ทางด้านเฉียวถิงเพิ่งจะกดดันหลี่หลานเฟิงลง ขณะที่ยังไม่ทันคิดว่าจะจัดการอีกฝ่ายอย่างไร ทันใดนั้นเองเขาพลันรู้สึกว่าหัวใจเต้นกระหน่ำ สัมผัสถึงวิกฤติอย่างรุนแรงสายหนึ่งจู่โจมเข้าที่หัวใจ เขาเลิกโจมตีหลี่หลานเฟิงโดยไม่ลังเล ก่อนจะขับหุ่นรบทะยานขึ้นฟ้าอย่างเร็วสุดขีด…
ลางสังหรณ์ของเฉียวถิงแม่นยำอย่างไม่ต้องสงสัย เขาเพิ่งจะออกจากตำแหน่งที่อยู่ในตอนแรก ลำแสงสามสายก็โผล่ขึ้นตรงนั้นแล้ว
เฉียวถิงซูมหน้าจอหุ่นรบของตัวเองออกไปอย่างรวดเร็ว ถึงค่อยพบว่าตรงบริเวณหลายร้อยเมตรด้านหลังเขา มีหุ่นรบของหลิงเทียนปรากฏขึ้นอีกสามตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
เฉียวถิงเห็นแบบนั้นก็นึกเสียใจรางๆ อยู่บ้าง ควรรู้เอาไว้ว่า ตอนแรกเขายิงจรวดรบกวนเรดาร์ออกไปลูกหนึ่งเพื่อลอบโจมตีจ้าวจวิ้น จรวดรบกวนเรดาร์ลูกนี้ทำให้เรดาร์ของพวกจ้าวจวิ้นสูญเสียประสิทธิภาพไปจริงๆ ทว่าเรดาร์ของหุ่นรบที่อยู่ในเขตพื้นที่เดียวกันก็สูญเสียความสามารถไปด้วย นี่ก็คือสาเหตุที่เขาไม่สังเกตเห็นหลี่หลานเฟิง และไม่สังเกตเห็นหุ่นรบสามตัวที่โผล่ขึ้นมาอย่างเหนือความคาดหมายนี้
ตอนนี้ดูเหมือนว่า การตัดสินใจในตอนแรกนี้ของเขาได้ทำร้ายตัวเขาเองแล้ว ควรรู้ไว้ว่าหุ่นรบที่เขาขับคือหุ่นรบไพ่ราชา มีรัศมีการค้นหาของเรดาร์ห้าพันเมตร ถ้าเกิดตอนแรกเขาไม่ทำแบบนี้ เขาที่มีขอบเขตการค้นหามากกว่าหุ่นรบของหลิงเทียนหนึ่งถึงสองพันเมตรจะให้หุ่นรบหลิงเทียนเข้าใกล้เขาอย่างไร้สุ้มไร้เสียง และโจมตีเขาครั้งแล้วครั้งเล่าได้อย่างไร
อู่จย่ง หลินจงชิงและเซี่ยอี๋สามคนที่ลอบโจมตีล้มเหลวเห็นว่าตอนนี้เหลือเพียงหลี่หลานเฟิงที่ต่อสู้เพียงลำพัง เห็นด้านล่างคลุ้งไปด้วยควันหนาทึบ เศษซากหุ่นรบกระจัดกระจายตามพื้น และเห็นหุ่นรบของเฉียวถิงเสียขาท่อนล่างไปครึ่งหนึ่ง ในใจก็รู้แล้วว่าเพื่อนร่วมทีมหลายคนที่มาถึงก่อนหน้านี้น่าจะใช้กลยุทธ์ที่ลูกพี่หลานวางไว้ พ่ายแพ้ออกจากสนามโดยที่นำขาครึ่งหนึ่งของเฉียวถิงไปเป็นสินสงครามด้วย
ทั้งสามคนไม่กล้ารีรอ อู่จย่งที่เป็นสมาชิกโจมตีหลักขับหุ่นรบพุ่งเข้าไปเป็นคนแรก เซี่ยอี๋กับหลิงจงชิงที่เป็นวิงแมนรีบตามหลังไปทันที และตอนนี้เอง เนื่องจากการลอบโจมตีสนับสนุนของพวกอู่จย่งสามคน หลี่หลานเฟิงที่หอบหายใจได้ในที่สุดก็ขับหุ่นรบบินขึ้นไปเช่นกัน ปืนลำแสงในมือที่เดิมทีดับสนิทแล้วได้ปล่อยรัศมีแสงลานตาออกมาโจมตีใส่เฉียวถิงอีกครั้ง
“บัดซบ!” เมื่อเห็นหลิงเทียนเตรียมตัวโอบล้อมใช้กระบวนท่านั้นอีกรอบ เฉียวถิงก็หลบการโจมตีลำแสงของหลี่หลานเฟิงอย่างระมัดระวัง จังหวะเดียวกันก็แล่นไปยังทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว เขาไม่อยากโดนล้อมและถูกอีกฝ่ายใช้วิธีการระเบิดพลีชีพเพิ่มความเสียหายให้หุ่นรบของเขามากขึ้นอีกแล้ว
