลยนะ?”
ฮิโระไตร่ตรองต่อคำพูดของโรซ่า แต่ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน
“ชั้นพูดอะไรไม่ได้มากหรอก แต่ตัวเขาคนนั้นบิดเบี้ยวมากกว่าชั้นแน่นอน”
“อืม นั่นเป็นคำตอบที่ดีนะ เขาเคยเป็นชายที่มีความมุมานะมาก่อนนะ”
“ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม?”
“แซทโทเบลเป็นที่ชื่นชอบของ “ มิย็อลล์นีร์” เมื่อเขาอายุ 18 เขาก็เปลี่ยนไป เขาไม่สามารถคำนึงถึงความรู้สึกของผู้อ่อนแอได้ เขาเชื่ออย่างแท้จริงว่าคนที่แข็งแกร่งคือความชอบธรรม และคนอ่อนแอเป็นเพียงคนชั่ว นั่นเป็นเหตุผลที่เขากลัวคนที่แข็งแกร่งกว่าตัวเอง”
“…บิดเบี้ยวเกินไปแล้วนะครับนั่น”
“ความปรารถนาของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อมีอำนาจมาก ก็จะยิ่งเด่นชัดมากขึ้น มันสามารถเปลี่ยนนิสัยของคนได้ เพราะฉะนั้นก็ควรจะระวังให้ดีนะคะ”
“ชั้นจะจำเอาไว้.”
เพื่อตอบสนองต่อคำพูดของฮิโระ โรซ่าเลียริมฝีปากของเธอและยกมุมปากขึ้น
“ถ้างั้น————–เวลาใกล้หมดลงแล้ว มาเริ่มทำธุรกิจกันเถอะค่ะ”
เริ่มแล้วสินะ ถ้าฮิโระไม่ระวังแม่เสือดำคนนี้ให้ดีเขาหัวหลุดออกจากบ่าแน่นอน
(การต่อสู้ที่บีบบังคับศัตรูให้ได้มีเวลาคิดน้อยที่สุด.)
จากนั้น———–เพื่อใช้ประโยชน์จากการสนทนาของเรา ฮิโระตัดสินใจเด็ดขาด
“เนื่องจากตระกูลเคลไฮนต์ตกอยู่ในความยากลำบาก อยากจะพูดถึงเรื่องนี้เหรอ?”
ฮิโระทำให้ดวงตาของโรซ่าเบิกกว้างไปด้วยความกลัวชั่วขณะ
“รู้ตัวจริงๆด้วยสินะคะ กระหายในความรู้มากขนาดนั้นเลยเหรอคะ? ไม่สิ มันคงเพราะฉันดีไม่พอสินะ.”
“ชั้นไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ขุนนางฝ่ายตะวันออกเป็นยังไงในตอนนี้”
“ถ้ารู้ลึกถึงขนาดนั้นก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังกันแล้วค่ะ อย่างที่คุณคิดนั่นแหละขุนนางตะวันออกใกล้จะแตกหักกันแล้ว ในยุคที่ผู้ชายเป็นเสาหลักของตระกูลผู้หญิงที่ไม่มีเจ้าบ้านนั้นลำบากมากค่ะ”
“ขุนนางของมหาจักรวรรดิแกรนท์ส่วนใหญ่จะให้ฝ่ายชายสืบทอดตำแหน่งของตระกูล แม้แต่ขุนนางผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้าก็เช่นกัน”
“ใช่แล้วค่ะ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าฉันมีปัญหามากเพราะดิฉันไม่มีผู้ชายที่เหมาะสมมาอยู่เคียงข้างฉัน.”
“เป็นโอกาสที่ดีที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับตระกูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาต้องการสิ่งที่ตระกูลเคลไฮนต์สืบทอดต่อกันมา.”
“แต่ฉันไม่อยากจะมีลูกชายคนที่สองกับตระกูลไม่มีหัวนอนปลายเท้าหรอกนะคะ.”
“แสดงว่าต้องมีคนอื่นที่ดีกว่าตัวเลือกเหล่านั้นใช่ไหม?
“บางทีก็อาจจะมีค่ะ แต่ที่ดิฉันต้องการก็คือชายที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายไหน”
“…ดังนั้นก็เลยไม่สามารถมีผลลัพธ์ไหนดีกว่าไปกว่าที่ชั้นจะต้องเป็นสามีของคุณสินะ.”
โรซ่าส่ายหัวเมื่อได้ยินคำพูดของฮิโระและปฏิเสธ
“ดิฉันไม่ต้องการถึงขั้นให้คุณมาเป็นสามีของดิฉันหรอกค่ะ และฉันคิดว่าคุณไม่น่าจะรับฉันเป็นภรรยาเช่นกัน.”
