คืนวันนั้น ณ ห้องอาจารย์ใหญ่ที่อยู่ชั้นบนสุดของอาคารเรียนกลาง〈อุทยาน〉 มุชิกิกำลังฟังรายงานอาการของรูริจากเอลูลูก้า
「…..แค่นี้แหละ แม้จะเสียเลือดมาก แต่โชคดีที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ──แน่นอนว่า ถ้าได้รับการรักษาช้ากว่านี้จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ล่ะน้อ」
เอลูลูก้าเคาะแฟ้มผู้ป่วยเบาๆแล้วจบการรายงาน
มุชิกิที่นั่งฟังอยู่บนเก้าอี้อาจารย์ใหญ่ที่อยู่ในส่วนลึกของห้อง ถอนหายใจอย่างโล่งอก
หลังถูกโจมตี ก็รีบติดต่อกับทาง〈อุทยาน〉 แล้วส่งรูริเข้าห้องฉุกเฉิน
แต่ว่า ถ้ามีอาจารย์ใหญ่ยืนทำหน้าเครียดอยู่จะทำให้ทุกคนไม่สบายใจ ก็เลยถูกบอกให้รอที่นี่มาโดยตลอด
พูดตามตรง ก่อนจะได้ยินรายงานก็กังวลจนอยู่ไม่สุข
แต่ว่า ตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะโล่งใจได้ตลอดไป มุชิกิกัดฟัน แล้วทำสีหน้าตึงเครียด
พอเห็นสภาพแบบนั้นของมุชิกิ เอลูลูก้าก็กอดอกถามเข้ามา
「…..มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไซกะ ทำไมรูริถึงบาดเจ็บขนาดนี้」
「……….」
แต่ว่า มุชิกิไม่ตอบกลับ
ไม่สามารถที่จะตอบได้
พอเห็นอย่างนั้น เอลูลูก้าก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายออกมา
「…..พูดไม่ได้…รึ งั้นก็ไม่เป็นไร ไม่คิดว่าคนอย่างเจ้าจะปิดปากเงียบโดยไม่มีเหตุผลอยู่แล้วล่ะนะ」
「…..ขอโทษจริงๆ」
「ก็บอกว่าไม่เป็นไรไง แล้วสักวันค่อยมาบอกแล้วกัน」
พอพูดเสร็จ ก็ทำท่าจะเดินออกจากห้อง มุชิกิส่งเสียงเรียกจากทางด้านหลัง
「เอลูลูก้า」
「หือ?」
「ฉันมีสาวใช้…..ที่ชื่อคุโรเอะอยู่ใช่ไหมล่ะ เธอน่ะ รู้เรื่องของเขาหรือเปล่า」
พอมุชิกิถาม เอลูลูก้าก็เอียงคอสงสัย
「สาวใช้…..ผู้หญิงที่ชื่อคุโรเอะนั่นน่ะเหรอ เพิ่งเคยเจอตอนประชุมก่อนหน้านี้เป็นครั้งแรกน่ะ เรื่องนั้นมันทำไมล่ะ?」
「……..、งั้นเหรอ」
หลังจากเงียบไปหลายวินาที มุชิกิก็พูดอย่างสงบแล้วส่ายหน้าเบาๆ
「ฝากรูริด้วยนะ เอลูลูก้า」
「อืม ไว้ใจได้เลย」
เอลูลูก้าพยักหน้าตอบรับ แล้วออกจากห้องอาจารย์ใหญ่
เสียงปิดประตูดังขึ้น พร้อมกับความเงียบที่เข้ามาเยือน
「……….」
มุชิกิค่อยๆลุกขึ้น ไปยืนหน้ากระจกเงาบานใหญ่ที่ตั้งอยู่ในส่วนลึกของห้อง จ้องมองไปยังคนที่ปรากฏออกมาจากกระจกเงา
เด็กสาวผู้งดงามจนน่าเหลือเชื่อ ถูกสาดส่องโดยแสงจันทร์ที่เล็ดลอดเข้ามาจากทางหน้าต่าง
