I Walk Among Zombies 2

ตอนที่ 2

I Walk Among Zombies VN

ผู้แปล : คนเหงาและง่วง

Chapter : 2 สองแม่ลูก

.

.

.

ยูสุเกะกลับมาที่ห้องเพื่อสืบค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมในอินเตอร์เน็ต

 

“งั้นสินะ มันเหมือนกับมนุษย์ธรรมดามากเลย หืม…”

 

ดูเหมือนว่าแม้ว่าพวกเขาจะติดไวรัสซอมบี้ แต่พวกเขาก็ยังดูเหมือนมนุษย์

หรือก็คือ หากไม่ได้รับการบาดเจ็บใดๆก่อนติดเชื้อแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีซอมบี้ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ รูปลักษณ์ของพวกมันเหมือนกับมนุษย์โดยสมบูรณ์ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้การติดเชื้อแพร่กระจายออกไปอย่างควบคุมไม่ได้

 

“เธอไม่ได้เหมือนศพเลยสำหรับฉัน…”

 

พวกมันไม่เหมือนกับศพที่เห็นในงานศพ อันที่จริงพวกมันไม่เหมือนกับมนุษย์ที่ตายแล้ว แต่เหมือนเป็นสปีชีส์ที่ต่างออกไปจากเดิมเสียมากกว่า

 

“ถึงอย่างงั้นก็เถอะนะ…”

 

ปัญหาก็คือ…

 

“ถ้านั่นคือซอมบี้ ทำไมมันถึงไม่โจมตีฉันล่ะ?”

 

ทุกเว็บไซต์ที่ตรวจสอบนั้นเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นเว็บข่าว โซเชี่ยล หรือกระทั่งบอร์ดต่างๆ ทุกๆคนต่างบอกว่าซอมบี้นั้นทำร้ายผู้คนอย่างไม่เลือกหน้าอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะชายหรือหญิง เด็กหรือคนแก่

 

ที่น่าแปลกกว่านั้นคือ ซอมบี้ไม่ได้โจมตีพวกสัตว์ แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องที่พวกมันละเว้นมนุษย์ไว้เลย

 

“อ่า อินเตอร์เน็ตบอกมาแบบนั้น…”

 

อย่างน้อย คุโรเสะก็ไม่ได้จู่โจมเขา

เขาคิดว่ามันเป็นไปได้ว่าจะมีซอมบี้ที่ไม่ได้โจมตีผู้คน

 

“อึ่ก หิวเป็นบ้า…”

 

เขาขังตัวเองอยู่ในอพาร์ตเม้นต์เป็นเวลานานจนอาหารหมดเกลี้ยง มีร้านสะดวกซื้ออยู่ใกล้ๆนี้ แต่เขายังคงไม่กล้าเดินทางออกไป

เขาคิดว่าเขาสามารถเอาบางอย่างมาได้จากคุโรเสะ เขาจึงเดินออกไป

 

เขาเดินออกมาที่ทางเดินและปิดประตูด้านหลัง แต่เมื่อเขาหันกลับไป…

 

“เหวอ?!”

 

มีชายคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังเขา

เสื้อผ้าของเขาขาดรุ่ยและเปรอะไปด้วยเลือด และได้บาดเจ็บที่ศีรษะ

 

เรี่ยวแรงหายไปจากขายูสุเกะ เขาทรุดลงไปกับพื้น

 

แต่ชายคนนั้นกลับไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแค่จ้องไปที่ยูสุเกะ

 

ทั้งคู่ไม่ได้ขยับไปไหนสักพัก จากนั้นชายคนนั้นก็เดินโซซัดโซเซออกไป

 

ยูสุเกะชายตามองตามชายคนนั้นไป ขณะที่เขาผละออกไป จนกระทั่งหัวใจที่เต้นรัวของเขาสงบลง

 

“หมอนั่นก็เป็นซอมบี้งั้นเหรอ…?”

 

เขาลุกขึ้นและไล่ตามชายคนนั้นไป

ชายคนนั้นเดินอย่างเชื่องช้า ยูสุเกะจึงตามทันในทันที

 

“เดี๋ยวก่อน รอเดี๋ยวก่อน!”

