‘ล็อกเป้า’ หมายความว่าหุ่นรบของเหลยถิงหมายเลขเก้าถูกอาวุธระยะไกลของหลิงเทียนหมายเลขเจ็ดล็อกเป้าสั่งตายแล้ว ถ้าเกิดไม่สามารถสลัดพ้นจากการล็อกเป้าของอีกฝ่ายก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะยิงมา หุ่นรบของเหลยถิงหมายเลขเก้าจะต้องโดนยิงอย่างแน่นอน และพลังงานสิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์ที่เหลืออยู่ของหุ่นรบเหลยถิงหมายเลขเก้า ต่อให้เปิดใช้งานโล่แสงหุ่นรบ ก็ไม่เพียงพอที่จะต้านทานการโจมตีระยะไกลสักครั้งของหุ่นรบระดับเดียวกัน
เวลานี้เหลยถิงหมายเลขเก้าถึงค่อยพบว่า เขาติดกับของอีกฝ่ายมาตั้งแต่แรกแล้ว รวมถึงการหลบหนีถอยหลังอย่างบ้าคลั่งของเขาเมื่อสักครู่นี้ด้วย ไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายไม่อยากไล่ตามเขา หากแต่ฝ่ายตรงข้ามคิดไว้นานแล้วว่าจะรับมือเขาอย่างไรในขั้นต่อไป
‘ตูม!’ หลิงเทียนหมายเลขเจ็ดตัวนั้นเหนี่ยวไกอย่างเยือกเย็น ปากกระบอกปืนลำแสงในมือปล่อยพลังงานลำแสงทรงพลังสายหนึ่งยิงมาทางเขา
เหลยถิงหมายเลขเก้าเบิกตาถลน บางทีอาจเป็นเพราะความเดือดดาล มันจึงปรากฏร่องรอยสีแดงฉาน เขาร้องเสียงดังลั่นว่า “หลบซะ!”
การต่อสู้เพิ่มเริ่มต้นขึ้น เขาไม่อยากกลายเป็นคนที่พ่ายแพ้ออกจากสนามคนแรก นอกจากนี้เขายังออกจากสนามภายใต้สถานการณ์ที่โดนอีกฝ่ายกดขี่อย่างยิ่งแบบนี้ เขาทนรับไม่ไหวแล้ว ควรรู้ไว้ว่า ตอนที่เขาเห็นหลิงเทียนหมายเลขเจ็ด เขาคิดว่าตัวเองสามารถจัดการอีกฝ่ายได้อย่างสบายๆ การกระทำของฝ่ายตรงข้ามที่พุ่งเข้ามาอย่างหุนหันพลันแล่นยิ่งทำให้เขารู้สึกขบขัน คิดว่านักรบหุ่นรบชั้นสูงที่อยู่ระดับเดียวกับเขาตัวนี้เป็นคนใจร้อนหุนหัน ผู้ควบคุมหุ่นรบที่สมองทื่อแบบนี้จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างไร?
ใช่แล้ว เขาดูแคลนศัตรูมาตั้งแต่แรกแล้ว เขาผ่อนคลายความระมัดระวัง ดังนั้นถึงไม่ได้ตั้งใจวางแผนการต่อสู้ แค่ตอนที่เขาหลับหูหลับตาทำการโจมตีระยะไกล ถึงขนาดที่หลังจากยิงนัดแรกพลาดเป้า เขาก็แค่คิดว่าเป็นโชคดีของอีกฝ่ายเท่านั้น ไม่ได้ตัดสินใจเว้นระยะห่างทันที นี่คือข้อผิดพลาดใหญ่ที่สุดของเขา ต่อมาการยิงโจมตีติดต่อกันหลายนัดก็ยิ่งเป็นการกระทำที่โง่เง่า และความโง่ของเขาทำให้ฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสเข้าประชิดเขาได้สำเร็จ…สูญเสียความได้เปรียบที่ยึดครองไว้ในตอนแรกไปจนหมดสิ้น พริบตาเดียวก็เปลี่ยนเป็นสถานการณ์อับจน
ในใจเหลยถิงหมายเลขเก้าเสียใจอย่างยิ่งยวด ถ้าเกิดเริ่มใหม่ได้อีกครั้ง เขาไม่มีทางตัดสินใจให้อีกฝ่ายเข้าใกล้แบบนี้เด็ดขาด เพราะว่าเขาเป็นผู้โจมตีระยะไกลนะ….