คุโอซากิ ไซกะ จอมเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ผู้นำของ〈อุทยาน〉แห่งนี้ รักแรกผู้ช่วงชิงหัวใจของมุชิกิ
และในตอนนี้──ยังเป็นร่างกายของมุชิกิด้วย
มุชิกิได้พบกับเธอ ได้ถูกส่งมอบร่างกายและพลังจากเธอ และได้รับชีวิตสองด้านที่แสนประหลาดนี้
ทั้งหมดนี่ เพื่อโค่นล้มคนที่เข้าจู่โจมไซกะ
และนำจิตใจของไซกะกลับคืนมา
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยลืมจุดมุ่งหมายนั้น และไม่เคยคิดที่จะละเลยด้วย สิ่งที่ตัวเองทำได้ก็ตั้งใจที่จะทำเสียทั้งหมด
แต่ว่า ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างนี้
ตั้งแต่ต้น เข้าใจดีว่าตัวเองไม่รอบคอบ เข้าใจดีว่าตัวเองมันไร้เหตุผล
แต่ว่า มุมเล็กๆมุมหนึ่งข้างในหัว ก็ยังแอบมองโลกในแง่ดีอยู่
แต่ละวันที่ได้รู้ว่าพลังลึกลับที่ถูกเรียกว่า『เวทย์มนต์』ในมือของตัวเองเป็นเรื่องจริง ถ้าจะบอกว่าไม่รู้สึกตื่นเต้นเลยก็คงโกหก
ถ้าเป็นร่างกายที่แข็งแกร่งที่สุดของเด็กสาวผู้เป็นที่รักอย่างคุโอซากิ ไซกะ จะต้องฟันฝ่าสถานการณ์อันยากลำบากนี้ไปได้อย่างแน่นอน
ความเชื่อมั่นอันไร้ต้นเหตุที่ไม่รู้ไปได้มาจากไหน
มุชิกิในตอนนี้ ทั้งไร้หนทางและไร้พลัง และยังต้องทรมานกับความเกลียดชังที่มีให้แก่ตัวเอง
โลกไม่ได้หมุนไปอย่างทึ่คิด ความเด็ดขาดของมุชิกิยังมีไม่พอ
──จะกำจัดศัตรูคู่อาฆาตของไซกะให้ได้ จมอยู่กับความเชื่อมั่นในการแก้แค้นแบบผิดๆ
「…..อาา…..」
แต่ว่า ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว
ตอนที่ได้เผชิญหน้ากับ『ศัตรู』เป็นครั้งแรก เห็นรูริถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส หัวใจของมุชิกิ ก็ลุกโชนด้วยไฟแห่งการเตรียมใจและความแน่วแน่
───กล้าดียังไงมาทำร้ายรูริ น้องสาวที่น่ารักของฉัน
───กล้าดียังไงมาทำร้ายคุณไซกะ คนที่ฉันรักที่สุด
「ยกโทษให้ไม่ได้」
มุชิกิพูดอย่างสงบ แต่ก็หนักแน่น
แล้วก้าวเท้าไปตรงหน้าหนึ่งก้าว ยื่นมือทั้งสองข้างไปยังกระจกเงา
「──คุณไซกะ ขอโทษนะครับ จากนี้ไปผมจะทำอะไรบุ่มบ่ามสักหน่อย」
มุชิกิพูดออกไปด้วยความมุ่งมั่น──
「ขอพลังของคุณ ให้ผมยืนด้วยเถอะครับ」
จากนั้น ก็จุมพิตลงบนกระจกเงาอย่างเงียบงัน
พอเปิดประตูที่อยู่ข้างในสุดของห้องอาจารย์ใหญ่ ปลายทางกลับเป็นสวนกว้างขวางขยายออกไป
ทางเดินที่กระจายออกเป็น 4 ทิศ แต่งแต้มด้วยแปลงดอกไม้และต้นไม้ต่างๆที่ถูกเล็มอย่างดี เพราะเป็นเวลาที่ค่อนข้างดึก จึงมีแสงจากไฟถนนฉายลงมาอ่อนๆ
