เมื่อโจวเหวินกลับมาที่บ้านของหวางลู่ ชุดอวกาศ 110 ชุดก็ถูกส่งออกไปเรียบร้อย
“โจวเหวิน คุณมาแล้ว” หวางฉานมีความสุขมากที่ได้พบโจวเหวิน เห็นได้ชัดว่าเธออารมณ์ดีกว่าเมื่อก่อน
แม้ว่าเธอจะยังได้รับผลกระทบจากความโชคร้ายของพลังชีวิต แต่อารมณ์ของเธอก็ไม่ได้แย่เหมือนเมื่อก่อน
“หนูได้ยินพวกเขาบอกว่าคุณซื้อชุดอวกาศเหล่านี้ ทำไมคุณซื้อเยอะจัง ต้องการไปดวงจันทร์เหรอ?” หวางฉานถามด้วยความสงสัย
“ถูกตัอง ฉันอยากไปดวงจันทร์เพื่อดูว่ามีกระต่ายดวงจันทร์ในตำนานหรือฉางเอ๋อ*จริงไหม” โจวเหวินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
*เป็นเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ตามความเชื่อปรัมปราของจีน โดยที่นางประทับเฉพาะแต่บนดวงจันทร์เท่านั้น
“โธ่ พวกนี้ล้วนเป็นเรื่องหลอกเด็ก ไม่มีกระต่ายดวงจันทร์หรือฉางเอ๋อ แม้ว่าจะมี พวกมันก็เป็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติ” หวางฉานกล่าวพร้อมกับทำหน้าบึ้ง
“จะดีกว่าถ้าพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติ บางทีฉันอาจจะเอาสัตว์อสูรฉางเอ๋อมาด้วยก็ได้” โจวเหวินกล่าว
“คุณคือปีศาจหมูจากไซอิ๋วเหรอ” หวางฉานกล่าวด้วยดวงตาเบิกกว้าง
“ทำไมฉันถึงเป็นปีศาจหมู” โจวเหวินถามแบบเล่นด้วย
“ถ้าคุณไม่ใช่ปีศาจหมู ทำไมคุณถึงมีความคิดแบบนั้นละ” หวางฉานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ขณะที่หวางลู่และคนอื่นๆ อยู่ใกล้ๆ โจวเหวินบอกพวกเขาเกี่ยวกับตอนที่เขาอยู่ที่สำนักงานควบคุมพิเศษ
อันที่จริง หลี่ซวนและคนอื่นๆ ได้รู้เรื่องต่างๆจากถังซือซ่งมาบ้าง อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนท้าย
“เชินหยูฉีเป็นคนที่น่ากลัวมาก คุณยายของฉันเคยประเมินเขาและบอกว่าเขาเป็นเหมือนเต่าชรา” หวางลู่กล่าว
หลี่ซวนรู้สึกประหลาดใจ “ทำไมเขาถึงถูกเรียกว่าเต่าชรา? เป็นไปได้ไหมที่เขารู้วิธีหดตัว(ประมาณ อ่อนข้อให้ ยอมคนอื่น)”
หวางลู่กล่าว “เต่าอาจดูโง่และดูเหมือนจะไม่คุกคาม อย่างไรก็ตาม เมื่อเต่าโจมตีจริงๆ มันเร็วจนน่าตกใจ ยิ่งกว่านั้น ตราบใดที่มันกัด มันจะไม่ปล่อยไปอย่างแน่นอน เชินหยูฉีก็เหมือนกัน ปกติเขาไม่เปิดเผยข้อผิดพลาดอะไรๆ และเขาก็ดูปกติ เมื่อไม่ลงมือ เมื่อเขาลงมือ เขาจะนำความหายนะมาสู่เหยื่ออย่างแน่นอน หากบุคคลดังกล่าวเกิดในหกตระกูล สถานะของเขาจะไม่เหมือนเดิม
แม้จะมีพื้นหลังทั่วไป แต่ตอนนี้เขาก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในรับาล ด้วยเหตุนี้เราสามารถบอกได้ว่าเขาน่ากลัวแค่ไหน”