พอเห็นเฉียวถิงเลือกหลบหนี พวกอู่จย่งก็อึ้งไปก่อนจะรีบเปิดใช้งานเครื่องยนต์ไอพ่นตามไปอย่างฉับไว ถึงแม้ความเร็วของเฉียวถิงจะไวมาก แต่อาจเป็นเพราะหุ่นรบได้รับความเสียหายเลยส่งผลต่อความเร็วของเขา กอปรกับพวกอู่จย่งใช้งานเครื่องยนต์เกินพิกัดโดยไม่เสียดาย เฉียวถิงเลยไม่อาจสลัดหลุดจากพวกอู่จย่งได้ชั่วขณะ
นายตามฉันหนีแบบนี้ไปสองสามนาทีเต็มๆ ศึกไล่ตามที่ยืดยาวทำให้นักเรียนทหารที่ชมการต่อสู้มากมายคิดว่า นี่อาจจะเป็นศึกยืดเยื้อก็ได้ บางทีได้แต่ต้องรอให้พลังงานของหุ่นรบฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดลงก่อนถึงจะสามารถยุติศึกไล่ตามที่น่าเบื่อหน่ายนี้ได้
นี่ทำให้บรรดานักเรียนทหารไม่พอใจขึ้นมา สิ่งที่พวกเขาอยากเห็นคือการต่อสู้ที่ดุเดือด ไม่ใช่ศึกไล่ตามอันน่าเบื่อหน่ายที่มีปัจจัยเรื่องโชคนิดหน่อยแบบนี้ การถอยหนีก่อนของเฉียวถิงทำให้ภาพลักษณ์เจิดจรัสตำนานไร้พ่ายก่อนหน้านี้ของเขาหมองมัวขึ้นมาอย่างเร็วไว ในทางตรงกันข้าม กลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนที่แสดงผลงานบุกตะลุยกล้าหาญมาตลอดก่อนหน้านี้ได้รับความประทับใจดีๆ จากพวกนักเรียนทหารมากมาย
ต่อให้เป็นระดับสูงของโรงเรียนที่ชมการต่อสู้ในห้อง VIP เวลานี้ในใจของพวกเขาก็ไม่ชื่นชอบใจมากเหมือนกัน คิดว่าการกระทำของเฉียวถิงย่ำแย่มากเกินไปจริงๆ ก่อกวนแผนการของพวกเขาจนยุ่งเหยิงแล้ว ทว่าพวกเขายังคงไม่ทอดทิ้งความหวัง รอคอยเฉียวถิงสามารถพลิกสถานการณ์ ทำการสังหารกลับได้อย่างยอดเยี่ยม…
ขณะที่ทุกคนรู้สึกเบื่อหน่าย คิดว่าเฉียวถิงยังคงหลบหนีต่อไป เฉียวถิงกลับกระทำบางอย่างที่ทำให้ทุกคนตื่นตะลึง จู่ๆ การบินทะยานอย่างรวดเร็วของเขาพลันชะงักลงจนแทบหยุดนิ่ง จากนั้นเขาหันทิศทางกลับพุ่งตัวอย่างดุดันไปหาหุ่นรบของหลิงเทียนที่ไล่ตามมาสี่ตัว
การกระทำนี้ดูเหมือนเรียบง่ายมาก แต่พอควบคุมขึ้นมาจริงๆ กลับยากมาก ควรรู้เอาไว้ว่าการหยุดฉับพลันในตอนที่มุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็วนั้นจำเป็นต้องต้านทานแรงเฉื่อยจากการเคลื่อนไหวนี้ถึงจะสามารถทำการหยุดได้ในชั่วพริบตา หลังจากที่หยุดแล้วก็เริ่มบินไปยังทิศทางตรงข้าม นี่ยากกว่าการหยุดนิ่งอย่างรวดเร็วหลายเท่า โดยปกติแล้วผู้ควบคุมไพ่ราชาที่มีทักษะการควบคุมไม่ถึงขั้นมาตรฐานจะไม่กล้าใช้กระบวนท่านี้เลย เนื่องจากท่วงท่านี้ทำให้หุ่นรบสูญเสียการควบคุมง่ายดายมาก ท้ายที่สุดอาจจะทำให้ตัวเองตกอยู่ในสภาวะอับจนแทนได้
