ตอนที่ 20 – อามามิซัง อาซานางิ และผม
เหตุการณ์ในตอนเช้าที่อามามิซังพูดว่าผมรู้หมายเลขโทรศัพท์ของเธอกลายเป็นประเด็นร้อนในชั้นเรียนของเราอย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าจะเป็นเวลาหมดคาบเรียนในช่วงเช้า เวลาพักกลางวัน หรือแม้แต่ตอนนี้ที่เป็นเวลาหลังเลิกเรียน ความอยากรู้อยากเห็นที่หลั่งไหลมาที่ผมไม่เคยหยุดนิ่ง การชำเลืองมองอย่างสงสัย การกระซิบกระซาบ หรือแม้แต่การใส่ร้ายป้ายสีก็มี และมันก็ยิ่งขยายวงกว้างขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
เพื่อความชัดเจน ผมกับอามามิซังแทบจะไม่เคยติดต่อกันมาก่อน มีเพียงครั้งเดียวที่เราได้คุยกันก็คือตอนที่อาซานางิถูกสารภาพรัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการโทรคุยกัน หลังจากที่ผมได้เบอร์ติดต่อของอามามิซังมา ผมยังไม่เคยกดโทรออกเลยสักครั้งเดียว
‘เฮ้ อามามิซังกับมาฮาระคุงมีความสัมพันธ์กันแบบไหนกันนะ’
‘น่าแปลกใจมาก หรือว่าบางทีพวกเขาอาจจะกำลังเดทกันอยู่?’
‘ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรแบบนั้นหรอก’
‘แล้วเกิดอะไรขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว?’
‘ใครจะรู้? เรื่องรักๆใคร่ๆล่ะมั้ง’
อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆไม่มีทางรู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเรา และหลงเข้าใจผิดกันไปเอง นอกจากนี้ยังพากันพูดไปเรื่อยเปื่อยในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับผมและอามามิซัง
แม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ก็ดูเหมือนพวกเขาจะว่างกันจนเกินไป
“รอก่อนนะ มาเอะฮาระคุง!…งั้นก็ไปกันเลย!”
“อ๊ะ…อะ-อืม..”
ทั้งชั้นเรียนกำลังพูดถึงเรื่องนี้ ดังนั้นแน่นอนว่าอามามิซังก็ต้องรู้ถึงสถานการณ์ดีอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจมันเลยสักนิด เธอยังคงมีรอยยิ้มร่าเริงเหมือนตามของเธอในขณะที่เดินเข้ามาหาผม
ไม่เหมือนกับผม เธอน่าจะเคยชินกับเรื่องทำนองนี้ดี
และแน่นอนว่าอาซานางิอยู่ข้างๆอามามิซังด้วย
“…ฉันขอโทษที่เข้ามาขัดเวลาคุยกันของพวกเธอนะ…แต่ว่าฉันขอไปกับยูด้วยได้ไหม”
“อ่า…เอ่อ…แน่นอน ผมไม่ว่าอะไรหรอก”
เป็นผมมากกว่าที่จะเดือดร้อน ถ้าหากอาซานางิไม่ได้ไปด้วย
แค่จินตนาการว่าตัวเองจะได้คุยกับอามามิซังที่สวยระดับเดียวกับไอดอลแบบตัวต่อตัวก็ทำให้ผมประหม่าแล้ว และแน่นอนว่าเราจะย้ายไปที่อื่นเพื่อพูดคุยกัน
“ฉันขอโทษนะ มาเอะฮาระคุง…ฉันจะรู้สึกประหม่าน่ะเวลาที่อยู่กับผู้ชายแค่สองคน…อ๊ะ ไม่ต้องห่วงนะ อุมิเป็นเด็กที่ปากแข็งมาก”
“เห…งั้นเหรอครับ”
แน่นอน ผมเชื่อเธออยู่แล้ว
เพราะท้ายที่สุดแล้ว อาซานางิก็ไม่ได้บอกเรื่องของเรากับเพื่อนสนิทของเธอด้วยซ้ำ
“งั้น ยินดีทีได้รู้จักนะ…มาเอะฮาระคุง”
“อะ อ่า ยินดีที่ได้รู้จักนะอาซานางิ…ซัง”
เราจับมือกันราวกับว่านี่เป็นครั้งแรกที่เราได้คุยกัน
ผมรู้สึกว่าเธอจับมือผมแน่นกว่าปกติ…ไม่ เดี๋ยวนะ โอ้ย! เจ็บ!…ได้โปรด..ปล่อยผมไปเถอะครับ
ด้วยวิธีนี้「สาวน่ารักที่สุดในชั้นเรียน」「สาวน่ารักอันดับสองในชั้นเรียน」 และ「คนไม่มีเพื่อน」 จึงตัดสินใจออกจากโรงเรียนไปพร้อมกัน
การรวมกันแบบนี้…ใครจะคิดว่ามันเป็นไปได้?
