I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class 65

ตอนที่ 65

ตอนนี้ลืมเรื่องของวันคริสต์มาสไปก่อนเถอะ

 

ผมกับอุมิตัดสินใจที่จะยังคงความสัมพันธ์กันไว้ในฐานะแบบเพื่อนไปก่อน โดยมีเป้าหมายว่าในสักวันพวกเราจะกลายมาเป็นคู่รักกันจริงๆให้ได้ แต่ในตอนนี้เอาจริงๆการปฏิบัติตัวของพวกเราก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเป็นพิเศษ

 

พวกเราพยายามที่จะใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น แต่เรื่องที่เราคุยกันก็ยังคงเป็นเรื่องไร้สาระเล็กๆน้อยๆเหมือนเดิมกับ เช่น ความเห็นเกี่ยวกับพิซซ่าหน้าใหม่ๆ หรือในตอนที่เราเล่นเกมกัน พวกเราก็ยังคงซ้ำศพและล้อเลียนกันเหมือนปกติ…ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สงบสุขจริงๆ

 

“อุมิ~~ อรุณสวัสดิ์~~”

 

“อรุณสวัสดิ์ ทั้งๆที่อากาศหนาวขนาดนี้แต่เธอก็ยังร่าเริงเหมือนเดิมเลยนะยู”

 

“เอเฮะๆ ก็ปกตินี่นา~ ว่าแต่ให้ฉันแบ่งพลังไปให้อุมิด้วยดีไหม?”

 

“ไม่ต้องเลยๆ แต่ว่านะ ถ้าจะแบ่งจริงๆนี่จะแบ่งพลังมายังไงล่ะนั่น?”

 

“อืม~ จูบล่ะมั้ง?”

 

“อย่าแม้แต่จะคิดเชียว แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นด้วย”

 

เมื่อตอนที่ผมเดินเข้ามาภายในห้องเรียน ผมก็สังเกตเห็นเด็กสาวสองคนที่กำลังคุยเล่นกันอยู่อย่างสนิทสนม

 

อามามิ ยู และ อาซานางิ อุมิ…สุดยอดสองสาวสวยประจำห้องของพวกเรา

 

ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ชั้นประถม แต่ดูเหมือนว่าช่วงหลังๆมานี้พวกเธอจะสนิทกันมากยิ่งขึ้นไปอีก

 

แน่นอนว่าการมีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมนั้นไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ดังนั้นผมจึงไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้…แต่ว่านะ การที่อามามิซังกำลังจับนู่นจับนี่อย่างสนุกสนานนี่มันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของเพื่อสนิทด้วยใช่ไหม?

 

–ฟุฟุ อามะxอาซะ นี่มันสุดยอดที่สุด…

(TL: 天×朝 = เป็นการอ่านแบบ kun-yomi นะครับ ออกเสียงก็จะเป็น あまxあさ = อามะ x อาสะ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดอะนะครับ(ฮา))

 

–ไม่ใช่เฟ้ย ดูยังไงก็เป็นอาซะxอามะ…

 

ผมไม่สนใจเสียงซุบซิบที่ดังมาจากที่ไหนสักแห่งในห้องเรียน และเดินเข้าไปหาทั้งสองคนที่ดูเหมือนกำลังจีบกันอยู่

 

“เอ่อ…อรุณสวัสดิ์ อามามิซัง”

 

“!อ๊ะ มากิคุง! อรุนสวัสดิ์~! วันนี้อากาศหนาวมากเลยเนอะ ตอนแรกมือของฉันชาจนเกือบจะปลดกระดุมเสื้อโค้ทไม่ได้เลยล่ะ ว่าแต่มากิคุงไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ให้ฉันช่วยอุ่นมือให้ดีไหม?”

