I Never Run Out Of Mana
พอร์ทัลเลเวล 30 ในชางวอน ชอยโซฮยอนยืนขวางทางจุงโฮพร้อมกับยิงเวทย์เป้าเดียวออกไปเป็นจํานวนมาก
เธอถือได้ว่าไม่เป็นสองรองใคร ในด้านของประสบการณ์จํานวนมากที่เธอมีต่อดันเจี้ยน
นั่นคือเหตุผลที่เธอรู้ว่าจะไม่มีมอนเตอร์จํานวนมากที่ออกมาจากพอร์ทัลเลเวล 30.
อย่างไรก็ตาม มอนเตอร์ไม่ได้ออกมาพร้อมกันทั้งหมด
แต่พวกมันออกมาที่ละกลุ่มเป็นช่วงๆ
เธอสามารถเข้าใจได้เกี่ยวพอร์ทัลที่ไม่ควรจะเข้าไปอย่างประมาท แถมมันยังอันตรายเกินไปที่จะทําเช่นนั้น
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทําไมแทนที่เธอจะใช้สกิลAoEที่ใช้มานาเยอะๆกลับไปใช้สกิลเป๋าเดียวที่ใช้มานาน้อยกว่า เมื่อถึงเวลาพอควรแล้วและมอนเตอร์ก็มารวมกันเยอะ เธอจะใช้สกิล AoE ที่ทรงพลังเพื่อปิดฉากมัน
จุงโฮรู้ดีเกี่ยวกับสกิลที่เธอใช้ เพราะมันเป็นหนึ่งในเวทย์นับพันๆที่อยู่ในแหวนบัลล็อคที่เขาสวมใส่
ขณะนี้มีมอนเตอร์ประมาณ 10 ตัวอยู่นอกพอร์ทัลและแต่ละตัวถูกโจมตีจากเวทย์เอ็กโพชั่นที่เธอร่าย
เปลวไฟที่รุนแรงจากเวทย์เป้าเดียวนี้จะไม่ดับลงจนกว่าเป้าหมายจะถูกทําลายจนตาย ไม่อย่างนั้นมันจะสร้างความเสียหายตลอดเวลา
ยิ่งไปกว่านั้น โซฮยอนใช้เทเลพอตเพื่อเข้าไปใจกลางฝูง มอนเตอร์ก่อนที่จะร่าย[Frozen Spear]เพื่อพยายามหยุดการเคลื่อนไหวของมัน
แท่งน้ําแข็งพุ่งออกไปเป็นวงกว้างรอบๆผู้ร่ายเวทย์
เปลวไฟที่รุนแรงแผดเผาที่หน้าอกของพวกมันขณะที่หอกน้ําแข็งพุ่งทะลุร่างของพวกมันทําให้พวกมันเดินช้าลงเล็กน้อยขณะที่ตามไล่ล่าเธอ
“เดาว่าพวกแรงค์เกอร์เหล่านี้ได้มันต้องเพราะเหตุผลแบบนี้แน่ๆ
จุงโฮจ้องไปที่การต่อสู้อย่างเหม่อลอยจากความประหลาดใจที่เธอสร้างความเสียหายได้มากที่สุดขณะที่ใช้มานาออกไปเพียงน้อยนิด มันเป็นมืออาชีพจริงๆไม่นาน.
จากน้ําเสียงรําคาญ ชอยโซฮยอนที่กําลังต่อสู้กับมอนเตอร์ได้ตะโกนใส่เขา
“คุณจะยืนอยู่เฉยๆอีกนานไหม??”
“จ๊ะ อ้าา! โทษที!”
“อย่างน้อยๆก็ดึงดูดให้พวกมันมารวมๆกันสักหน่อย!”
นี่ ใช่เลย.
มันเป็นเรื่องจริงที่ว่าเธอนั้นได้เครียร์ดันเจี้ยนเลเวล 28 ด้วยตัวเอง แต่พอร์ทัลในปัจจุบันที่พวกเขาเผชิญอยู่นั้นเป็นเลเวล 30.
มันเป็นเรื่องยากสําหรับเธอที่จะเผชิญหน้ากับพอร์ทัลนี้เพียงคนเดียว
จุงโฮตอบด้วยน้ําเสียงเรียบเฉยแบบคนสไตล์พังค์
“นั่นหมายความว่าคุณต้องการให้ผมช่วย?”