แน่นอนว่า บนอาคารเรียนกลางชั้นบนสุด ไม่มีทางมีของแบบนั้นอยู่แน่นอน แต่เป็นประตูแบบพิเศษของ〈อุทยาน〉ที่เชื่อมต่อกับประตูแบบเดียวกันด้วยศาสตร์เวทย์
ในตอนแรก ก็ไม่รู้วิธีใช้ที่ถูกต้องแล้วถูกส่งไปทั่ว แต่ตอนนี้ชินกับมันแล้ว
หลังจากยืนยันว่าเป็นทิวทัศน์แบบเดียวกับที่จินตนาการไว้ ก็ก้าวออกไปแล้วปิดประตู
ที่แห่งนั้น อยู่ในตำแหน่งทิศเหนือของ〈อุทยาน〉 สวนหน้าคฤหาสน์ของไซกะ
มุชิกิทิ้งตัวบ้านหรูหราไว้เบื้องหลัง แล้วก้าวเดินต่อไปอย่างช้าๆ
「────」
พอมาถึงบริเวณกึ่งกลางของสวน เด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็หันกลับมา
「คุณมุชิกิ อาการของอัศวินฟุยะโจวเป็นยังไงบ้างคะ?」
เด็กสาว──คาราสุมะ คุโรเอะ ถามเข้ามาด้วยสีหน้าที่ไร้การเปลี่ยนแปลงเหมือนทุกที
เรื่องที่คุโรเอะมายืนอยู่ในที่แบบนี้เพียงลำพังแถมยังพูดจาแปลกๆ มุชิกิไม่ตกใจเลยแม้แต่นิดเดียว
เรื่องนี้ก็คือสิ่งที่ควรจะเป็น เพราะคนที่เรียกคุโรเอะมาที่นี่ ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากมุชิกิ
ใช่ มุชิกิมีเรื่องที่ไม่ว่ายังไง ก็อยากถามคุโรเอะให้มั่นใจ
「…..ครับ ดูเหมือนจะไม่มีอันตรายถึงชีวิต」
มุชิกิตอบกลับไปด้วยความรู้สึกชาอ่อนๆที่บริเวณใต้หน้าอก
「งั้นหรือคะ เรื่องนั้นสำคัญที่สุดแล้วค่ะ…..แต่ว่า กล้าโจมเข้ามาอีกรอบแบบนี้ คงไม่มีเวลาแล้วค่ะ ศึกตัดสินใกล้เต็มที่แล้ว คุณมุชิกิ เตรียมใจไว้เลยนะคะ」
คุโรเอะพูดอย่างไร้อารมณ์
มุชิกิจ้องเขม็งไปยังท่าทางนั้น แล้วถอนหายใจสั้นๆ
「……….ผมน่ะ」
「คะ?」
คุโรเอะเอียงคอเล็กน้อย ทำท่าทีสงสัย
แต่มุชิกิก็พูดต่อโดยไม่หลบตา
「รู้สึกขอบคุณคุโรเอะครับ──หลังจากที่ถูก『ศัตรู』โจมตี และรวมร่างกับคุณไซกะ ตัวผมที่ไม่รู้ว่าอะไรคืออะไร ก็ได้คุโรเอะช่วยไว้ตลอด ถ้าเกิดไม่มีคุโรเอะ ผมคงได้ก่อปัญหาหลายอย่างมากกว่านี้แน่เลยครับ」
「ไม่ต้องใส่ใจหรอกค่ะ นั่นก็ถือเป็นหน้าที่ของสาวใช้ท่านไซกะอย่างหนึ่ง」
คุโรเอะยืดหลังตรงตอบกลับ
รูปลักษณ์ที่แทบจะไร้ช่องโหว่ สมเป็นสาวใช้จนเกินไป
──ราวกับ กำลังเล่นบท『สาวใช้』อย่างสมบูรณ์แบบ
มุชิกิกลืนน้ำลาย แล้วยิงคำถามออกไป
「เพราะฉะนั้น ช่วยตอบคำถามผมมาตรงๆด้วยเถอะครับ ขอร้องล่ะ」
「…..? พูดเรื่องอะไรกันค──」
「──คุโรเอะ คุณน่ะ เป็นใครกันแน่ครับ?」
วินาทีที่มุชิกิพูดออกไป
คำพูดของคุโรเอะหยุดชะงักลง
ดวงตาที่ไม่สามารถอ่านได้ จ้องมองมายังใบหน้าของมุชิกิอย่างสงบ