 

“อ๊ะ ไม่เป็นไร พอดีผมมีที่อุ่นมืออยู่น่ะ เพราะฉะนั้นไม่เป็นไรหรอก”

 

พูดจบอามามิซังก็เอื้อมมือออกมาเหมือนกำลังจะจับมือของผม ผมจึงรีบถอยหลังหลบออกมาทันที

 

ก็เหมือนทุกที อามามิซังไม่เคยระวังตัวในเรื่องของระยะห่างระหว่างชาย-หญิง เธอไม่เคยสนใจว่าคุณจะเป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิง..นั่นจึงทำให้ผมรู้สึกกลัวในหลายๆความหมายล่ะนะ…บางทีในมุมมองของอามามิซัง เธออาจจะแบ่งวิธีการปฏิบัติตัวออกเป็นแค่สี่ขั้นง่ายๆก็เป็นได้ ยกตัวอย่างเช่น 「คนแปลกหน้า」 → 「คนรู้จัก」 → 「เพื่อน」 → 「เพื่อนสนิท」ดังนั้นภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจึงมีเด็กผู้ชายจำนวนมากเข้าใจผิดและตกเป็นเหยื่อที่โดนเธอบดขยี้โดยไม่ได้ตั้งใจ

 

“อรุณสวัสดิ์ มาเอะฮาระ”

 

“อือ อรุณสวัสดิ์ อาซานางิ”

 

นี่คือวิธีปกติที่ผมใช้โต้ตอบกับอุมิเวลาที่อยู่ในห้องเรียน พวกเราทำตัวเหมือนปกติจนดูเหมือนว่าไม่มีอะไรระหว่างพวกเราเปลี่ยนแปลงไปเลย

 

หลังจากเหตุการณ์การจับมือแบบคู่รัก คนทั้งชั้นเรียนก็ได้รู้ว่าผมกับอุมิมีความสัมพันธ์ที่พิเศษต่อกัน แต่ว่า…ผมไม่เคยคิดที่จะมานั่งจีบกันต่อหน้าคนอื่นหรอกนะ

 

ถึงในตอนนี้ชีวิตที่โรงเรียนมันจะดูน่าเบื่อไปเสียหน่อย

 

แต่เมื่อพวกเราอยู่ด้วยกันสองต่อสองมันก็อีกเรื่องนึงล่ะนะ

 

นี่คือวิธีที่ผมคบหากับอุมิในตอนนี้

 

“…หุฟุฟุ~”

 

“ยู เหมือนเธออยากจะพูดอะไรบางอย่างสินะ”

 

“เปล่าสักหน่อย~”

 

อามามิซังที่รู้เรื่องทุกอย่างของพวกเราเป็นอย่างดี จะยิ้มอย่างสนุกสนานอยู่เสมอในตอนที่เห็นพวกเราสองคนคุยกันแบบนี้

 

ด้วยความที่อุมิคอยระวังตัวเป็นอย่างดี ในที่สุดเสียงซุบซิบนินทาเกี่ยวกับพวกเราก็ค่อยๆจางหายไป…แต่ว่านะ…พวกเราไม่สามารถทำอะไรเพื่อที่จะหยุดการกระทำของอามามิซังได้เลยแม้แต่น้อย

 

หรือบางทีพวกเราคงจะรู้สึกยอมแพ้ไปแล้วล่ะนะ

 

เมื่อความสัมพันธ์ของผมกับอุมิสนิทกันมากขึ้น ดังนั้นเวลาที่พวกเราใช้ร่วมกันก็ยอมมากขึ้นตามไปด้วย แต่ในขณะเดียวกัน…เวลาที่อุมิจะใช้ร่วมกับอามามิซังก็ต้องน้อยลงอย่างช่วยไม่ได้ แต่ว่านั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะดูเหมือนว่าช่วงนี้อามามิซังจะค้นพบ「ความสนุก」บางอย่างเข้า และเธอก็กำลังสนุกไปกับเรื่องที่เธอค้นพบมากขึ้นเรื่อยๆ

 

“อุมิ ทำไมช่วงนี้เธอดูเหมือนเว้นระยะห่างกับมากิคุงมากขึ้นล่ะ? มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า? จะว่าไป…อุมิเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันจันทร์นี่นา เหมือนวันนั้นเธอจะมาโรงเรียนพร้อมกันกับมากิคุงใช่มั้ยน้า~”

 

“หะ หา? มะ-ไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักหน่อย”

 

อุมิในตอนนี้นี่ดูออกง่ายชะมัด

 

ถ้าพูดถึงวันนั้น…เป็นวันที่จู่ๆอุมิก็หอมแก้มของผมสินะ…

 

ในตอนนั้นพวกเราทั้งสองคนกำลังอยู่ในช่วงที่หวั่นไหว และแน่นอนว่าที่อุมิทำแบบนั้นก็เพราะบรรยากาศพาไปอย่างแน่นอน และก็ด้วยเหตุนั้นเองทำให้เวลาพวกเราเจอหน้ากันทีไรมันจึงรู้สึกอึดอัดแปลกๆ

 

“เอ๋? เป็นอะไรไปอุมิ~? ทำไมหน้าแดงแบบนั้นล่ะ?”