“นี่ยังต้องถามอีกหรอ? ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย!”
ใบหน้าสวยๆของเธอเต็มไปด้วยการดูถูกขณะที่เธอยังคงมุ่ยปากบ่น
แม้ว่าจะมีศักดิ์ศรีที่ออกปากขอเขาแล้วจะเหลือไม่เยอะ แต่มันก็เป็นสิ่งที่เธอภาคภูมิใจ
จุงโฮไม่ได้คิดที่จะเห็นการแสดงน่ารักๆแบบนี้
ความสามารถพิเศษที่เธอมีเมื่อร่ายเวทย์ใส่มอนเตอร์นั้นไม่เคยพบได้ที่ไหน
“เร็วๆ!”
เธอพูดเบาๆกับตัวเองอย่างเงียบๆที่มีเพียงแค่เธอที่ได้ยินเกี่ยวกับวิธีการที่เธอขอร้องเขาก่อนหน้านี้ จุงโฮวิ่งไปด้านหน้าและตอบกลับเสียงดัง
“จะไปแล้ว!”
-วูซซซซซ!
จุงโฮจับแขนโซฮยอนและเหวี่ยงเธอออกไปอย่างไกล
เขาใช้ค่าพลังความแข็งแกร่ง(STR)ของเขาเพื่อโยนเธอออกไป
เพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่อยู่ในระยะของเวทย์ เพราะมันไม่ใช่เวทย์ที่เจาะจงเป้าหมาย
ดวงตาของเธอเบิกกว้างจากการกระทําของจุงโฮก่อนหน้านี้ไปแล้ว แต่ตอนนี้มันกว้างกว่าเก่า
ทันใดนั้นเธอก็ตกลงบนก้อนหินอย่างปลอดภัย
เธอลอยห่างออกไปกว่า 20 เมตร
เธอพูดด้วยสีหน้าตกใจ
“ย้าา! นายกําลังทําอะไร!”
“รอแป๊ป”
โซฮยอนไม่สามารถพูดต่อไปได้หลังจากสิ่งที่เธอเห็นต่อไป
นี้
จุงโฮที่เธอคิดว่าเดิมที่เขาเป็นวอริเออร์ก็ได้ร่าย[Fire Shock]ต่อหน้าต่อตาของเธอ
เธอยังสามารถบอกได้อย่างรวดเร็วว่าเวทย์นั้นแข็งแกร่งกว่า[Fire Shockของเธอ
ทั้งขนาดและปริมาณของไฟที่ตกลงมามันมีมากกว่าและแม้แต่รูปแบบของไฟก็ไม่อาจคาดเดาได้
มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่เธอเคยใช้มาจนถึงตอนนี้
มอนเตอร์ที่รวมกันเพราะเธอถูกปกคลุมไปด้วย[Fire Shock]ที่จุงโฮร่ายออกมา
ความเสียหายขนาดใหญ่ทําให้มอนเตอร์กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดและไม่อาจโจมตีกลับได้
สกิลในแหวนที่มินชยอลเก็บไว้ยังมีคูลดาวน์
มันเป็นไปตามการเติบโตของผู้ที่จะเก็บทักษะไว้ในแหวน
[Fire Shock]มีคูลดาวน์สามนาทีและมอนเตอร์ก็ยังไม่ตายทั้งหมด
เมื่อเขาคิดถึงสกิลอะไรต่อ จุงโฮก็พูดกับตัวเองโดยไม่ใส่ใจ.
“ถ้าใช้เมเทโอมันจะตายในการโจมตีครั้งเดียว แต่ฉันคิดว่ารัศมีของมันจะใหญ่เกินไปที่จะใช้ตอนนี้ ไม่มีอย่างอื่นเหมาะสมอีกแล้วหรือ?”
เมื่อได้ยินคําพูดคนเดียวจากระยะไกล เธอก็ทําได้เพียงตกใจ.