“ถ้าอย่างนั้นจะใช้ประโยชน์จากตำแหน่งเจ้าชายลำดับที่สี่งั้นเหรอ? ขอโทษทีนะ แต่ชั้นไม่มีสิทธิ์จะพูดเรื่องนี้และไม่มีสิทธิ์มากพอให้เข้าไปยุ่งกับตระกูลของคุณหรอกนะ.”
“…ใช่แล้วล่ะค่ะ เพราะงั้นฉันเลยมาเสนอหนึ่งทางเลือก.”
“อะไรล่ะ?”
เธอไม่ตอบคำถามของฮิโระและมองไปรอบๆ ราวกับว่าเธอระวังรอบข้าง
อาจมีใครบางคนดักฟังอยู่ ต้องมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำได้ในสถานการณ์เช่นนี้
ฮิโระถอนหายใจและมองไปที่แก้วบนโต๊ะ โรซ่าวางไว้ให้เขา แต่เขาไม่ได้ดื่ม โดยตัดสินใจว่ามันน่าจะมีอะไรสักอย่างปนอยู่ในนั้น
(แต่ชั้นไม่อยากเล่นเกมไร้สาระแบบนี้อีกต่อไปแล้ว…)
คิดแบบนั้นฮิโระก็หยิบแก้วขึ้นมาและดื่มในคราวเดียว อาการชาเล็กน้อยในลำคอ นั่นคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขา เพียงแค่นี้เขาก็รู้แล้วว่ามันมีอะไรผสมอยู่ในเครื่องดื่ม
“ชั้นขอถามนะเธอใส่อะไรไปในนั้น?”
โรซ่ากลอกตาเมื่อเห็นใบหน้าฮิโระที่ไร้ซึ่งความกังวล
“สุดยอดไปเลยค่ะ คนธรรมดาแทบจะพูดไม่ได้ด้วยซ้ำ…”
จากนั้นเธอก็หัวเราะเล็กน้อยถอนหายใจลึกๆราวกับว่าการที่เธอล่อลวงเขามันไร้ประโยชน์
“มันเป็นยาที่จะทำให้จิตสำนึกของคุณสับสน และร่างกายชาค่ะ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลนะคะเนี่ย”
“ก็การจะคุยในที่สาธารณะมันจะทำให้เธอดูแย่ใช่ไหมล่ะชั้นไม่มีทางเลือกนี่น่า.”
“ก็เป็นแค่ผู้ชายขี้เมาตรงหน้าฉันคนหนึ่ง มันจะทำให้สถานการณ์ของดิฉันแย่ลงได้ยังไงคะ?”
“เข้าใจแล้วคิดดีแล้วเหรอเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วอนาคตของเธอล่ะ?”
“แน่นอนว่าเปล่าประโยชน์ ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน………นี่คุณยังเป็นมนุษย์อยู่รึเปล่า?”
ฮิโระยิ้มให้กับคำถามของโรซ่า
“แน่นอนสิชั้นก็แค่พวกหัวรั้นนิดหน่อย.”
“ฮะฮ่า———–ทีหลังฉันควรจะเตรียมยาที่ไว้ใช้สำหรับมอนสเตอร์แทนดีกว่าสินะคะ…”
พวกเขาต้องการพื้นที่สนทนาส่วนตัว เธอไม่อยากให้ใครได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ โรซ่าจ้องมองพื้นอย่างผิดหวัง ดูเหมือนว่าแผนของเธอจะถูกเขาอ่านออกจนหมด จนเธอหมดความมั่นใจ แต่ถึงยังไงเขาก็ยังเดินไปตามเกมของเธอ
ดังนั้นเพื่อดึงสติเธอกลับมาฮิโระเลยตัดสินใจช่วยเธอ
“เร็วเกินไปที่จะเสียใจนะ จะทำตามแผนต่อไปไหม ชั้นจะเล่นตามแผนของเธอเอง?”
เมื่อฮิโระพูดแบบนั้น โรซ่าก็เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“คุณแน่ใจเหรอคะ? ถึงแม้ฉันจะไม่ได้หมายเอาชีวิต แต่———–อาาาาาาาาาา?”
ฮิโระดึงร่างของโรซ่าเข้ามาใกล้และกระซิบข้างหูของเธอ
“ถ้ากินยาพิษเข้าไปแล้วก็ต้องมั่นใจว่าสะอาดหมดจด เสนอข้อเสนอของเธอมา ไว้หลังจากนั้นชั้นจะตัดสินใจเอง?”
