Ch.1 –
Translator : MizterHang / Author
วันที่ 1 มกราคม 2020
[เกมจะเริ่มในไม่ช้า]
เพียงประโยคเดียวโลกได้เปลี่ยนกลายเป็นเกม
ดันเจี้ยนเริ่มปรากฏขึ้นมา เหล่ามอนสเตอร์ก็ออกมาจากในนั้น
ผู้คนสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ด้วยตัวเอง
“นั่นมันอะไรน่ะ”
“เฮ้ย ไอหลุมดำ ๆ ตรงนั้นมันอะไรน่ะ”
“หืม มีอะไรกำลังออกมาด้วย?”
ดันเจี้ยนปรากฏขึ้นทั่วทุกมุมโลก และมอนสเตอร์ได้ทะลักออกมาจากดันเจี้ยนเหล่านั้น
“สะ- สัตว์ประหลาด!”
“นะ- หนีเร็วเข้า!”
มอนสเตอร์เหล่านั้นเปลี่ยนโลกให้กลายเป็นสมรภูมิในชั่วพริบตา
แน่นอนว่าพวกมันไม่ได้เป็นภัยคุกคามใด ๆ ต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์
เป็นเพราะไม่มีพลังมากพอที่จะจัดการกับอาวุธที่มนุษย์พัฒนาขึ้นมาได้
อย่างน้อยที่สุดการจัดการกับมอนสเตอร์เลเวลต่ำก็ไม่มีปัญหาในช่วงแรก
“เราจัดการกับพวกออร์คที่ปรากฏตัวในโซลแล้วครับ”
“มีออร์คปรากฏตัวที่อินชอนอีกแล้วครับ”
“ที่ปูซานก็มีออร์คปรากฏตัวเช่นกันครับ!”
ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของฝันร้าย
“แดกู ที่แดกูก็มีเหมือนกันครับ”
“นายหมายถึงพวกออร์คใช่ไหม?”
“มะ- มังกรครับ”
ความน่ากลัวที่แท้จริงคือฝันร้ายที่เริ่มขึ้นนี้ไม่มีจุดจบ
แม้จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เมืองโดนทำลาย โดยการล่ามอนสเตอร์ทั้งหมด
แต่มอนสเตอร์ฝูงใหม่ก็จะปรากฏตัวออกมาจากดันเจี้ยนซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยไม่สามารถคาดเดาเวลาที่แน่นอนได้
นอกจากทำลายดันเจี้ยนแล้ว พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำสงครามอันน่าเจ็บปวดนี้ไปเรื่อย ๆ
โชคดีที่คำตอบของปัญหาดังกล่าวได้ปรากฏตัวขึ้น
เหล่าผู้เล่นได้ปรากฏตัวแล้ว
“นับแต่นี้เป็นต้นไปดันเจี้ยนนี้จะต้องถูกทำลาย”
เหล่าผู้เล่นที่เดินเข้าประตูดันเจี้ยนเพื่อทำลายพวกมัน ทำให้พวกเขามีความหวัง
โลกที่กลายเป็นเกมได้หมุนรอบตัวเหล่าผู้เล่น
และในที่สุดปี 2023 ผู้รอดชีวิตก็ปรับตัวให้เข้ากับโลกใบใหม่ได้
◆
ในย่านร้านอาหารนีโอโจริ เมืองพาจู ประกาศเตือนภัยได้ดังขึ้น
[เตือนภัยระดับ 1!]
ปัจจุบันผู้คนได้ยอมรับว่ามอนสเตอร์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันแล้ว
เมื่อประกาศเตือนภัยดังขึ้น พวกเขาก็อพยบโดยไม่แตกตื่นแม้แต่น้อย
คนที่ล่ามอนสเตอร์เป็นงานเริ่มเคลื่อนไหว
ในตอนนี้มีโอกาสน้อยมากที่กองทัพจะเคลื่อนไหว
“จำนวนครั้งที่พวกมอนสเตอร์ปรากฏตัวลดลงเรื่อย ๆ แต่จำนวนผู้เล่นกลับเพิ่มเอา ๆ เลยแฮะ”
“พวกผู้เล่นเพิ่มขึ้นแล้วยังไงล่ะ? พวกนั้นก็อยู่แค่ชั้นหนึ่งกับสอง เพราะกลัวตายกันทั้งนั้นแหละ”
“ทั้ง ๆ ที่กำจัดพวกมอนสเตอร์แบบเดียวกับเราแท้ ๆ แต่เจ้าพวกนั้นกลับได้เงินหลายล้าน แถมสาธารณชนก็ยกย่องให้พวกนั้นเป็นดาราอีก แต่พวกนั้นกลับทำเหมือนเรากับหมาล่าเนื้อสกปรก ๆ โลกนี้แม่งห่วยฉิบหาย!”
