Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตาบทที่ 128+3 ผนึกเทพเจ้ามังกรปีศาจ! (3)

บทที่ 128 3 ผนึกเทพเจ้ามังกรปีศาจ! (3)

อุโมงค์​ตรงหน้า​เขา​เป็นหนึ่ง​ใน​หลาย​ๆ จุด​ที่​กองพัน​นักเลง​ขุด​มาตลอด​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​ พวก​มัน​มีความสูง​เพียง​ 1 เมตร​และ​โจว​เหว่​ย​ชิงก็​ต้อง​ก้มตัว​ใน​ท่า​ที่​อึดอัด​เพื่อ​ปีน​เข้ามา​ ทางเข้า​ถูก​ซ่อน​ไว้​อย่าง​ดีมาก​ ยาก​ที่จะ​มองเห็น​ได้​จาก​ภายนอก​

อุโมงค์​ขุด​เข้าไป​ลึก​กว่า​ 10 เมตร​ก่อนที่จะ​ไป​ถึงพื้นที่​ขนาดใหญ่​ แทบจะ​ไม่สามารถ​ลุกขึ้น​ยืน​ได้​ แต่​ก็​ยัง​ไม่ถือว่า​กว้าง​เท่าไหร่​ นอกจากนี้​ การระบายอากาศ​ก็​ค่อนข้าง​แย่​

เว่ยเฟิง​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​ขณะที่​เขา​กล่าวว่า​ “เนินเขา​เหล่านี้​ล้วน​เป็น​หิน​แข็ง​ ส่วนใหญ่​เป็น​หินอัคนี​ พี่น้อง​ของ​เรา​แทบจะ​ไม่มีอาหาร​เพียง​พอให้​เติม​กระเพาะ​…ขุด​ได้​ถึงขนาด​นี้​ก็​เป็นเรื่อง​น่าอัศจรรย์​อยู่แล้ว​ แต่​ไม่ว่า​จะใน​กรณี​ใด​ สิ่งนี้​ก็​เพียง​พอให้​พวกเรา​มีชีวิต​อยู่​ต่อไป​ได้​”

โจว​เหว่​ย​ชิงขมวดคิ้ว​และ​พูดว่า​ “แน่นอน​ว่า​ไม่…นี่​เป็น​การละทิ้ง​ทุกอย่าง​ไว้​กับ​โชคชะตา​ หาก​เจ้าถูก​ค้นพบ​ก็​มีเพียง​ความตาย​ที่​รอ​อยู่​เท่านั้น​ นอกจากนี้​ จะเกิด​อะไร​ขึ้น​หาก​การต่อสู้​ภายนอก​ใช้เวลานาน​? พวกเรา​จะทำ​อะไร​ได้​? ในที่สุด​เรา​ก็​จะต้อง​อดตาย​อยู่​ที่นี่​”

เว่ยเฟิง​มอง​ไป​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงและ​พูดว่า​ “แล้ว​ท่าน​จะให้​เรา​ทำ​อย่างไร​?”

โจว​เหว่​ย​ชิงครุ่นคิด​สักครู่​ก่อน​จะพูดว่า​ “ขุด​หลุม​ให้​ลึก​ สะสมอาหาร​ให้​มากขึ้น​ เนินเขา​ที่​เป็น​หินอัคนี​มีจุด​ที่​ไม่ดี​ แต่​ก็​มีจุดดี​ด้วย​ หาก​เรา​สามารถ​สร้าง​ฐาน​ใต้ดิน​สำหรับ​ตัวเรา​เอง​ที่นี่​ ปรับปรุง​สภาพ​ให้​แข็งแรง​ดี​ ไม่ว่า​ศัตรู​จะมากี่​คน​ เรา​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​กลัว​ นี่​เพิ่งจะ​เข้าสู่​ฤดูใบไม้ผลิ​ ดังนั้น​จึงไม่จำเป็นต้อง​รีบ​ร้อนใน​เรื่อง​นี้​ ให้​ข้า​ได้คิด​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​ให้​มากขึ้น​และ​ออกแบบ​โครงสร้าง​ให้​ดีขึ้น​ก่อน​…เรา​จำเป็นต้อง​ขยับขยาย​อุโมงค์​ดั้งเดิม​เหล่านี้​ทั้งหมด​และ​เจาะรวม​เข้าด้วยกัน​ ฐาน​ใต้ดิน​จำเป็นต้อง​มีพื้นที่​เพียงพอ​ให้​พวกเรา​เคลื่อนที่​ไป​รอบ​ๆ และ​ยัง​ต้อง​มีการระบายอากาศ​เข้าออก​อย่าง​เพียงพอ​ นี่​คือ​สิ่งพื้นฐาน​ที่สุด​ที่​ต้อง​มีก่อน​ รอง​ผู้บัญชาการ​เว่ยเฟิง​ ปกติ​แล้ว​ทุกคน​ฝึก​ปราณ​กัน​อย่างไร​หรือ​?”