จากทางซ้าย ผมอยู่คั่นระหว่างสาวสวยสองคน ในรูปแบบประมาณนี้ 『อามามิซัง』『ผม』และ『อาซานางิ』
ผมรู้สึกอยากจะวิ่งหนี แต่ก็ไม่อาจทำได้
“…ยู”
“อืม ฮะฮะ มาแล้วสินะ นีน่าคนเดิมนั่นแหละ”
“เอ๊ะ? นิตตะซัง?”
‘ใช่ เธอกำลังแอบตามเรามาจากทางด้านหลัง ทักษะสะกดรอยตามของเธอนั้นสุดยอดมากเลยใช่ไหมล่ะ?’
อาซานางิเอ่ยพึมพำเบาๆ
ผมไม่ได้สังเกตเลยสักนิด แต่ดูเหมือนอีกสองคนที่ใกล้ชิดกับนีน่าซังจะสามารถมองการสะกดรอยตามของเธอได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
พูดถึงเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าตอนที่อาซานางิได้รับคำสารภาพรัก นีน่าซังก็ทำแบบเดียวกัน…ผมหวังจริงๆว่าเธอจะหยุดทำอะไรแบบนี้สักที
‘โอเค งั้นพวกเราทำเหมือนเดิมนะ…อุมิ’
‘รับทราบ รับทราบ’
อามามิซังและอาซานางิแอบกระซิบกันโดยที่ไม่สนใจผมที่กำลังเดินอยู่ตรงกลาง ดูเหมือนว่าพวกเธอกำลังวางแผนจะทำอะไรบางอย่าง
‘พวกเธอจะทำอะไรกับนิตตะซังน่ะ?’
‘เอ๊ะ? พวกเรากำลังจะหนีไง…ใช่ไหมอุมิ?’
‘ถ้าหากเรากำลังถูกติดตาม เราก็ควรจะวิ่งหนี…ไม่ใช่เหรอ?’
‘ไม่ ผมแน่ใจว่ามีแค่พวกเธอสองคนเท่านั้นแหละที่คิดแบบนี้’
อย่างไรก็ตาม การถูกสะกดรอยตามแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องน่ายินดี ผมจึงตัดสินใจจะทำตามแผนของพวกเธอ
‘พอถึงสุดถนน พวกเราจะรีบแยกกันออกเป็นสองกลุ่มนะ มาเอะฮาระกับฉันจะไปทางซ้าย ส่วนยู…เธอไปทางขวา’
‘เข้าใจแล้ว อ๊ะ แล้วจุดนัดพบล่ะ? เราคงไม่สามารถใช้ร้านใกล้ๆแถวนี้ได้…ตัวเลือกมันน้อยเกินไป…’
จุดนัดพบ ปกติจะเป็นร้านกาแฟหรือร้านคาราโอเกะที่ไหนสักแห่ง แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น มันก็มีความเป็นไปได้สูงที่นิตตะซังจะตามมาเจอเราที่นั่น
สถานที่ที่เพื่อนร่วมชั้นไม่รู้จัก และคนสามคนสามารถพูดคุยกันแบบเป็นความลับได้
…มีที่ที่นึงที่ผมนึกออก
‘อ๊ะ แล้วถ้าเป็นบ้านผมล่ะ? มันค่อนข้างใกล้แล้วก็ไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนด้วย’
แม่ของผมจะไม่กลับมาบ้านจนกว่าจะมืด ดังนั้นเราจึงมีเวลาที่จะพูดคุยกันได้นานตามที่ต้องการ
แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องอามามิซังไม่มีทางรู้ แต่เนื่องจากอาซานางิมาเที่ยวที่บ้านผมบ่อยๆ ห้องจึงค่อนข้างสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย
‘นี่ อุมิ เธอคิดว่าไง?’
‘ก็นะ มาเอะฮาระคุงเองก็ดูไม่เหมือนคนที่มีเจตนาไม่ดี งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก’
‘…?’
เนื่องจากมันไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และดูจะเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผล แต่ปฏิกิริยาของพวกเธอทั้งสองคนนั้นดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
‘เอ๊ะ? ผมพูดอะไรไม่ดีไปหรือเปล่า?’