ในขณะที่[Fire Shock]ยังคงทํางานอยู่ จุงโฮก็ตัดสินใจเลือก[lceberg]
มอนเตอร์ได้รับความเสียหายอย่างมากแล้ว
ถ้าหากเขาร่าย[Iceberg]ไปที่มอนเตอร์สองครั้ง มันจะมีมอนเตอร์สองถึงสามพันตัวที่จะตาย.
แน่นอนว่าไม่มีการรอระยะเวลาในการร่ายเวทย์ของ[lceberg]มอนเตอร์แต่ละตัวต่างก็แตกสลายออกไป
-แกรัก!
“มันเป็นไปไม่ได้ ?
“หืม? คุณพูดอะไรนะ? เสียงมันดังเกินไปจนไม่ได้ยินที่คุณพูด.”
“[Fire Shock]. [Iceberg]. ทั้งขนาดและความเสียหายของเวทย์ที่คุณร่ายฉันไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลย…”
“หืม?”
มอนเตอร์ติดอยู่ใน[iceberg]และถูกทําลายจนกลายเป็นชิ้นๆอยู่ตามพื้น
เมื่อเสียงที่เกิดจากการแตกร้าวของน้ําแข็งหยุดลงและบรรยากาศสงบลง จุงโฮก็ใช้เทเลพอตเพื่อพาโซฮยอนจากไปทันที
“คุณพูดอะไร?”
“คุณไม่ได้พูดอะไรงั้นหรอ? หรือว่าผมได้ยินผิด…”
“อะ… [Iceberg]…”
“ใช่. [Iceberg]! [Iceberg]ทําไม?”
“คะ..คุณ. อเวคมัน?”
“ผมคิดว่านะ?”
เธอมีทั้งเวทย์[Meteor Ca]และ[Iceberg]
อย่างไรก็ตามเมื่อคิดว่าเวทย์เหล่านี้สามารถเพิ่มเลเวล ได้และอเวคมันได้จนถึงจุดที่ว่ามันไม่มีคูลดาวน์และไม่ต้องรอระยะเวลาเพื่อร่าย มันเป็นสิ่งที่เธอคิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ํา
ยิ่งไปกว่านั้น เวทย์เหล่านี้ใช้มานาเป็นจํานวนมาก
แต่ชายคนนี้กําลังใช้[Iceberg]ออกมารัวๆราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
โซฮยอนทําได้เพียงจ้องหน้าจุงโฮอย่างโง่งม.
ตอนนั้นเอง
มีบางอย่างเริ่มลอยเหลือซากมอนเตอร์ที่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
มันไม่ใช่อะไรนอกจากของที่ดรอปจากมอนเตอร์
แต่มันก็มีบางอย่างที่ดูไม่เป็นรูปเป็นร่างและมีบางอย่างที่คล้ายกับไฟวิญญาณสีฟ้า
มันสามารถเทียบได้กับ[oni fre] (oni fre-ดวงวิญญาณ ของแบบญี่ปุ่น)
[oni fre]กว่าสิบดวงลอยขึ้นตรงกับจํานวนของมอนเตอร์,
เปลวไฟเหล่านี้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างของชอยโซฮยอนอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นอย่างนั้น จึงโฮก็ถาม.
“นั่นอะไร?”
แหม?”
“ที่คุณดูดซับไป.”
“มะ.มานา…”
“หืมม? คุณดูดซับมานาหลังจากที่ฆ่ามอนเตอร์? ว้าว… คุณก็มีความสามารถโกงๆเหมือนกันนี่นา มันน่าซึ่งเป็นอย่างมากๆ
“ฉันไม่คิดว่ามันจะน่าพึ่งพอๆกับคนที่ร่าย[iceberg]ที่อเวคมาแล้วลงมารัวๆ?”
“อ่า.
ใช้เวลาไม่นานก่อนที่พอร์ทัลเลเวล 30 จะหาย และเปลี่ยนเป็นดันเจี้ยน
พวกเขาสองคนยับยั้งพอร์ทัลด้วยกัน
มันเป็นไปได้ที่จุงโฮจะเป็นคนทําคนเดียว แต่ด้วยความเข้าใจในสกิลและประสบการณ์การต่อสู้ของโซฮยอนทําให้สามารถพูดได้ว่ามันกลายเป็นการป้องกันที่สมบูรณ์แบบ.
