[LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก 20 Chapter 5 การลืมตาตื่นของเทพเจ้าแห่งสงคราม Part 2

ตอนที่ 20 Chapter 5 การลืมตาตื่นของเทพเจ้าแห่งสงคราม Part 2

Part 2  

สนามรบอยู่ในความโกลาหล ในแนวหน้าที่นำโดยมาร์เกรฟกรินด้ากำลังดิ้นรน ในใจกลางค่ายหลักของศัตรู ฮิโระกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับนายพลฝั่งศัตรู

 

ไม่ อาจกล่าวได้ว่าฮิโระเป็นฝ่ายโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว

 

อาวุธภูติที่โผล่ขึ้นจากห้วงมิติตัดผ่านอากาศ ฟันเรย์ฮิลล์และพุ่งเข้าจุดบอด จากนั้นรอยแยกมิติในมือขวาของเขาแตกออก อาวุธภูติชิ้นใหม่ก็ปรากฏขึ้น

 

หลังจากฟันเสร็จเขาก็แทงอาวุธทั้งสองเข้าไปในร่าง เขากระโดดข้ามหัวเรย์ฮิลล์ลงจอดทางด้านหลังหยิบอาวุธภูติออกมาอีกครั้งแทงเข้าไปในหลังเรย์ฮิลล์

 

―ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นในพริบตา

 

จากมุมมองของคนภายนอก จะสามารถเห็นแสงระยิบระยับสีขาวเงินที่ทอดยาวไปทุกทิศทางเหมือนกับใยแมงมุม นอกจากนี้ฮิโระกระหน่ำโจมตีอย่างไม่หยุดยั้งและอาวุธภูติก็ถูกแทงเข้าไปด้วยความเร็วสูงจนเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว

 

เรย์ฮิลล์ที่กำลังดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดขณะส่งเสียงกรีดร้อง

 

“อ่ออกกกกกกกกกกก!”

 

ไม่มีบาดแผลที่แขน ขา หรือ หน้าอก ทุกการโจมตีนั้นไม่ถึงชีวิต ถึงกระนั้นเรย์ฮิลล์ก็ต้องทนรับความเจ็บปวดต่อไปเพราะออร่าสีดำที่เกาะตัวอยู่กับเรย์ฮิลล์ ซ่อมแซมบาดแผลในพริบตา

 

อาวุธภูติที่ติดอยู่ในร่างก็หายไปและกลับสู่ความว่างเปล่า มีความรู้สึกไม่สบายใจตั้งแต่แรกแล้ว ฮิโระเคยเห็นมันมาก่อน

 

“…ผู้ร่วงหล่นยังงั้นเหรอ?”

 

เป็นชื่อของ “คนเขลา”ที่พยายามครอบครองพลังภูติ เมื่อพันปีที่แล้วกษัตริย์องค์หนึ่งด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงบดขยี้หินภูติด้วยวิธีพิเศษที่เรียกว่า “เซมะมารุ” และมอบให้ทหารของเขาคนหนึ่งดื่มมัน

 

ว่ากันว่าหลังจากให้เขาดื่ม ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในเวลานั้น กษัตริย์จึงผิดหวัง

 

พอตกกลางดึกที่ทุกคนหลับชายคนนั้นเริ่มทุกข์ทรมาน รูปร่างหน้าตาแปรเปลี่ยนและสูญเสียซึ่งเหตุผลและกลายเป็นมอนสเตอร์ เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนที่สังเกตเห็นก็กลายเป็นเหยื่อรายแรกจากนั้นมอนสเตอร์นั่นก็ได้กินกษัตริย์คนยนั้นและฆ่าทุกคนในปราสาทโดยไม่เว้นสักคนเดียว

 

ความสับสนเกิดขึ้นประเทสนั้นวอดวายและเข้าหาประเทศอื่น และฮิโระเองก็มีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งนั้น

 

“ช่างโง่เขลาอะไรเช่นนี้ เมื่อเหล่าภูติ กลายเป็น “ปีศาจ” มันจะกลืนกินชีวิตของแกและแกจะไม่สามารถกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้อีก”

 

แท้จริงแล้วพรของภูติอาจจะน่าดึงดูดใจ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ มันไม่ใช่พลังที่จะสามารถบรรจุในร่างของมนุษย์ได้  

