เฉียวถิงมองพวกจ้าวจวิ้นสามคนที่ล้อมลูกทีมตัวเองไว้ด้วยสายตาเย็นชา หลิงเทียนหมายเลขสี่ หมายเลขห้า ทักษะการควบคุมยังถือว่าผ่านเกณฑ์ คาดว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยอยู่ทีมเดียวกันมาก่อน พูดไม่ได้เลยว่ามีการร่วมมือกันที่รู้ใจอะไร นี่ก็คือสาเหตุที่ลูกทีมของเขาเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้สองคนแต่ว่ายังไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ส่วนจ้าวจวิ้นก็ตั้งใจชี้แนะพวกเขา ถึงแม้ว่าน้ำเสียงจะแย่มาก แต่ก็ไม่ได้ลงมือ คำพูดที่เอ่ยมาทั้งหมดก็มุ่งตรงไปที่ข้อผิดพลาดของสองคนนั้น
เมื่อเห็นความสนใจของจ้าวจวิ้นไปอยู่บนหุ่นรบสามตัวที่กำลังต่อสู้กัน เฉียวถิงรู้ว่า โอกาสของเขามาแล้ว!
ถึงแม้เป็นการเผชิญหน้าโจมตีกันตรงๆ เฉียวถิงก็มีความมั่นใจว่าสามารถเอาชนะจ้าวจวิ้นได้อย่างสบายๆ ได้รับชัยชนะมา แต่ว่าอาจจะต้องค่อนข้างเสียเวลามาก เฉียวถิงไม่อยากเสียเวลา ดังนั้นเขาเลยเลือกวิธีการเอาชนะด้วยกระบวนท่าเดียว นั่นก็คือซุ่มยิงสังหารทันทีในตอนที่จ้าวจวิ้นไม่ได้เตรียมการป้องกันเลยแม้แต่น้อย
ถ้าหากไม่มีการเตรียมการป้องกัน หุ่นรบระดับพิเศษไม่อาจต้านทานการโจมตีเดียวของหุ่นรบไพ่ราชาได้เลย สิ่งที่เฉียวถิงเล็งไว้ก็คือการโจมตีที่มีประสิทธิภาพสูงแบบนี้
เวลานี้พวกจ้าวจวิ้นสามคนในสนามรบไม่รู้สึกถึงวิกฤติที่กำลังจะมาถึงเลยสักนิดเดียว แต่บรรดานักเรียนทหารที่ชมการต่อสู้กลับมองเห็นชัดเจนมาก เฉียวถิงลอบชักดาบแสงออกมาอย่างเงียบเชียบแล้ว และเตรียมตัวออกไปโจมตีราวกับเสือชีตาห์ที่กำลังออกไปโจมตีเหยื่อ
หุ่นรบระดับพิเศษของหลิงเทียนตัวนั้นอยู่ในอันตรายแล้ว! ข้อสรุปนี้พุ่งสูงขึ้นมาในใจของทุกคนพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เมื่อเผชิญหน้ากับการลอบโจมตีของผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชา พวกเขาคิดไม่ออกเลย หุ่นรบระดับพิเศษที่ไม่มีการป้องกันเลยสักนิดนั้นจะมีโอกาสรอดชีวิต
พูดได้ว่า จุดสำคัญในการตัดสินผลแพ้ชนะในการแข่งขันนี้กำลังจะมาแล้ว…
เวลานี้เอง เฉียวถิงที่เตรียมการโจมตีไว้เรียบร้อยอยู่นานแล้ว แววตาโชนแสงขึ้นมา ทันใดนั้นเขาก็กระโจนออกมาจากที่ซ่อนตัวราวกับชีตาห์ที่ออกล่าก็ไม่ปาน
“อ้า!” ต่อให้พวกนักเรียนที่ชมการต่อสู้เตรียมใจไว้บ้างแล้ว แต่การเคลื่อนไหวฉับพลันนี้ของเฉียวถิงยังคงทำให้พวกเขาอุทานขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่ จ้าวจวิ้นกำลังหันหลังใส่เฉียวถิง และความเร็วของเฉียวถิงมาถึงขีดสูงสุดที่หุ่นรบไพ่ราชาสามารถไปถึงได้ เรียกได้ว่าเร็วปานสายฟ้าจริงๆ เคลื่อนไหวประหนึ่งสายฟ้าฟาด เห็นได้ว่า เฉียวถิงไม่อยากให้จ้าวจวิ้นมีโอกาสรอดชีวิตไปได้เลยสักนิดเดียว หรือว่าจ้าวจวิ้นจะต้องถูกเฉียวถิงฆ่าตายในการโจมตีเดียวจริงๆ เหรอ?