เสียง ‘ตูม!’ ดังสนั่น ลำแสงที่หลิงเทียนหมายเลขเจ็ดยิงออกมานั้นโดนเหลยถิงหมายเลขเก้าโดยไม่ได้เหนือความคาดหมาย ถึงแม้เหลยถิงหมายเลขเก้าพยายามขบคิดอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ไม่มีโอกาสใดๆ ที่กอบกู้สถานการณ์กลับมาได้เลย หุ่นรบของเขาระเบิดออกในพริบตา กลายเป็นเศษชิ้นส่วนลุกไหม้นับไม่ถ้วนทยอยกระจัดกระจายออกไปทุกทิศทาง
และในตอนที่หุ่นรบของเขาระเบิด เหลยถิงหมายเลขเก้าถูกออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักประกาศการเสียชีวิต และโดนไล่ออกไปจากโลกหุ่นรบ ได้แต่รอจนบทลงโทษการเสียชีวิตผ่านไปแล้ว ถึงจะสามารถล็อกอินเข้าสู่โลกหุ่นรบได้ใหม่ได้ เลือกหุ่นรบตัวใหม่ เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
“เชี่ย ตั้งแต่ที่พบร่องรอยกันเองจนถึงจบการต่อสู้ ใช้เวลาแค่หนึ่งนาทีกว่า? นี่มันเร็วเกินไปแล้วนะ” บรรดานักเรียนทหารที่ชมการต่อสู้อึ้งทึ่ง ควรรู้ไว้ว่าในการต่อสู้ของหุ่นรบระดับเดียวกัน หากยังไม่ถึงสิบนาทีครึ่งชั่วโมงจะไม่มีทางสิ้นสุดลง ถึงอย่างไรความสามารถของทั้งสองต่างเท่ากัน อยากเอาชนะคู่ต่อสู้เป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก
แน่นอนว่า ถ้าเกิดผู้คว้าชัยในการต่อสู้นี้คือเหลยถิงหมายเลขเก้า บางทีพวกเขายังสามารถหาเหตุผลได้นิดหน่อย ถึงอย่างไรก็เป็นนักเรียนใหม่ ไม่มีประสบการณ์ต่อสู้อะไร หากตื่นตระหนกลนลานถูกฆ่าทิ้งในชั่ววินาทีก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ผู้ชนะในครั้งนี้คือกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ ทำให้พวกเขาไม่อาจหาเหตุที่สามารถเกลี้ยกล่อมตัวเองได้
ในขณะที่พวกนักเรียนทหารไม่เข้าใจ แววตาของถังอวี้ที่นั่งชมการประลองอยู่ในห้อง VIP กลับเผยรอยยิ้มออกมา เขามองออกชัดเจนมาก การที่หลิงเทียนหมายเลขเจ็ดสามารถจบการต่อสู้ไวขนาดนี้เป็นเพราะเขาใช้ประโยชน์จากสภาพจิตใจของอีกฝ่ายได้ดีเยี่ยม ควรพูดว่า นับตั้งแต่แรกที่เจอกัน หลิงเทียนหมายเลขเจ็ดก็วางอุบายไว้แล้ว
“การต่อสู้นี้สมบูรณ์แบบมาก” ผู้อำนวยการที่มีประสบการณมากมายย่อมมองความเร้นลับในนั้นออกเช่นกัน สีหน้าอดเผยรอยยิ้มปลื้มปีติยินดีไม่ได้ เขาดีใจมากที่โรงเรียนทหารสามารถปรากฏนักเรียนโดดเด่นเหนือใครทั้งในด้านจิตใจและความสามารถ
“อื้อ แทบควบคุมการตอบโต้ทุกอย่างที่คู่ต่อสู้อาจจะทำออกมาได้หมดเลย หมายเลขเก้าของเหลยถิงตั้งแต่แรกก็ดูถูกศัตรูมาแล้ว แน่นอนว่าการดูแคลนศัตรูนี้ก็มีส่วนที่หลิงเทียนหมายเลขเจ็ดจงใจวางแผนไว้ หลิงเทียนหมายเลขเจ็ดคือผู้ควบคุมหุ่นรบที่มีกลยุทธ์ในการต่อสู้มาก” ถังอวี้เอ่ยพลางแย้มยิ้มเช่นเดียวกัน