 

“เอ่อ…ชะ-ใช่แล้ว มันต้องเป็นเพราะเครื่องปรับอากาศแน่ๆเลยล่ะ”

 

“…ฟุฟุ อุมิน่ารักจัง ♪”

 

“ยะ…ยัยปลาหมึกนี่…!”

(TL: จริงๆอุมิจังพูดว่าタコ助 ทาโกะสึเกะ เหมือนกับเป็นคำเรียก คำอุทาน แบบหยาบคายคำนึงครับ ไม่รู้จะแปลไงก็แปลแบบบ้านๆไปเลยแล้วกันนะครับ ทาโกะ = ปลาหมึก ไปโลด(ฮา))

 

ความสนุกที่อามามิซังค้นพบก็คือท่าทางน่ารักๆของอุมิที่จะแสดงออกมาเมื่อเธอถูกล้อเลียนด้วยเรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของผมกับเธอ

 

…ช่างเป็นงานอดิเรกที่ดีต่อใจจริงๆ

 

ผมแยกตัวออกมาจากทั้งสองคนที่กำลังเล่นสนุกกันอยู่ และเมื่อผมนั่งลงที่โต๊ะเพื่อเตรียมตัวเรียนตามปกติ โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าของผมก็สั่น

 

[ อาซานางิ ] : นายอย่าเข้าใจผิดล่ะ

[ มาเอะฮาระ ] : อุมิน่ารักจัง

[ อาซานางิ ] : ดูเหมือนนายจะอยากตายสินะ

[ มาเอะฮาระ ] : ขอโทษครับ

[ มาเอะฮาระ ] : จริงสิ ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเธออยู่น่ะ

[ อาซานางิ ] : หืม? เรื่องอะไรหรอ?

[ มาเอะฮาระ ] : ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก

[ อาซานางิ ] : หืม?

[ มาเอะฮาระ ] : เกี่ยวกับวันคริสต์มาสน่ะ

 

เมื่อผมพิมพ์ไปแบบนั้น อุมิก็ตอบกลับมาช้าไปเล็กน้อย

 

[ อาซานางิ ] : คนลามก

[ มาเอะฮาระ ] : ………

[ มาเอะฮาระ ] : ไหงกลายเป็นงั้น?

[ อาซานางิ ] : ก็นั่นไง จากที่นายบอก มันเป็นคำเชิญวันคริสต์มาสใช่ไหมล่ะ?

[ อาซานางิ ] : แบบว่า…มาใช้เวลาร่วมกันในวันคริสต์มาสที่ห้องของมากิ อะไรแบบนั้นน่ะ

[ มาเอะฮาระ ] : อืม ก็ประมาณนั้นแหละ แล้วอีกอย่างแม่ก็ไม่อยู่บ้านเพราะติดงานด้วย

[ อาซานางิ ] : เห็นไหมล่ะ

[ มาเอะฮาระ ] : …คนอื่นๆก็ทำแบบนี้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ

 

อย่างที่คิด ถ้าพูดถึงคำคืนของวันคริสต์มาส ทุกคนก็คงเชื่อมโยงไปถึงเรื่องอย่างนั้นสินะ

 

จริงๆผมเองก็เหมือนเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้มาบ้างเหมือนกัน

 

ค่ำคืนศักดิ์สิทธิ์ที่คู่รักจะใช้เวลาร่วมกัน…แต่ผมไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ของผมกับอุมิจะไปถึงขั้นนั้นหรือยังน่ะสิ

 

[ อาซานางิ ] : ล้อเล่นๆนา ว่าแต่นายมีแผนจะทำอะไรงั้นเหรอ?

[ มาเอะฮาระ ] : ตอนแรกคิดว่าถ้าอุมิมาที่บ้าน ก็กะว่าอย่างน้อยจะทำเค้กล่ะนะ

[ อาซานางิ ] : เอาจริงดิ? มากิ นี่นายทำเค้กได้จริงดิ?

