Kill the Hero 032
ทันทีที่ผู้เล่นทั้ง 19 คนเข้าสู่ดันเจี้ยน เวทีที่แห้งแล้งก็ได้ต้อนรับพวกเขา
ราวกับว่าพวกเขาถูกพาไปที่แกรนด์แคนยอน หน้าผาที่สร้างจากดินแห้งล้อมรอบพวกเขาเหมือนสเตเดียม
ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจ
อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นทั้ง 19 คนที่เห็นภาพนี้ไม่ได้สนใจ
“ตรงนั้น! “
“มันคืออะไร? “
“ตรงนั้นมีถ้ำ!”
สิ่งที่พวกเขาสนใจไม่ใช่หน้าผาที่รายล้อม แต่เป็นถ้ำบนผาที่ดูเหมือนรูหนู
มันมี 11 ถ้ำ
ทางเข้าแต่ละถ้ำใหญ่พอที่จะใส่รถเอสยูวีได้
“ดูนั่นสิ”
“มีเครื่องหมายข้างทางเข้าด้วย”
มีรอยเครื่องหมายอยู่ข้างทางเข้าถ้ำ
เครื่องหมาย X ถูกขีดโดยของมีคม ถ้ำบางแห่งมีเครื่องหมาย X สองเครื่องหมายอยู่ข้างทางเข้า
พวกมันถูกทิ้งไว้โดยผู้เล่นที่เข้ามาก่อนหน้าพวกเขา
“X แปลว่าอย่าเข้าไปรึเปล่า?”
“ฉันว่า พวกเขาแค่สำรวจมัน แสดงว่าพวกเขาเข้าไปแล้ว”
มีการพูดคุยสั้น ๆ เกี่ยวกับร่องรอยเหล่านั้น
“หืม มันสำคัญมากเหรอ? ยังไงเราก็ต้องฆ่าไอ้ก็อบลินเวรที่อยู่ข้างในอยู่ดี…ฉันพูดถูกไหม? ”
มันเป็นการสนทนาสั้น ๆ
“ท้ายที่สุด สิ่งที่เราต้องทำก็คือฆ่าพวกก็อบลินบางส่วน มันไม่ใช่งานด้วยซ้ำ ในเมื่อเราต้องเข้าไปในถ้ำ แล้วฆ่าพวกมัน”
“นายพูดถูก สิ่งที่น่ารำคาญเวลาล่าก็อบลินมีเพียงอย่างเดียว เวลาที่พวกมันหนี แต่มันก็เหมือนกับเวลาจับหนูใส่ขวดโหลนั่นแหละ”
“มีแทงค์อยู่แนวหน้าแค่คนเดียวก็พอแล้ว”
“กลุ่มที่มาก่อนหน้าเราต้องโง่แค่ไหนถึงตายก่อนที่จะเคลียร์ดันเจี้ยนแบบนี้จบ?”
ผู้เล่นมาที่นี่เพื่อล่า ไม่ใช่เพื่อปลอบประโลมผู้ตาย และเก็บกระดูกของพวกเขา
“X 2 ตัว หมายความว่ามี 2 ปาร์ตี้ถูกกำจัดไปใช่ไหม?”
“แสดงว่าต้องมีไอเทมของทั้ง 2 ปาร์ตี้อยู่สินะ”
พวกเขาสนใจแต่ไอเทมของคนตายมากกว่า
อันที่จริง เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาที่นี่ด้วยเหตุผลนั้นตั้งแต่แรก
“เราจะเข้าไปในนี้! ถ้าพวกแกเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเรา ถ้าเราจะฆ่าพวกแก อย่าหาว่าไม่เตือน ห้ามตามมา!”
“นี่ นี่ และนี่ อย่าแตะต้อง 3 ถ้ำนี้ เพราะเราจะเคลียร์มัน รู้เอาไว้ว่าเราจะตัดข้อมือพวกแกอย่างน้อยก็ข้างหนึ่ง ถ้าแกพยายามจะทำ”
“เราจะเข้าไปในนี้”
หลักฐานคือทั้ง 3 ปาร์ตี้เริ่มทะเลาะกัน เพื่อถ้ำที่มีเครื่องหมาย X สองอันอย่างไม่ลังเล
ถ้าพวกเขารู้ถึงลักษณะของฮอบก็อบลิน และถ้ำ พวกเขาจะไม่มีทางเลือกถ้ำที่อาจจะกวาดล้างปาร์ตี้ไปถึง 2 ปาร์ตี้อย่างรีบร้อน
“แก 4 คน ไม่มีอะไรข้องใจใช่ไหม? ฮะ?”
