ผมที่กำลังคิดจะทำไอศกรีม โดยเฉพาะไอศกรีมแท่ง ก็เริ่มรวบรวมวัสดุในทันที
“ยินดีต้อนรับ ในที่สุดโพชั่นก็หมดแล้ว หมดแล้วหรอคุโรโน่”
“น่าเสียดายที่ผมพึ้งใช้ไปแค่อันเดียวเท่านั้น”
ผมมาที่ร้านจัดหาสินค้าของของนักผจญภัย ร้านขายของในหมู่บ้านไอซ์ส
ตอนนี้ฉันกลายเป็นลูกค้าประจำที่นี่แล้ว เราไม่ได้พูดคุยกันโดยใช้คำให้เกียรติ
“ผมกำลังหาแท่งไม้อยู่”
สิ่งที่ผมกำลังค้นหาอยู่นี่ไม่ใช่วัตถุดิบสำหรับทำไอศกรีม แต่เป็นแท่งแบนซึ่งจะกลายเป็นที่จับของไอติม
“แท่งไม้ ถ้าอย่างนั้นเสาไม้สีขาวล่ะ? เมื่อถูกแทงเข้าไปในหัวใจ เผ่าพันธุ์แวมไพร์ที่ภาคภูมิใจในความเป็นอมตะจะถูกฆ่าตายในครั้งเดียว”
“ผมขอโทษที่ไม่ได้ชี้แจงบอกให้ชัดเจน วันนี้ผมไม่ได้มาเพื่อซื้ออาวุธ”
ละทิ้งจินตนาการโง่ๆ อย่างของที่สามารถใช้เพื่อฆ่าแวมไพร์ไปได้ ผมอธิบายสถานการณ์และสิ่งที่กำลังมองหา
“สิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันมีก็คือไก่เสียบไม้ย่าง” [TN: ยากิโทริ]
“นั่นก็ได้”
นอกจากนี้ ผมซื้อภาชนะเพื่อทำหน้าที่เป็นแม่พิมพ์เมื่อผมทำให้น้ำแข็งแข็งตัว หลังจากที่สัญญาว่าจะให้ไอติมแก่เขาถ้ามันออกมาดี ฉันก็ออกจากร้านขายไอเทม
หลังจากซื้อส่วนผสมที่จะกลายเป็นวัตถุดิบสำหรับไอติมแล้ว ผมก็ออกจากหมู่บ้านไอร์ซและกลับบ้าน
หลังจากกลับถึงบ้าน ผมก็เริ่มทำไอติมกับลิลลี่ มากกว่านั้น ถ้าไม่มีลิลี่ทำไอติมแท่งก็คงทำไม่ได้
“ถึงแล้ว มาทำไอติมกัน”
“ไอติมเหรอ”
ลิลลี่ งงและเอียงศีรษะอย่างสับสน เป็นปฏิกิริยาปกติเพราะเธอไม่รู้ว่าไอศกรีมคืออะไร
“มันเป็นขนมจากบ้านเกิดของผมที่เย็น หวาน และอร่อย… อย่างน้อยก็เมื่อทำสำเร็จ”
ผมไม่ได้ทำไอติมตั้งแต่วัยเด็ก
แต่คราวนี้วัสดุและส่วนผสมที่ผมมีนั้นแตกต่างจากญี่ปุ่นสมัยใหม่ ถ้าล้มเหลว ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด มันจะจบลงด้วยน้ำผลไม้
ผมรู้สึกกังวลเล็กน้อยในขณะที่เริ่มทำ
ผมทุบส้มกับองุ่น (ซึ่งจริงๆ แล้วเหมือนส้มบนโลกไม่เหมือนกับแอปเปิลปลอม) ที่ซื้อมาเพื่อคั้นน้ำออก ผมเติมน้ำตาลและน้ำในแต่ละครั้งเพื่อทำให้มันสะลาย (แทบจะเรียกได้ว่าเป็นน้ำผลไม้)
โชคดีที่น้ำตาลทรายใช้กันอยู่ในโลกนี้ หนึ่งเพราะโชคช่วย เมื่อดูจากประวัติศาสตร์แล้ว การทำขนมเริ่มขึ้นเมื่ยุคสมัยใหม่เริ่มต้นขึ้น หลังจากที่ของหวานทั้งหมดเป็นสินค้าหรูหรา
อย่างไรก็ตาม ที่นี่มีเครื่องเทศและเกลือด้วย ดังนั้นการหาน้ำตาลจึงค่อนข้างง่าย ดูท่าจะไม่มีปัญหาในการทำขนมอย่างอื่นด้วย
ไม่ว่าในกรณีใด ผมจะเทสาวนผสมลงในแม่พิมพ์โลหะแล้วใส่ไม้เสียบเพื่อให้เย็นลง