มองไปที่เขา เธอพูด
“ฉันคิดว่ามันจบแล้ว”
“ใช่ ขอบคุณที่ทํางานหนัก”
“นี่คือสิ่งที่ฉันอยากรู้ตั้งแต่ต้น ฉันไม่เคยเห็นใครร่ายเวทย์ที่อเวคแล้วออกมารัวๆหรือเคยได้ยินมาก่อน คุณมีความสามารถแบบไหน?”
“นี่นี้ไม่ใช่เพราะผม ผมยืมเขามา อย่างที่คุณรู้ ผมมีคลาสเป็นวอริเออร์”
จุงโฮฉีกยิ้มเพื่อหลีกเลี่ยงหัวข้อที่ละเอียดละอ่อน
เธอไม่ได้ถามกดดันต่อไป แต่กลับถามคําถามอื่นแทน
“ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะไปต่อไหม อย่างไรก็ตามคุณจะไปที่ไหนต่อ?”
“อืมม..ผมคิดว่าผมต้องติดต่อกับพี่ชายและน้องชายก่อน คุณจะไปป้องกันพอร์ทัลอื่นอีกหรือ?”
“ดี ฉันเดาว่าคุณกําลังไปหาคนที่มีเวทย์ต่อสู้กับมอนเตอร์นั่นใช่ไหม?”
“อย่างนั้นก็รอแปป ผมจะบอกอีกที
จุงโฮโทรหาโฮจิน.
มันคือการหาสถานที่ต่อไปเนื่องจากโฮจินอยู่กับผู้บัญชาการที่รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ดีหลังจากที่พอร์ทัลระเบิด
-กริ้งงงงง
-กริ้งงงงง กริ้งงงงง
“หืมม.. พวกเขาคงต่อสู้กันอย่างดุเดือดละมั้ง?”
ในขณะที่ผมกําลังจะวางสาย โฮจินก็กดรับพอดี
“คุณปลอดภัยดี ใช่ไหม?”
หลังจากที่รอสายมานาน โฮจินก็แสดงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของจุงโฮ.
หลังจากที่ได้ฟังคําถาม จุงโฮตอบ.
“แน่นอน ฮยองก็ปลอดภัยดีใช่ไหม?”
“ใช่ เราจัดการพอร์ทัลได้แล้ว”
“ขอบคุณที่ทํางานหนักที่นี่ก็เหมือนกัน”
“ฉันดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น ไม่มีการติดต่อจากคุณมินชยอลเลย?
“ใช่ ไม่ได้ติดต่อกับเขาเลย”
“ใช่ เนื่องจากมีสองพอร์ทัล เพราะงั้นเขาอาจจะยุ่งมาก”
“นั่นก็ช่วยไม่ได้ คุณช่วยบอกตําแหน่งต่อไปที่มีมอนเตอร์ที่แพ้เวทย์มนต์หน่อย?”
“โอ้…รอแป๊ปนะ”
สักพักเขาก็ได้ยินโฮจินพูดกับใครบางคน.
โฮจินใช้เวลาไม่นานในการพูดต่อ
“จากสิ่งที่ฉันรู้ มอนเตอร์ที่แพ้เวทย์มนต์คือพอร์ทัลเลเวล 34 ที่ยางพย็อง อย่างไรก็ตามเนื่องจากมันเป็นพอร์ทัลเลเวลสูง ฉันคิดว่าน่าจะดีกว่าที่เธอจะรอคุณมินชยอลจะเสร็จธุระ ทางสมาคมไม่สามารถกองหนุนไปสถานที่นั้นๆได้เช่นกัน ดังนั้นตอนนี้มันจึงเป็นพื้นที่ปิด ฉันเดาว่ามันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่จะไปที่นั้นตอนนี้”
“หืมม.เข้าใจแล้ว ฮยอง ผมจะติดต่อมินชยอลแปป.”
“ได้ ดูแลตัวเองด้วย ติดต่อฉันทันทีหากมีอะไรเกิดขึ้น.”
“ครับ! ฮยองก็ดูแลตัวเองด้วยนะ!”