ถ้าพวกเขาฉลาด พวกเขาจะไม่พยายามปกป้องถ้ำเหล่านั้นจากคู่แข่งอย่างจริงจังขนาดนั้น และทำราวกับว่ามันเป็นแหล่งอาหารของพวกเขา
“ไม่ ฉันไม่มี”
คิมวูจินผู้ตอบกลับได้ยืนยันความคิดของเขา
‘คนที่มาที่นี่ ไม่มีใครเตรียมตัวล่าฮอบก็อบลินเลยสักคน’
ดวงตาของคิมวูจินค่อย ๆ หันไปมองสมาชิกสมาคมหัวกะโหลกทั้ง 3 คน ที่สวมหน้ากากหัวกะโหลก
‘คนพวกนี้ก็ไม่ได้มาเพื่อล่าฮอบก็อบลินตั้งแต่แรกเหมือนกัน’
จากข้อมูลดังกล่าว คิมวูจินได้จำลองสถานการณ์ในหัวของเขา
‘สมาคมหัวกะโหลกน่าจะรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถล่าฮอบก็อบลิน 444 ตัวได้ด้วยตัวเอง เว้นแต่พวกเขาจะโง่…พวกเขาอาจจะรอจนกว่าผู้เล่นคนอื่นจะลดจำนวนฮอบก็อบลินลงแล้ว’
ทันทีที่เขาได้ข้อสรุปนี้ คิมวูจินก็หยุดลังเล และเข้าไปในถ้ำใกล้ ๆ ที่ไม่มีเครื่องหมาย X
Seug!
‘ถ้าพวกแกให้เวลาฉัน ฉันก็ยินดีที่จะใช้มัน’
จากนั้นเขาก็ทำเครื่องหมาย X ตัวแรกข้างทางเข้าถ้ำ และเข้าไปในถ้ำโดยไม่ลังเล
แล้วการล่าฮอบก็อบลินในถ้ำก็เริ่มขึ้น
ฮอบก็อบลิน
ปกติแล้ว รูปลักษณ์ของพวกมันไม่แตกต่างจากก็อบลินทั่วไปมากนัก
ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือร่างกายของฮอบก็อบลินมีขนาดเล็กกว่า แต่มีกล้ามเนื้อมากกว่าก็อบลินเล็กน้อย มันยังมีเขาหนึ่งเขาที่ยาวราวนิ้วมืออยู่บนหัว
แต่บุคลิกของพวกมันต่างจากก็อบลินทั่วไปมาก
ก็อบลินธรรมดาจะขี้ขลาด ถ้าเพื่อนของพวกมันตาย พวกมันก็ไม่ลังเลที่จะหนี โดยใช้เพื่อนของตัวเองเป็นเหยื่อล่อ และพวกมันก็ยังจะวิ่งต่อไป แม้ว่าจะได้กลิ่นเลือดของเพื่อนของตัวเองก็ตาม
แต่ฮอบก็อบลินนั้นต่างกัน พวกมันกล้าหาญ เมื่อมองไปที่จิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกมันเพียงอย่างเดียวพวกมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับออร์ค และจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพวกมันที่รวมตัวกัน ก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก
หากเป็นเช่นนั้น คุณจะจัดการกับฮอบก็อบลินในถ้ำมืดที่มีพื้นที่ขนาดเท่ารถแล่นผ่านยังไง?
คนส่วนใหญ่คงจะคิดแบบนี้
วางนักรบที่มีชุดเกราะกับโล่เอาไว้ด้านหน้า และต่อสู้อย่างเป็นระเบียบหลังจากปิดกั้นทาง
ความคิดของยางอิลซูก็เป็นแบบนั้น
เขาที่มีนักสู้อมตะเป็นรัศมีได้เตรียมตัวเมื่อรู้ว่าเขาต้องล่าก็อบลินในถ้ำ
เขามีชุดเกราะ และโล่ที่ใหญ่กว่าปกติ เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายของเขาจะสามารถปิดกั้นทางเดินของถ้ำได้
ความจริง ยางอิลซูที่สวมเพียงชุดเกราะกับถือโล่ได้ปิดกั้นช่องทางส่วนใหญ่ของถ้ำแล้ว หรือก็คือเขาไม่สามารถปิดเส้นทางทั้งหมดของถ้ำได้นั่นเอง
Kaya!