สำหรับงานที่สำคัญที่สุด ผมถามลิลี่
“โอเค ลิลลี่ ช่วยใช้เวทมนตร์น้ำแข็งสักหน่อย”
“ได้”
ลิลลี่ใช้เวทมนตร์เยือกแข็งของเธอโดยไม่รู้ว่ามันจะช่วยได้อย่างไร
สำหรับสิ่งนี้ มนต์ดำของผมก็ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง
เวทมนตร์สีดำของผมประกอบด้วยการสร้างสสาร คำสาป และสร้างช่องว่างมิติในตอนนี้ ผมไม่สามารถใช้องค์ประกอบเวทย์มนตร์สีทั่วไปเช่นน้ำแข็งหรือไฟ หรือเวทย์มนตร์สีอยู่ภายในร่างกายของผม ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้สำหรับผมที่จะเรียนรู้มัน
ดังนั้นผมจึงถามลิลี่ว่าใครบ้าง ที่สามารถใช้เวทมนตร์สีได้บ้างนอกเหนือจากเวทมนตร์พิเศษของเธอ
คล้ายกับตอนที่ลิลลี่ต้มชา ความหนาวเย็นก็พุ่งออกมาในลักษณะเดียวกับที่เธอพ่นไฟออกมา
“ฟุฟุ! ฟุฟุ!”
ผลของเวทย์มนตร์นั้นทรงพลัง ในทันทีน้ำผลไม้จะแข็งตัวจากการทำงานอย่างหนักของลิลี่
หากต้องการกินลูกอมน้ำแข็งทันที การแช่แข็งอย่างช้าๆ จะไม่เป็นผล ส่วนผสมในการแช่แข็ง (อัตราส่วน 3 ต่อ 1 โดยน้ำหนักของน้ำแข็งต่อเกลือ) ใช้เพื่อแช่แข็งภายในไม่กี่นาที
แต่ผมสามารถแช่แข็งสิ่งต่าง ๆ ได้ทันที ถ้าผมใช้เวทมนตร์
“พอได้แล้วลิลลี่”
“อืม?”
ผมหยุดเวทมนตร์น้ำแข็งของลิลลี่ และยื่นมือออกไปที่ภาชนะอันใดอันหนึ่ง
ขณะพิจารณา ถ้าดึงมันด้วยกำลัง ไม้เสียบมันจะหลุดออก ผมสร้างใบมีดใกล้ด้านข้างของภาชนะโดยใช้มนต์ดำ
ใบมีดที่ยื่นออกมาสัมผัสด้านข้างของภาชนะ ผมค่อยๆเปิดฝาภาชนะออก
จากนั้นผมก็ดึงไอติมออกมาอย่างนุ่มนวล
“เป็นไงบ้าง”
ในขณะที่ได้รับการจ้องมองจากลิลลี่ที่อยากรู้อยากเห็น ผมเผชิญหน้ากับไอติมด้วยความจริงจัง ที่ผมไม่เคยแสดงออกมาก่อน
ตามที่คาดไว้ เมื่อไม่มีสารปรุงแต่งรสและสารแต่งสีเหมือนสินค้าในท้องตลาด ไอติมมีสีไม่มาก และแน่นอนว่าไม่มีกลิ่น
แต่รสชาติไม่ควรจะแย่นะในขณะที่เชื่ออย่างนั้นผมใส่ไอติมเข้าไปในปาก
รสชาติของความเปรี้ยวของส้มและความหวานของน้ำตาลกระจายในปากไปพร้อมกับความรู้สึกของก้อนน้ำแข็งที่ถูกบดขยี้
ใช่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือไอติมรสส้ม!
“เยี่ยม ผมทำมันได้ดี! นี่ลิลลี่เธอก็กินมันด้วย”
ผมหยิบไอติมออกมาโดยทำแบบเดิม แล้วยื่นให้ลิลลี่
เธอหยิบไอติมในขณะที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง และกัดเข้าไปโดยไม่ลังเล
“จุ๊บ จุ๊บ—–!”
“เป็นไงบ้าง อร่อยมั้ย”
“อร่อย!?”
เห็นลิลี่กินอย่างบ้าคลั่ง ผมพอจะนึกออกแล้วว่าอร่อยขนาดไหน
แม้แต่ในอีกโลกหนึ่ง เด็ก ๆ ก็ชอบไอศกรีมแท่งอย่างที่คาดไว้
“เอาละๆ จะกินรสองุ่นด้วยไหม”
“เอาา!”