 

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้ตอบกลับมาเช่นกัน

 

บาดแผลบนศีรษะของเขาดูเหมือนเป็นรอยกัดลึก นอกจากนั้น เมื่อยูสุเกะมองเขาชัดๆ เขาสังเกตว่าชายคนนั้นเต็มไปด้วยรอยแผลหลายขนาดต่างกันออกไป ไม่ว่าจะมองพวกมันยังไง นั่นก็ของจริง

 

ถึงอย่างงั้น ยูสุเกะต้องการยืนยันให้แน่ใจ เขาโผล่เข้าที่ด้านหลังและวางนิ้วลงบนคอ

ตัวเย็นเฉียบ

 

เมื่อกลับมาที่ห้องเขา ยูสุเกะถอนหายใจเฮือกใหญ่

 

“เอาจริงดิ เกิดอะไรขึ้นกันแน่วะเนี่ย?”

 

ยูสุเกะเคยคิดสงสัยมาก่อน แต่ในที่สุดเขาก็ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าโลกใบนี้เต็มไปด้วยซอมบี้

 

เขาระงับความรู้สึกของตัวเองลงสักพัก แล้วกลับไปที่อพาร์ตเม้นต์ของคุโรเสะ เขาอยากจะกลับไปนอนเฉยๆและไม่ทำอะไร แต่ตอนนี้ความหิวของเขามากเกินจุดจะทนไหว

 

เขาถอดรองเท้า เดินเข้าไปในครัวและค้นตู้เย็นของเธอ

เขาหยิบโยเกิร์ตถ้วยหนึ่งออกมาก่อนที่จะหมดอายุ ขวดน้ำ และไข่จำนวนหนึ่งก่อนจะนำไปต้ม

 

เขาปิ้งขนมปังสองแผ่นที่เหลือ เอนตัวพิงลงที่อ่างล้างจานขณะทาเนยลงบนขนมปังและยัดเข้าปาก

 

แม้ว่าเขาจะอยู่ในห้องครัวคนอื่นก็ตาม มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เพราะเห็นได้ชัดว่าคุโรเสะได้ตายไปแล้ว หากปล่อยทิ้งไว้จนเน่าก็คงเสียเปล่า

 

สำหรับตัวคุโรเสะ ยูสุเกะมัดตัวของเธอไว้ในห้องน้ำก่อนออกจากห้องเมื่อก่อนหน้านี้ ตอนที่เธอปรากฎตัวออกมาก่อนหน้านี้ทำให้ยูสุเกะรู้สึกประหลาดใจ ประตูหน้าห้องถูกปิดอยู่ ดังนั้นเธอคงติดอยู่แต่ในอพาร์ตเม้นต์แน่ๆ

 

“จะว่าไปแล้ว ไฟฟ้ากับแก๊สยังคงใช้ได้อยู่สินะ อินเตอร์เน็ตก็ยังคงเชื่อมต่อได้อยู่เหมือนกัน”

 

ดูเหมือนว่าสารธารณูปโภคยังคงใช้ได้อยู่ ญี่ปุ่นคงยังไม่ได้ย่อยยับไปโดยสิ้นเชิง

เขาฟาดอาหารจนเรียบ ตอนนี้กระเพาะของเขาถูกเติมเต็มเรียบร้อย อารมณ์ของเขาดีขึ้นมาก

 

เขาเริ่มพิจารณาสถานการณ์ของตัวเองให้กว้างขึ้น

เขาไม่รู้ว่าผู้อาศัยในตึกย้ายไปที่ไหนหมดในระหว่างที่เขาหมกตัวอยู่ในอพาร์ตเม้นต์ของตัวเอง แต่ดูเหมือนจะโชคดีที่ชีวิตเขาไม่ได้อยู่ในอันตราย

 

แม้จะยังไม่แน่ใจว่าทำไมซอมบี้ถึงไม่โจมตีเขาก็ตาม

 

“คงต้องไปสำรวจสักหน่อย”

 

ยูสุเกะปัดเศษขนมปังออกจากปากแล้วลุกขึ้น

 