‘อ๊ะ? ไม่ใช่หรอก นายไม่ได้ทำอะไรผิด…มันก็แค่…’
‘เจ้าหญิงของเรากำลังสงสัยว่าการเชิญผู้หญิงที่พึ่งรู้จักกันให้เข้ามาในบ้านของนายจะเป็นความคิดที่ดีหรือไม่น่ะ…มาเอะฮาระคุง’
‘มะ โม่~~! อุมิ!’
‘อา…’
ผมตระหนักได้เมื่ออาซานางิชี้ให้เห็น…ว่าผมกับอาซานางิพึ่งจะได้พูดคุยกันเป็นครั้งแรกๆ และอามามิซังก็อยู่ในสถานะการคล้ายๆกัน
สำหรับอามามิซัง เรายังไม่ใช่เพื่อนกันด้วยซ้ำ แล้วจู่ๆผมก็เชิญพวกเธอให้มาที่บ้านของผม มันเป็นเรื่องปกติเธอที่จะคอยระวังตัวจากผม
เนื่องจากผมได้เชิญอาซานางิไปแล้ว…
…ตอนนี้จะทำอย่างไรดี
‘ขอโทษ ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น…ผมแค่คิดว่ามันจะสะดวกกว่าถ้าเราไปคุยกันในบ้านของผม ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดีจริงๆนะ!’
‘อ๊ะ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ฉันไม่สงสัยมาเอะฮาระคุงหรอก…แค่แปลกใจนิดหน่อย!’
ถึงเธอพูดว่าไม่เป็นอะไร แต่ใบหน้าของเธอนั้นแดงจนถึงใบหู เนื่องจากเธอนั้นเป็นที่นิยมมาก ผมเลยคิดว่าเธอคงจะมีภูมิต้านทานกับเรื่องแบบนี้ในระดับหนึ่ง แต่เหมือนเรื่องนี้จะเป็นเรื่องใหม่ของเธอหรือเปล่านะ?
‘งะ้นเอาตามนี้นะ พบกันที่บ้านของมาเอะฮาระคุงตอนเวลา 17.00 น. ฉันจะไปกับเขาก่อน แล้วฉันจะส่งที่อยู่ไปให้เธอทีหลังนะ’
‘ระ-รับทราบ!’
‘…โอเค เตรียมตัวพร้อมนะ หนึ่ง…สอง…สาม!’
โดยใช้คำพูดของอาซานางิเป็นสัญญาณ ผมกับอาซานางิ และอามามิซังก็แยกออกเป็นสองกลุ่มแล้ววิ่งแยกกันออกไป
“อ๊ะ! วิ่งหนีไปแล้ว! รอฉันด้วยสิ~!”
ผมได้ยินเสียงของนิตตะซังจากทางด้านหลัง แต่เนื่องจากที่นี่เป็นย่านที่อยู่อาศัยและถนนมีความสลับซับซ้อน จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะไล่ตามให้ทัน
“ใครจะไปฟังสิ่งที่ปาปารัสซี่พูดกัน? เอาล่ะ มาเอะฮาระ…ทางนี้!”
“อะ-โอ้ย!”
อาซานางิกับผมจับมือกันอย่างเป็นธรรมชาติราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา เราวิ่งเคียงข้างกันระหว่างทางกลับบ้านที่สว่างไสวด้วยแสงสีส้มของดวงอาทิตย์ที่กำลังตกดิน
“อาซานางิ”
“อะไร?”
“สนุกดีเหมือนกันนะ”
“ฮะ? นายล้อกันเล่นใช่มั้ย~”
ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่ากำลังวิ่งหนีหรือเพราะผมแค่ประหม่า แต่ผมรู้สึกว่ามือของอาซานางินั้นชื้นเล็กน้อย
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
ปล. จัดไปอีก 1 ตอนก่อนนอนครับ
ปล2. ยังไม่ได้เช็คคำผิด กำสำนวนเหมือนเดิม แต่เดี่ยวพรุ่งนี้ว่างๆกลับมาเช็คครับ
ปล3. พึ่งสังเกตว่า font เวลาก็อบลงมันเพี้ยนในตัวอักษร แต่ช่างมันละกันนะครับ (ฮา)
ปล4. มาเอะฮาระคุง นายเองก็เป็นได้นะ…พ่อบ้านใจกล้า…ยังไงล่ะ
สุดท้ายของวันนี้ ขอฝากเพจที่ไม่รู้จะอัพอะไรนอกจากตอนใหม่ไว้ด้วยครับ Durimtok Channel ขอบคุณครับ