เวลานี้เขาตัดสินใจแล้วว่า ไม่ว่าท้ายที่สุดหลิงเทียนหมายเลขเจ็ดสามารถย้ายมาที่ภาควิชาควบคุมหุ่นรบได้หรือไม่ เขาก็จะฝึกฝนอัจฉริยะอายุน้อยผู้นี้ เนื่องจากสไตล์การต่อสู้ของอีกฝ่ายใกล้เคียงกับเขามาก เป็นครั้งแรกที่ในใจถังอวี้มีความคิดอยากรับลูกศิษย์ ใช่แล้ว ถังอวี้ในยามนี้ไม่ได้คิดแค่จะรับหลินจงชิงเป็นนักเรียนเพียงอย่างเดียว หากแต่เขาอยากให้อีกฝ่ายกลายเป็นลูกศิษย์สืบทอดที่แท้จริงของเขา สืบทอดวิชาของเขาต่อไป
“นายจิตใจโอนเอนแล้วจริงๆ” สีหน้าของถังอวี้ทำให้ผู้อำนวยการที่เข้าใจเขาดียิ้มขึ้นมา นับตั้งแต่ที่ถังอวี้ย้ายมาเป็นอาจารย์โรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง ถึงแม้เขาจะรับนักเรียนที่มีพรสวรรค์อย่างยิ่งมากมายนับไม่ถ้วน แต่เขาไม่เคยมีความคิดอยากรับลูกศิษย์สืบทอดที่แท้จริงมาก่อนเลย ทว่าตอนนี้เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายหวั่นไหวแล้ว นี่ทำให้ผู้อำนวยการดีใจมาก ควรรู้เอาไว้ว่า การจะรับลูกศิษย์สืบทอดที่แท้จริงตามใจปรารถนานั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบากสุดขีด ไม่เพียงพรสวรรค์ต้องดี เขายังต้องเข้าตา ถึงขนาดที่ยังต้องมีพรหมลิขิตด้วย
นี่ก็เหมือนกัน ต่อให้ถังอวี้คิดว่าพวกเฉียวถิง หลิงหลาน ฉีหลงเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ระดับปีศาจสุดขีด แต่เพราะไม่มีพรหมลิขิตนั้น เลยไม่ได้สั่นคลอนจิตใจเขาจนอยากรับเป็นลูกศิษย์ที่แท้จริง มีเพียงหลินจงชิงที่ทำให้ถูกใจ จากนั้นก็ทุ่มเทความคิดทันทีว่าอยากรับเข้าสำนัก ตั้งใจอบรมสอนสั่งจนถึงที่สุด
“อืม ฉันอยากมีลูกศิษย์แบบนี้นะ อาจารย์ฉันเองก็คงดีใจแทนฉันเหมือนกัน” คำพูดของผู้อำนวยการทำให้สีหน้าของถังอวี้อบอุ่นมากยิ่งขึ้น ในเมื่อจิตใจโอนเอนแล้วก็ต้องรีบดำเนินการทันที ไม่อย่างนั้นหากชักช้า ลูกศิษย์ที่เขาถูกใจอาจจะโดนคนอื่นแย่งชิงไปได้ ถังอวี้พบว่า การแสดงความสามารถอันยอดเยี่ยมของหลิงเทียนหมายเลขเจ็ดทำให้อาจารย์ไม่น้อยที่นั่งอยู่ที่นี่เผยสีหน้าชื่นชมแล้ว…
“ฮ่าๆ งั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วย” ถังอวี้สามารถรับลูกศิษย์ที่พึงพอใจ ผู้อำนวยการเองก็ดีใจแทนลูกศิษย์ของเพื่อนเก่าเขาคนนี้เหมือนกัน อันที่จริง มีบางช่วงที่ผู้อำนวยการเป็นห่วงถังอวี้มาก กลัวว่าทักษะความรู้ของสำนักเขาจะไร้ผู้สืบทอดเพราะมาตรฐานสายตาของถังอวี้สูงเกินไป ควรรู้เอาไว้ว่า ต่อให้เป็นคนโดดเด่นอย่างเฉียวถิงก็ไม่สามารถทำให้ถังอวี้ใจโอนเอนได้เลย ครั้งหนึ่งผู้อำนวยการถึงขนาดคิดว่า โลกใบนี้อาจจะไม่มีเด็กที่สั่นคลอนจิตใจของถังอวี้ก็ได้ นึกไม่ถึงเลยว่า ผ่านไปไม่กี่ปี ในที่สุดคนที่ได้รับเลือกผู้นี้ก็ปรากฏตัวแล้ว นอกจากนี้ยังโผล่มาอย่างกะทันหันและก็สมเหตุสมผลขนาดนี้ด้วย