 

แต่ถึงกระนั้น ฮิโระก็จำได้ว่ามีผู้ร่วงหล่นจำนวนมากมายไร้ที่สิ้นสุด

 

มีแม้แต่ราชาที่ดื่มมันเพื่อแก้แค้นอีกประเทศ แม้กระทั่งคนใช้ที่อยากฆ่านายจ้างของตัวเอง เรียกได้ว่าเป็น “ยุคมืด” ในตอนนั้น

 

อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่จะสูญเสียเหตุผล มีคนที่ทนได้ในบางครั้ง มีผู้ที่ก้าวข้ามมนุษย์ได้ด้านกายภาพในขณะที่รักษาความเป็นตัวตนได้

 

ผู้คนเรียกมนุษย์ที่ถูกปีศาจครอบงำไว้ว่า

 

ราชันปีศาจ――.

 

ยังไงก็ตาม ร่างของเรย์ฮิลล์ที่ใหญ่กว่าฮิโระสองเท่าตัว บวมมากขึ้นเรื่อยๆใหญ่กว่าเดิมประมานหกเท่า

 

ตอนนี้เขาไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เป็นเหมือนพวกโอเกอร์หรือกิกัส หรืออะไรที่ใกล้เคียงกับ มอนสเตอร์

 

(สุดท้ายก็ล้มเหลว)

 

ทันทีที่ฮิโระยกจักรพรรดิสวรรค์ขึ้นมอนสเตอร์ก็เริ่มเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้เข้าหาฮิโระแต่เข้าหาพวกเดียวกันแทน

 

“อ๊ากกกกกกกกกกกกก!?”

 

เขาสะบัดแขนหนึ่งครั้ง แรงลมที่เกิดขึ้นพัดทหารห้าคนของราชอาณาจักรปลิวไปและเซลล์สมองกระเด็นไปทั่วพื้น

 

“เชี้ยไรวะนั่น?”

 

“โจมตีมอนสเตอร์บุก!”

 

“ก๊าซซซ!”

 

“นายเหนือหัวของเราอยู่ไหน?”

 

แม้จะมีความโกลาหลเกิดขึ้นแต่ทหารของราชอาณาจักรลิชไทน์ก็เริ่มโจมตี การอาละวาดของมอนสเตอร์มันโจมตีพวกเดียวกันเอง ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีใครรู้ว่านั่นคือเรย์ฮิลล์

 

ไม่มีวี่แววของเรย์ฮิลล์หลงเหลืออีกแล้ว ดังนั้นมันช่วยไม่ได้ที่พวกเดียวกันจะฆ่ากันเอง มีทั้งผู้ที่ยืนหยัดอย่างกล้าหาญ และผู้ที่หันหลังให้กับมันทั้งน้ำตา ทั้งหมดถูกมอนสเตอร์นั่นเข้าโจมตี

 

ผู้คนล้มตายจำนวนมากราวกับว่ากำลังเหยียบย่ำมด ยิ่งไปกว่านั้นสถานการณ์นี้ยังเกิดขึ้นใจกลางกองทัพของราชอาณาจักรลิชไทน์

 

“มะมะไม่มีทาง.”

 

“เฮ้ย เอาจริงดิ ที่นั่น?”

 

“นั่นมันหน่วยเสบียง…”

 

“อะไรกันมันกำลังลุกไหม้ท่ามกลางสายฝน?”

 

เสียงกรีดร้องดังมาจากทหารศัตรูเมื่อฮิโระมองไปยังเปลวเพลิงที่ลุกโชนท่ามกลางสายฝน เขาก็รู้ได้ทันทีว่าคือการกระทำของลิซ ท่ามกลางสายฝนมีเเพียงจักรพรรดิเพลิงที่ทำเช่นนั้นได้ คงจะบอกได้ว่าชัยชนะครั้งนี้ถูกตัดสินแล้ว หลังจากสูญเสียหัวหน้าและเสบียง เหลือเพียงแค่ถอยกลับหรือยอมจำนน

 

แต่นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะยอมจำนนได้อย่างเงียบๆ เพราะหากทิ้งอาวุธก็จะโดนมอนสเตอร์ฆ่าตาย หากพวกเขามีผู้บัญชาการอยู่อาจจะฟื้นตัวได้ แต่ฮิโระได้ฆ่าส่วนใหญ่ทิ้งไปหมดแล้ว

 

ทางเดียวที่เหลืออยู่คือทิ้งอาวุธและหนีเอาตัวรอด

 

“ถอย ! ออกจากที่นี่เร็วเข้า ! พวกเราทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว!”

