แม้ว่าผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันที่ขับหุ่นรบเว้นระยะห่างจากหลิงเซียวได้ช่วงหนึ่งแล้วจะหลบกระบวนท่าสังหารพ้น แต่มันก็ทำให้เขาตึงเครียดจนศีรษะเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ เมื่อสักครู่นี้เขานึกว่าตัวเองจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแล้ว ความเร็วของหลิงเซียวไวมากเกินไป เขาตามจังหวะของอีกฝ่ายไม่ทัน ท่ามกลางสภาพอับจนของความเป็นความตายเช่นนี้ พลังจิตที่ถูกกักไว้มาตลอดของเขาก็ทะลวงขีดจำกัดราวกับปาฏิหาริย์ ทำให้เขาเพิ่มความเร็วของหุ่นรบได้หลายเท่าตัวในช่วงเวลาที่กำลังจะโดนฟัน จนหลบกระบวนท่าถึงตายนั้นได้อย่างหวุดหวิด
อย่างไรก็ตาม เขายังคงช้าไปเล็กน้อย ถึงแม้จะหลบจุดสำคัญพ้น แต่ก็ไม่สามารถหลบได้หมด ท้ายที่สุดเขาก็สูญเสียแขนซ้ายของหุ่นรบไปข้างหนึ่ง ทว่าผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันพอใจมากแล้ว ถึงอย่างไรเขาก็เอาชีวิตรอดจากการโจมตีของผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะมาได้
แต่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันไม่ได้คิดว่าตนเองจะมีความสามารถต่อกรกับผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะได้เพราะว่าพลังจิตทะลวงขีดจำกัด ต่อให้เขาทะลวงขีดจำกัดของพลังจิตได้สำเร็จ ความสามารถในการควบคุมเพิ่มขึ้นมาอีกขั้น สามารถสำแดงความสามารถด้านต่างๆ ของหุ่นรบระดับราชันออกมาได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ความจริงแล้ว เขายังคงเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันอยู่ดี ไม่ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะ และต่อให้ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันเก่งกาจอีกสักเพียงใด เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะ…
ด้วยเหตุนี้ในสมองของเขาจึงมีเพียงคำเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ ‘หนี’! มีเพียงหลบหนีพ้นจากเงื้อมมือของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันเท่านั้น เขาก็ยังมีอนาคตให้พูดถึงได้ การเลื่อนขั้นความสามารถโดยไม่คาดฝันทำให้เขาหวงแหนโอกาสเอาชีวิตรอดมาก...
แน่นอนว่า ความคิดเหล่านี้ผุดขึ้นมาในสมองของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันแค่แวบเดียวเท่านั้น ในสายตาของผู้คน หลังจากที่หุ่นรบระดับราชันถูกหลิงเซียวฟันแขนอย่างแม่นยำเฉียบขาด หุ่นรบระดับราชันตัวนั้นก็ตัดสินใจหันกายในพริบตา บินทะยานหลบหนีออกจากที่นี่อย่างรวดเร็วสุดขีด หุ่นรบระดับราชันดูเหมือนปรารถนาจะหลบหนีอย่างแรงกล้า เร่งเครื่องยนต์ไอพ่นทั้งหมด หุ่นรบปรากฏเป็นลำแสงสายหนึ่ง พริบตาเดียวก็หนีออกไปได้หนึ่งพันเมตรแล้ว
ท่าทีหนีหัวซุกหัวซุนของหุ่นรบระดับราชันทำให้ทีมของหลิงหลานรวมถึงคนของเฉียวถิงตกตะลึงอย่างหาใดเปรียบ คิดดูสิไม่นานมานี้ ตอนที่หลิงเซียวยังไม่มา ท่าทีของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันที่มีต่อพวกเขาเย่อหยิ่งระดับไหน เหมือนกับว่าพวกเขาเป็นแค่ฝูงมดที่เขาเด็ดชีวิตได้ตามใจชอบ ไม่นึกเลยว่าหุ่นรบระดับที่ทำให้พวกเขาหวั่นกลัวในตอนนั้น พอเจอนายพลหลิงเซียวจะแสดงท่าทีสุดจะรับได้ขนาดนี้ แค่รอบเดียวก็ตัดสินใจหนีเตลิดแล้ว
ทุกคนมองไปยังหุ่นรบของหลิงเซียวที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรลอยอยู่บนฟ้าตัวนั้นด้วยสีหน้ากระตือรือร้น เมื่อไหร่พวกเขาสามารถไปถึงระดับของนายพลหลิงเซียว แค่พบหน้าก็ทำให้ศัตรูตกใจกลัวได้?