“เอ่อ อ่า!”
นั่นคือเหตุผลที่ฮอบก็อบลินสามารถลอดผ่านช่องเล็ก ๆ ที่ยางอิลซูเหลือไว้ได้
“เวร ระวังนะ!”
ยางอิลซูตกใจกับสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้วู่วามขนาดนั้น เพราะมีนักเวท 2 คน ฮีลเลอร์ และนักธนูอีกคนหนึ่งที่เชื่อในตัวเขาอยู่ และกำลังรอโจมตีจากด้านหลัง
แต่การเคลื่อนไหวของฮอบก็อบลิน ดูเหมือนลางร้ายมากขึ้นทุกที เมื่อมีแค่แสงจากไฟฉายเท่านั้น ที่ส่องสว่างภายในถ้ำ
“อึก!”
“ห หนี!”
นักเวททั้งสองก้าวถอยหลัง เมื่อเห็นฮอบก็อบลินเข้ามา
‘อา ฉันมองไม่เห็นเลย’
นักธนูที่ต้องเข้าร่วมการต่อสู้ก็ล้มเหลวในการตอบสนองกับเหตุการณ์ที่พลิกผันไปอย่างกะทันหัน
Ting!
เขายิงธนูออกไป แต่มันกลับโดนพื้นแทน
Kaya!
“อื้ออออ!”
เมื่อนักธนูกำลังจะยิงครั้งที่สอง ฮอบก็อบลินก็อยู่ติดกับฮีลเลอร์แล้ว
Kaa!
ฮอบก็อบลินที่เกาะติดกับฮีลเลอร์เปล่งเสียงกรีดร้อง และกัดเข้าที่ไหล่ของเขา
แน่นอนว่าไม่มีเลือด เพราะฮีลเลอร์สวมอุปกรณ์ป้องกันเอาไว้
“อะ ออกไปจากฉัน! อ๊าาา! ช่วยฉัน! ฉันบอกว่าช่วยฉันด้วย! อ๊าาา!”
อย่างไรก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันไม่ให้เสียงกรีดร้องของฮีลเลอร์ทำให้ปาร์ตี้ของยางอิลซูเสียขวัญ
‘ด้านหลังฉันเกิดอะไรขึ้น? ’
นอกจากนี้ ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันไม่ให้จิตใจของยางอิลซูฟุ้งซ่านกับสถานการณ์ที่เขามองไม่เห็น
Kaya!
“ระ ระวัง!”
ในขณะที่ยางอิลซูรู้สึกว้าวุ่นใจกับสถานการณ์ที่ด้านหลัง ฮอบก็อบลินก็พยายามจะบุกเข้ามาผ่านช่องเล็ก ๆ ระหว่างชุดเกราะของเขาอีกครั้ง
และคราวนี้มีถึงสองตัว
Kayaa!
ฮอบก็อบลินทั้งหมด 3 ตัว เริ่มสร้างหายนะให้กับปาร์ตี้
ไม่ใช่แค่ปาร์ตี้ของยางอิลซูเท่านั้น
“ไม่นะ มันหลุดไปแล้ว!”
“ระวัง!”
“อ๊าา!”
สิ่งเดียวกันนี้ เกิดขึ้นภายในถ้ำทั้งสามแห่ง
นี่เป็นครั้งที่ 3 ของฮอบก็อบลินในนั้น และมีเครื่องหมาย X สามเครื่องหมายข้างทางเข้าถ้ำเหล่านั้น
นั่นทำให้ฮอบก็อบลินสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างก้าวร้าว และเป็นระบบมากขึ้น
แน่นอนว่ายังมีสถานที่ที่ไม่เป็นเช่นนั้นอยู่
มันคือถ้ำที่คิมวูจินอยู่
Kaaa!
วิธีการล่าที่คิมวูจินเลือก และสิ่งที่คนอื่นเลือกนั้น มีหลักการเหมือนกัน
เขาปิดกั้นทางเดิน เพื่อหยุดไม่ให้ฮอบก็อบลินหลายตัวเข้ามาพร้อมกัน
และเขาไม่ได้กั้นทางเดินด้วยการสวมเกราะหรือใช้โล่
Kang!