เมื่อวางสายและหันไปรอบๆ เขาก็เห็นชอยโซฮยอนกําลังคุยกับใครบางคน
น่าจะเป็นหาข้อมูลจากเหล่าอเวคที่เธอรู้กําลังติดตามสถานการณ์ในปัจจุบัน
จุงโฮก็โทรหามินชยอล
-ตรู้ดดด
-ตรู้ดดด
“ครับ พี่!”
“หืม? เสร็จแล้วหรอ?”
“ไม่ ผมยังอยู่กลางทาง.”
“นี่มันอันตรายนะ โทรมาหาฉันหลังจากที่นายเสร็จแล้ว”
“ได้.
-แฮ่กๆ
เขาสามารถได้ยินเสียงหอบหายใจของมินชยอล.
แต่ก็มีเสียงแปลกๆที่กําลังกรีดร้องอย่างหวาดกลัวดังเข้ามา
อีก.
มันฟังดูเหมือนกับเป็นเสียงร้องของมนุษย์
“อ้าาา!”
“ ช. ช. ช่วยด้วย!”
“แ… แอ๊ก!”
“เฮ้ย! มินชยอล นั่นเสียงอะไรอะ? ฉันคิดว่ามันคงเป็นเรื่องสําคัญกว่าของฉันนะ?”
“อ่า ไม่มีอะไรมาก มอนเตอร์บางตัวก็แสดงราวกับว่ามันเป็นมนุษย์
“งะงั้นหรอ? นั้นเป็นเรื่องแปลกจริงๆ จนกว่าทุกอย่างจะได้รับการจัดการ อย่าลดการระวังตัวนะ ระวังตัวด้วย!”
“ไม่ต้องกังวลไป ชางวอนจัดการเสร็จแล้ว?”
“อ้ากกก!”
“แค่ก… แอ๊ฟ”
“ พูดตรงๆมอนเตอร์เหล่านั้นค่อนข้างส่งเสียงดัง ใช่ ผมกําลังจะไปที่พอร์ทัลเลเวล 34 ที่ยางพย็อง”
“อ่า เข้าใจแล้ว มันอันตรายมากหากไปโดยไม่ระวังตัว ผมจะจัดการที่นี่เสร็จแล้วและจะมุ่งหน้าไปที่นั่น”
“ได้เลย
-ตรู้ดดด
เขาวางสายและหันมาพูดกับเธอ
“ดูเหมือนว่าพอร์ทัลเลเวล 34 ในยางพยองจะแพ้ทางเวทย์มนต์ เธอจะมาด้วยไหม?”
“คุณจะใช้[วาป]?” (TLะวาปกับเทเลพอตคือคนละอันกันนะ เพื่อจะลืม)
–
“ไม่ ผมใช้มันเพื่อมาที่นี่ ดังนั้นยังเหลือคูลดาวน์อีกมากว่าจะใช้ได้อีกครั้ง”
“ฉันก็เหมือนกัน ไปด้วยกันเถอะ”
“OK”
“หุ้นจ้าน ลุ้นจ้านจริงๆ!”
มอนเตอร์มากมายมาถึงชายหาดและกําลังพุ่งเข้ามา
ยิ่งไปกว่านั้นลูกน้องของฝ่ายหัวรุนแรงก็มาเช่นกัน
โดยไม่รอให้ผมได้พักแม้สักนิด ผมก็ร่ายเวทย์ออกไปไม่หยุด
ชิ้นส่วนของมอนเตอร์หลายประเภทกระจายจากการระเบิดครั้งใหญ่
พลังทําลายที่เพียงพอที่จะทําลายทุกอย่างในรัศมี 3 เมตร โดยไม่เหลือร่องรอยใดๆ
พื้นที่ที่พวกมันระเบิดได้กลายเป็นหลุมราวกับโดนลูกระเบิดตกลงตรงนั้น
เนื่องจากมันระเบิดพวกเขา ลูกน้องของดาร์กเลดี้ก็ตายไปเช่นกัน
เมื่อดูภาพเหล่านี้ ผมไม่อาจระงับความโกรธของผมได้
“ไม่! ไอ้โง่! นั่นมันสถานะของฉัน…หยุดจัดการพวกมันอย่างโลภมากและออกไปให้พ้นสายตาของฉัน!”
“ตูมมมม!