สิ่งแรกที่ต้องทำคือสำรวจรอบๆบ้านของเขา

เพื่อความปลอดภัย เขาสวมเสื้อไบเกอร์แจ็คเก็ตทับไว้ คิดเผื่อกรณีที่ถูกกัด มันจะได้เข้าไม่ถึงผิวหนัง

 

เขาสวมถุงมือและเหน็บหมวกกันน็อคไว้ที่แขน

บนเข็มขัดมีมีดทำครัวในฝักเหน็บเอาไว้ มันไม่ใช่อาวุธที่ดีที่สุด แต่ก็สบายใจกว่าไม่มีอะไรพก

 

เขาหยิบกุญแจมอเตอร์ไซค์แล้วลงบันได

ระหว่างทางลง…

เขาหยุดชะงักลงที่ชั้นสาม

เขาได้ยินเสียงบางอย่างมาจากโถงทางเดิน

 

เขาชะโงกคอออกไปมองรอบๆจากมุมตึก

มีชายสามคนมารวมตัวกันอยู่ที่หน้าอพาร์ตเม้นต์ห้องหนึ่ง

มันกำลังขีดข่วนประตูเหมือนกับที่คุโรเสะเคยทำ

 

“พวกเขากำลังทำอะไรอยู่น่ะ…?”

 

เสื้อผ้าของพวกเขาเลอะเทอะ เต็มไปด้วยรอยแผลและรอยกัด ทำให้เขารู้สึกแย่

 

(พวกนั้นคือ…มนุษย์?)

 

ยูสุเกะเข้าใกล้อย่างระมัดระวังแล้วเรียกออกไปในระยะห่างไม่กี่ก้าว

 

“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”

 

และไม่มีเสียงตอบกลับอีกเช่นเดิม

 

(แค่ซอมบี้งั้นเหรอ หืม?)

 

แต่ทำไมพวกมันถึงโฟกัสอยู่แค่ประตูบานนี้ล่ะ?

มีอะไรอยู่ข้างในที่ดึงดูดพวกมันเข้าไปหางั้นเหรอ?

 

ทันใดนั้น ซอมบี้ก็เริ่มโจมตีประตู หนึ่งในพวกมันกระแทกเข้าที่ประตูซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ยูสุเกะได้ยินเสียงของผู้หญิงเปล่งออกมาจากข้างใน

 

“ม-มีใครอยู่ไหมคะ? มีไหมคะ…?”

 

ทันใดนั้น เขาจึงตอบกลับทันที

 

“อ๊ะ ค-ครับ ผมอยู่นี่ เป็นอะไรไหมครับ? เจ้าพวกนี้ทำอะไรกันอยู่น่ะ?”

“ช-ช่วยพวกเราด้วยค่ะ! พวกเราออกไปไม่ได้เพราะมีพวกมันอยู่ตรงนั้น!”

“หือ…? ข-เข้าใจแล้วครับ รอสักครู่”

 

ความกังวลของผู้หญิงทำให้ยูสุเกะหวาดระวัง

เขาสวมหมวกลงบนศีรษะ และหยิบมีดทำครัวออกมา

พวกมันไม่ได้จู่โจมเขา แต่ซอมบี้พวกนี้อาจจะเป็นประเภทจู่โจมผู้คน

 

“หืม เมื่อกี้นี้…นั่นไง ดูท่าจะใช้ได้แฮะ”

 

สายตาของเขาจับจ้องไปที่ถังดับเพลิงบนพื้น

เขานำมันออกมาจากตู้นิรภัยและยกออกมา มันหนักกว่าที่เขาคาดเอาไว้

เขายกขึ้นมาในตำแหน่งที่พร้อมจะพ่นเข้าใส่พวกมันทั้งสาม

 

(ไอ้นี่จะใช้ได้ผลกับซอมบี้ไหมนะ)

 

หากอีกฝ่ายเป็นมนุษย์ มันอาจจะใช้ล้มพวกมันได้ แต่…

 

(ชั้นก็แค่ฟาดมันซะ)

 

เขาสามารถลองใช้ถังดับเพลิงที่หนักหน่วงนี่ฟาดพวกมันได้ ด้วยวิธีนี้ เขาจะได้รู้ด้วยว่าพวกซอมบี้จะตอบโต้เขาหรือเปล่า

หากพวกมันตอบโต้ เขาก็จะถอยขึ้นไปบนบันไดใกล้ๆนี้

เขาทุ่มถังดับเพลิงใส่ด้วยแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง

มันซัดเข้ากับซอมบี้ร่วงลงไปกับพื้น

 

ยูซุเกะเฝ้ามองพวกมันอย่างระมัดระวัง ขณะที่มันพยายามลุกขึ้น…แล้วเริ่มทุบประตูต่อ

พวกมันไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆต่อเขาโดยสิ้นเชิง

 

“…ปลอดภัยสินะ?”