อารมณ์ของเฉียวถิงตื่นเต้นมาก เขาอดกำหมัดตัวเองหนักๆ ไม่ได้ เขาถูกเรียกว่าหลิงเซียวคนที่สองมาตลอด อนาคตจะกลายเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะคนที่สิบสามของสหพันธรัฐได้เหมือนกับนายพลหลิงเซียวหรือเปล่า?
“ฉันจะต้องทำสำเร็จให้ได้!” เฉียวถิงลอบกล่าวกับตัวเอง ร่องรอยปณิธานพาดผ่านในแววตาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นหุ่นรบระดับราชันตัดสินใจหลบหนีในตอนสุดท้าย หลิงเซียวก็อดแค่นหัวเราะไม่ได้ แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา ถ้าหากมีคนเห็นสีหน้าของหลิงเซียวในตอนนี้ละก็ พวกเขาคงจะตกตะลึงมากแน่ๆ ที่แท้นายพลหลิงเซียวที่อ่อนโยนมาตลอดก็มีจิตสังหารที่น่ากลัวแบบนี้ด้วยเหมือนกัน หลิงเซียวไม่ใช่พ่อพระ เมื่อดาบเพชฌฆาตของอีกฝ่ายคุกคามชีวิตลูกสาวสุดที่รักของเขา หลิงเซียวก็ไม่คิดจะให้เขาหนีรอดไปได้
จากนั้นก็เห็นอากาศข้างกายหุ่นรบของหลิงเซียวบิดเบี้ยวอีกครั้ง หุ่นรบยักษ์หายตัวไปอย่างลึกลับจากในคลองสายตาของผู้คน ขณะที่ทุกคนตกตะลึงนั้น หุ่นรบของหลิงเซียวมาถึงจุดที่ห่างออกไปหลายพันเมตรแล้ว ก่อนจะขวางอยู่บนเส้นทางหลบหนีของหุ่นรบระดับราชันโดยตรง
หุ่นรบระดับราชันที่เปิดเครื่องยนต์ไอพ่นเต็มพิกัด ความเร็วของมันจึงไปถึงความเร็วสูงสุดของหุ่นรบระดับราชันแล้ว สามวินาทีให้หลัง หุ่นรบก็ออกห่างจากจุดที่หลิงเซียวอยู่หลายพันเมตร ในหน้าจอของหุ่นรบไม่ปรากฏร่องรอยหุ่นรบมหึมาของหลิงเซียวไล่ตามมาเลย ยามนี้ความรู้สึกเคร่งเครียดตื่นตระหนกของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันค่อยสงบลงในที่สุด นี่หมายความว่าเขาหนีพ้นจากขุมนรกแล้วใช่หรือเปล่า?