ผมจำความรู้สึกคิดถึงญี่ปุ่นได้ด้วยวิธีนี้ ลิลี่ก็กินของหวานแช่แข็งไปด้วยในขณะที่มีความสุข ดังนั้นผมจึงทำไอติมเสร็จแล้ว
วันรุ่งขึ้นผมมาที่กิลด์เพื่อทานอาหารเที่ยงวันนี้เหมือนเมื่อวาน
“โอ้ เนียร์โกะซัง ผมทำไอศกรีมที่พูดไว้เมื่อวาน ลองชิมดูไหม?”
ผมมอบไอติมที่ดีที่สุดให้กับเนียร์โกะ ซึ่งมาหาผมเช่นเคย
ที่ด้านข้างผม ยังมีลิลลี่ที่ตกเป็นนักโทษของไอติมและกำลังกินรสองุ่นอย่างเอร็ดอร่อย
“นายทำได้จริงๆ! ใช้ลิลลี่ซังกำลังกินอยู่หรือเปล่า?”
เมื่อเห็นลิลี่กำลังกินมันอย่างเอร็ดอร่อย ดวงตาของเนียร์โกะ ก็เปล่งประกายด้วยความคาดหวัง
“ใช่ มันเป็นไอติมที่ทำมาจากน้ำผลไม้―– ข้ามเรื่องน่าเบื่อๆ ไปลองกินดูสิ เอ่อ ส้มหรือองุ่น เอาอันไหนดีละ?”
เอาสีส้มเนียร์โกะตอบ ผมหยิบที่ใสของที่เก็บไว้ในพื้นที่เงาออกมาแล้วยื่นไอติมให้เธอ
ด้วยการเคลื่อนไหวแบบเดียวกับ ลิลลี่ เมื่อวานนี้ เนียร์โกะ กัดไอติม
“จุ๊บ จุ๊บ!”
“เป็นไงบ้าง”
“นี่ นี่มัน—–”
เนียร์โกะเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ ดูเหมือนว่าเอฟเฟกต์แสงจะปรากฏขึ้นข้างหลังเธอ
“นี่มันอะไรกันー! *เลีย*”
เนียร์โกะเลียมันอย่างสุดใจ ราวกับว่ากำลังเลียซอฟต์ครีม และมันหมดเร็วมากต่อหน้าต่อตาฉัน
พอคิดดูอีกที ลิ้นของแมวก็หยาบเพราะทำมาเพื่อกินเนื้อที่ติดกระดูก และ เนียร์โกะที่เป็นแมวป่าก็อาจมีมันด้วย แต่ถึงกระนั้น ไอติมก็จะถูก ลอก เพียงแค่เลียหรือเปล่า
ขณะที่คิดถึงเรื่องไร้สาระเหล่านี้ ไอติมก็หายไป
“แล้วมันดีไหม”
“ฉันขอรสองุ่นด้วยได้ไหม”
ผมมอบไอติมรสองุ่นโดยไม่พูดอะไรกับ เนียร์โกะ ที่มีสายตาเหมือนนักล่าที่มองเหยื่อของมัน
“ขอบคุณมาก —— *เลีย*”
แต่ดูจากหน้าตาแล้ว แทบไม่ต้องถามถึงรสชาติของมันด้วยซ้ำ
“ไอติมชิ้นนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ! นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันกินของอร่อยๆ แบบนี้!”
“ใช่แล้ว รสชาติจะอร่อยยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อกินในวันที่อากาศร้อน”
“นั่นอาจจะใช่! นี่เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ยอดเยี่ยมคุโรโน่ซัง!”
“ถึงจะไม่ใช่ผมที่สร้างมันขึ้นมา”
“ไม่ ไม่ นี้เป็นสิ่งที่สามารถนำการปฏิวัติในอุตสาหกรรมอาหารของหมู่บ้านไอซ์ส ถ้าขายได้จะดังมาก ไม่มีการคัดค้าน!”