 

เขาเข้าหาซอมบี้อย่างประหม่า

แต่ไม่ว่าเขาจะเข้าใกล้ซอมบี้เพียงใด มันก็ยังคงทุบประตูอยู่ต่อไป

พวกมันไม่ได้จู่โจมเขา

 

(หรือบางทีมันอาจจะแค่อยากจะเข้าไปข้างในห้อง?)

 

เขาไม่รู้ว่าจะคิดอย่างไรดี

 

“รออีกสักนิดนะครับ รบกวนถอยออกไปหน่อย!”

 

เขาตะโกนไปยังข้างในห้อง

ถือมีดและเดินเข้าไปข้างหลังหนึ่งในพวกซอมบี้ โอบแขนเข้าที่เอวแล้วยกขึ้น

เขาพยายามที่จะแบก แต่พวกมันกลับดิ้นไปมา ร่างนั้นหนักกว่าที่เห็นมาก

 

เขาล้มเลิกความคิด แล้วตัดสินใจผลักข้ามราวบันไดไปแทน

ในอินเตอร์เน็ตยืนยันว่าสามารถฆ่าพวกมันได้โดยการตัดหัวหรือทำลายสมองของพวกมัน อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดว่าจะทำถึงขนาดนั้น มันไม่เหมือนกับการฆ่าแมลงวันทั่วไป แม้ว่าพวกเขาจะตายไปแล้ว แต่ก็ยังเคยเป็นมนุษย์มาก่อน

 

โชคดีที่มันง่ายพอจะโยนพวกมันข้ามราวบันได สิ่งที่เขาทำคือการผลัก

เหล่าซอมบี้เพียงโฟกัสไปที่ประตู พวกมันไม่ได้สนใจสิ่งที่ยูสุเกะกำลังทำอยู่เลย

 

“…หนึ่ง-สอง”

 

ตุบ ซอมบี้ดิ่งพสุธา

เมื่อชะโงกมองไปที่ราวบันได เขาเห็นซอมบี้ที่กำลังดิ้นไปมาในแอ่งเลือดของตัวเอง แขนขาแตกหัก

ใจของเขาสั่น และหวั่นเล็กน้อย แต่เขาไม่สนใจแล้วผลักร่างต่อไป 

 

ตุบ ตับ

 

เมื่อจัดการกับพวกมันทั้งสามแล้ว เขาส่งเสียงให้ผู้หญิงคนนั้น

 

“ไม่เป็นอะไรแล้วครับ! พวกมันเรียบร้อยไปแล้ว!”

 

ไร้เสียงตอบกลับอยู่สักพัก

จากนั้นครู่หนึ่งประตูก็ถูกเปิดออก

แต่ยังล่ามโซ่เอาไว้ข้างใน หญิงสาวชะโงกหน้าออกมาด้วยความกลัว

และเมื่อเธอพบยูสุเกะ

 

“ฮี้!”

 

เธอกรีดร้อง

 

“…?”

 

ยูสุเกะสับสน จนกระทั่งเขานึกขึ้นได้ว่ากำลังสวมหมวกกันน็อคอยู่ เขาจึงถอดมันออก ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะกลัว เมื่อเจอกับชายแปลกหน้าสวมหมวกกันน็อคอยู่หน้าประตูของเธอ

 

“ไม่เป็นไรนะ ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”

 

เมื่อเห็นหน้าเขา เธอก็สงบลง หญิงสาวกลับไปยังทางเข้า

หลังจากนั้นสักพัก เธอก็ยืนขึ้นและปลดโซ่ออก และพูด

 