หลินเทียนหมายเลขเจ็ดจัดการเหลยถิงหมายเลขเก้าอย่างเรียบง่ายมากท่ามกลางเสียงอุทานตกใจของผู้คน เขาขับหุ่นรบแล่นไปยังทิศทางที่กำหนดไว้ในตอนแรกต่อ ไม่นาน เขาก็มารวมกลุ่มกับสมาชิกทีมอีกสองคนของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียน เมื่อเทียบกับหลินจงชิงที่โชคร้ายแล้ว สมาชิกของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนอีกสองคนราบรื่นมาตลอดทาง ไม่ได้เจอคนของกลุ่มหุ่นรบเหลยถิงเลย หลังจากที่ทั้งสามคนรวมตัวกัน ก็เหมือนปรึกษาหารือกันสักพัก หลังจากที่หยุดพักเตรียมตัวหนึ่งนาที หุ่นรบทั้งสามตัวก็ตั้งเป็นขบวนสามเหลี่ยม เลือกทิศทางหนึ่ง ก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็ว
การรวมกลุ่มอย่างจงใจเช่นนี้ของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนก็ปรากฏขึ้นในสถานที่อื่นเช่นกัน เนื่องจากการปฏิบัติการของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียน จึงมีโอกาสพบเจอกับหุ่นรบของเหลยถิง ภายในเวลาสิบนาทีต่อมา การต่อสู้ระหว่างหลิงเทียนกับเหลยถิงจึงปะทุขึ้นมากมายบนแผนที่ทะเลทรายและโอเอซิสแห่งนี้
ทั้งสองทีมต่างมีความสูญเสีย แต่โดยรวมแล้ว ความสูญเสียของเหลยถิงมากกว่าเล็กน้อย พวกเขาเสียสมาชิกไปห้าคนในการต่อสู้เหล่านี้ ส่วนหลิงเทียนเสียลูกทีมไปเพียงสามคนเท่านั้น
“ไม่นึกเลยว่า การต่อสู้เพิ่งเริ่มก็ดุเดือดขนาดนี้แล้ว” พวกนักเรียนทหารที่ชมการประลองเริ่มเลือดเดือดพล่านขึ้นมา นักเรียนจำนวนมากที่เดิมทีชื่นชอบกลุ่มหุ่นรบเหลยถิง เวลานี้พวกเขาก็เกิดความรู้สึกดีๆ ต่อกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนขึ้นเช่นกัน ถึงขนาดที่มีคนมากมายเปลี่ยนความคิด หวังอย่างรางเลือนว่าผู้ได้รับชัยชนะในการประลองนี้จะเป็นกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียน
แน่นอนว่า พวกเขารู้ว่านี่เป็นเพียงความเพ้อฝัน เหลยถิงที่ครอบครองผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาเฉียวถิง ต่อให้การต่อสู้เหลือแค่เฉียวถิงคนเดียว อาศัยความสามารถของเฉียวถิงก็สามารถพลิกสถานการณ์การรบได้ หลิงเทียนยังไม่มีคนที่สามารถต้านทานเฉียวถิงได้ ต่อให้พวกเขามีผู้ควบคุมระดับพิเศษสามคนก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์นี้
ภายใต้สถานการณ์ที่รู้อยู่แก่ใจว่าเหลยถิงจะชนะ แต่กลับทำให้นักเรียนทหารที่ชมการต่อสู้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงขนาดนี้ภายในสิบนาที? นี่เป็นเพราะภายในการต่อสู้สิบนาทีมานี้ ผลงานที่แสดงของสมาชิกกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนยอดเยี่ยมโดนเด่นกว่าสมาชิกของเหลยถิง สมาชิกทีมสามคนของพวกเขาที่พ่ายแพ้ออกจากสนามไปนั้น จิตวิญญาณไม่ยอมศิโรราบของพวกเขาทำให้พวกนักเรียนทหารที่ชมการต่อสู้ยอมรับจากใจจริง