“คราวนี้นายทำให้สำนักงานอับอายต่อหน้าทุกคน แต่เขาก็ยังเจรจาต่อรองกับนายอย่างใจเย็น ฉันมีความรู้สึกว่าเขาจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ไปง่ายๆ”
“ถูกตัอง สำนักงานนั้นไม่มีอะไรดี เชินหยูฉีน่าจะพานายไปที่ดวงจันทร์เพื่อใช้นายกำจัดสิ่งมีชีวิตต่างมิติที่นั่นก่อนที่จะคิดหาวิธีจัดการกับนาน แม้ว่าสัตว์อสูรของนายจะทรงพลัง แต่ก็ง่ายมากสำหรับที่จะเกิดอะไรขึ้นขึ้นกับนายบนดวงจันทร์ ฉันคิดว่ามันดีกว่าที่จะไม่ไป” หลี่ซวนกล่าว
“อันที่จริง แม้ว่าเชินหยูฉีจะไม่ได้เชิญฉัน ฉันก็ยังอยากไปที่ดวงจันทร์ ฉันมีวิญญาณชีวิตที่อยู่ระดับพัฒนา ฉันอาจจะทำให้มันสมบูรณ์ด้วยการเดินทางไปดวงจันทร์ ฉันยอมรับคำขอของเชินหยูฉีเพราะฉันต้องการใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ นอกจากนี้หากมีดอกออสมันตัสอยู่จริงก็จะเป็นประโยชน์กับฉันมาก ฉันไม่อยากพลาดโอกาสนี้” โจวเหวินกล่าว
เดิมทีเขาวางแผนที่จะใช้ความสามารถในการเคลื่อนย้ายระหว่างดวงดาวเพื่อไปยังดวงจันทร์ที่อยู่ไม่ไกล อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ เขาต้องเตรียมพร้อมที่จะอยู่บนดวงจันทร์เพียงลำพังเป็นเวลาหนึ่งเดือน
ตอนนี้ เชินหยูฉีเชิญเขาแล้ว เขาสามารถไปที่นั้นผ่านจรวดได้ ถ้าเชินหยูฉีต้องการจัดการกับเขาจริงๆ เขาสามารถใช้การเคลื่อนย้ายระหว่างดวงดาวของธุลีดาว เพื่อเคลื่อนย้ายกลับไปยังโลกได้โดยตรง
นอกจากนี้ เขายังมีพลังที่แข็งแกร่ง หากเชินหยูฉีวางแผนจัดการเขาจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าในท้ายที่สุดแล้วใครจะเป็นฝ่ายทรมาน
“นี้เป็นความจริง แค่คิดว่ามีกลีบดอกไม้ที่สามารถพัฒนาสัตว์อสูรได้โดยตรง นั่นน่าตกใจเกินไป” หลี่ซวนกล่าวเสริม
“ในเวลานี้ นายต้องระวังเชินหยูฉี นายต้องไม่เชื่อใจเขาง่ายๆ” หวางลู่เตือนเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
“เข้าใจแล้ว ฉันจะฝากหยาเอ๋อไว้ให้พวกเธอดูแลเธอในขณะที่ฉันไม่อยู่ เธอค่อนข้างเก็บตัวและสื่อสารกับคนอื่นไม่เก่ง ถ้าเธอทำให้ใครขุ่นเคืองอย่าคิดมากที่จะใช้ตัวตนของฉัน” โจวเหวินไม่กลัวว่าตระกูลหวางจะรังแกเธอ แต่เขากลัวว่าตระกูลหวางจะโกรธหยาเอ๋อและส่งผลให้เธอทำลายล้างพวกเขา
“อย่ากังวล หนูจะดูแลหยาเอ๋อเหมือนเธอเป็นน้องสาวแท้ๆของหนู” หวางฉานตบหัวหยาเอ๋อเหมือนพี่สาวคนโต
“โจวเหวิน ให้ฉันไปกับนาย นายไม่คุ้นเคยกับดวงจันทร์เส็งเคร็ง จะดีกว่าถ้ามีคนคอยระวังหลัง” หลี่ซวนกล่าว