“ข-ขอโทษที่กรี๊ดนะคะ ขอบคุณมากเลยค่ะ พวกเราออกมาไม่ได้ เลยไม่รู้จะทำยังไงกันดี”

“ลำบากหน่อยนะครับ”

 

ยูสุเกะพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ

การมีฝูงซอมบี้รุมอยู่หน้าประตูมันคงจะน่ากลัวอยู่แล้ว เธอคงสิ้นหวังที่จะหนี

กระนั้น ยูสุเกะก็ยังคิดว่ามันแปลกที่พวกซอมบี้พยายามที่จะเข้าไปข้างในอพาร์ตเม้นต์นี้ แต่เขาตัดสินใจที่จะหยุดกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ และคิดเพียงว่าโชคคงไม่เข้าข้าง

หญิงสาวเปิดประตูออกมามองทางเดินอย่างหวาดๆ

 

“เอ่อคือ…คุณแน่ใจแล้วใช่ไหมคะว่าข้างนอกปลอดภัยแล้ว?”

“ไม่เป็นไรแล้วครับ เห็นไหม? ถึงจะสัมผัสและออกมาเป็นนาทีแล้วก็ตาม”

 

ยูสุเกะตอบโดยนึกถึงข้อมูลที่เขารวบรวมจากอินเตอร์เน็ต เนื่องจากพวกซอมบี้ไม่ได้โจมตีเขา เขาจึงไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในอันตรายมากนัก

คำพูดของเขาดูเหมือนจะสร้างความมั่นใจให้หญิงสาว เธอโค้งคำนับอย่างขอบคุณ

 

“ขอบคุณ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ มิจจัง มานี่สิ เราไปรวมตัวกับปะป๊ากันเถอะนะ”

 

เสียงฝีเท้าเล็กๆดังออกมาจากภายในอพาร์ตเม้นต์ เด็กสาวที่สวมกระเป๋าสะพาย ดูราวๆประมาณเด็กประถม เธอกุมมือและมองขึ้นไปยังยูสุเกะ

หญิงสาวก้าวไปข้างในพร้อมกลับมากับกระเป๋าหลายใบ

ขณะสวมรองเท้า เธอกล่าว

 

“พวกเรารอสามีอยู่ ก็เลยออกมาไม่ทันน่ะค่ะ…เอ่อ ถ้าไม่รังเกียจ ไปที่ศูนย์หลบภัยพร้อมกับพวกเราไหมคะ?”

“ศูนย์หลบภัยอยู่ที่ไหนเหรอครับ?”

“ใกล้ๆกับโรงเรียนประถมที่ลูกสาวชั้นเรียนอยู่น่ะค่ะ”

“งั้นเหรอครับ? ผมไม่ค่อยคุ้นทาง ถ้าเป็นไปได้ช่วยนำทางทีได้ไหมครับ?”

“ค่ะ แน่นอนค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะ”

 

เมื่อโล่งอกที่มีคนไปด้วย หญิงสาวก็ผ่อนคลายลง

ทั้งสามลงบันไดไปตามอพาร์ตเม้นต์

 

“นั่นมัน ยังมีอยู่อีกงั้นเหรอคะ…?”

 

เมื่อเธอได้ยินเสียงซอมบี้ที่อยู่ในบริเวณรอบๆ หญิงสาวก็หน้าซีดลง

 

“ไม่เป็นไรครับ พวกมันไม่โจมตีผม มันแค่เมินผมไป”

 

หญิงสาวยังคงสงสัยในสิ่งที่ยูสุเกะตอบ

 

“ผมเดินไปหาพวกมันเมื่อก่อนหน้านี้ แล้วผมก็ปกติดี ผมไม่รู้ว่าพวกซอมบี้ไปทำอะไรที่หน้าประตูของคุณเมื่อครู่ แต่…คือ คุณเคยเห็นพวกซอมบี้จู่โจมใครบ้างรึเปล่าครับ?”