[T/n:สำนวนของทางญี่ปุ่นหมายถึง ถ้าก่ออาชญากรรมแล้วก็เก็บหลักฐานไม่ให้เหลือ]
“…สัตว์ร้ายตัวไหนแฝงตัวอยู่ในคราบใบหน้าของเด็กน้อยคนนี้กันเนี่ย?” โรซ่าพูดอย่างมีความสุขแล้วโอบกอดฮิโระ
หน้าอกที่กว้างใหญ่ของเธอกดทับใบหน้าของฮิโระ และห้องโถงก็เต็มไปด้วยเสียงที่เหมือนรังผึ้ง พวกเขากล้าทำขนาดนี้ในที่สาธารณชน
“ดูเหมือนฝ่าบาทฮิโระจะเมามากแล้วดังนั้นดิฉันจะพาเขาไปพักผ่อนในคฤหาสน์ของฉัน มีใครช่วยดิฉันได้บ้างไหมคะ.”
ผู้หญิงสามคนและขุนนางชายสองคนตอบสนองต่อเสียงของโรซ่า พวกเขาเข้าใกล้อย่างไม่ลังเลราวกับคุยกันล่วงหน้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวางแผนกันไว้แล้ว
“พิษที่หอมหวานเองก็มีเหมือนกันนะคะ หากได้ลองจะติดใจค่ะ”
โรซ่ากระซิบข้างหูฮิโระขณะที่ขุนนางอุ้มเขาไป จากมุมมองของคนอื่นๆเหมือนกำลังช่วยคนเมา
“ก็หวังจะเป็นเช่นนั้น.”
“ถ้างั้นก็ไปกันเถอะค่ะ”
“…เดี๋ยว”
“หืมมมม?”
โรซ่าหันกลับมาและเห็นออร่ายืนอยู่ที่นั่น
“แหม แหม เลดี้บูนาดาร่าผู้มีชื่อเสียงมีอะไรเหรอคะ…?”
“จะพาฮิโระไปที่ไหนกันคะ?”
“ขอโทษทีนะจ๊ะไม่มีเวลามาอธิบาย ไว้คุยกันทีหลังน้า”
โรซ่าสะบัดนิ้วผู้หญิงสามคนล้อมออร่าเอาไว้
“เอาล่ะๆมาคุยกับพวกเราดีกว่านะ”
“หนอยปล่อยนะ”
“โฮะโฮะ อย่าอาละวาดสิคะ.”
ตอนนี้เธอไม่มีอาวุธภูติ แขนของเธอก็หัก เธอจึงไม่สามารถต้านทานได้
“เอาล่ะไม่มีใครมาขวางทางแล้ว รีบมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ของฉันได้เลยค่ะ.”
ปลายนิ้วอันแสนงดงามของเธอเลื่อนไปที่ผ้าปิดตาของฮิโระ
ฮิโระถูกนำตัวออกจากห้องโถงและถูกพาไปยังคฤหาสน์ของโรซ่าในพระราชวังหลวง
พวกเขาอยู่กันสองต่อสองในห้องที่ส่องไปด้วยแสงจันทร์ โรซ่านั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ถูกตกแต่ง และฮิโระนอนอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์
“ขอโทษด้วยที่ทำมารยาทแย่ใส่นะคะ.”
“ไม่เป็นไร แต่ชั้นต้องการคำอธิบายของเรื่องที่เราคุยกันเมื่อครู่”
“นั่นสินะคะ แต่ตอนนี้ก็น่าจะรู้ตัวแล้วไม่ใช่เหรอคะ?”
“…ไม่มากก็น้อย”
หลังจากอ้อมกอดอันร้อนแรงในที่สาธารณชนเจ้าชายขี้เมาก็หายตัวไปกับ แม่ม่ายเข้าไปในคฤหาสน์ ทั้งสองคนต้องจบลงด้วยความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา
“ครอบครัวหนึ่งคงจะลังเลที่จะเสนอการแต่งงานหลังจากผู้หญิงที่เป็นเจ้าสาวกลายเป็นของเล่นของเจ้าชายคนหนึ่ง.”
“มันสามารถซื้อเวลาได้ แต่ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องรับสามีจากตระกูลอื่นไม่ใช่เหรอครับ.”
“ซื้อเวลางั้นเหรอคะ?”
แสงจันทร์บนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดส่องผ่านหน้าต่าง ส่องประกายแสงอันงดงามสู่ตัวเธอ
“ฉันสงสัยจังเลยน้า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าร่างของดิฉันคนนี้ ได้อุ้มลูกของคุณ”
“หาาาาาาาาาาา…”
“เพื่อที่จะหลบหนีจากตระกูลโครน ฉันได้ข้อสรุปมาแบบนี้เพื่อเป็นนายหญิงของคุณ คุณเป็นทายาทของจักรพรรดิองค์ที่สอง เจ้าชายลำดับที่สี่ และใช้ตำแหน่งของคุณเพื่อรวมขุนนางตะวันออกเข้าด้วยกัน จากนั้นฉันจะให้กำเนิดลูกของคุณและทำให้เขาเป็นหัวหน้าตระกูลเคลไฮนต์คนถัดไป ฉันบอกคุณแล้ว————ฉันต้องการใครสักคนที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด.”