 

“ข้าเองก็จะหนี”

 

“บ้าเอ้ย ข้าไปด้วย !”

 

ไม่มีใครอยากตาย ไม่มีใครอยากเอาชีวิตไปเสี่ยง พวกเขาเริ่มวิ่งกลับไปยังประเทศของตนเอง เมื่อมองลงมาจากท้องฟ้า มันเหมือนกับหิมะถล่ม มุ่งหน้าไปยังราชอาณาจักรลิชไทน์ด้วยพลังอันท่วมท้น

 

ฮิโระไม่ได้ไล่ตามไป เป็นเพราะมีสิ่งอื่นที่เขาต้องรับมือ ฮิโระหลับตาลงและควบคุมลมหายใจ

 

วิธีที่เขาจับด้ามของจักรพรรดิสวรรค์ด้วยมือทั้งสองข้างยกขึ้นทำให้นึกถึงรูปปั้นของจักรพรรดิองค์ที่สอง หน้าม้าของเขาแกว่งไปมาเมื่อมอนสเตอร์คำราม ฮิโระมองไปที่มอนสเตอร์ตัวนั้นอย่างเงียบๆและกระโดด

 

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะพบ “มอนสเตอร์”ในอเลเทีย อาจกล่าวได้ว่าพบเห็นได้ทั่วไป พวกมันมีความแข็งแกร่งแตกต่างกันออกไป และถ้าพวกมันตัวใหญ่พอ พวกมันก็จะถูกกลุ่มหทารตามล่า หากมีใครสักคนคิดท้าทายกับมอนสเตอร์สุดหิน ผู้คนต่างหัวเราะเยาะให้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะพวกทหารที่ไร้ซึ่งการฝึกใดๆ

 

แต่หามีใครหัวเราะใส่ชายหนุ่มที่ถูกขนานนามว่า “วีรบุรุษ”ที่ต่อสู้กับมอนสเตอร์อย่างกล้าหาญ

 

ชายหนุ่มคนนั้นคือ โอกุโร่ ฮิโระ หรือที่รู้จักกันในนาม เฮอร์ธ เรย์ ชวาร์ตซ์ ฟอน แกรนท์ เขาเป็น “วีรบุรุษ” ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น “เทพเจ้าแห่งสงคราม”เมื่อหนึ่งพันปีก่อน

 

ณ ตอนนี้เขาเป็นวีรบุรุษ ใน “ตำนาน” จากตำนานกล่าวไว้ว่าหลังจากพิชิตชัยทั่วหล้าทวีปกลางเขาก็กลับสู่โลกของเขา

 

ดาบเงินที่อยู่ในมือของชายหนุ่มคือดาบในตำนานที่กล่าวว่าหายสาปสูญ แถมยังเป็นดาบที่ไม่มีบันทึกในตำนาน หนึ่งในดาบห้าจักรพรรดิภูติ “จักรพรรดิสวรรค์” ทั้งยอดและด้ามดาบล้วนเป็นสีขาวบริสุทธิ์และสวยงามเหมือนปกคลุมไปด้วยหิมะ และดาบก็เปล่งประกายราวกับว่าเต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับนับไม่ถ้วน

 

“อึก”

 

กำปั้นขนาดใหญ่ผ่านจมูกของฮิโระ ความกดอากาศเกิดเสียงระเบิดอยู่หลายครั้งเขาลอยไปในอากาศและบิดตัวฟาด จักรพรรดิสวรรค์ เลือดกระเด็นออกจากอ้อมแขนของมอนสเตอร์ แต่บาดแผลก็ปิดลงในทันที

 

สิ่งมีชีวิตนี้จะไม่ตายต่อให้ถูกฟันด้วยพลังมากแค่ไหนก็ตาม ส่วนใหญ่ก็คงจะวิ่งหนีไม่กล้ายืดหยัดต่อต้านมัน

 

ฮิโระเป็นฝ่ายหลังที่เลือกจะยืดหยัดต่อสู้กับมัน ไม่มีความกลัวหรือความร้อนรนในใจเขา มีเพียงความหงุดหงิด

 

(ช้าเกินไป ต้องเร็วกว่านี้อีก!)