คนที่สนับสนุนหลิงเทียนไม่กล้ามองฉากนี้ และหลับตาของตัวเองลงอย่างควบคุมไม่อยู่ ถ้าเกิดจ้าวจวิ้นจบเห่ตรงนี้ หลิงเทียนอยากได้รับชัยชนะย่อมไม่มีโอกาสเลยแม้แต่น้อย ทุกคนรู้ดีว่า จ้าวจวิ้นคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหลิงเทียน
‘ซี่!’ นี่ไม่ใช่เสียงแทงทะลุหุ่นรบ หากแต่เป็นเสียงที่พลังงานระดับเดียวกันปะทะกันแล้วถึงจะปรากฏออกมา คนที่หลับตาก็ลืมตาขึ้นมาอย่างตกตะลึง และก็เห็นประกายไฟที่ผลิบานออกมาอย่างเจิดจรัสหาใดเทียบเทียมระหว่างหุ่นรบสองตัว มันสะดุดตาจนทำให้เหล่านักเรียนที่ชมการต่อสู้ทุกคนเกิดตาพร่า เบื้องหน้าเป็นแสงสีขาวผืนหนึ่ง
ยังดีที่ความสามารถในการปรับตัวของดวงตาพวกนักเรียนทหารยอดเยี่ยมมาก ผ่านไปหนึ่งหรือสองวินาทีก็กลับมาเป็นปกติแล้ว พวกเขาถึงค่อยเห็นสถานการณ์ในตอนนี้อย่างชัดเจน
จ้าวจวิ้นไม่ได้ถูกเฉียวถิงสังหารตายในกระบวนท่าเดียวจริงๆ เขายังคงหันหลังให้กับเฉียวถิง แต่หุ่นรบกลับคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ทั่วทั้งร่างลดต่ำลงครึ่งหนึ่ง และก็เพราะการกระทำนี้ ดาบแสงที่เพิ่งจะชักออกมาจากแผ่นหลังได้ครึ่งเดียวก็สกัดกั้นดาบที่เฉียวถิงโจมตีใส่ห้องคนขับของเขาได้พอดี
แรงสะท้อนที่หุ่นรบให้มาทำให้เฉียวถิงตะลึงงัน เขารู้ดีว่ากระบวนท่านี้ของเขาไม่ได้สำเร็จเหมือนอย่างที่คาดการณ์ไว้ ถึงแม้ไม่รู้ว่า ทำไมจ้าวจวิ้นถึงสกัดดาบที่เขาตั้งใจฟันใส่ได้บังเอิญขนาดนั้น แต่เขาก็รู้เช่นกันว่า ความได้เปรียบยังคงอยู่ที่เขา ห้ามละทิ้งโอกาส เขาจึงชูดาบแสงขึ้นโดยไม่ลังเลเลยสักนิดเดียวก่อนจะฟันลงไปอย่างโหดเหี้ยม
กระบวนท่านี้มาได้รวดเร็วและอำมหิตสุดขีด จ้าวจวิ้นที่ยังไม่ทันชักดาบแสงออกมาได้จนหมดและหันหลังให้เฉียวถิง ไม่มีเวลาใช้ดาบแสงสกัดกั้นอีกครั้งแล้ว ทุกคนคิดว่า ครั้งนี้จ้าวจวิ้นไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บหนัก โล่แสงของหุ่นรบระดับพิเศษต่อกรกับดาบแสงของหุ่นรบไพ่ราชาย่อมไม่สามารถลดทอนพลังงานได้ทั้งหมด เวลานั้น ไม่เพียงหุ่นรบของจ้าวจวิ้นที่ได้รับความเสียหาย เวลาเดียวกัน แรงกระแทกจากพลังงานอันทรงพลังที่ดาบแสงนำมายังทำให้ร่างกายผู้ควบคุมที่ถูกอัดกระแทกบาดเจ็บไปด้วย
ขณะที่เฉียวถิงกำลังลงมือสำเร็จนั้น เขาพลันสัมผัสได้ถึงวิกฤติสายหนึ่งปรากฏขึ้นมา ดาบแสงในมือเบี่ยงทิศทางฉับพลันโดยไม่ใคร่ครวญเลยสักนิดเดียว ทิ้งการโจมตีจ้าวจวิ้นไว้ และเหวี่ยงไปทางด้านขวาของตัวเองทันที…