แม้มุชิกิ จะรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจที่ค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้น แต่ก็ไม่แสดงท่าทีลนลานออกไป ค่อยๆพูดต่อ
「…..คุณไซกะน่ะ ไม่เคยมีคนใช้ครับ คุโรเอะ เวลาที่คุณปรากฏตัวขึ้นที่〈อุทยาน〉 คือช่วงเวลาเดียวกับที่ผมมาที่นี่──
──จะถามอีกรอบ คุณน่ะเป็นใครกันแน่ มีจุดมุ่งหมายอะไร ถึงมาอ้างตัวเป็นคนรับใช้กับตัวผมที่ไม่รู้อะไร」
แน่นอนว่า ด้วยข้อมูลเพียงแค่นี้ ไม่ได้ตั้งใจจะตัดสินว่าคุโรเอะคือคนร้าย อย่างน้อยๆตัวมุชิกิเอง ก็ไม่ต้องการที่จะคิดเช่นนั้น
แต่ว่า คุโรเอะกำลังปิดบังอะไรมุชิกิอยู่ มีเพียงเรื่องนั้นที่เป็นสิ่งแน่นอน
มุชิกิถามเพื่อซักคำตอบ
「……….」
คำพูดของมุชิกิ ทำคุโรเอะเงียบหายไปพักหนึ่ง
แต่ว่า ท้ายที่สุด ช่วงเวลาเดียวกับที่คิดว่า ได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆจากลำคอ
「────อะไรกัน รู้ตัวแล้วอย่างงั้นรึ?」
แสยะ ริมฝีปากบิดเบี้ยว เผยรอยยิ้มที่ดูดุร้ายออกมา
「……….!」
คำพูดและสีหน้าที่ไม่เคยคิดว่าจะมาจากคุโรเอะ ทำให้เส้นขนทั้งหมดลุกชัน
ไม่ได้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ หรือมีสัตว์ประหลาดโผล่มาจากด้านหลังอะไรทั้งนั้น
เพียงแค่เปลี่ยนสีหน้าและวิธีพูด
แม้จะเพียงแค่นั้น แต่มุชิกิ รู้สึกเหมือนเด็กสาวตรงหน้ากลายเป็นคนอื่นในชั่วพริบตา
「แกน่ะ──เป็นใครกันแน่…..!?」
มุชิกิรู้สึกเกร็งไปทั่วร่าง และย่อตัวลงเล็กน้อยทำท่าเหมือนเตรียมพร้อม
พอเห็นแบบนั้น คุโรเอะก็หัวเราะออกมาอย่างขบขัน
「อื้ม การตอบสนองไม่เลวนี่ แต่ว่า ยังห่างจากเกณผ่านพอสมควรเลย────นะ!」
พริบตาต่อมา ร่างกายของคุโรเอะที่ยังพูดไม่จบ ก็กลายเป็นภาพเบลอ แล้วมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า
「น่ะ──」
เคลื่อนที่พริบตา──ไม่สิ เพียงแค่เตะพื้นร่นระยะ แต่ว่า ทั้งความเร็วและการเคลื่อนไหวนั่น มุชิกิไม่สามารถตอบสนองได้ทัน
พยายามเรียกใช้ศาสตร์เวทย์อย่างลนลาน แต่ก็ช้าเกินไป คุโรเอะ เข้ามาอยู่ในระยะยกแขนของมุชิกิแล้ว
รับกระแทกจากการพุ่งเข้าใส่ด้วยแรงสะสม ร่างกายของมุชิกิถูกผลักกระเด็นออกไปด้านหลัง
「กุ…..!」
ก้นกระแทกกับพื้นทางเดินแข็งๆ มุชิกิรีบเงยหน้าขึ้น
ทว่า ในตอนนั้นเครื่องหมายคำถามก็ลอยขึ้น──ทั้งที่ถูกเล่นงานทีเผลอแท้ๆ แต่ความเสียหายที่ร่างกายมุชิกิได้รับกลับมีน้อยผิดปกติ