อย่างไรก็ตาม ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันไม่คิดว่าเขาจะปลอดภัยอย่างแท้จริงหากยังไม่ได้ออกไปจากดาวซินสิง ระบบวายุเทพของหุ่นรบขั้นเทวะคือตัวตนที่แหกกฎฟ้า ถ้าเกิดหนีไปไกลไม่พอก็จะถูกหุ่นรบขั้นเทวะใช้ระบบวายุเทพไล่ตามมาได้อย่างง่ายดาย
ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันไม่ได้ผ่อนความเร็วลงเลย ตรงกันข้าม เขาเร่งเครื่องยนต์ไอพ่นเพิ่มขึ้นอีกอย่างสุดชีวิตเพื่อแล่นไปข้างหน้าด้วยความไวสุดขีด เวลาเดียวกันก็ไม่ลืมส่งข้อความฉุกเฉินไปให้เพื่อนของเขาซึ่งเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันอีกคนที่อยู่ในเขตที่พัก บอกอีกฝ่ายว่าหลิงเซียวมาแล้ว รีบถอนทัพ ไม่ต้องไปสนใจทหารพันธมิตรพวกนั้น ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันรู้ดีว่า การปรากฏตัวของผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะหมายความว่าการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเขาเป็นฝ่ายแพ้แน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย เชื่อว่ากองบัญชาการใหญ่ของจักรวรรดิจะเห็นด้วยกับการตัดสินใจของพวกเขาเหมือนกัน ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาพันคนหมื่นคนยังสำคัญสู้ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันอย่างพวกเขาสักคนไม่ได้
ยามนี้ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันผู้นี้ไม่รู้เลยว่า เพื่อนของเขาเสียชีวิตในน้ำมือของหลิงเซียวไปแล้ว และอีกฝ่ายไม่สามารถได้รับข้อความนี้ของเขาไปตลอดกาล
เวลานี้เอง อากาศด้านหน้าหุ่นรบระดับราชันบิดเบี้ยวขึ้นมาฉับพลัน ทันใดนั้นหุ่นรบขนาดมหึมาตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นบนเส้นทางบินของเขา ฝ่ายตรงข้ามโผล่ออกมากะทันหันมากเกินไป และความเร็วของหุ่นรบระดับราชันอยู่ในสภาวะความเร็วสูงสุด มีระยะห่างแค่หลายสิบเมตรเท่านั้น ไม่เพียงพอให้ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันทำการบังคับปรับเปลี่ยนเส้นทางการบิน เขาได้แต่เบิกตามองหุ่นรบของตัวเองชนไปที่หุ่นรบของหลิงเซียวทันที
“บัดซบ!” หุ่นรบระดับราชันรู้ว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงการชนได้แล้ว แววตาของเขาฉายแววอำมหิต เปิดใช้งานโล่แสงหุ่นรบจนค่าป้องกันถึงขีดสุดฉับพลัน เครื่องยนต์ไอพ่นไม่เพียงไม่ลดกำลังลง หากแต่เร่งเครื่องมากขึ้นอีก ความเร็วของหุ่นรบพุ่งทะยานขึ้นอีกระดับ ชนไปที่หลิงเซียวประหนึ่งลูกปืนใหญ่เหล็กอันน่าสะพรึงกลัวก็ไม่ปาน
ในช่วงเวลาสุดท้าย สภาพอับจนสิ้นหวังทำให้หุ่นรบระดับราชันตัดสินใจให้พวกเขาบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย ต่อให้เขาตายก็จะลากหลิงเซียวให้ตายไปด้วย
การตัดสินใจของอีกฝ่ายทำให้แววตาของหลิงเซียวผุดร่องรอยเยาะหยันเท่านั้น เขาไม่ได้หลบ เพียงแต่สั่งการอย่างใจเย็นว่า “ระบบโล่เทวะ!”