“ซี่!” ดาบแสงปะทะกับดาบแสงอีกเล่มอย่างรุนแรง การกระแทกกันอีกครั้งออกมาเป็นสะเก็ดไฟฟ้านับไม่ถ้วน และจ้าวจวิ้นก็ฉวยโอกาสนี้ขับหุ่นรบให้ทะยานขึ้นราวกับมัจฉา จากนั้นก็เห็นแขนข้างหนึ่งของหุ่นรบจ้าวจวิ้นยันพื้นไว้ ตีลังกาออกไปอย่างราบรื่น ก่อนจะร่อนลงมาบนพื้นอย่างมั่นคง และจ้าวจวิ้นในเวลานี้กำลังประจันหน้ากับเฉียวถิงแล้ว แผนการของเฉียวถิงที่อยากลอบโจมตีสังหารเขาในกระบวนท่าเดียวล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
ดวงหน้าของเฉียวถิงเต็มไปด้วยเมฆทะมึน ไม่คาดคิดว่าการลอบโจมตีสั่งตายของเขาจะล้มเหลว นี่ทำให้ในใจเขาไม่สบอารมณ์อย่างมาก ถ้ารู้แต่แรกว่าเป็นแบบนี้ ไม่สู้ชิงโจมตีซึ่งๆ หน้าตั้งแต่แรกเลยดีกว่า ต่อให้เสียเวลาไปบ้าง แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาอารมณ์เสียขนาดนี้
ความหงุดหงิดของเฉียวถิงแค่พาดผ่านไปแวบหนึ่งเท่านั้น แววตาของเขากวาดมองไปที่ด้านขวาของตัวเองอย่างรวดเร็ว เป็นเพราะการลอบโจมตีที่เหมาะเจาะพอดีของหมอนี่ถึงทำให้จ้าวจวิ้นหนีรอดไปได้ ทว่าการกวาดตามองนี้ของเขากลับทำให้เขาอึ้งทึ่ง เนื่องจากคนที่ลอบโจมตีคือ หลิงเทียนหมายเลขห้าที่เมื่อสักครู่ยังทำตัวได้ธรรมดามากๆ อยู่เลย เฉียวถิงไม่เห็นสองคนนี้อยู่ในสายตาเลย แต่ก็เป็นผู้ควบคุมหุ่นรบที่ไม่สะดุดตาแบบนี้ที่ลอบโจมตีเขาได้สำเร็จ คว้าโอกาสได้อย่างไร้ที่ติ ทำให้เขาจำเป็นต้องทิ้งการสังหารจ้าวจวิ้นและเลือกช่วยชีวิตตัวเอง
ควรรู้เอาไว้ว่าต่อให้เป็นหุ่นรบไพ่ราชา การป้องกันโล่แสงของห้องคนขับก็เป็นจุดที่เปราะบางมากที่สุด ขอเพียงถูกโจมตีใส่โดยตรง แรงกระแทกของพลังงานจะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน ตำแหน่งที่หลิงเทียนหมายเลขห้าโจมตีก็คือห้องคนขับของเขา นี่ก็คือสาเหตุที่เขาจำเป็นต้องช่วยเหลือตัวเอง
การโจมตีที่เยี่ยมยอดของหลิงเทียนหมายเลขห้าทำให้เฉียวถิงรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง เขารีบหันไปทางลูกทีมของตัวเอง ก่อนจะพบว่าสถานการณ์ของอีกฝ่ายเลวร้ายมาก เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของหลิงเทียนหมายเลขสี่เพียงผู้เดียว ลูกทีมของเขาทำได้เพียงป้องกันเป็นฝ่ายถูกกระทำเท่านั้น ไม่มีช่องทางให้โต้คืนได้เลย
หลิงเทียนหมายเลขสี่ในยามนี้มีพวกความโง่เง่าที่เขาแสดงออกมาให้เห็นเมื่อสักครู่นี้ที่ไหนกันเล่า แค่มองแบบนี้แวบเดียว เฉียวถิงก็รู้ว่าความสามารถของลูกทีมหลิงเทียนหมายเลขสี่คนนี้สูงกว่าลูกทีมของเขา เฉียวถิงใจกระตุก เข้าใจทันทีว่าเขาติดกับแล้ว
เฉียวถิงโกรธขึ้งที่ตัวเองดันติดกับของฝ่ายตรงข้าม เขาเอ่ยถามจ้าวจวิ้นอย่างทะมึนเย็นเยียบว่า “ฉันอยากรู้ว่า นายตรวจพบฉันได้ยังไง?” มีเพียงตรวจพบเขาเท่านั้นถึงจะสามารถสร้างสถานการณ์นี้ได้
จ้าวจวิ้นโบกสะบัดดาบแสงในมือ เอ่ยยิ้มๆ ว่า “อันที่จริง ตั้งแต่ตอนที่นายตามมา พวกเราก็รู้แล้ว