เว่ยเฟิง​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​อีกครั้ง​และ​กล่าวว่า​ “อาศัย​อยู่​ใน​สถานที่​เช่นนี้​ ใน​สภาพอ​เน็จ​อนาถ​เช่นนี้​ ใคร​จะยังมี​กะ​จิต​กะ​ใจฝึก​ปราณ​อีก​? ความจริง​มีหลาย​คน​ที่​มีพรสวรรค์​สูงมาก​ แต่​พวกเขา​กลับ​ต้อง​ถูก​กลบ​ฝังอยู่​ที่นี่​ เพียงแค่​อาศัย​อยู่​ไป​วัน​ๆ และ​เฝ้ารอ​ความตาย​”

แสงชั่วร้าย​วาบ​ผ่าน​ดวงตา​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิง และ​เขา​ก็​กล่าวว่า​ “ไม่มีปัญหา​ ให้​ทุกคน​ได้​กิน​อาหาร​ดี​ๆ และ​อบอุ่น​ร่างกาย​ก่อน​ เมื่อ​ถึงเวลา​นั้น​ ข้า​ก็​มีวิธี​ที่จะ​ให้​พวกเขา​พัฒนา​ความสามารถ​อยู่แล้ว​”

ถึงตอนนี้​ แม้ตำแหน่ง​ของ​เขา​ใน​ฐานะ​ผู้บัญชาการ​กองพัน​จะมั่นคง​แล้ว​ แต่​โจว​เหว่​ย​ชิงรู้ดี​ว่า​ต้อง​เดินหมาก​ไป​ทีละขั้น​ ห้าม​รีบร้อน​เด็ดขาด​

ถ้าเขา​บังคับ​ให้​คน​เหล่านี้​ฝึก​ปราณ​ทันที​ ผล​ที่​ออกมา​ย่อม​ไม่ดี​แน่​ ถึงอย่างไร​พวกเขา​ก็​ต้อง​ทนทุกข์​กับ​ความ​หนาวเหน็บ​และ​ความอดอยาก​มานาน​ ไม่ว่า​ทุกคน​จะดู​แข็งแรง​แค่​ไหน​ แต่​นั่น​ก็​ส่งผล​ต่อ​สภาพร่างกาย​และ​จิตใจ​อยู่แล้ว​ สิ่งสำคัญ​สำหรับ​พวกเขา​ตอนนี้​คือ​ปล่อย​ให้​ร่างกาย​ได้​ฟื้นฟู​อย่าง​เต็มที่​ก่อน​จะดำเนินการ​ขั้น​ต่อไป​

“รอง​ผู้บัญชาการ​เว่ย​ คืนนี้​ข้า​จะไป​เมือง​เทียน​เป่ย​ เจ้าดูแล​เงิน​ให้​ดี​” ขณะ​พูด​เช่นนั้น​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​ชี้ไป​ที่​รถลาก​สอง​คัน​ที่​เขา​ขอให้​เว่ยเฟิง​ดูแล​เป็นพิเศษ​ สภาพ​สิ่งของ​ภายใน​ถูก​ปกปิด​เป็น​อย่าง​ดี​ และ​สิ่งที่​บรรจุ​อยู่​ภายใน​ก็​เป็น​เงิน​ประมาณ​ 200,000 เหรียญทอง​ มัน​เป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​เงินเดือน​ทหาร​ที่เก็บ​ไว้​ใน​คลัง​ และ​โจว​เหว่​ย​ชิงก็​ให้​หัวหน้า​หน่วย​พลาธิการ​นำมา​บางส่วน​ ถึงอย่างไร​เขา​ก็​ไม่มีทองคำ​ใน​มือ​มาก​นัก​ และ​ถ้าต้องการ​ใช้ประโยชน์​จาก​ทหาร​นักเลง​เหล่านี้​ เขา​ก็​จำเป็นต้อง​มีทองคำ​ใน​มือ​เพื่อ​ทำ​เช่นนั้น​ เพียงแค่​วันนี้​วัน​เดียว​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็ได้​มอบ​ทองคำ​ไป​แล้ว​หลาย​พัน​เหรียญ​สำหรับ​รางวัล​ของ​ปฏิบัติ​การคืน​ก่อนหน้านี้​