 

จงร่ำร้อง ถ้าเพียงแค่นี้ไม่เพียงพอที่จะหยุดมันได้

 

“วังวน!”

 

ฮิโระใช้ดาบจักรพรรดิสวรรค์ด้วยความหงุดหงิด แขนยักษ์ลอยไปในอากาศ ถ้าเป็นมนุษย์ก็คงถึงแก่ชีวิต อย่างไรก็ตามตรงหน้าคือมอนสเตอร์ที่แม้แต่ดาบภูติวิญญาณในตำนานยังชนะอย่างยากลำบาก

 

เลือดจำนวนมากอาบหน้าของฮิโระ แต่เขาก็ยังเร่งความเร็วต่อไป

 

“บ้าเอ้ย!”

 

เป็นเวลาสามปีกว่าแล้วที่เขาไม่ได้ออกกำลังกายเลยตั้งแต่กลับโลกเดิม อาจกล่าวได้ว่าตัวเขาในตอนนี้อ่อนแอกว่าตัวเขาในเมื่อก่อน แต่เขาไม่อยากใช้สิ่งนั้นเป็นข้อแก้ตัว เนื่องจากประสบการณ์มากมายที่ผ่านมาจนถึงจุดนี้ สิ่งสำคัญมันยังคงอยู่

 

(ไม่อยากให้ทุกอย่างที่สั่งสมมาต้องสูญเปล่าหรอกนะ.)

 

ทุกปมในร่างกายของเขากำลังกรีดร้อง ฮิโระกัดฟันอดทน หลังจากการต่อสู้หลายครั้งร่างกายของเขาก็ถึงขีดจำกัด ถึงกระนั้นฮิโระก็ยังกระหน่ำฟันศัตรู

 

แสงสีขาวเงินวูบวาบหายไปราวกับถูกดูดเข้าไปในร่างของมอนสเตอร์ ทุกครั้งที่เลือดของมอนสเตอร์ย้อมดินเป็นสีดำมันจะคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวดทำให้อากาศสั่นสะเทือน

 

(นายยังคงอยู่ นายยังอยู่ตรงนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่ชั้นจะเอาชนะทุกอย่าง)

 

เขาคุกเข่าลงกับพื้นและแทกฝ่ามือลงบนพื้น

 

(…ทุกๆคนจากไปกันหมดแล้ว.)

 

อาวุธภูตินับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นรอบตัวมอนสเตอร์ เมื่อมอนสเตอร์สั่นสะเทือน จักรพรรดิสวรรค์ก็ลอยขึ้นไปในอากาศเหนือหัวของมอนสเตอร์

 

――ชั้นจะค้นหาชัยชนะเพื่อประโยชน์ของตัวนายเองที่วาดฝันเอาไว้เบื้องหลัง

 

ฮิโระหลับตาลงและเริ่มหายใจเข้า เมื่อเห็นสถานการณ์ของฮิโระ มอนสเตอร์จึงใช้โอกาสนี้เปิดฉากโจมตี ถ้าโดนเพียงนิดเดียวเขาตายทันที มันตวัดไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหนือหัวของเขา

 

แต่ที่น่ากลัวคือมันไม่โดนฮิโระเลย

 

“เอาล่ะ ได้เวลาเปิดม่าน”

 

ฮิโระเบิกตากว้าง ไม่มีหลุมดำในดวงตา มีเพียงแสงบริสุทธิ์เท่านั้น หยดฝนกลับมาเป็นเลือดราวกับจะรักษาทุกสรรพสิ่ง  อนุภาคที่ผสมในอากาศสว่างขึ้นเหมือนกับได้รับพร

 

ชายหนุ่มคนนี้เห็นลมหายใจของโลกและรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

 

(อัลทิอุสถึงนายจะไม่ได้อยู่ในโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว)

 

ข้างหลังเขามีหญิงสาวผมสีแดงเพลิงที่เฝ้ามองด้วยความกังวล

 

(แต่เจตจำนงของนายยังคงอยู่อดีตและอนาคตล้วนเชื่อมโยงกัน.)