แววตาของเฉียวถิงเย็นเยียบ คำตอบของจ้าวจวิ้นฟังดูพูดลวกๆ ใส่เขาอย่างชัดเจน ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายไม่มีทางบอกคำตอบที่แท้จริงให้เขาแล้ว “ในเมื่อไม่อยากพูด งั้นก็ช่างเถอะ อาศัยพวกนายสามคน ต่อให้วางกับดับล่อฉันออกมาแล้วทำอะไรได้? จุดจบยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดี พวกนายทั้งหมดจะต้องตายอยู่ที่นี่” เฉียวถิงประกาศคำตัดสินของเขาต่อพวกหลิงเทียนสามคนอย่างเย็นชา สิ้นคำกล่าว เขาก็มาถึงเบื้องหน้าจ้าวจวิ้น ถึงแม้เฉียวถิงจะเชี่ยวชาญการโจมตีระยะไกล แต่ในฐานะที่เขาเป็นนักเรียนของอาจารย์ถังอวี้ ความสามารถด้านการต่อสู้ระยะประชิดของเขาก็ไม่ได้ด้อยเลย
“มาเซ่!” จ้าวจวิ้นเผชิญหน้ากับการโจมตีซึ่งหน้าของเฉียวถิงก็ตะโกนเสียงดัง เขาชูดาบแสงในมือแล้วประจันหน้าเข้าไป เดิมทีจ้าวจวิ้นก็เป็นผู้ควบคุมหุ่นรบด้านต่อสู้ประชิดตัว เขาจึงมีความเชื่อมั่นในความสามารถด้านต่อสู้ระยะประชิดของตัวเองมาก ต่อให้ผู้ควบคุมไพ่ราชาอยู่เหนือกว่าเขาหนึ่งระดับ ขอเพียงพลังงานหุ่นรบเพียงพอ เขาก็ไม่กลัวเหมือนกัน
‘ซี่ ซี่ ซี่…’ ดาบแสงสองเล่มปะทะกันหลายกระบวนท่าในชั่วพริบตา ประกายไฟปลิวว่อนไปทั่วทุกทิศทาง รัศมีแสงที่รุนแรงกระจายออก ทำให้เหล่านักเรียนไม่น้อยที่จ้องเขม็งไปยังการต่อสู้ของทั้งคู่รู้สึกปวดตาอยู่บ้าง ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่ยอมเบนสายตาออก เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าการต่อสู้นี้จะสิ้นสุดลงในวินาทีต่อมาหรือไม่ เนื่องจากคนที่มีสายตาหลักแหลมต่างมองออกว่า หลังจากปะทะไม่กี่กระบวนท่า เฉียวถิงก็จะยึดครองความได้เปรียบในการต่อสู้แล้ว ความห่างชั้นของหุ่นรบกับความสามารถด้านการควบคุมยังคงทำให้จ้าวจวิ้นตกเป็นฝ่ายรองอย่างรวดเร็ว หลังจากที่พลังงานหุ่นรบของจ้าวจวิ้นถูกผลาญอย่างรวดเร็ว ความเสียเปรียบนี้ก็จะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดที่เป็นไปได้ว่าวินาทีถัดมาก็จะถูกเฉียวถิงเอาชนะและส่งออกไปจากสนา…
‘ติ๊ด!’ ออปติคัลคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวมาตลอดพลันส่งเสียงแจ้งเตือนอีกครั้ง เฉียวถิงเผลอเหลือบมองข้อความแจ้งเตือนของระบบแวบหนึ่ง ก่อนจะพบว่าจำนวนลูกทีมของเขาที่ทำเครื่องหมายไว้ลดไปอีกหนึ่งคน เวลานี้ตัวเลขจำนวนคนในหน่วยรบเปลี่ยนเป็นหกคนแล้ว
เฉียวถิงใจกระตุก เขารีบมองไปยังด้านข้างตรงจุดที่ลูกทีมของเขากำลังต่อสู้ การมองไปครั้งนี้กลับทำให้สีหน้าของเฉียวถิงเปลี่ยนไปฉับพลัน
เนื่องจากยามนี้ลูกทีมของเขาล้มลงไปกองกับพื้นแล้ว ดาบแสงเล่มหนึ่งกำลังค่อยๆ ชักออกมาจากในห้องคนขับของลูกทีมเขา คนผู้นั่นไม่ใช่หลิงเทียนหมายเลขสี่ หากแต่เป็นหลิงเทียนหมายเลขห้าที่เคยลอบโจมตีเขา ดูท่าในช่วงเวลาที่เขาประมือกับจ้าวจวิ้นหลายกระบวนท่า หลิงเทียนหมายเลขห้าได้ตัดสินใจกลับไปร่วมมือกับหลิงเทียนหมายเลขสี่…
