บทที่ 4 – ความลับ
จากวันนั้นจนถึงปัจจุบัน วันนี้ก็เป็นวันศุกร์อีกครั้ง
“เอาล่ะ วันนี้ก็พอเท่านี้ แล้วก็…อย่าเที่ยวเล่นกันมากเกินไปเพราะเห็นว่าเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์นะ! จำไว้ว่าการสอบสอบกลางภาคใกล้เข้ามาแล้วนะทุกคน!”
เสียงกริ่งดังขึ้นเป็นสัญญาณสิ้นสุดชั้นเรียน และนักเรียนในชั้นก็เริ่มเคลื่อนไหวพร้อมกัน
บางคนกลับบ้านทันที บางคนต้องไปเข้าร่วมกิจกรรมชมรม และบางคนยังคงอยู่ในห้องเรียนเพื่อวางแผนการไปเที่ยวของพวกเขา ฯลฯ
“แล้วเจอกัน มาเอะฮาระคุง”
“สัปดาห์หน้าเจอกัน”
หลังจากบอกลาโอยามะคุงเรียบร้อย ผมก็ลุกจากที่นั่งทันที
เนื่องจากผมไม่ได้เข้าร่วมชมรมไหน จึงไม่มีกิจกรรมที่ต้องไปทำหลังเลิกเรียน แน่นอนว่าผมจะตรงดิ่งกลับบ้านทันที
แต่ก่อนที่ผมจะเดินผ่านประตูออกไป ผมเหลือบมองไปยังกลุ่มที่อาซานางิซัง
“เอะเหเหะ~ นี่ นี่ อุมิ~ วันนี้ไปเล่นที่ไหนกันดีล่ะ~ ทุกคนบอกว่าอยากไปร้องคาราโอเกะ เธออยากไปกับพวกเราไหม”
“อ๊ะ ขอโทษนะยู วันนี้ฉันมีธุระพอดี เลยต้องรีบกลับบ้านก่อนน่ะ”
“เอ๋~~ อีกแล้วหรอ? ทำไมช่วงนี้ไปเที่ยวกับอุมิยากจัง อุมิไม่อยากไปเที่ยวด้วยกันหรอ?”
“ฉันยุ่งแค่วันศุกร์เอง ไม่ใช่ทั้งสุดสัปดาห์สักหน่อย อีกอย่างนะ ไม่ใช่ว่าเราแทบจะไปเที่ยวด้วยกันทุกวันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“แต่อยากอยู่กับอูมิทุกวันเลยนี่นา!!”
อาซานางิซัง กำลังเอาใจอามามิซังราวกับว่าเธอเป็นลูกสุนัข
พวกเธอเริ่มเป็นแบบนี้ตั้งแต่ที่อาซานางิซังเริ่มมาเที่ยวที่บ้านผมในวันศุกร์
และเนื่องจากวันนี้เป็นวันศุกร์ เราสัญญากันไว้ว่า อาซานางิซังจะมาเที่ยวที่บ้านของผมเหมือนเช่นเคย
โดยปกติเราจะเล่นเกมด้วยกัน แต่ว่าวันนี้เราวางแผนกันไว้ว่าจะดูหนังที่เช่ามาแทน
โดยตัวหนังจะเป็นอาซานางิซังเป็นคนเลือกมา ผมมีหน้าที่แค่ลุ้นว่ามันคือหนังเรื่องอะไร
“วันนี้ฉันมีธุระต้องไปทำหลายอย่าง ดังนั้นฉันจะไปเที่ยวกับเธอในวันพรุ่งนี้กับมะรืนนี้ เพราะฉะนั้นช่วยอดทนหน่อยนะ ตกลงไหม?”
“มู~~…เข้าใจแล้ว”
เมื่อใดก็ตามที่เรามีแผนจะมาเที่ยวที่บ้านของผมกัน อาซานางิซังมักจะพยายามปฏิเสธคำเชิญของอามามิซังแบบนี้เสมอ
หลังจากนึกถึงความจริงที่บางครั้ง ผมและอาซานางิซังพากันมาเที่ยวที่บ้านของผม ผมจึงคิดว่าเราควรจะเก็บเป็นความลับไม่ให้คนอื่นๆในชั้นเรียนทราบ ผมเสนอความคิดนี้กับอาซานางิซังและเธอก็เห็นด้วย
ตามความเข้าใจของเรา ผมกับอาซานางิซังนั้นมีความสัมพันธ์แบบ「เพื่อน」กันเท่านั้น แต่มันมักจะมีคนบางพวกที่ชอบมีความคิดแปลก และสร้างเรื่องราวที่มันไม่จริงอยู่เสมอ
แม้ว่าอาซานางิซังจะถูกอามามิซังบดบังรัศมีอยู่…แต่ยังไงก็ตาม…อาซานางิซังก็ยังถือว่าเป็นเด็กสาวที่น่ารักมากอยู่ดี และถ้ามีใครรู้ว่าพวกเราสนิทกันมากขึ้น พวกเขาอาจจะเริ่มสร้างปัญหาโดยไม่จำเป็น และผมก็ไม่อยากที่จะต้องลงมือไปจัดการกับปัญหาเหล่านั้น
[ อาซานางิซัง ] : ขอโทษนะ
[ อาซานางิซัง ] : ฉันอาจจะไปสายหน่อย
[ มาเอะฮาระ ] : โอเค ไม่เป็นไร
[ อาซานางิซัง ] : แล้ว…
[ อาซานางิซัง ] : มื้อเย็นวันนี้มีอะไรบ้างนะ?