“นั่นจะไม่ทำให้ตระกูลเคลไฮนต์เสื่อมเสียเหรอ ถ้าให้กำเนิดลูกของชั้น มันก็เหมือกับว่าเข้าครอบครองตระกูลเคลไฮนต์เลยน่ะสิ.”
“ถ้าเรื่องนั้นดิฉันยินยอมที่จะเป็นของคุณค่ะ ดิฉันพร้อมจะรับลูกของทายาทจักพรรดิองค์ที่สอง.”
“เอ่อแต่ว่า――.”
ฮิโระไม่สามารถโต้แย้งได้ เหตุผลก็คือใบหน้าอันมีความสุขของโรซ่า
“ไม่ต้องกังวลว่าสายเลือดจะหายไปไหน ให้ลูกสาวจากตระกูลเคลไฮนต์เป็นคนเชื่อมสายสัมพันธ์ สายเลือดของตระกูลเคลไฮนต์จะยังคงอยู่ และพวกเขาจะมีเลือดของจักรพรรดิองค์ที่สองด้วย ใครกันที่จะคิดต่อกร จริงไหมคะ?”
“………”
“แน่นอนว่าค่าตอบแทนก็สมน้ำสมเนื้อเช่นกัน คุณสามารถเพลิดเพลินกับร่างกายของดิฉันได้ตามใจปรารถนา และจะมีขุนนางฝั่งตะวันออกเป็นผู้สนับสนุนคุณ คิดดูดีๆนะคะ.”
บอกตามตรงมันก็ไม่แย่ นอกเหนือจากร่างกายของโรซ่าแล้ว สิ่งที่ฮิโระต้องการคือคอนเนคชั่น เงิน และอำนาจของตระกูลเคลไฮนต์ที่สามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้
“นอกจากนี้ดิฉันไม่ต้องการมีลูกในทันทีหรอกค่ะ ดิฉันไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อีกต่อไปแล้ว ฉันจะขอบคุณมากถ้าคุณให้เวลาฉันสักหน่อย แต่นั่นเป็นเพียงเพื่อความสบายใจของฉัน และไม่เกี่ยวข้องกับคุณเลยสักนิดค่ะ หากถ้าเกิดคุณมีอารมณ์ในตอนนี้ดิฉันเองก็พร้อมจะตอบสนองให้ตามปรารถนาค่ะ.”
เอาไงดีฟะ? ฮิโระไม่รู้จะทำยังไงต่อไป
“ชั้นไม่รังเกียจหรอกนะที่จะร่วมมือกับเธอ แต่ชั้นไม่อยากมีลูก”
“คุคุ ไม่เป็นไรหรอกค่ะสำหรับตอนนี้ แน่นอนว่าฉันยินดีให้ลิซเป็นคนแรกก่อนฉันก็ได้ค่ะ”
เธอลุกขึ้นและปีนขึ้นไปบนเตียงส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ
“ด้วยเหตุนี้ มันก็ดึกมากแล้วมานอนกันเถอะค่ะ”
“ชั้นไม่คิดว่าเราจำเป็นต้องนอนเตียงเดียวกันนะ ชั้นจะไปนอนโซฟาก็ได้หากเธอต้องการ”
“นั่นไม่สมเหตุสมผลเลยค่ะ ฉันต้องการความจริงที่ว่าพวกเราได้นอนด้วยกันแม้จะไม่ได้ทำการบ้านกันก็ตาม.”
เธอยิ้มอย่างซุกซนเดินมาข้างๆและกอดฮิโระ
“ดิฉันไม่มีเจตนาจะทำเรื่องอย่างว่า แต่ถ้าคุณไม่อาจอดกลั้น ดิฉันก็ไม่รังเกียจที่จะให้สัตว์ร้ายตัวน้อยคนนี้ย่ำยีดิฉันหรอกนะคะ.”
“พวกเรานอนแยกกันไม่ได้่จริงๆเหรอ?”
“ฟี้…”
“เอ่อเธอนี่หลับเร็วเหมือนกับน้องสาวเธอไม่มีผิด.”
เมื่อคิดว่าเขาเคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน ฮิโระก็หลับอย่างไร้กังวล รายล้อมไปด้วยสัมผัสอันแสนหอมหวนของผู้หญิง
ช่วยค่าเล่ม ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ ให้คนตกงานได้ที่นี่