โทสะเดือดดาลในใจเฉียวถิงพรั่งพรูขึ้นมา หน่วยรบหลิงเทียนตบหน้าเขาติดๆ กันสามทีแล้ว ทำให้เฉียวถิงขุ่นแค้นใจอย่างยิ่งยวด จิตสังหารที่พลุกพล่านในใจทำให้ความเร็วนิ้วมือของเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ไปถึงความเร็วที่ผู้ควบคุมไพ่ราชาควรมีอย่างแท้จริง บางทีเฉียวถิงอาจคิดว่าชัยชนะอยู่ในกำมือมาตลอด ความคิดยังคงดูแคลนอยู่ ดังนั้น เขาเลยไม่ได้แสดงมาตรฐานที่ผู้ควบคุมไพ่ราชาควรมีออกมาจริงๆ นี่ก็คือสาเหตุที่จ้าวจวิ้นสามารถต้านทานได้นานขนาดนี้
ความเร็วของดาบแสงในมือหุ่นรบเฉียวถิงเพิ่มสูงขึ้นอีกหนึ่งระดับตามความเร็วนิ้วในการควบคุมที่เพิ่มขึ้น ฟันใส่จ้าวจวิ้นราวกับพายุฝนโหมกระหน่ำ การโจมตีที่ดุเดือดนี้ทำให้จ้าวจวิ้นรู้สึกกดดันมากขึ้น ได้แต่ตั้งรับอย่างยากลำบาก อยากจะประคับประคองให้ผ่านการโจมตีที่รุนแรงครั้งนี้ไป
เวลานี้บรรดานักเรียนที่ชมการต่อสู้เห็นเพียงดาบแสงผืนหนึ่ง หุ่นรบสีดำของจ้าวจวิ้นตัวนั้นถูกดาบแสงเหล่านี้กลบมิดแล้ว พวกเขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เลยทำได้เพียงเบิกตาโตมองดู รอคอยให้ดาบแสงเหล่านี้หายไป รอคอยผลลัพธ์ที่ปรากฏ
มีเพียงอาจารย์ที่มีสายตาแหลมคมไม่กี่ท่านรวมถึงพวกระดับสูงของโรงเรียนที่เก่งกาจเท่านั้นถึงมองเห็นสถานการณ์ด้านในอย่างชัดเจน ตอนนี้รัศมีแสงซึ่งเป็นตัวแทนของพลังงานบนดาบแสงของจ้าวจวิ้นเปลี่ยนเป็นมืดสลัวอย่างยิ่งแล้ว โล่แสงบนหุ่นรบก็เหลือเพียงแสงชั้นบางๆ หนึ่งชั้นเท่านั้น นี่บ่งบอกว่าพลังงานของหุ่นรบจ้าวจวิ้นกำลังถูกผลาญจนหมดท่ามกลางการโจมตีอย่างบ้าคลั่งของเฉียวถิงแล้ว บางทีขอเพียงผ่านไปอีกสองสามที พลังงานของหุ่นรบจ้าวจวิ้นอาจจะหายไปจนหมดสิ้น เวลานั้นจุดจบที่รอคอยจ้าวจวิ้นย่อมต้องเป็นถูกดาบฟันเสียชีวิตอย่างไร้ความปรานี และพ่ายแพ้ออกจากสนามไป
“อย่างที่คิดไว้จริงๆ ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษเผชิญหน้ากับผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาแล้วไม่มีกำลังให้โต้กลับเลยสักนิดเดียว” ระดับสูงของโรงเรียนทหารหลายคนดูถึงตรงนี้ ในใจก็โล่งอก อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ ตอนแรกที่พวกเขาพบว่าเฉียวถิงถูกคนของหลิงเทียนวางอุบายใส่ ในใจก็หวาดกลัวอยู่นิดๆ ว่าเฉียวถิงจะพลาดในช่วงเวลาสำคัญ ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกังวลเกินเหตุไป ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาจะถูกลูกกระจ้อกตัวเล็กๆ พวกนี้เอาชนะได้อย่างไร