จริงอยู่ที่โดนพุ่งเข้าใส่สุดตัว แล้วก้นที่ถูกกระแทกก็เจ็บระบมไปหมด แต่ถ้าพูดกลับกัน สุดท้ายมันก็แค่นั้น
ถ้าเกิดว่าคุโรเอะ ต้องการโจมตีด้วยความเป็นปรปักษ์จริงๆ เรื่องแบบนั้นคง──
──ทันใดนั้น
「……….!?」
ความคิดของมุชิกิ ก็ถูกหยุดลงที่ตรงนั้น
ข้างหลังของคุโรเอะ──ที่ๆมุชิกิเคยยืนอยู่จนถึงเมื่อกี้──
มีเสาสัญญานขนาดใหญ่ ลอยกลับหัวพุ่งจากท้องฟ้าลงมาตกตรงนั้น
「หา──,เอ๊ะ…..!?」
ปลายเสาเจาะทะลุพื้นดิน ชิ้นส่วนที่แตกสลายและคลื่นกระแทก พุ่งกระจายออกไปรอบๆ
มุชิกิมองผ่านไหล่ของคุโรเอะที่กำลังยืนขวางปกป้องตน จ้องมองไปยังภาพที่ดูไม่เหมือนความจริงที่อยู่ตรงหน้า
「…..ให้ตายสิ…..ชอบทำอะไรยิ่งใหญ่เสียเหลือเกินนะ」
คุโรเอะถอนหายใจ──แล้วหันไปมองเสาสัญญานที่ตั้งกลับหัวอยู่ด้านหลัง
ทันใดนั้น ราวกับเป็นการเข้าจังหวะกับการเคลื่อนไหว เสาสัญญานที่ตั้งกลับหัวอยู่กลางสวน ก็หายไปพร้อมกับแสง วินาทีนั้น ทัศนวิสัยของมุชิกิถูกปกคลุมด้วยแสงจ้า
แล้วพอแสงนั้นจางหายไป──ทิวทัศน์ของโลกที่ปกคลุมรอบตัวมุชิกิกับคุโรเอะ ก็กลายเป็นสิ่งที่ต่างจากเมื่อก่อนหน้า
「นี่มัน──」
เมืองเขาวงกตที่สร้างขึ้นจากตึกระฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วน
ภาพที่ได้เห็นเป็นครั้งที่สามทำให้มุชิกิกลั้นหายใจ
「หมายความว่ายังไงครับ คุโรเอะคือศัตรูไม่ใช่──」
「──ฮ่ะ การมีเรื่องให้ประหลาดใจเนี่ย ก็อาจจะสนุกไปอีกแบบแหละนะ」
คุโรเอะพูดแล้วยิ้มบางๆออกมา ทว่าสีหน้านั้น เริ่มเบาบางผิดกับคำพูด
ในตอนนั้น มุชิกิก็รู้สึกตัว ที่หลังของคุโรเอะ กำลังเปียกชุ่มไปด้วยเลือดจำนวนมาก
ใช่ คุโรเอะไม่เพียงผลักมุชิกิออกไป แต่มองสิ่งที่ตกลงมาจากท้องฟ้าทะลุปรุโปร่ง แล้วใช้ร่างกายนั้นปกป้องมุชิกิเอาไว้
「…..! คุโรเอะ เลือด──」
「…..พลาดโดนเข้าแล้วสินะ …..ที่สำคัญกว่านั้น ระวังตัวไว้ด้วยล่ะ เขามาแล้วล่ะนะ…..ยมทูตที่เลวร้ายที่สุด…..ของพวกเราน่ะ…..」
คำพูดสุดท้าย ก่อนที่เรี่ยวแรงจะหลุดไปจากร่างคุโรเอะ แล้วล้มลงไป
ท่าทางจะหมดสติไปแล้ว แม้จะยังหายใจอยู่แต่ก็เสียเลือดมาก ต้องได้รับการรักษาโดยด่วน
แต่ว่า ก็รู้ตัวขึ้นมาทันทีว่าเรื่องนั้นทำไม่ได้
ราวกับเป็นการยืนยันคำพูดของคุโรเอะ ร่างกายของมนุษย์ ค่อยๆโผล่มาจากท้องฟ้ายามค่ำคืน
ทั้งร่างถูกปกคลุมด้วยผ้าคลุม แม้แต่ฮู้ด ก็มีช่องว่างให้เห็นปากเพียงเล็กน้อย
การแต่งกายเหมือนไม่ชอบถูกใครสังเกตตัวตน มีเพียงตราสัญลักษณ์ 4 วง ที่ลอยส่องสว่างอยู่ข้างบนหัว
「…..ซ」