ท่วงท่านี้เป็นทักษะการควบคุมที่มีระดับความยากเหนือกว่าระดับ SS ของทักษะหุ่นรบไพ่ราชา มีเพียงผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาชั้นยอดเท่านั้นถึงจะสามารถมีความกล้าและมีคุณสมบัติใช้ทักษะนี้ ต่อให้เป็นอาจารย์หุ่นรบไพ่ราชาในโรงเรียนทหารก็มีแค่ถังอวี้ ผู้ควบคุมไพ่ราชาชั้นยอดคนนี้เท่านั้นที่สามารถทำเรื่องนี้ได้ ปกติแล้วอาจารย์คนอื่นๆ ไม่มีทางกล้าทำแบบนี้ เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถรับประกันได้ว่าตัวเองจะทำสำเร็จได้อย่างราบรื่นแน่นอน
การปรากฏตัวของท่วงท่านี้ทำให้แววตาของอาจารย์ถังอวี้ที่ชมการต่อสู้ทอประกาย มุมปากเผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมาเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่ถังอวี้แสดงออกว่าพอใจต่อการกระทำของเฉียวถิง และมีเพียงเฉียวถิงที่เป็นแบบนี้เท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติที่ถูกเรียกขานว่าเป็นนักเรียนที่เขาภาคภูมิใจ
“นายสอนได้ไม่เลวเลย ในที่สุดเฉียวถิงก็แสดงความสามารถของเขาออกมาแล้ว” แววตาของผู้อำนวยการเฉียบคมมาก การกระทำก่อนหน้านี้ของเฉียวถิงอย่างมากสุดก็เป็นได้เพียงระดับไพ่ราชาเทียม ทว่าการปรากฏตัวของทักษะนี้เพียงพอที่จะยืนยันว่า เฉียวถิงในยามนี้เข้าสู่ขอบเขตผู้ควบคุมไพ่ราชาอย่างแท้จริงแล้ว
“จุดอ่อนของเฉียวถิงก็คืออุ่นเครื่องช้ามากเกินไป ครั้งนี้เขาเข้าสู่ขอบเขตผู้ควบคุมไพ่ราชาไวขนาดนี้ควรจะต้องขอบคุณการกดดันซ้ำแล้วซ้ำเล่าของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียน…ตอนนี้ดูเหมือนว่าผู้ชนะในการต่อสู้นี้มีความเป็นไปได้สูงว่าตกเป็นของเฉียวถิงแล้วครับ” สาเหตุที่ตอนแรกถังอวี้ไม่แน่ใจว่าชัยชนะในการต่อสู้เป็นของใครนั้นเป็นเพราะเขารู้จุดอ่อนของเฉียวถิงดี ถึงแม้เฉียวถิงเป็นผู้ควบคุมไพ่ราชาแล้ว แต่เขาไม่สามารถเข้าสู่ขอบเขตผู้ควบคุมไพ่ราชาได้ทันที มากสุดก็เข้าสู่ระดับไพ่ราชาเทียมเท่านั้น หรือก็คือสูงกว่าระดับพิเศษนิดหน่อย แต่ไม่สามารถสังหารผู้ควบคุมระดับพิเศษได้หมดจด…นี่ก็คือสาเหตุที่จ้าวจวิ้นกับหลี่หลานเฟิงสามารถต่อสู้พัวพันกับเฉียวถิงได้นานมาก
ควรรู้ไว้ว่า ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาที่แท้จริงสามารถสังหารผู้ควบคุมระดับพิเศษทิ้งได้โดยสมบูรณ์ในช่วงเวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น
การเปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลันของเฉียวถิงในครั้งนี้ได้พลิกจากผู้หลบหนีมาเป็นผู้โจมตีทันที พุ่งตรงไปหาหุ่นรบที่ไล่ตามเขาสี่ตัวนั้น คนที่ประสบเคราะห์โดนพุ่งเข้าหาคนแรกก็คืออู่จย่ง เดิมทีในหมู่หุ่นรบสี่ตัว หุ่นรบที่หลี่หลานเฟิงขับเป็นหุ่นรบระดับพิเศษ และก็เป็นหุ่นรบประเภทความเร็วด้วย เขาควรจะอยู่ด้านหน้าสุด แต่เนื่องจากเขาเป็นผู้โจมตีระยะไกล ไม่ลืมโจมตีเฉียวถิงมาตลอดทาง นี่จึงเป็นสาเหตุที่เฉียวถิงไม่สามารถเปิดใช้งานความเร็วเต็มพิกัดในการหลบหนี เขาจำเป็นต้องระมัดระวังลำแสงที่หลี่หลานเฟิงยิงมา