“ไม่ค่ะ”

 

หญิงสาวส่ายหน้า

เธอติดอยู่ตรงทางเข้าอยู่ตลอด เธอจึงไม่เคยเข้าใกล้ผู้ติดเชื้อ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเธอจึงไม่เคยเห็นสิ่งนั้นเกิดขึ้นมาก่อน

ชัดเจนว่าพวกเธอซ่อนตัวอยู่แต่ในอพาร์ตเม้นต์มาสักพักแล้ว

 

“เอาเถอะ เดี๋ยวคุณก็ได้รู้เองเมื่อเราออกเดินทาง”

 

พวกเขามาถึงชั้นหนึ่งและก้าวออกจากบันได

แม่ลูกจับมือกันแน่นสนิท

 

(สามคนคงซ้อนขึ้นมอเตอร์ไซค์ไม่ไหว)

[[ TL : ปรึกษาเด็กแว้นไทยได้นะครับ 5-6 คนยังขึ้นมาแล้ว ]]

 

เมื่อคิดเช่นนั้น ยูสุเกะก็ก้าวออกไปที่ถนนอย่างไม่ใส่ใจ

ซอมบี้ทั้งหมดบนท้องถนนต่างหันหน้ามาหาทั้งสามคนโดยพร้อมเพรียง

 

พวกเขาแข็งทื่อ

สายตาอันเบื่อหน่ายของซอมบี้จับจ้องมาที่พวกเขา

 

“ฮี้”

 

หญิงสาวกรีดร้อง

ยูสุเกะสะดุ้งเฮือก

 

(เวร)

“วิ่ง!”

 

เขาดันแม่ลูกไปข้างหน้า แล้ววิ่งกลับเข้าไปในอาคารด้วยความตื่นตระหนก

เสียงฝีเท้ากระชั้นชิดเข้ามาด้านหลัง

 

“เร็วเข้า!”

 

พวกเขากระตุ้นตัวเองและวิ่งไปที่บันได

ยูสุเกะเหลือบมองไปด้านหลังขณะวิ่งตามแม่และลูกสาวขึ้นไปบนบันได

ขณะที่ร่างนั้นเข้ามาใกล้ ยูสุเกะก็ตะโกน

 

“ไม่ใช่ว่าพวกซอมบี้ควรจะวิ่งช้าหรอกเรอะ?!”

 

พวกมันไม่ได้ช้าไปกว่ามนุษย์เลย

ร่างกายพวกมันเอนวิ่งเอนไปข้างหน้า แขนและขาของพวกมันแกว่งไปมาอย่างงุ่มง่าม การเดินที่ผิดธรรมชาติทำให้เขารู้สึกกลัวยิ่งขึ้น

 

“วิ่งต่อไป! กลับไปที่อพาร์ตเม้น!”

 

พวกเขาพุ่งเข้าไปที่บันไดชั้นแรก และชั้นที่สอง

และเมื่อมาถึงชั้นที่สาม มีบางอย่างกระแทกยูสุเกะจากทางด้านหลัง

 

“อะไร…?”

 

ยูสุเกะกระเด็นไปที่โถงทางเดิน หลังกระแทกเข้ากับกำแพงแล้วขาทรุดลง

เขาพยายามลุกตัวขึ้นแม้จะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“อั่กกก…”

 

เสียงแปลกๆดังก้องมาจากบริเวณใกล้เคียง

เขากุมใหล่ที่บาดเจ็บ เงยหน้าขึ้น และ…มองเห็นแม่ลูกทรุดตัวลงที่บันได ถุกรุมเร้าไปด้วยร่างมนุษย์

 

(หา…?)

 

ยูสุเกะไม่ได้นึกถึงอะไรเลยนอกเสียจากฝูงกามฤตยูที่รุมเบียดเสียดกันอยู่ในครัวที่เต็มไปด้วยขยะ

หรือไม่ก็กลุ่มของพยาบาลที่มาล้อมรอบคนไข้ที่ล้มลงและลุกขึ้นไม่ได้

อย่างไรก็ตาม…

 

“ช่วย…ด้วย…”

 

เขาไม่สามารถประมวลผลกับสิ่งที่เกิดขึ้นในกลุ่มก้อนนั้นได้ ทั้งเสียงที่เขาได้ยิน หรือเศษเสี้ยวสีแดงสดที่ลอยกระจายผ่านระหว่างเหล่าซอมบี้

 

“อั่ก…”

 