 

การเริ่มต้นอย่างกระทันหันและจุดจบที่ไม่ทันตั้งตัว แม้ว่าเราจะอยู่ห่างกัน แต่เราก็ยังเชื่อมถึงกัน แม้ว่าเราจะไม่มีวันเจอกันอีกแล้ว ในโลกที่ไม่มีนาย โลกที่ไร้ซึ่งตัวชั้น ชั้นได้แต่สงสัยว่านายจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง มีความสุขดีรึเปล่า? หรือกำลังเศร้าอยู่? ชั้นอยากเห็นรอยยิ้มของนายและอยากให้นายได้มีความสุข และถ้าคิดแบบเดียวกันล่ะก็

 

―ชั้นจะเล่าขานให้พวกเขาได้ฟัง

 

(วางใจชั้นได้เลย.)

 

เขาจ้องมองมอนสเตอร์ตรงหน้า

 

(อย่าได้อาลัยอาวรณ์อีก)

 

พลังแห่งภูติเติมเต็มร่างกายฮิโระทุกส่วน

 

(ตอนนี้ชั้นกำลังสนุก)

 

เขาพุ่งกระโจนออกไป

 

―ทิ้งเสียงของโลกไว้เบื้องหลัง

 

อาวุธภูติ หนึ่ง สาม แปด สิบสี่ อาวุธที่ลอยอยู่รอบๆมอนสเตอร์หายไปด้วยความเร็วที่น่ากลัวเสียงเดียวที่แพร่กระจายคือเสียงตัดผ่านผิวหนังในสนามรบที่ชุ่มไปด้วยเลือด

 

เนื้อของมอนสเตอร์ถูกตัดออกซ้ำแล้วซ้ำเล่าแสงวูบวาบสีขาวที่ห่อหุ้มมอนสเตอร์ กลบแม้กระทั่งเสียงคร่ำครวญของมัน แทนที่จะหยุด การฟันยังคงเร็วยิ่งขึ้นไปอีก เหนือความเร็วเสียง เหมือนโครงสร้างของดวงดาวหลายหมื่นดวงที่โคจรเข้าหากัน แสงสว่างนับร้อยถูกจุดประกายขึ้นรอบๆตัวกลายเป็นแสงส่องประกายนับพัน

 

เป็นพลังของผู้ที่ถือครองจักรพรรดิภูติสวรรค์

 

ชายหนุ่มที่เคยลืมเลือนได้รับพรจากจักรพรรดิสวรรค์ “ความเร็วศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งทำงานอย่างเต็มที่

 

――แสงศักดิ์สิทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วนก่อกลุ่มขึ้น

 

มันถูกปลดปล่อยด้วยความเร็วสูงพิเศษ เมื่ออาวุธภูติทั้งหมดหายไปดาบที่สวยงามก็ตกลงมาจากฟ้าหาฮิโระ ฮิโระกระโจนเข้าไปพร้อมกับจักรพรรดิสวรรค์ในมือเพื่อปิดฉาก

 

“ฮ๊ากกกกกกกกกกห์!”

 

เมื่อหัวของมอนสเตอร์ถูกตัดออกปลายดาบก็ปักลงสู่พื้น เสียงคำรามสั่นสะเทือนยก้องไปทั่วพื้นที่ ในขณะเดียวกันพื้นดินก็แตกเป็นเสี่ยงๆ

 

ร่างของมอนสเตอร์แหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และก้อนเนื้อที่กระจัดกระจายก็จมลงไปในโคลน ท่ามกลางทุกอย่าง ฮิโระหอบหายใจอย่างรุนแรงเงยหน้าขึ้นเพื่อรับออกซิเจน

 

เมฆฝนได้จางหายไปและดวงอาทิตย์ส่องแสงอย่างอบอุ่นผ่านเมฆสีเทาที่หมุนวนเพื่อฉลองการกลับมาของวีรบุรุษ

 

“ฮิโระ!!”