Belief รับคำสั่ง เปิดใช้งานระบบโล่เทวะในพริบตา หุ่นรบที่เดิมทีดูสวยงามพราวพร่างมากพลันปรากฏรัศมีแสงสีฟ้าอ่อนทั่วทั้งร่างหนึ่งชั้น ส่องประกายทั่วท้องฟ้ายามราตรีที่มืดมิดทันใด…
เสียง ‘ตูม’ ดังสนั่น หุ่นรบสองตัวชนกันอย่างหนักหน่วง! แรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงที่เกิดจากการกระแทกกันในครั้งนี้ ต่อให้เป็นพวกหลิงหลานกับเฉียวถิงที่อยู่ห่างออกไปหลายพันเมตรก็สัมผัสได้อย่างล้ำลึก บนหน้าจอหุ่นรบของพวกเขาฉายเหตุการณ์การชนกันของหุ่นรบสองตัวตามความเป็นจริง ถึงแม้ความเร็วของพวกเขาเทียบกับหุ่นรบระดับราชันหรือหุ่นรบขั้นเทวะไม่ได้ แต่ฟังก์ชั่นค้นหาของภาพหน้าจอยังคงยอดเยี่ยมสุดขีด ถ่ายฉากที่น่าขวัญผวานี้ได้อย่างแม่นยำ
ฉากนี้ทำให้ทุกคนสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างยิ่งยวด ถึงแม้ในใจรู้ว่านายพลหลิงเซียวไม่มีทางเกิดเรื่อง แต่พวกเขายังคงอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า นายพลหลิงเซียวจะได้รับบาดเจ็บจากการโดนชนที่น่าสะพรึงกลัวนี้หรือเปล่า
บางทีพระเจ้าอาจจะยังอยากทดสอบบรรดานักเรียนทหารเหล่านี้ ความกังวลใจของพวกเขายังไม่ทันผ่านพ้นไป หุ่นรบระดับราชันตัวนั้นก็ระเบิดฉับพลัน ตูมๆๆ เสียงระเบิดตัวเองดังติดต่อกันหลายครั้ง เปลี่ยนแผ่นฟ้าเป็นควันโขมงทันที พวกหลิงหลานมองเห็นเพียงลูกไฟลุกโชนนับไม่ถ้วนท่ามกลางควันตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะอัดลงบนพื้นอย่างหนักหน่วง
ลูกไฟบางลูกชนตรงเข้าไปในพงหญ้าแห้งบนพื้น ไม่นานผืนดินก็ลุกไหม้ขึ้นมา ค่อยๆ เปลี่ยนจากเปลวไฟกลุ่มเล็กๆ ในตอนแรกมาเป็นเพลิงไหม้ควันโขมงที่ลุกลามใหญ่โต ท้ายที่สุดก็แผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว…
เวลานี้ไม่มีใครสนใจสถานการณ์บนพื้นเลย พวกหลิงหลานจ้องมองท้องฟ้าอย่างเคร่งเครียดมาก หลังจากที่รอควันหนาจากการระเบิดตัวเองของหุ่นรบระดับราชันตัวนั้นค่อยๆ กระจายหายไป ในที่สุดหุ่นรบ Belief มหึมาของนายพลหลิงเซียวตัวนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าทุกคนอีกครั้ง หุ่นรบลอยนิ่งอยู่กลางอากาศอย่างมั่นคง รัศมีแสงสีฟ้าที่ส่องประกายบนเปลือกนอกของหุ่นรบไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิดเดียว ปีกสิบสองข้างด้านหลังยังคงแพรวพราวสะดุดตาเหมือนในตอนแรก
ทุกอย่างนี้ยืนยันว่าการชนและพลังงานระเบิดตัวเองของหุ่นรบระดับราชันไม่เพียงพอที่จะนำความเสียหายอะไรมาให้หุ่นรบขั้นเทวะเลย ทุกคนเห็นฉากนี้ก็อดตกใจจนพูดไม่ออกไม่ได้ สมกับเป็นอาวุธสุดยอดที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกมนุษย์จริงๆ เมื่ออยู่ต่อหน้ามันแล้ว หุ่นรบระดับราชันที่ด้อยกว่ามันหนึ่งระดับก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น