เหล่าทหารรับจ้างที่คุยกันอยู่นั้น ถูกจ้างโดยบริษัทที่ทำสัญญากับรัฐบาล
การเอาเงินไปจ้างเอาท์ซอร์สให้ไปจัดการกับพวกมอนสเตอร์ แทนที่จะจัดสรรงบประมาณให้กองทัพมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากกว่าในการจัดการงบประมาณ
พวกทหารรับจ้างก็จัดการง่ายกว่าด้วย
เมื่อทหารสละชีวิตเพื่อประเทศ ประเทศก็ต้องมอบเงินบำนาญ และค่าตอบแทนให้แก่ครอบครัวของทหารผู้เสียชีวิต
แต่ทหารรับจ้างไม่มีสิทธิเช่นนั้น
แน่นอนว่าคนที่ฉลาดหน่อยก็จะไม่มีวันมาเป็นทหารรับจ้าง เพราะสามารถตายได้ทุกเมื่อ
กล่าวได้ว่าทหารรับจ้างทุกคนมีสถาณการณ์หรือเหตุผลซับซ้อนกันอย่างสองอย่าง จึงใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้
“ถ้าไม่มีประวัติอาชญากรรมฉันคงได้ทำงานพาร์ทไทม์ตามร้านสะดวกซื้อไปแล้ว”
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลของผู้ที่อยู่ในรถบรรทุกทหาร ที่กำลังไปจัดการกับมอนสเตอร์ในเมืองพาจู
“ฉันค่อนข้างมั่นใจเลยว่าหน้าอย่างนายคงไม่ได้งานนั้นหรอก”
“อะไร? หน้าฉันมีปัญหาอะไร?”
“อยากให้พูดจริง ๆ เรอะ?”
“เงียบไปเลย! แล้วหน้าแกละห๊ะ!?”
“ก็หน้าตาดีกว่าแกแล้วกัน!”
ไม่ว่าจะมีประวัติอาขญากรรม ต้องการเงิน หรือขายตัวเองเพื่อใช้หนี้…
สำหรับผู้ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้นั้นมีทางเลือกไม่กี่ทาง
และหนึ่งในนั้นคือเสี่ยงชีวิตไปจัดการกับมอนสเตอร์ในฐานะทหารรับจ้าง
“ยังไงก็เถอะ ไอเวรคิมวูจินนี่อยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างนี้ยังจะหลับสบาย ๆ ได้อีก ฉันนี่จะเมารถตายอยู่แล้ว”
คิมวูจิน เด็กหนุ่มผู้หลับในท่านั่งกอดอกบนรถบรรทุกคันนี้ ก็เป็นหมาล่าเนื้อเช่นกัน
“พอมองตอนนี้ก็ดูเหมือนเด็กมหาลัยทั่วไป แต่พอตื่น… คงไม่มีหมาล่าเนื้อคนไหนบ้าเท่าเจ้านี่แล้วล่ะ”
มองจากภายนอกคิมวูจินนั้นดูเหมือนเด็กหนุ่มทั่วไป
เขามีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนคนปกติ เป็นเพียงเด็กหนุ่มที่ไม่มีลักษณะพิเศษใด ๆ
“แบบนี้ดีกว่าเยอะ”
“นายบอกว่าแบบนี้ดีกว่าเรอะ?”
แต่ภูมิหลังของเขาต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกโดยสิ้นเชิง
“ก่อนมอนสเตอร์จะโผล่มา เขาชอบไปล่าพวกอาชญากรน่ะ”
“อาชญากร?”