นี่ก็เลยทำให้อู่จย่งนำหน้าสุดในหมู่หุ่นรบทั้งสี่ตัว จากนั้นถึงค่อยเป็นหลี่หลานเฟิง เซี่ยอี๋และหลินจงชิงสามคน ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อเฉียวถิงเปลี่ยนทิศทางกะทันหันและจู่โจมเข้ามา อู่จย่งจึงกลายเป็นเป้าหมายการโจมตีแรกของเขา
บางทีการกระทำนี้ของเฉียวถิงอาจจะมาอย่างไม่ทันตั้งตัวมากเกินไป หรือบางทีระยะห่างของทั้งสองอาจจะใกล้กันมากเกินไปจริงๆ สรุปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับดาบแสงสำรองที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของเฉียวถิง อู่จย่งไม่มีเวลาทำการป้องกันเลย สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้มีเพียงเปิดใช้พลังงานโล่แสงของหุ่นรบตัวเองจนถึงขีดสุด หวังว่าจะต้านรับดาบที่มาอย่างฉับพลันนี้ของอีกฝ่ายเอาไว้ได้
เสียง ‘ฉัวะ!’ ดังขึ้นเบาๆ โล่แสงของหุ่นรบอู่จย่งทีเดิมทีเปล่งรัศมีแสงออกมาพลันเปลี่ยนเป็นมืดสลัว คนที่มีสายตาแหลมคมมองเห็นชัดเจนแล้วว่า ดาบแสงเล่มนั้นของเฉียวถิงได้แทงเข้าไปในห้องคนขับของอู่จย่งอย่างหมดจด ทำการสังหารทิ้งในดาบเดียว!
การพลิกสถานการณ์กลับอย่างปุบปับของเฉียวถิงทำให้บรรดานักเรียนทหารที่ชมการต่อสู้อึ้งกิมกี่ นักเรียนชั้นปีสูงบางคนที่รู้ระดับความยากของการกระทำเฉียวถิงเมื่อสักครู่นี้ สีหน้าก็เริ่มเคร่งขรึมขึ้นมา นี่สิถึงเป็นการปฏิบัติตนที่ราชันสายฟ้าเฉียวถิงควรมี
“หัวหน้ากลุ่มอู่!” เซี่ยอี๋อดร้องอุทานขึ้นมาไม่ได้ เขาไม่คาดคิดว่าอู่จย่งที่แข็งแกร่งเป็นอันดับสามจากสถาบันศูนย์กลางลูกเสือ พอประจันหน้ากับผู้ควบคุมไพ่ราชาก็ไม่อาจต้านทานได้แม้กระทั่งกระบวนท่าเดียว ถูกสังหารทิ้งในชั่ววินาที ในที่สุดเขาก็เข้าใจคำเตือนก่อนหน้าการประลองของลูกพี่หลานแล้วว่า พอพวกเขาเผชิญหน้ากับผู้ควบคุมไพ่ราชาที่แท้จริงก็อย่าคิดว่าจะมีโอกาสได้ประมือกับคู่ต่อสู้ แต่ควรคิดดีกว่าว่าพวกเขาจะระเบิดตัวเองให้สำเร็จในชั่วพริบตาที่สัมผัสได้อย่างไร เพื่อสร้างความเสียหายให้ฝ่ายตรงข้ามนิดหน่อย…
ความห่างชั้นระหว่างพวกเขากับผู้ควบคุมไพ่ราชาใหญ่มากเกินไปจริงๆ มันดูเหมือนด้อยกว่าแต่สองระดับ ทว่าสองระดับนี้กลับแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
อู่จย่งถูกสังหารทิ้งในชั่ววินาที ไม่มีโอกาสได้ระเบิดตัวเองก็พ่ายแพ้ออกจากสนามไปแล้ว อู่จย่งถูกออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักขับไล่ออกจากโลกหุ่นรบท่ามกลางความปวดร้าว ในจุดล็อกอิน อู่จย่งคุกเข่าลงบนพื้นอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่ เขาขุ่นแค้นใจมาก ในชั่วพริบตานั้นทำไมเขาตัดสินใจเปิดใช้โล่แสงจนถึงขีดสุด แต่ไม่กดปุ่มระเบิดตัวเองไปเลยนะ?