“นี่ก็คือหุ่นรบขั้นเทวะ!” ดวงตาของทุกคนจ้องมองหุ่นรบขั้นเทวะตัวนี้อย่างเร่าร้อน สุดท้ายการทอดถอนใจทั้งหมดก็เปลี่ยนเป็นคำพูดประโยคนี้เท่านั้น ความน่ากลัวของ Belief สะท้อนอยู่ในใจพวกเขาอย่างล้ำลึก มันกลายเป็นเป้าหมายที่พวกเขาแสวงหาไปชั่วชีวิต
ไม่นาน หลิงเซียวก็ขับหุ่นรบกลับมาตรงที่หลิงหลานอีกครั้ง เขาร่อนลงพื้นช้าๆ ทอดมองลงมายังหุ่นรบที่ลูกสาวตัวเองขับ ในใจรู้สึกเจ็บปวดอยู่รางๆ
ยามนี้เปลือกนอกของหุ่นรบไพ่ราชาที่หลิงหลานขับเต็มไปด้วยร่องรอยความเสียหาย บาดแผลเหล่านี้ยืนยันว่าลูกสาวสุดที่รักของเขาผ่านการต่อสู้มากมายในช่วงเวลานี้ ลูกสาวสุดที่รักที่เดิมทีควรเติบโตตามอำเภอใจใต้ปีกของเขาอยู่ห่างไกลจากการสู้รบ จำเป็นต้องทำตัวเหมือนผู้ชายอาศัยความสามารถของตัวเองหาโอกาสรอดชีวิตในสนามรบที่โหดร้ายเพราะว่าเขาเป็นต้นเหตุ…
ทั้งหมดเป็นเพราะเขาคนนี้ที่ไร้ความสามารถในการเป็นพ่อ ถ้าเกิดสิบหกปีก่อนเขาไม่ได้ตกหลุมพราง ลูกสาวสุดที่รักของเขาก็คงไม่ต้องใช้ชีวิตที่ยากลำบากแสนเข็ญแบบนี้ เป็นครั้งแรกที่ในใจหลิงเซียวรู้สึกว่าตัวเองทำพลาดไปแล้ว เขาถึงขนาดนึกถึงตอนที่เขารีบมาที่นี่ แต่กลับได้รับข้อความจากลูกสาวว่าโชคร้ายประสบเภทภัย…หลิงเซียวอดตัวสั่นยะเยือกไม่ได้ เขาไม่มีทางให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นเขาไม่อาจให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิต
“นายพลหลิงเซียว ผมดีใจมากที่ได้เจอคุณ!” การเงียบไปของหลิงเซียวทำให้ในใจหลิงหลานรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง กอปรกับเธอเองก็ไม่อยากแสดงความรู้จักกันอย่างลึกซึ้งแบบพ่อลูกกับหลิงเซียวในสนามรบที่โหดเหี้ยม ดังนั้นเลยเอ่ยปากขึ้นก่อน
“นายพลหลิงเซียว?!” คำเรียกขานของหลิงหลานทำให้การตำหนิตัวเองในส่วนลึกของจิตใจหลิงเซียวหายไปจนหมดทันที เขารู้สึกว่าฟันตัวเองปวดเล็กน้อย อยากหาของอะไรบางอย่างลับฟันเหลือเกิน…นี่เขาบุกตะลุยมานับหมื่นลี้เพื่อได้รับแค่คำเรียกขานว่า ‘นายพลหลิง’ จากลูกสาวตัวเองเท่านั้นเหรอ? ลูกสาวอกตัญญูนี่!
เรียกฉันว่าพ่อสักคำมันยากขนาดนั้นจริงๆ หรือไง? หลิงเซียวข่มกลั้นประโยคคำถามที่กำลังพุ่งพรวดออกมาจากปากนี้อย่างยากลำบาก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นคำถามที่แข็งสุดขีดว่า “อืม ยังสู้ต่อได้หรือเปล่า?” เขาไม่อาจแข็งใจฝืนบีบบังคับลูกสาวของตัวเอง อย่างไรเสียเขาก็ทำผิดต่อลูกสาวตัวเอง หายตัวไปจากช่วงเวลาเติบโตของเธอสิบหกปีเต็มๆ เวลาในอนาคตยังยาวไกล ต้องมีสักวันที่เขาจะทำให้ลูกสาวสุดที่รักของตัวเองเรียกเขาว่าพ่อด้วยความเต็มใจ! หลิงเซียวสาบานอย่างเงียบงัน
“แน่นอนครับ!” คำถามของหลิงเซียวทำให้หลิงหลานถอนหายใจด้วยความโล่งอกเฮือกหนึ่ง เธอกลัวจริงๆ ว่าหลิงเซียวจะไม่พอใจคำเรียกขานของเธอ และเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา…เอาเถอะ หลิงหลานยังปรับตัวเข้ากับบิดาที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ไม่ค่อยได้ บางครั้งบิดาเก่งกาจเกินไปก็สร้างแรงกดดันให้ลูกมากมายเช่นกัน