“ใช่ เขาชอบจับหรือบางทีก็ล่าพวกอาชญากรเพื่อเอาค่าหัวน่ะ”
คิมวูจินเคยเป็นนักล่าอาชญากร
“แล้วหมอนี่เป็นพวกรักความยุติธรรมเรอะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก”
ใช่แล้ว ที่เขาล่าพวกอาชญากรไม่ใช่เพื่อความยุติธรรม
“เขาไม่ได้จับพวกอาชญากรเพราะความยุติธรรมหรอก ที่เขาทำเพราะถึงจะฆ่าเจ้าพวกนั้นไปก็คงไม่เป็นอะไร”
“อะไรนะ?”
“หรือไม่ใช่ล่ะ? นายเคยเห็นโจรบอกตำรวจว่าตัวเองเป็นคนปล้นหรือเปล่าล่ะ?”
ไม่ว่าจะทำอะไรกับอาชญากร ผลที่ตามมาคงไม่ได้อะไรมากมาย
“องค์กรอาชญากรรม 10 กว่าแห่ง ถูกทำลายด้วยน้ำมือของเขาคนเดียว”
นั่นคือเหตุผลที่คิมวูจินกลายเป็นนักล่าอาชญากร และกลายเป็นนักล่ามอนสเตอร์ในที่สุด
“ยังไงก็เถอะเขาน่ะเป็นคนโรคจิต แค่มาทำงานนี้ก็พิสูจน์ได้แล้ว แต่ถ้าเทียบกับเราแล้ว เขาน่ะอยู่คนละระดับเลยล่ะ”
“โรคจิตเหรอ?”
“อึก!”
เมื่อคิมวูจินที่หลับอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดขึ้นมา พวกเขาก็ตกใจจนไม่กล้าหายใจ
ไม่ช้าเขาก็ลืมตาและมองไปรอบ ๆ
เมื่อเห็นเช่นนั้นชายหนุ่มที่เล่าเรื่องของคิมวูจินรีบพูดด้วยความตกใจ
“วะ- วูจิน ฉันแค่…”
คิมวูจินขมวดคิ้วมองชายคนนั้น
เขามีรูปลักษณ์เหมือนคนทั่วไป แต่เมื่อลืมตาขึ้น แววตาของเขากลับไม่เหมือนมนุษย์
มันเหมือนกับสัตว์ป่าดุร้ายที่ได้กลิ่นเลือด
“ฉะ- ฉันแค่”
คิมวูจินที่กำลังขมวดคิ้วและสังเกตคนบนรถ กล่าวด้วยความประหลาดใจ
“ยังแจโฮ?”
“หะ- ห๊ะ?”
“นายคือยังแจโฮใช่ไหม?”
“ชะ- ใช่”
ชายหนุ่มที่ชื่อยังแจโฮตอบกลับไปตามสัญชาตญาณ
คิมวูจินเดินมาหาเขาและสังเกตเขาอย่างใกล้ชิด
มันเป็นภาพที่แปลกประหลาดมาก
คิกคี่!
“เหวอ!”
“อะ- อึก!”
“พระเจ้าช่วย!”
ทันใดนั้นคนที่นั่งอยู่บนรถบรรทุกก็แตกตื่น
『มอนสเตอร์! มีมอนสเตอร์ปรากฏตัวบนถนน! ทุกกคนรีบหยิบอาวุธของตัวเองแล้วออกมาจากรถเดี๋ยวนี้! 』
เมื่อได้ยินเสียงวิทยุทุกคนก็รีบกระโดดลงจากรถพร้อมอาวุธ
แต่ละคนเริ่มภาวนาพร้อมเคลื่อนไหว
“พระผู้เจ้า ลูกขอภาวนาให้สมาชิกของกิลด์เมสเซียมาที่นี่ด้วยเถอะ”
“ขอให้ใครสักคนจากกิลด์เมสเซียอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้ด้วยเถอะ…”
เมื่อได้ยินเสียงผู้คนภาวนา คิมวูจินก็แสดงสีหน้างุนงงออกมา
ตอนนี้เขารู้สึกสับสนอย่างมาก
‘เราตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?’
เขาแตะหน้าอกตัวเองด้วยสีหน้าเหม่อลอย
เขาพบตำแหน่งของบาดแผลที่เคยถูกดาบแทงใส่
แต่กลับไม่มีบาดแผลตรงนั้นเลย
‘นี่คือความฝันเหรอ?’