แทนที่เขาจะเป็นตัวขวางทางเอง เขากลับใช้แท่งโลหะขวางไว้ด้านหน้า
เขาติดตั้งลูกกรงจริง ๆ
แท่งโลหะที่ดูเหมือนนำออกมาจากห้องขัง ได้ปิดกั้นเส้นทางระหว่างคิมวูจินกับฮอบก็อบลิน
นอกจากนี้ แท่งโลหะยังวางไว้ในแนวเอียง โดยมีเสาอยู่ข้างใต้ เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกกรงเหล็กตกลงบนพื้น
มันดูคล้ายกับสามเหลี่ยมมุมฉาก
Tteolgeuleog! Tteolgeuleog!
ด้านหลังมีทหารโครงกระดูกถือหอกยาว
Puk!
ทหารโครงกระดูกกำลังแทงฮอบก็อบลินที่เกาะกับแท่งเหล็ก และกำลังส่งเสียงร้องทีละตัว
นี่คือวิธีการล่าของคิมวูจิน
‘มันคุ้มกับที่เตรียมตัวมา’
และการเตรียมการก็ไม่ยากเช่นกัน
เขาหลอมไอเทมราคาถูกที่พบในดันเจี้ยนได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับการประกอบเต็นท์ นอกจากนี้ ในดันเจี้ยนยังมีวัสดุอีกมากมายที่แข็ง แต่เบากว่าเหล็ก
ราคาของมันก็ไม่แพง มันมีราคาพอ ๆ กับเครื่องดื่มหรือค็อกเทลราคาแพงที่ผู้เล่นดื่มกันในบาร์ที่กังนัม
แต่ประโยชน์ของแท่งโลหะนั้นยอดเยี่ยมมาก
Kayaa!
ฮอบก็อบลินที่ตาบอดด้วยความโกรธจากการตายซ้ำ ๆ ของเพื่อนตัวเอง ก็รีบวิ่งเข้าไปหาแท่งโลหะอย่างไม่หยุดหย่อน แต่ไม่มีฮอบก็อบลินตัวไหนที่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้
พวกมันไม่สามารถทำลายแท่งโลหะ และพวกมันก็ไม่มีอาวุธใด ที่มีประสิทธิภาพพอจะต่อต้านศัตรูที่อยู่หลังแท่งโลหะได้
Kang!
แม้ว่าการขว้างก้อนหินจะเป็นสิ่งเดียวที่พวกมันทำได้ แต่ส่วนใหญ่ก็จะถูกแท่งโลหะกั้นเอาไว้
Puk!
กลับกันทหารโครงกระดูกแทงหอกผ่านช่องว่างระหว่างโลหะอย่างชำนาญ
นอกจากนี้ ทหารโครงกระดูกไม่ได้แค่แทงหอกเท่านั้น
แต่พวกมันยังเล็งไปที่ส่วนต่าง ๆ ของฮอบก็อบลิน เช่น ดวงตา ซึ่งเป็นบาดแผลที่ร้ายแรงที่สุด และเป็นจุดที่มีเลือดออกมากที่สุด
Puk!
และพวกมันยังจำได้ว่าควรใช้หอกแทงตัวที่ห้อยอยู่ข้างรั้ว
แน่นอนว่าแท่งโลหะเหล่านั้นไม่ได้สมบูรณ์แบบ
มันขึ้นอยู่กับรูปร่างของทางเดินภายในถ้ำ บางครั้งอาจจะมีช่องว่างที่สามารถลอดผ่านได้
Kiiiii!
ฮอบก็อบลินลอดผ่านช่องนั้น
นั่นคือทั้งหมด
เพราะรู้ว่าช่องนั้นอยู่ตรงไหน สิ่งที่คิมวูจินต้องทำก็คือเฝ้าระวังช่องว่างเหล่านั้น
Puk!
Kik!