[ มาเอะฮาระ ] : อ่า…ถ้ามีวัตถุดิบกับอุปกรณ์ครบก็ไม่ใช่ปัญหา

[ อาซานางิ ] : เอ๋? จริงๆแล้วมากิเป็นเอเลี่ยนปลอมตัวมาใช่ไหม?

[ มาเอะฮาระ ] : ไม่ใช่เฟ้ย ฉันเป็นชาวโลกนะ

 

ถ้าจะให้พูดจากมุมมองของผม อาซานางิผู้ที่สามารถเปลี่ยนช็อกโกแลตให้กลายเป็นถ่านได้ (※ตามคำให้การของอามามิซัง) ต่างหากที่ดูจะเป็นเอเลี่ยนมากกว่า…แต่ผมคงพูดแบบนั้นออกไปไม่ได้เพราะตัวผมเองอาจจะตายได้

 

[ อาซานางิ ] : เค้กทำมือของมากิงั้นเหรอ~ งั้นฉันคงต้องวางแผนใหม่แล้วสินะ

[ มาเอะฮาระ ] : …วางแผนใหม่? นี่แสดงว่าอุมิมีนัดไว้ก่อนแล้วหรอ?

[ อาซานางิ ] : อืม เคยคุยกันไว้นานแล้วล่ะ

[ อาซานางิ ] : เอ๊ะ? นี่มากิ…หรือว่านายไม่รู้เรื่องปาร์ตี้วันคริสต์มาสงั้นเหรอ?

 

ปาร์ตี้อะไรนะ?

 

ผมหยุดตัวเองไว้ได้ก่อนที่จะพิมพ์ตอบไป…

 

☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆

หากถูกใจก็ฝากติดตามเพจ Durimtok Channel | Facebook  กันด้วยนะครับ

ขแบคุณที่ติดตามครับ

ตอนนี้ลืมเรื่องของวันคริสต์มาสไปก่อนเถอะ

 

ผมกับอุมิตัดสินใจที่จะยังคงความสัมพันธ์กันไว้ในฐานะแบบเพื่อนไปก่อน โดยมีเป้าหมายว่าในสักวันพวกเราจะกลายมาเป็นคู่รักกันจริงๆให้ได้ แต่ในตอนนี้เอาจริงๆการปฏิบัติตัวของพวกเราก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเป็นพิเศษ

 

พวกเราพยายามที่จะใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น แต่เรื่องที่เราคุยกันก็ยังคงเป็นเรื่องไร้สาระเล็กๆน้อยๆเหมือนเดิมกับ เช่น ความเห็นเกี่ยวกับพิซซ่าหน้าใหม่ๆ หรือในตอนที่เราเล่นเกมกัน พวกเราก็ยังคงซ้ำศพและล้อเลียนกันเหมือนปกติ…ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สงบสุขจริงๆ

 

“อุมิ~~ อรุณสวัสดิ์~~”

 

“อรุณสวัสดิ์ ทั้งๆที่อากาศหนาวขนาดนี้แต่เธอก็ยังร่าเริงเหมือนเดิมเลยนะยู”

 

“เอเฮะๆ ก็ปกตินี่นา~ ว่าแต่ให้ฉันแบ่งพลังไปให้อุมิด้วยดีไหม?”

 

“ไม่ต้องเลยๆ แต่ว่านะ ถ้าจะแบ่งจริงๆนี่จะแบ่งพลังมายังไงล่ะนั่น?”

 

“อืม~ จูบล่ะมั้ง?”

 

“อย่าแม้แต่จะคิดเชียว แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นด้วย”

 

เมื่อตอนที่ผมเดินเข้ามาภายในห้องเรียน ผมก็สังเกตเห็นเด็กสาวสองคนที่กำลังคุยเล่นกันอยู่อย่างสนิทสนม

 

อามามิ ยู และ อาซานางิ อุมิ…สุดยอดสองสาวสวยประจำห้องของพวกเรา

 

ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ชั้นประถม แต่ดูเหมือนว่าช่วงหลังๆมานี้พวกเธอจะสนิทกันมากยิ่งขึ้นไปอีก

 

แน่นอนว่าการมีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมนั้นไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ดังนั้นผมจึงไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้…แต่ว่านะ การที่อามามิซังกำลังจับนู่นจับนี่อย่างสนุกสนานนี่มันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของเพื่อสนิทด้วยใช่ไหม?