ราวกับทุกอย่างเป็นความฝัน
‘นี่ฉันฝันอย่างนั้นเหรอ? ไม่สิ เป็นไปไม่ได้’
แต่ความแค้นและความเกลียดชังที่เปี่ยมล้นหัวใจได้ให้คำตอบแก่เขา…
‘นี่ไม่ใช่ความฝัน’
ไม่ใช่ความฝันแน่นอน
『ฝูงออร์คโผล่มาแล้ว! 』
เขาหยุดข้อสงสัยเมื่อได้ยินเสียงวิทยุ
‘เราต้องยืนยันมัน’
เขาตัดสินใจแล้ว
◆
มนุษย์นั้นอ่อนแอ
มนุษย์ตัวเปล่าไม่อาจสู้สุนัขตัวใหญ่ได้
แต่มนุษย์ที่มีเครื่องมือนั้นแตกต่าง
แค่ปืนกระเป๋าหนึ่งก็จัดการกับฝูงมอนสเตอร์ได้สบาย ๆ
ความจริงแล้วมอนสเตอร์ที่ต่อสู้กับมนุษย์ไม่มีตัวไหนที่คุกคามเผ่ามนุษย์ได้จริง ๆ แม้แต่ตัวเดียว
มนุษย์ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์ด้วยซ้ำ
แต่ปัญหาจริง ๆ คือการควบคุมความเสียหาย
หากรถยนต์คันหนึ่งในจำนวนนับไม่ถ้วน ที่วิ่งอยู่บนถนนสิบเลนในย่านใจกลางกรุงโซลเกิดชนเข้ากับทางเท้า ก็จะเกิดความโกลาหล และความตื่นตระหนกอย่างมาก
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามอนสเตอร์ที่ถูกจัดการได้ด้วยปืนไม่กี่กระบอก ปรากฏตัวขึ้นในบริเวณที่มีคนพลุกพล่านล่ะ?
แน่นอนว่าจะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แถมทรัพย์สินที่เสียหายก็มาเกินจะบรรยาย
จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดการกับมอนสเตอร์ คือการลดความเสียหายต่อทรัพย์สินให้มากที่สุด
นั่นแหละคือเหตุผล
“เวรเอ๊ย ทำไมต้องเป็นฝูงออร์คด้วย…”
“เจ็บปวดจริง ๆ จะฆ่าพวกออร์คเวรนั่นสักตัวต้องใช้กระสุนอย่างน้อยหนึ่งแม็กเลยนะ…”
“ออร์คไม่ใช่มอนสเตอร์ที่ใช้ปืนไรเฟิลฆ่าได้อย่างหมดจด อย่างน้อยต้องใช้ปืน RPG เพื่อฆ่าพวกมัน”
เหตุผลที่เหล่าทหารรับจ้างต้องใช้ปืนไรเฟิลอัตโนมัติสู้กับพวกมันก็คือ…
“มีกระสุนไม่มากนัก… เราอาจต้องสู้กับพวกมันด้วยขวาน”
นอกจากนี้จำนวนกระสุนที่ได้รับมาก็ห่างไกลจากคำว่าพออย่างมาก
เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ
หากคนที่ถูกบริษัทเอาท์ซอร์สที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ จ้างไปกำจัดมอนสเตอร์ ได้รับอาวุธอย่างปืนกล รถถัง และระเบิด แล้วนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี ก็อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงอย่างมาก
และหนี้สินก็เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขาไม่ได้รับกระสุนมากพอ
“เพราะฉะนั้นเหนี่ยวไกเมื่อมั่นใจเท่านั้น อย่าให้เปลืองกระสุนเด็ดขาด”
“โอเค”
“รับทราบ”
“ดี หายใจเข้าลึก ๆ แล้วเตรียมพร้อมสู้ซะ”
เป็นอีกครั้งที่เหล่าทหารรับจ้างสูดหายใจเข้าลึก ๆ
ปัง!
แต่ในขณะทุกคนสูดหายใจ ก็มีเสียงปืนดังขึ้น
“เฮ้ย?”
“ใครเป็นคนยิง!?”