[ มาเอะฮาระ ] : ไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์ เฟรนฟราย แต่ไม่มีสลัดนะ
[ อาซานางิซัง ] : เยี่ยมเลย~
หลังจากแอบแชทข้อความกับอาซานางิซังอย่างลับๆ ผมก็ออกจากชั้นเรียนไป
ถ้าไม่มีควันก็แสดงว่ามันไม่มีไฟ แต่ในกรณีของผม ผมกำลังถือเชื้อเพลิงที่ค่อนข้างอันตราย ดังนั้นผมจึงต้องระวังให้ดี มิเช่นนั้นหากกองไฟนี้ถูกจุดขึ้นมา ผมคงไม่มีปัญญาไปดับมันอย่างแน่นอน
“อืม…วันนี้รับอะไรดีคะ?”
เช้าวันนี้ ผมเอาเงิน 2,000 เยนที่แม่ทิ้งไว้บนโต๊ะใส่กระเป๋า แล้วก็คิดว่าวันนี้จะกินอะไรกับอาซานางิซังดี?
ผมพบว่าตัวเองกำลังสนุกกับสถานการณ์นี้โดยไม่คาดคิด
[ อาซานางิซัง ] : อ๊ะ
[ อาซานางิซัง ] : จริงด้วยสิ
[ มาเอฮาระ ] : ว่าไง
[ อาซานางิซัง ] : ฉันยังไม่ได้บอกนายเกี่ยวกับหนังที่จะดูวันนี้เลยนี่นา
[ มาเอฮาระ ] : อืม
[ อาซานางิซัง ] : มันคือหนังปลาฉลาม
[ มาเอฮาระ ] : หนังปลาฉลาม?
ทำไมต้องเป็นหนังปลาฉลาม? เมื่อพูดถึงหนังเกี่ยวกับปลาฉลาม…ภาพที่จินตนาการออกมาในหัวก็มีแต่ ฉากฉลามตัวใหญ่ ไล่กินคนที่กำลังว่ายน้ำอยู่ในทะเลจนเลือดสาดกระจาย….ผมสงสัยว่าอาซานางิซังจะชอบดูพวกหนังเกรด B แนวๆนี้งั้นเหรอ?
“นี่อุมิ…ธุระที่เธอต้องไปทำ…มันเป็นธุระของครอบครัวใช่ไหม?”
“ใช่สิ ทำไมหรอ?”
“ไม่มีอะไร~…แค่…เหมือนฉันได้กลิ่นเรื่องสนุกๆน่ะ~ ว่าแต่ทำไมเสียงของอุมิต้องสั่นด้วยล่ะ น่าสงสัยจัง~?”
ผมกับอาซานางิซังไม่เคยคุยกันที่โรงเรียนมาก่อน ดังนั้นเราจึงไม่น่าพลาดไปกระตุ้นต่อมสงสัยของอามามิซังเข้า แต่ว่าเธอกลับมีสัญชาตญาณเฉียบคมอย่างไม่น่าเชื่อ
“หืม? มันก็เรื่องปกติไม่ใช่หรอ?”
แต่อาซานางิซังก็ยังสามารถตอบอามามิซังได้อย่างใจเย็น
“เดี๋ยวก่อนนะยู หรือเธออยากจะไปหาพี่ชายของฉันที่บ้านด้วยกัน? งั้นขอฉันบอกพี่แปบนึงนะ”
“อึก!!”
“ไม่สิ~~ นานแค่ไหนแล้วนะที่ยูไม่ได้เจอพี่ชาย? ตั้งแต่ม.ต้นหรือป่าวนะ? แต่ฉันแน่ใจว่าพี่จะมีความสุขมากแน่ถ้าเขารู้ว่าเธอจะมา~ แต่ว่านะ…ใครจะไปรู้ บางทีเขาอาจจะคลานเข่าเข้าไปหาเธอเลยก็เป็นไปได้น้า~”
“เอ่อ…”
เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินว่าอาซานางิซังมีพี่ชาย แต่ดูเหมือนว่าเขาน่าจะมีบุคลิกพิเศษอะไรบางอย่างที่ทำให้อามามิซังรู้สึกอึดอัดได้
“แล้วอามามิจะเอายังไง? กลับบ้านกับฉัน หรือว่าจะแยกกันไปก่อน?”
“…ฉัน ขอแยกไปดีกว่า…”
“อย่างนั้นหรือ? เสียดายจัง~”
“มุกุ…..” (TL: むぐぐ อันนี้สิ้นหวังจริง ไม่รู้จะออกเสียงยังไงเลย ขอทับศัพไปแล้วกันนะครับ)
ตามคาดสำหรับอาซานางิซัง เธอไม่เพียงแต่จัดการกับสถานการณ์ได้อย่างใจเย็นเท่านั้น เธอยังสามารถเอาคืนอามามิซังได้อีกด้วย แถมผมยังรู้สึกตื่นตาตื่นใจเมื่อได้เห็นอาซานางิซังที่โกหกคำโตแล้วยังทำหน้าตายด้านแบบนั้นได้
“งั้น…พรุ่งนี้ไปเล่นด้วยกันนะ”
“ได้ค่ะ ได้ค่ะ ฉันสัญญา แล้วเดี่ยวฉันจะชดเชยให้สำหรับวันนี้นะ โอเคไหม เจ้าหญิงยู?”
แม้ว่าก่อนหน้านี้เราจะตกลงกันเรื่องที่จะไม่บอกใครเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา แต่ผมคิดว่ามันคงไม่เป็นอะไรถ้าอาซานางิซังจะบอกความจริงกับอามามิซัง แต่ว่านะ…ผมคิดว่าควรจะปล่อยให้อาซานางิซังเป็นคนตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม…อาซานางิซังดูเหมือนจะอารมณ์ดีนะ
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
ปล. วันนี้คึกแปลกๆ น่าจะเป็นเพราะการแปลเรื่อง นายน้อยฮาโรลด์ มันเครียดแน่เลย