 

–ฟุฟุ อามะxอาซะ นี่มันสุดยอดที่สุด…

(TL: 天×朝 = เป็นการอ่านแบบ kun-yomi นะครับ ออกเสียงก็จะเป็น あまxあさ = อามะ x อาสะ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดอะนะครับ(ฮา))

 

–ไม่ใช่เฟ้ย ดูยังไงก็เป็นอาซะxอามะ…

 

ผมไม่สนใจเสียงซุบซิบที่ดังมาจากที่ไหนสักแห่งในห้องเรียน และเดินเข้าไปหาทั้งสองคนที่ดูเหมือนกำลังจีบกันอยู่

 

“เอ่อ…อรุณสวัสดิ์ อามามิซัง”

 

“!อ๊ะ มากิคุง! อรุนสวัสดิ์~! วันนี้อากาศหนาวมากเลยเนอะ ตอนแรกมือของฉันชาจนเกือบจะปลดกระดุมเสื้อโค้ทไม่ได้เลยล่ะ ว่าแต่มากิคุงไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ให้ฉันช่วยอุ่นมือให้ดีไหม?”

 

“อ๊ะ ไม่เป็นไร พอดีผมมีที่อุ่นมืออยู่น่ะ เพราะฉะนั้นไม่เป็นไรหรอก”

 

พูดจบอามามิซังก็เอื้อมมือออกมาเหมือนกำลังจะจับมือของผม ผมจึงรีบถอยหลังหลบออกมาทันที

 

ก็เหมือนทุกที อามามิซังไม่เคยระวังตัวในเรื่องของระยะห่างระหว่างชาย-หญิง เธอไม่เคยสนใจว่าคุณจะเป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิง..นั่นจึงทำให้ผมรู้สึกกลัวในหลายๆความหมายล่ะนะ…บางทีในมุมมองของอามามิซัง เธออาจจะแบ่งวิธีการปฏิบัติตัวออกเป็นแค่สี่ขั้นง่ายๆก็เป็นได้ ยกตัวอย่างเช่น 「คนแปลกหน้า」 → 「คนรู้จัก」 → 「เพื่อน」 → 「เพื่อนสนิท」ดังนั้นภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจึงมีเด็กผู้ชายจำนวนมากเข้าใจผิดและตกเป็นเหยื่อที่โดนเธอบดขยี้โดยไม่ได้ตั้งใจ

 

“อรุณสวัสดิ์ มาเอะฮาระ”

 

“อือ อรุณสวัสดิ์ อาซานางิ”

 

นี่คือวิธีปกติที่ผมใช้โต้ตอบกับอุมิเวลาที่อยู่ในห้องเรียน พวกเราทำตัวเหมือนปกติจนดูเหมือนว่าไม่มีอะไรระหว่างพวกเราเปลี่ยนแปลงไปเลย

 

หลังจากเหตุการณ์การจับมือแบบคู่รัก คนทั้งชั้นเรียนก็ได้รู้ว่าผมกับอุมิมีความสัมพันธ์ที่พิเศษต่อกัน แต่ว่า…ผมไม่เคยคิดที่จะมานั่งจีบกันต่อหน้าคนอื่นหรอกนะ

 

ถึงในตอนนี้ชีวิตที่โรงเรียนมันจะดูน่าเบื่อไปเสียหน่อย

 

แต่เมื่อพวกเราอยู่ด้วยกันสองต่อสองมันก็อีกเรื่องนึงล่ะนะ

 

นี่คือวิธีที่ผมคบหากับอุมิในตอนนี้

 

“…หุฟุฟุ~”

 

“ยู เหมือนเธออยากจะพูดอะไรบางอย่างสินะ”

 

“เปล่าสักหน่อย~”

 

อามามิซังที่รู้เรื่องทุกอย่างของพวกเราเป็นอย่างดี จะยิ้มอย่างสนุกสนานอยู่เสมอในตอนที่เห็นพวกเราสองคนคุยกันแบบนี้

 

ด้วยความที่อุมิคอยระวังตัวเป็นอย่างดี ในที่สุดเสียงซุบซิบนินทาเกี่ยวกับพวกเราก็ค่อยๆจางหายไป…แต่ว่านะ…พวกเราไม่สามารถทำอะไรเพื่อที่จะหยุดการกระทำของอามามิซังได้เลยแม้แต่น้อย