“อย่างที่คิดไว้เลย ถ้าไม่เชื่อฟังคำพูดของลูกพี่หลานก็จะทำพลาด…” อู่จย่งยิ้มขื่น เขารู้ว่าสาเหตุที่ตอนนั้นเขาตัดสินใจแบบนี้เป็นเพราะในใจเขายังคงเหลือความคิดต่อสู้อยู่นิดหน่อย หวังว่าจะพิสูจน์ให้ลูกพี่หลานเห็นได้ว่า เขาไม่ได้อ่อนอย่างที่ลูกพี่หลานคิดไว้ขนาดนั้น แต่ความเป็นจริงยืนยันแล้วว่า เขาอ่อนด้อยเหมือนอย่างที่ลูกพี่หลานคาดคิดไว้แบบนั้น…
อู่จย่งถูกขับไล่ออกไปจากสนามโดยที่ไม่ได้สร้างความดีความชอบเลยแม้แต่น้อย และการพ่ายแพ้ของอู่จย่งก็ทำให้เฉียวถิงเปิดช่องว่างวงล้อมของหลิงเทียนได้แล้ว เฉียวถิงไม่ได้ไล่โจมตีต่อ หากแต่เลือกบินขึ้นหน้าหนีต่อไป
แต่คราวนี้เฉียวถิงกลับสลัดเซี่ยอี๋และหลินจงชิงทิ้งไปแล้ว ถึงแม้หลี่หลานเฟิงไล่ตามหลังไปติดๆ แต่เขารั้งอยู่ด้านหลังเฉียวถิงไปช่วงหนึ่งเหมือนกัน อย่างไรเสีย ทักษะการหยุดฉุกเฉินแล้วบินกลับนี้มีเพียงผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาถึงจะทำได้ ทั้งสามคนอยากเปลี่ยนทิศทางไม่ใช่เรื่องง่ายดายขนาดนั้น
หลี่หลานเฟิงรวดเร็วมากที่สุด เขาใช้การหมุนวนเป็นรูป 8 แนวนอน ให้หุ่นรบอ้อมกลับมา ส่วนเซี่ยอี๋กับหลินจงชิงก็อ้อมเป็นวงกว้างถึงทำให้หุ่นรบเปลี่ยนทิศทางได้ แต่ก็เป็นเพราะเรื่องนี้เองที่ทำให้พวกเขาสองคนอยู่รั้งท้ายสุด
ศึกไล่ตามเริ่มต้นขึ้นใหม่อีกครั้ง แต่ตอนนี้ทุกคนที่ชมการประลองไม่มีคำประท้วงอะไรเกี่ยวกับเฉียวถิงอีกต่อไปแล้ว พวกเขารู้ดีว่าเฉียวถิงสามารถเปลี่ยนจากหลบหนีมาเป็นสังหารทิ้งได้อย่างสมบูรณ์ เพียงแต่ปัญหาอยู่ที่เขาได้ครุ่นคิดหรือเปล่าเท่านั้น
“กลับมาอีกแล้ว ฉันโชคดีจริงๆ” เดิมทีเห็นเป้าหมายออกห่างไปอีกครั้ง ฉีหลงที่กำลังรีบมาอย่างสุดชีวิตรู้สึกหงุดหงิดใจมาก นี่ยืดเวลารวมกลุ่มของเขากับเพื่อนร่วมทีมอีกครั้ง แต่ไม่คาดคิดว่าเป้าหมายจะวกกลับมาอีกรอบ นี่ทำให้ฉีหลงดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง จากความเร็วในการกลับมาของอีกฝ่าย คาดว่าผ่านไปอีกหนึ่งนาที เขาก็สามารถรวมกลุ่มกับพวกเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว
——————–