“เป็นการดีที่สุดที่นายจะไม่ไป สถานที่นั้นแตกต่างจากโลก หากมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ ตราบใดที่นายไม่ตาย ก็ยังมีหวัง ถ้าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น ซึ่งไม่มีออกซเจน แม้ว่านายจะมีร่างกายอมตะ ก็คงจะยากสำหรับนายที่จะมีชีวิตอยู่ใช่ไหม” โจวเหวินกล่าว
“ฉันไม่เคยลองมาก่อน…” หลี่ซวนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินคนจากตระกูลหวางตะโกนที่สนาม
“ป้าสาม เกิดอะไรขึ้น” หวางลู่ออกไปและหยุดผู้หญิงคนหนึ่ง
“มีคนท้าทายยาซึ่งเป็นอันดับหนึ่งในการจัดอันดับ ทุกคนรีบไปที่ลูกบาศก์เพื่อดูการต่อสู้” หญิงวัยกลางคนกล่าว
โจวเหวินเกือบลืมเกี่ยวกับการต่อสู้จัดอันดับ เขาไม่ได้สนใจมันมากนัก
สาเหตุหลักมาจากเขาไม่ได้ก้าวเข้าสู่ระดับเร้นลับ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้วางแผนที่จะเข้าร่วมการต่อสู้
ดูเหมือนจะเหลือเวลาไม่มากสำหรับการนับถอยหลังจนสิ้นสุดเดือน
“พวกนายไปก่อนก็ได้ ฉันต้องตรวจสอบชุดอวกาศ ฉันจะรีบไปทีหลัง” โจวเหวินอยู่ที่นี้คนเดียวขณะที่คนอื่นๆ ไปที่ลูกบาศก์เพื่อดูการต่อสู้ของยา
“ประธานถังบริษัทของคุณมีอุปกรณ์เสริมสำหรับเก็บออกซเจน อาหาร และน้ำบ้างไหม” โจวเหวินถามถังซือซ่ง
“แน่นอน เดิมทีเราวางแผนที่จะสร้างอุตสาหกรรม แต่น่าเสียดายที่มีคนจำนวนน้อยเกินไปที่ต้องการสิ่งเหล่านี้ในขณะนี้ เราได้สะสมไว้ในคลังเยอะมาก” ถังซือซ่งกล่าวอย่างช่วยไม่ได้
“เอาล่ะ ส่งอุปกรณ์ทั้งหมดที่คุณผลิตมาให้ผม ไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน ผมจะไม่ให้คุณน้อยกว่าราคาที่ขอแม้แต่สตางค์เดียว” โจวเหวินเตรียมตัวสำหรับอนาคตเช่นกัน
เนื่องจากมีสิ่งมีชีวิตต่างมิติบนดวงจันทร์ โจวเหวินรู้สึกว่าอาจมีสิ่งมีชีวิตต่างมิติบนดาวเคราะห์ดวงอื่น ด้วยความสามารถในการเคลื่อนย้ายระหว่างดวงดาวของธุลีดาว เขาวางแผนที่จะไปเยือนดาวเคราะห์ดวงอื่นในอนาคต
“อุปกรณ์ที่เข้าชุดกันไม่สามารถขายได้ พวกมันถูกเก็บสะสมไว้ทั้งหมดและไม่มีค่ามากนัก ถ้าอยากได้ก็เอาไปเถอะ” ถังซือซ่งต้องการช่วยเหลือโจวเหวิน
“ไม่จำเป็นต้องให้ผมฟรี ไม่เป็นไรตราบใดที่ของนั้นมีคุณภาพ” โดยธรรมชาติแล้วโจวเหวินไม่ใช่คนที่หวังเอากำไรเล็กๆน้อยๆ
“อย่ากังวล บริษัทของเรามีความเป็นมืออาชีพในด้านนี้” ถังซือซ่งกล่าวอย่างมั่นใจ
หลังจากที่ ถังซือซ่งและทีมจากไป โจวเหวินก็ส่งชุดอวกาศไปยังพื้นที่แห่งความวินาศ ไม่นาน ถังซือซ่งก็ส่งออกซเจนกระป๋องและอุปกรณ์อื่นๆ ไปให้
ความละเอียดของอุปกรณ์ต่างๆทำให้โจวเหวินค่อนข้างแปลกใจ อุปกรณ์ต่างๆ ทำให้เขางง มีแม้กระทั่งบางส่วนที่ใช้เป็นพิเศษเพื่อแก้ปัญหาด้วยการล้างลำไส้
โจวเหวินเพิ่งรู้วิธีใช้อุปกรณ์ส่วนใหญ่หลังจากคุยกับถังซือซ่ง