 

หรือบางทีพวกเราคงจะรู้สึกยอมแพ้ไปแล้วล่ะนะ

 

เมื่อความสัมพันธ์ของผมกับอุมิสนิทกันมากขึ้น ดังนั้นเวลาที่พวกเราใช้ร่วมกันก็ยอมมากขึ้นตามไปด้วย แต่ในขณะเดียวกัน…เวลาที่อุมิจะใช้ร่วมกับอามามิซังก็ต้องน้อยลงอย่างช่วยไม่ได้ แต่ว่านั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะดูเหมือนว่าช่วงนี้อามามิซังจะค้นพบ「ความสนุก」บางอย่างเข้า และเธอก็กำลังสนุกไปกับเรื่องที่เธอค้นพบมากขึ้นเรื่อยๆ

 

“อุมิ ทำไมช่วงนี้เธอดูเหมือนเว้นระยะห่างกับมากิคุงมากขึ้นล่ะ? มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า? จะว่าไป…อุมิเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันจันทร์นี่นา เหมือนวันนั้นเธอจะมาโรงเรียนพร้อมกันกับมากิคุงใช่มั้ยน้า~”

 

“หะ หา? มะ-ไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักหน่อย”

 

อุมิในตอนนี้นี่ดูออกง่ายชะมัด

 

ถ้าพูดถึงวันนั้น…เป็นวันที่จู่ๆอุมิก็หอมแก้มของผมสินะ…

 

ในตอนนั้นพวกเราทั้งสองคนกำลังอยู่ในช่วงที่หวั่นไหว และแน่นอนว่าที่อุมิทำแบบนั้นก็เพราะบรรยากาศพาไปอย่างแน่นอน และก็ด้วยเหตุนั้นเองทำให้เวลาพวกเราเจอหน้ากันทีไรมันจึงรู้สึกอึดอัดแปลกๆ

 

“เอ๋? เป็นอะไรไปอุมิ~? ทำไมหน้าแดงแบบนั้นล่ะ?”

 

“เอ่อ…ชะ-ใช่แล้ว มันต้องเป็นเพราะเครื่องปรับอากาศแน่ๆเลยล่ะ”

 

“…ฟุฟุ อุมิน่ารักจัง ♪”

 

“ยะ…ยัยปลาหมึกนี่…!”

(TL: จริงๆอุมิจังพูดว่าタコ助 ทาโกะสึเกะ เหมือนกับเป็นคำเรียก คำอุทาน แบบหยาบคายคำนึงครับ ไม่รู้จะแปลไงก็แปลแบบบ้านๆไปเลยแล้วกันนะครับ ทาโกะ = ปลาหมึก ไปโลด(ฮา))

 

ความสนุกที่อามามิซังค้นพบก็คือท่าทางน่ารักๆของอุมิที่จะแสดงออกมาเมื่อเธอถูกล้อเลียนด้วยเรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของผมกับเธอ

 

…ช่างเป็นงานอดิเรกที่ดีต่อใจจริงๆ

 

ผมแยกตัวออกมาจากทั้งสองคนที่กำลังเล่นสนุกกันอยู่ และเมื่อผมนั่งลงที่โต๊ะเพื่อเตรียมตัวเรียนตามปกติ โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าของผมก็สั่น

 

[ อาซานางิ ] : นายอย่าเข้าใจผิดล่ะ

[ มาเอะฮาระ ] : อุมิน่ารักจัง

[ อาซานางิ ] : ดูเหมือนนายจะอยากตายสินะ

[ มาเอะฮาระ ] : ขอโทษครับ

[ มาเอะฮาระ ] : จริงสิ ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเธออยู่น่ะ

[ อาซานางิ ] : หืม? เรื่องอะไรหรอ?

[ มาเอะฮาระ ] : ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก

[ อาซานางิ ] : หืม?

[ มาเอะฮาระ ] : เกี่ยวกับวันคริสต์มาสน่ะ

 

เมื่อผมพิมพ์ไปแบบนั้น อุมิก็ตอบกลับมาช้าไปเล็กน้อย

 

[ อาซานางิ ] : คนลามก

[ มาเอะฮาระ ] : ………

[ มาเอะฮาระ ] : ไหงกลายเป็นงั้น?