เสียงปืนที่ดังขึ้นอย่างกระทันหันทำให้ทุกคนตกใจ
จากนั้นจึงมีใครบางคนตะโกนออกมา
“คิมวูจิน! ไอบ้านั่นมันพุ่งเข้าไปในฝูงออร์คคนเดียว!”
คิมวูจิน!
ชื่อนั้นคือทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
‘ไอบ้านั่นกำลังทำให้เราลำบาก!’
มันเป็นสถาณการณ์ที่เหนือสามัญสำนึก
สิ่งที่เขาทำนั้นไร้เหตุผลและไม่สามารถเข้าใจได้โดยสิ้นเชิง
“ไอบ้า ถ้าอยากตายก็ไปตายคนเดียวสิวะ…”
“นะ- นั่นเขาทำอะไรน่ะ?”
“ฉันไม่รู้”
แทนที่จะยิงจากระยะไกล เขากลับวิ่งไปหาออร์คแล้วยิงใส่พวกมันครั้งแล้วครั้งเล่า
ปัง!
เขาฆ่าพวกมันด้วยกระสุนเพียงนัดเดียว โดยการยิงใส่หัว
‘นั่นมันเป็นไปได้เหรอ?’
‘หนึ่งนัดหนึ่งศพ? แต่นี่ไม่ใช่เกมนะ?’
ความแม่นยำของเขาเหนือกว่าคนทั่วไปอย่างไม่ต้องสงสัย
ทุกคนจ้องมองราวกับโดนเวทมนตร์บางอย่าง
ราวกับเขาใช้เวทมตร์แปลก ๆ ทำให้ออร์คทั้งหมดหลับไป
ปัง!
หลังจากเสียงปืนดังขึ้นอีกสิบสองครั้ง ก็ไม่มีออร์คตัวไหนยืนอยู่แม้แต่ตัวเดียว
‘นี่ฉันฝันอยู่อย่างนั้นเหรอ?’
เหล่าทหารรับจ้างพูดไม่ออกเมื่อได้เห็นฉากนั้น
◆
เมื่อล่าเสร็จเขาก็ยืนนิ่ง
‘นี่ไม่ใช่ความฝัน’
คิมวูจินไม่ได้ยืนเฉย ๆ แต่กำลังวิเคราะห์สถานการณ์ที่กำลังเผชิญอย่างสงบ
‘ถ้าทุกอย่างเป็นแค่ความฝัน เราคงทำอะไรอย่างนี้ไม่ได้แน่ ๆ’
เขารู้แล้ว
อย่างน้อยที่สุดก็เข้าใจว่าไม่ได้ฝัน และสิ่งที่พบเจอก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่ความฝัน
เพราะหากเป็นเช่นนั้นเขาคงยิงไม่ได้แม่นยำเช่นนี้
นอกจากนั้นความรู้สึกที่ได้ฆ่า กลิ่นเลือดเนื้อ และเสียงกรีดร้องอันน่าสังเวชของมอนสเตอร์ ที่ได้ยินเมื่อกี้ก็ไม่ใช่ความฝันเช่นกัน
กล่าวได้ว่าทุกสิ่งที่เคยเจอมาน่าจะเป็นเรื่องจริง
แต่เพื่อความแน่ใจเขาต้องการหลักฐานมากกว่านี้
‘อย่างเช่นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต เราต้องการหลักฐานระดับนั้น’
เขาตัดสินใจแล้ว
‘แต่ยังแจโฮคนนั้น… เราเคยเจอเขาตอนทำงานอยู่ในบริษัทเดลต้า เราเคยทำงานในบริษัทนี้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 จนถึงวันที่ 7 มีนาคม ปี 2023 และวันนั้นเป็นวันที่เรากลายเป็นผู้เล่นตอนกำลังล่าออร์ค’
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้น
[คุณได้ตื่นขึ้นในฐานะผู้เล่นแล้ว]
[นักสู้อมตะอยากสนับสนุนคุณ]
[ตัวแทนแห่งโลกมืดอยากสนับสนุนคุณ]
[นักล่าผู้เงียบงันอยากสนับสนุนคุณ]
เสียงของระบบเป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดว่าเขาถูกทรยศ ถูกสังหาร และได้ย้อนเวลากลับมา