ไม่ผิดแน่ คนที่สร้างแผลฉกรรให้กับไซกะ แทงทะลุหน้าอกมุชิกิ และวันนี้ ก็จู่โจมรูริ ร่างกายของจอมเวทย์ที่น่ารังเกียจ
「อะ────อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา !」
มุชิกิจำรูปลักษณ์นั้นได้อย่างรวดเร็ว ยื่นแขนสองข้างออกไปข้างหน้า
บนหัวมุชิกิ มีตราสัญลักษณ์เหมือนฐานหมวกแม่มดส่องสว่างขึ้น รูปร่างหน้าตาราวกับวงแหวนนางฟ้า 1 วง
วิวรณ์บทที่ 1 การนำปรากฏการณ์ในโลกของตัวเองมาเปิดเผย หนึ่งในศาสตร์เวทย์วิวรณ์
แม้ในห้องเรียนเมื่อหลายวันก่อนจะยังควบคุมได้ไม่คล่อง ตอนนี้กลับใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ
บริเวณโดยรอบมุชิกิ มีบอลแสงปรากฏขึ้นจำนวนมาก
แล้วมุชิกิก็สะบัดมือสุดแรง ส่งลูกบอลแสงบินออกไปด้วยความเร็วมหาศาล เป้าหมายคือจอมเวทย์
「────」
แต่ว่า──วินาทีที่บอลแสงจะไปถึง ก็ปรับเปลี่ยนทิศทางราวกับหลบเลี่ยงร่างกายของจอมเวทย์ ลอยผ่านไปด้านหลัง
แล้วกระสุนเวทย์ของมุชิกิ ก็ระเบิดเป็นดอกไม้ไฟที่ข้างหลังจอมเวทย์
「น่ะ…..」
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ทำให้มุชิกิตาเบิกโพลง
ใช่แล้ว ไม่มีหลบหลีกหรือป้องกันตัวเอง แต่การโจมตีกลับเปลี่ยนทิศทางขัดกับความตั้งใจของมุชิกิ ──ราวกับว่า กำลังปฏิเสธที่จะทำอันตรายกับจอมเวทย์
พอเห็นมุชิกิที่กำลังยืนอึ้งกับปรากฏการณ์แปลกประหลาด จอมเวทย์ก็เผยยิ้มจากริมฝีปากที่โผล่มาจากใต้ฮู้ด
「──เปล่าประโยชน์น่า ในพื้นที่แห่งนี้ คนที่ชนะฉันได้ไม่มีตัวตนอยู่หรอก」
「──────、เอ๊ะ──?」
มุชิกิ กลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว
เหตุผลนั้นชัดเจนอย่างถึงที่สุด
เสียงของจอมเวทย์ เป็นเสียงที่เคยได้ยิน
แต่ว่า เรื่องแบบนั้นเป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาด มุชิกิขมวดคิ้วด้วยความสับสน แล้วจ้องเขม็งไปที่อีกฝ่าย
พอเห็นการตอบสนองของมุชิกิ จอมเวทย์ก็ตัวสั่นเล็กน้อยเหมือนกำลังขบขัน แล้วค่อยๆถอนฮู้ดที่ปิดบังใบหน้า
พอทำแบบนั้น เส้นผมยาวสลวยที่ถูกเก็บไว้ใต้ฮู้ดก็ถูกแสดงออกมา รับแสงจากตราสัญลักษณ์ 4 วงส่องประกายระยิบระยับ
「──────」
พอมองดูรูปร่างที่ถูกเปิดเผยให้เห็นอย่างชัดเจน
คราวนี้ ร่างกายของมุชิกิหยุดเคลื่อนไหวโดยสมบูรณ์
เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะยังไง คนที่อยู่ตรงนั้นก็คือ──
「คุณไซ…..กะ?」
──คนที่มีรูปร่างแบบเดียวกับมุชิกิ、คุโอซากิ ไซกะคนนั้นยังไงล่ะ