[ อาซานางิ ] : ก็นั่นไง จากที่นายบอก มันเป็นคำเชิญวันคริสต์มาสใช่ไหมล่ะ?

[ อาซานางิ ] : แบบว่า…มาใช้เวลาร่วมกันในวันคริสต์มาสที่ห้องของมากิ อะไรแบบนั้นน่ะ

[ มาเอะฮาระ ] : อืม ก็ประมาณนั้นแหละ แล้วอีกอย่างแม่ก็ไม่อยู่บ้านเพราะติดงานด้วย

[ อาซานางิ ] : เห็นไหมล่ะ

[ มาเอะฮาระ ] : …คนอื่นๆก็ทำแบบนี้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ

 

อย่างที่คิด ถ้าพูดถึงคำคืนของวันคริสต์มาส ทุกคนก็คงเชื่อมโยงไปถึงเรื่องอย่างนั้นสินะ

 

จริงๆผมเองก็เหมือนเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้มาบ้างเหมือนกัน

 

ค่ำคืนศักดิ์สิทธิ์ที่คู่รักจะใช้เวลาร่วมกัน…แต่ผมไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ของผมกับอุมิจะไปถึงขั้นนั้นหรือยังน่ะสิ

 

[ อาซานางิ ] : ล้อเล่นๆนา ว่าแต่นายมีแผนจะทำอะไรงั้นเหรอ?

[ มาเอะฮาระ ] : ตอนแรกคิดว่าถ้าอุมิมาที่บ้าน ก็กะว่าอย่างน้อยจะทำเค้กล่ะนะ

[ อาซานางิ ] : เอาจริงดิ? มากิ นี่นายทำเค้กได้จริงดิ?

[ มาเอะฮาระ ] : อ่า…ถ้ามีวัตถุดิบกับอุปกรณ์ครบก็ไม่ใช่ปัญหา

[ อาซานางิ ] : เอ๋? จริงๆแล้วมากิเป็นเอเลี่ยนปลอมตัวมาใช่ไหม?

[ มาเอะฮาระ ] : ไม่ใช่เฟ้ย ฉันเป็นชาวโลกนะ

 

ถ้าจะให้พูดจากมุมมองของผม อาซานางิผู้ที่สามารถเปลี่ยนช็อกโกแลตให้กลายเป็นถ่านได้ (※ตามคำให้การของอามามิซัง) ต่างหากที่ดูจะเป็นเอเลี่ยนมากกว่า…แต่ผมคงพูดแบบนั้นออกไปไม่ได้เพราะตัวผมเองอาจจะตายได้

 

[ อาซานางิ ] : เค้กทำมือของมากิงั้นเหรอ~ งั้นฉันคงต้องวางแผนใหม่แล้วสินะ

[ มาเอะฮาระ ] : …วางแผนใหม่? นี่แสดงว่าอุมิมีนัดไว้ก่อนแล้วหรอ?

[ อาซานางิ ] : อืม เคยคุยกันไว้นานแล้วล่ะ

[ อาซานางิ ] : เอ๊ะ? นี่มากิ…หรือว่านายไม่รู้เรื่องปาร์ตี้วันคริสต์มาสงั้นเหรอ?

 

ปาร์ตี้อะไรนะ?

 

ผมหยุดตัวเองไว้ได้ก่อนที่จะพิมพ์ตอบไป…

 

☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆

หากถูกใจก็ฝากติดตามเพจ Durimtok Channel | Facebook  กันด้วยนะครับ

ขแบคุณที่ติดตามครับ

I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class

I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class

Score 10
Status: Completed
ผมชื่อ มาเอะฮาระ มากิ คนที่ไม่เพื่อน หรือคนรู้จักในโรงเรียนม.ปลาย แต่ในที่สุดก็มีคนที่ผมสามารถออกไปเที่ยวด้วยกัน ภายนอกรั้วโรงเรียนด้วยได้ เธอคือเด็กสาวคนหนึ่ง เธอชื่อ อะสะนางิซัง เด็กสาวที่พวกนักเรียนชายในชั้นเรียนต่างเรียกเธอว่า 'สาวน่ารักอันดับสองของชั้นเรียน'

Options

not work with dark mode
Reset