 

หญิงสาวผมแดง ลิซ วิ่งเข้าหาฮิโระและกอดเขาไว้ ฮิโระที่ทุ่มเททุกอย่างล้มลงกับพื้นเขาไม่เหลือแรงหยอดน้ำข้าวต้มอีกแล้ว

 

เขาอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ปากของเขาไม่ขยับทำได้เพียงแค่รับออกซิเจน

 

“มีหลายอย่างอยากจะพูดเลยแต่ดีใจที่นายปลอดภัย….”

 

ลิซถอนหายใจด้วยความโล่งอกขณะที่เธอบีบแก้มของฮิโระและหัวเราะคิกคัก ฮิโระพูดอะไรไม่ได้ ดังนั้นเธอเลยจิ้มหน้าฮิโระได้ตามใจอยาก

 

จากนั้นเซอร์เบอรัสก็เข้ามาหาฮิโระลูบหัวบนไหล่เขา จากมุมมองของเขา ออร่าซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเหล่าทหารกำลังจ้องมองเขา สปิตซ์ยังคงหมดสติและได้รับการรักษาจากแพทญ์ ทริสและมาร์เกรฟกรินด้าต่างเข้าหาเขาด้วยสีหน้าตื่นเต้น

 

“สุดยอด สุดยอดเกินไปแล้วสามารถเอาชนะมอนสเตอร์แบบนั้นได้ด้วยตัวคนเดียว…”

 

มาร์เกรฟกรินด้า บีบแก้มของตัวเองคิดว่าเขาฝันอยู่รึเปล่า

 

ข้างๆกันนั้น

 

“เห้ย ถามจริงๆเหอะเอ็งเป็นใครเนี่ยไอ้หนู?”

 

เป็นทริสที่พึมพำราวกับว่านึกถึงจุดเริ่มต้น ทางด้านหลังเองก็มีเสียงเชียร์ตามมา

 

“ว้าว การโจมตีนั่นพวกเอ็งเห็นปะ?”

 

“อ่า ใช่ ต้องเห็นอยู่แล้วสิ!”

 

“ไม่มีทาง ไม่มีทางเห็นได้หรอก.”

 

“เฮ้ย เห้?”

 

“อะไรฟะ――!?”

 

ความตื่นเต้นของเหล่าทหารลดลงอย่างรวดเร็วเสียงคำรามของเกือกม้าซึ่งคล้ายกับเสียงสั่นสะเทือนพื้นที่พร้อมจะระเบิดแก้วหู

 

ทุกครั้งที่ระยะห่างลดลงความดันในหัวใจก็เพิ่มมากขึ้น ถ้าไม่ใช่เพราะพันธมิตรพวกเขาอาจจะหนีหัวซุกหัวซุน ด้วยควสามรู้สึกอันน่ากลัวกองทัพขนาดใหญ่ได้ปรากฏตัวขึ้น

 

“กองทัพจักรวรรดิที่สี่…!?”

 

 

เอ๋ผมคึกเกินไปหรือเปล่านะ 20+กว่าตอนในห้า-หกวัน ฮะฮะฮะฮะ

[LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก

[LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก

Score 10
Status: Completed
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกขนานนามกันว่า “วีรบุรุษแห่งสงคราม.” ณ ต่างโลกที่ซึ่งถูกเรียกว่า อเลเทีย ชายหนุ่มที่ช่วยอาณาจักรที่กำลังจะล่มสลายโดยประเทศข้างเคียง ได้ทำการเข้ากอบกู้และก่อตั้งจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ขึ้นมาและทิ้งมันเอาไว้ให้กับคนรุ่นหลังและกลับโลกที่เขาจากมา เหลือทิ้งไว้ความทรงจำ สามปีผ่านไป ชายหนุ่มผู้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกๆวันก็ถูกเรียกกลับไปต่างโลกอีกครั้ง ยังไงก็ตามแต่ สิ่งที่รอเขาอยู่คือ อเลเทียในอีก 1,000 ปีข้างหน้าเสียแล้ว ชายหนุ่มที่เคยรุ่งโรจน์ได้กลายเป็น “เทพนิยาย”ที่ถูกเล่ากันเป็นตำนานในฐานะ “คู่หูราชาวีรบุรุษทมิฬ”

Options

not work with dark mode
Reset