เสียงร้องผันแผ่วนั้นเป็นเสียงสุดท้ายจากคุณแม่ไม่ก็ลูกสาว

มีซอมบี้อยู่ราวสิบตัวใกล้กับยูสุเกะ แต่พวกมันกลับเมินเขา และรุมทึ้งรอบๆทั้งสอง

 

“…”

 

สมองของเขาปฏิเสธที่จะยอมรับมัน

งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไปขณะยูสุเกะกำลังนั่งอยู่

สีแดงของเลือด สีเหลืองของไขมัน และสีขาวของกระดูกสะท้อนภายในดวงตาของเขา

สีสันอันเจิดจรัสระยิบระยับ

 

เขาไม่สามารถรับรู้สิ่งที่จะเกิดต่อไปได้เลย

สัมผัสด้านเวลาของเขาหายไป โลกของเขาถูกห้อมล้อมไปด้วยซอมบี้

พวกมันมาจากถนนใหญ่ ฝูงนรกในตอนนี้ใหญ่จนล้อมรอบกระทั้งจุดที่เขานั่งอยู่

พวกมันเพิกเฉยต่อเขาโดยสิ้นเชิง และดิ้นไปดิ้นมาระหว่างรอเทิร์นของพวกมันในกองหญิงสาวและเด็กสาว

 

ยูสุเกะขยับตัวไม่ได้

 

ซอมบี้ปีนป่ายโถงทางเดิน เข้าร่วมกับก้อนฝูงกลม

ทั้งหมดที่เขาทำได้คือเพียงแค่มอง

เขาถูกแช่แข็งไปโดยสิ้นเชิง

 

ร่างที่อยู่ด้านหน้าของเขาหลอมรวมไปด้วยกันเป็นก้อนอันบิดเบี้ยว

อาทิตย์อัศดงส่องผ่านโถงทางเดินให้กลายเป็นสีแดงเลือด

ก่อนจะรู้ตัว อาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปแล้ว

 

เวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้วนะ…?

เขาสังเกตได้ว่าซอมบี้มีน้อยกว่าก่อนหน้านี้ มันค่อยๆจากไปทีละตัวฃ

เมื่อยูสุเกะรู้สึกตัว เขาก็อยู่คนเดียวโดยสมบูรณ์

 

ที่ที่ซึ่งแม่และลูกเคยอยู่…เหลือแต่เพียงคอนกรีตสีแดงเข้ม เศษผ้า และสีน้ำตาลอ่อนกระจัดกระจาย

 

“อะไรน่ะ…?”

 

เขายังคงไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ยูสุเกะจ้องไปยังคอนกรีตสีแดงเข้มอย่างว่างเปล่า

 

————————————-

แปลผิดตรงไหนขออภัย พอดีไม่ช่ำ

 

เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรท 18+ เพราะฉะนั้นตอนที่ถึงฉากนั้นผมจะไม่ลงในแมวดุ้นนะครับ แต่ถ้าอยากได้ก็เอาไปสิ ไปตามหาเอาเลย ฉันเอาทุกอย่างไปไว้ที่เพจหมดแล้ว(ถึง ณ วันที่ลงจะยังแปลไม่ถึงก็เถอะ)

คนเหงาและง่วง | Facebook

หรือจะเข้าดิสคอร์ดก็ได้

https://discord.gg/hMuzg9rz7v

 

 และถ้าอยากได้ภาพและเสียงชัดๆก็อุดหนุนเกมใน steam เลยครับ ชื่อเดียวกัน

I Walk Among Zombies

I Walk Among Zombies

Score 10
Status: Completed
เนื่อเรื่องประมาณพระเอก(ยูสุเกะ)เดินออกจากห้องแล้วโดนซอมบี้กัด แล้วพอหนีกลับเข้าห้องแล้วสลบไป พอตื่นขึ้นมาก็พบว่าโลกมีแต่ซอมบี้ แต่พวกซอมบี้กลับไม่ทำร้ายยูสุเกะด้วยซะงั้น แล้วยูสุเกะก็ได้เจอกับซอมบี้สาวข้างห้อง และได้พบแล้วช่วยเด็กสาวที่ติดอยู่ในห้าง

Options

not work with dark mode
Reset