สมาชิกที่ ‘พลีชีพ’ สามคนนี้ ความจริงแล้วพูดไม่ได้ว่าเป็นผู้พ่ายแพ้ เนื่องจากลูกทีมสองคนในนั้นได้ล้มคู่ต่อสู้โดยลากอีกฝ่ายให้ตายตกตามกันในตอนที่พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ ไม่ให้เหลยถิงยึดครองความได้เปรียบเล็กๆ น้อยๆ และคนที่ทำให้ผู้คนตกตะลึงยิ่งกว่านั้นคือ สมาชิกคนที่สาม คนที่มีสายตาหลักแหลมต่างมองออกว่า ถึงแม้เขาเป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูง แต่เขาเป็นคนที่มีความสามารถอ่อนด้อยที่สุดในหมู่ทั้งยี่สิบสี่คนในการประลองนี้ และเขาก็โชคร้ายมาก ลูกทีมของเหลยถิงที่เขาเจอคือ คนที่แข็งแกร่งเป็นอันดับห้าในหมู่สิบสองคนบนสนามประลองซึ่งมีประสบการณ์มากมาย ความสามารถของพวกเขาสองคนห่างชั้นกันมากเกินไป ดังนั้นทุกคนเลยคิดว่า คนของกลุ่มหุ่นรบเหลยถิงจะต้องเอาชนะลูกทีมคนนี้ได้อย่างง่ายดาย
ทว่าภายใต้สถานการณ์ที่เสียเปรียบสิ้นหวังเช่นนี้ เขากลับต่อสู้กับศัตรูจนฝ่ายนั้นเสียหายไปครึ่งหนึ่ง ถึงแม้ในที่สุดเขาจะพ่ายแพ้ ไม่สามารถลากลูกทีมของเหลยถิงคนนั้นออกไปจากสนามได้ แต่บรรดานักเรียนทหารที่ชมการต่อสู้ต่างรู้ดีว่า อีกฝ่ายไม่มีโอกาสที่จะสู้ต่อแล้ว หุ่นรบที่เสียหายไปครึ่งหนึ่ง ขอเพียงสมาชิกทีมคนใดก็ได้ของหลิงเทียนอยู่ที่นี่ก็สามารถทำลายอีกฝ่ายได้สบายๆ พูดอีกอย่างก็คือ ถึงแม้ในตัวเลขข้อมูลของเหลยถิงสูญเสียไปเพียงห้าคน แต่ความจริงแล้ว พวกเขาสูญเสียไปหกคน คนที่รอดชีวิตอยู่ในสนามรบคนนั้น อันที่จริงเป็นเพียงยึดโควตาหนึ่งที่เท่านั้น ไม่อาจกระทำการใดๆ ที่ส่งผลต่อทีมตัวเองได้แล้ว ถึงขนาดที่อาจจะกลายเป็นภาระทีมเสียด้วยซ้ำ
“คนของหลิงเทียนอำมหิตเกินไปแล้ว” บรรดานักเรียนทหารที่ชมการต่อสู้ตื่นเต้นในขณะเดียวกันก็หวาดกลัวสุดขีดต่อการที่หลิงเทียนใช้วิธีต่อให้ตายก็ต้องลากอีกฝ่ายลงม้าแบบนี้ ในสนามรบสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือเจอคู่ต่อสู้แบบนี้ ต่อให้ความสามารถสูงกว่าอีกฝ่ายเล็กน้อย ก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะเอาชนะได้แน่นอน
ขณะเดียวกันเมื่อเฉียวถิงหัวหน้าทีมเหลยถิงเข้าสู่แผนที่ เขาก็สังเกตสภาพภูมิประเทศรอบด้านเหมือนกับหลิงหลาน เมื่อพบว่าเป็นทะเลทรายกับทุ่งหญ้าที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ในใจพลันยินดี เขารู้ดีว่า แผนที่นี้เป็นประโยชน์ต่อพวกเขาที่เป็นนักเรียนเก่ามาก พูดได้ว่าพวกเขาเคยสัมผัสแผนที่นี้หลายครั้งแล้ว โดยพื้นฐานแล้ว พวกเขารู้ดีว่าสถานที่ใดมีกับดัก สถานที่ใดจะเกิดเหตุการณ์กะทันหัน สถานที่ใดสามารถซ่อนตัวได้…นี่ทำให้เขามีความมั่นใจต่อชัยชนะในการประลองครั้งนี้มากยิ่งขึ้น
ทว่าอารมณ์ดีๆ ของเขาก็ถูกขัดอย่างรวดเร็ว เนื่องจากหนึ่งนาทีให้หลัง เขาก็เห็นข้อความแจ้งเตือนที่ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักส่งมาว่า กลุ่มหุ่นรบเหลยถิงเสียสมาชิกทีมไปหนึ่งคน จำนวนคนเปลี่ยนจาก 12 คนมาเป็น 11 คน