ทันทีที่ฮอบก็อบลินหลุดเข้ามา ลูกศรของคิมวูจินก็ยิงทะลุหน้าผากของฮอบก็อบลิน
‘พวกมันกำลังตกหลุมพราง’
ในความเป็นจริง สำหรับฮอบก็อบลิน ช่องว่างระหว่างแท่งโลหะนั้นไม่ต่างอะไรจากกับดักของความตาย
ความหวังคือสิ่งที่ทำให้มันกลายเป็นกับดัก
ตอนแรกการปิดกั้นทางเดินนั้นไม่ใช่กับดักจริง ๆ
ถึงแม้ว่ามันจะดูปลอดภัย แต่เมื่อเท้าของใครสักคนติดกับดักเข้าจริง ๆ ก็ไม่มีทางที่จะย้อนกลับไปได้
เพราะแบบนั้น คิมวูจิน และทหารโครงกระดูกจึงค่อย ๆ ฆ่าฮอบก็อบลินทีละตัว
ความเงียบได้มาถึงในไม่ช้า ไม่มีแม้แต่เสียงกรีดร้องหรือเสียงลมหายใจของฮอบก็อบลิน
[เลเวลเพิ่มขึ้น]
จากนั้นก็มีการแจ้งเตือนในหูของคิมวูจิน
เป็นการเตือนว่าการล่าจบลงแล้ว
อย่างไรก็ตาม สายตาของคิมวูจินไม่เหมือนกับสุนัขที่ล่าเสร็จแล้ว
มันเหมือนดวงตาของหมาล่าเนื้อที่เพิ่งพบเหยื่อ
หน้ากากหัวกะโหลก
“จำเอาไว้”
เสียงอันไพเราะดังผ่านหน้ากากที่น่าขนลุก
“เราต้องเอาข้อมูลมาจากเขาให้ได้มากที่สุด ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณไม่สามารถฆ่าเขาได้ ถ้าเราเผลอฆ่าเขา การมาที่รูหนูนี่ก็เท่ากับไร้ประโยชน์”
แต่คำพูดที่เธอพูดนั้น ช่างห่างไกลกับความไพเราะเหลือเกิน
“ถ้าคุณคิดว่ามันเสี่ยง ให้ใช้ยายื้อชีวิตเขาเอาไว้ เพราะเราอาจจะต้องทรมานเขาอีกอย่างน้อย 2 วัน กว่าเขาจะเริ่มพูด”
ปาร์คอียอน สมาชิกของสมาคมหัวกะโหลกยังคงพูดคำพูดที่น่ากลัว
ชายอีก 2 คนที่อยู่ข้าง ๆ เธอดูเหมือนจะไม่สนใจนัก
พวกเขาไม่ได้มีข้อกังขากับเรื่องที่น่ากลัวอย่างการรีดข้อมูลด้วยการทรมาน
เช่นเดียวกับที่ไม่มีการตั้งคำถามกับชาวประมงว่าต้องการจับปลาหรือไม่
เนื่องจากนี่เป็นงานของเธอก่อนที่จะมาเป็นผู้เล่น
ในฐานะอดีตสมาชิกของกองกำลังป้องกันตนเองที่เป็นความลับ เธอมีความเชี่ยวชาญในการรีดข้อมูลจากคน เพราะประสบการณ์ในการปฏิบัติภารกิจนับครั้งไม่ถ้วนก่อนที่จะกลายเป็นผู้เล่นของเธอ
“เข้าไปกัน”
ไม่ว่ายังไงก็ต้องเข้าไปในถ้ำ และจัดการกับผู้เล่นที่สู้กับมอนสเตอร์
“จากนี้ไป การสนทนาทั้งหมดจะเป็นภาษามือ รักษาประสาทสัมผัสให้เฉียบคมเข้าไว้ และให้เงียบที่สุด เมื่อพวกคุณเคลื่อนไหว”
“ให้คำนึงถึงหนึ่งสิ่งเท่านั้น”
“อย่าลืมคำสอนของเทพนักธนู”
เทพนักธนู ฮิจิโระ โนดะ เจ้าของไอเทมระดับตำนาน ธนูของอคิลลีส
อย่าลืมคำสอนของนักล่า ผู้ที่เป็นที่รู้จักกันในฐานะหนึ่งในวีรบุรุษของสมาคมเมสสิอาห์ แทนที่จะเป็นชื่อของเขา
‘เรากำลังจะเข้าไป’
เมื่อปาร์คอียอนผู้เบื่อคำสอนดังกล่าวส่งสัญญาณออกไป อีก 2 คนที่เหลือก็ตอบกลับด้วยสัญญาณมือ
ด้วยเหตุนั้น ได้มีคน 3 คนเข้าไปในถ้ำ