“โอ้ อย่างนั้นเหรอ มันจะเป็นฤดูร้อนไม่ว่าอย่างไรก็ตาม——”
ยังไงก็ตาม รู้สึกเหมือนจะสงบสุขมากขึ้นถ้าผมขายไอติมกับลิลลี่ แทนที่จะทำงานนักผจญภัยที่อันตราย
ไม่ ผมต้องหาอุปกรณ์ แท่นบูชา หรือวงเวทย์ในดันเจี้ยนเพื่อกลับไปยังโลกของตัวเอง
ไม่ใช่เวลามาเรื่องคิดขายไอศกรีม
“มันง่ายที่จะทำ ถ้าผมบอกใครซักคน พวกเขาอาจจะเริ่มขายมัน”
โดยธรรมชาติแล้วฉันไม่ใช่คนดีที่จะบอกฟรี ๆ แม้ว่าจะไม่ใช่แฟรนไชส์ แต่มาลองขายให้กิลด์พ่อค้าในราคาเท่ากัน
“อา คุโรโนะซัง ตอนนี้นายทำหน้าไม่ดี”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าผมได้กำไร จะให้เธอกินไอติมได้มากเท่าที่ต้องการ”
“จริงดิ! งั้นมันคือคำมั่นสัญญา!”
“ใช่ แต่ถ้าเธอกินมากเกินไปมันจะทำท้องของเธอปั่นปวน ดังนั้นควรระวังไว้”
เพื่อพิสูจน์ว่าไอติมเป็นขนมที่สร้างสรรค์ ผมคิดว่าจะให้คนอื่นลองชิมเป็นตัวอย่าง
ในช่วงเวลาที่เหมาะสม สมาชิกของ ไอร์ซ-เบลเดอร์ ก็เข้ามาในกิลด์ ก่อนอื่นมาทำให้พวกเขามาเป็นนักโทษของไอติมกันก่อน
“โอ คุโรโน่! แกให้บางอย่างกับเนียร์โกะเมื่อกี้ใช่ไหม! พยายามจะเอาชนะเธอด้วยของขวัญเหรอ ไอ้เวร!”
ก่อนที่ผมจะได้เรียกพวกเขาตามปกติแล้ว อัศวินส่วนตัวของเนียร์โกะนั้น นีโน่ก็วิ่งมาข้างหน้า
“ใจเย็นๆ ผมจะให้นายเหมือนกัน”
“นั่นไม่ใช่ปัญหานี่! อย่างแรกเลย คือแกทานอาหารเที่ยงที่นี่กับ เนียร์โกะ ทุกวัน แกต้องการอะไร!”
“แม้ว่านายจะถามผมว่าผมต้องการอะไร… ยังไงก็ตาม ทำไมนายไม่ลองชวนเธอไปกินข้าวเที่ยงและมื้อเย็นดู ถ้านายต้องการ”
“ตู่ ตู่ ไอ้โง่ ข้าทำอะไรไม่ได้อย่างนั้นไม่ได—–”
ผมไม่เข้าใจว่านีโน่บริสุทธิ์หรือไร้ความสามารถ ถ้านายชอบเธอมากขนาดนั้น จงโจมตี/เข้าใกล้เธอ
ผมไม่สามารถพูดอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้เพราะไม่มีประสบการณ์ในการเข้าใกล้ผู้หญิงที่ชอบ
“อืม และถ้าข้าถูกปฏิเสธ…… ข้าคงไม่สามารถรับมือกับมันได้……”
ผู้ชายคนนี้แพ้แล้ว ขาดคุณสมบัติไร้ความสามารถ!
“คุโรโน่แล้ว นายจะให้อะไร แก่พวกเรา”
โดยไม่สนใจหัวหน้าที่ตายไปแล้ว เอเทน ก้าวมาหาผม
“อ๋อ ผมทำขนมจากบ้านเกิดที่เรียกว่าไอติม เลยคิดว่าจะให้ทุกคนกินมัน”
“ไอติม? ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน แต่ทำขนม คุโรโน่ นายมีงานอดิเรกแบบผู้หญิงอย่างน่าประหลาดใจ”
“เมื่อมันร้อน ใครๆ ก็โหยหา เมื่อได้กินแล้วจะเข้าใจ”
“โฮ่~ ค่อนข้างมั่นใจนะว่าไหม?”
“ลิลลี่ หัวหน้าหมู่บ้าน เนียโกะ ทั้งสามชมเชยว่าอร่อย”
ผมได้นำเสนอให้หัวหน้าหมู่บ้านก่อนที่จะมาที่กิลด์ เมื่อผมไปอ่านหนังสือประจำวันที่นั่น
“ลองทานดูก่อนนะ รสชาติ——”
ผมแจกไอติมรสที่พวกเขาต้องการ
ทุกๆคน ก็กินพร้อมกัน ความประทับใจยังเหมือนเดิมจนถึงตอนนี้——
“”อร่อย!!””
แล้วเอเทนก็ถามหาไอติมรสอื่นๆ เหมือนเนียโกะ
แม้แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ก็เป็นเวลาของวันที่ใครๆ ก็อยากกินไอศกรีม