คราวนี้​เขา​วางแผน​จะไป​ที่​เมือง​เทียน​เป่ย​ด้วย​เหตุผล​บางประการ​ ประการ​แรก​คือ​ต้อง​ติดต่อ​หลิน​เทียน​อ้าว​และ​คนอื่นๆ​ ประการ​ที่สอง​เพื่อ​นำ​ทองคำ​มาสำหรับ​ใช้งาน​มากขึ้น​ แน่นอน​ว่า​ยัง​มีธุระ​เล็ก​ๆ อีก​สอง​สามอย่าง​ที่​ต้อง​ไป​จัดการ​ด้วย​ แผน​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงสำหรับ​อนาคต​อัน​ใกล้​นี้​คือ​ ภายใน​ 3 เดือน​ข้างหน้า​ เขา​ต้อง​การชักนำ​กองพัน​ไร้​พ่าย​ไป​สู่เส้นทาง​ที่​ถูกต้อง​ เพื่อ​นำ​พวกเขา​ไป​สู่วงจรชีวิต​ของ​คน​ปกติ​

เว่ยเฟิง​พยักหน้า​และ​กล่าวว่า​ “ขอรับ​” เขา​จะไม่ถามคำถาม​โง่ๆ อย่างเช่น​โจว​เหว่​ย​ชิงจะผ่าน​ค่าย​ทั้งหมด​ไป​ได้​อย่างไร​ ถึงอย่างไร​ ไม่กี่​วัน​ที่ผ่านมา​ เด็กหนุ่ม​ก็ได้​ทิ้ง​รอยประทับ​ไว้​ใน​ใจของ​เว่ยเฟิง​แล้ว​ว่า​เขา​สามารถ​ทำ​อะไร​ก็ได้​

“ผู้บัญชาการ​กองพัน​ ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​ที่​ 16 ส่งคน​มาแล้ว​” ทันใดนั้น​ พวกเขา​ก็​ถูก​ขัดจังหวะ​อย่าง​รีบร้อน​จาก​ทหาร​กองพัน​ไร้​พ่าย​ที่​ผลุนผลัน​เข้ามา​

“โอ้​? เร็ว​ขนาด​นี้​เลย​รึ​!” โจว​เหว่​ย​ชิงกล่าว​ด้วย​ความประหลาดใจ​ เขา​แลกเปลี่ยน​สายตา​กับ​เว่ยเฟิง​ก่อน​จะเดิน​ออก​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​

“อ้วน​น้อย​โจว​ เจ้าออกมา​เดี๋ยวนี้​!!” ทันทีที่​โจว​เหว่​ย​ชิงไป​ถึงเนินเขา​ เด็กหนุ่ม​ก็​มองเห็น​เซินปู้​

เซินปู้​ไม่ได้​แต่งกาย​ด้วย​ชุด​ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​แต่​เป็น​เพียง​ชุด​ธรรมดาๆ​ เธอ​ไม่ได้​มีองครักษ์​ส่วนตัว​มาด้วย​ มีเพียง​คนอื่นๆ​ อีก​ 8 คน​ที่​สวม​ชุด​เรียบง่าย​และ​ไม่มีชุด​เกราะ​เช่นเดียวกัน​

แม้ว่า​ทั้งหมด​จะมีเพียง​ 9 คน​ แต่​เมื่อ​โจว​เหว่​ย​ชิงเห็น​พวกเขา​ หัวใจ​ก็​พลัน​รู้สึก​หนักอึ้ง​ เขา​ตระหนัก​ได้​ทันที​ว่า​เซินปู้​หา​วิธี​จัดการ​กับ​เขา​ได้​แล้ว​ การ​ส่งทั้ง​กองพัน​ของ​เธอ​ออกมา​ที่นี่​เป็นไปไม่ได้​ ดังนั้น​คราวนี้​หญิงสาว​จึงน่าจะ​นำ​กองกำลัง​ส่วนตัว​มาจัดการ​กับ​เขา​

“ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​เซินปู้ ​ นาน​แล้ว​ที่​เรา​ไม่ได้​พบกัน​” แม้ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงจะคิดได้​เช่นนั้น​แล้ว​ แต่​เขา​ก็​ยัง​ยิ้ม​น้อย​ๆ ขณะที่​กล่าว​และ​เดินลง​มาจาก​ไหล่เขา​ด้วย​ท่าทาง​สบาย​ๆ

ขณะนี้​ทหาร​กองพัน​นักเลง​กำลัง​ขวัญเสีย​ ครึ่งหนึ่ง​มีอาการ​ปวดท้อง​อย่าง​รุนแรง​และ​ทั่ว​ทั้ง​เนินเขา​ก็​ยังคง​อบอวล​ไป​ด้วย​กลิ่น​เหม็น​ อีก​ครึ่งหนึ่ง​ต่าง​มารวมตัวกัน​นั่น​เพื่อ​ชมการแสดง​ ถึงอย่างไร​โจว​เหว่​ย​ชิงก็​เคย​พูด​ไว้​ก่อนหน้านี้​ว่า​เขา​จะไม่ลงมือ​หาก​ไม่เกิด​ประโยชน์​…นอกจากนี้​ ยังมี​คู่ต่อสู้​เพียง​ 9 คน​เท่านั้น​

ถ้าสายตา​สามารถ​ฆ่าคน​ได้​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​คงจะ​ตาย​ไป​หลายครั้ง​ขณะ​เดินลง​มาจาก​ไหล่เขา​ นั่น​เป็น​เพราะ​เซินปู้​นั้น​จ้องมอง​เขา​ตลอดเวลา​

ไม่กี่​วัน​ที่ผ่านมา​ ขณะ​หญิงสาว​ส่งโจว​เหว่​ย​ชิงไป​ยัง​กองพัน​นักเลง​ เธอ​ก็​ไม่เคย​คาดคิด​เลย​ว่า​อ้วน​น้อย​โจว​จะกลายเป็น​ตัวปัญหา​ขนาด​นี้​ เขา​กล้า​กระทั่ง​ปล้น​ชิงทุกอย่าง​จาก​ทหารคุ้มกัน​ส่วนตัว​ของ​เธอ​ ที่​แย่​กว่า​นั้น​คือ​เมื่อ​เซินปู้​ส่งกองร้อย​ทหารม้า​หนัก​มาใน​วันรุ่งขึ้น​ พวกเขา​ก็​ยัง​กล้า​ทำ​แบบ​เดียวกัน​อีกครั้ง​ แม้กระทั่ง​ลอกคราบ​อุปกรณ์​น้องสาว​ของ​เธอ​ นั่น​เป็นความ​อัปยศอดสู​และ​การ​ดูถูก​เหยียดหยาม​อย่าง​ที่​ไม่เคย​มีมาก่อน​

เมื่อ​เซินปู้​เห็น​กองร้อย​ทหารม้า​หนัก​ของ​ตน​กลับมา​ใน​สภาพ​หน้าซีด​ตัวสั่น​ท่ามกลาง​ความ​หนาวเย็น​ ริมฝีปาก​ของ​พวกเขา​เป็น​สีม่วง​ขณะที่​เดิน​กลับ​ไป​มายัง​กรม​ทหาร​ที่​ 16 นอกจากนี้​ยัง​สวม​เพียง​กางเกงชั้นใน​ตัว​เดียว​ หญิงสาว​ก็​กัดฟัน​กรอด​จน​แทบจะ​แตก​เป็น​เสี่ยง​ๆ เวลา​นั้น​ใครๆ​ ก็​สามารถ​จินตนาการ​ถึงความเกลียดชัง​ใน​ใจของ​เธอ​ได้​ เซิน​อี้​บอก​กับ​เธอ​ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงกล้า​ขอให้​พวกเขา​จ่าย​เงิน​เพื่อ​แลก​อุปกรณ์​คืน​ ไอ้​สารเลว​ พวก​เศษสวะ​ตัว​เหม็น​!

อย่างไรก็ตาม​ เช่นเดียวกับ​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงได้​คาดการณ์​เอาไว้​ เซินปู้​ไม่กล้า​รวบรวม​กองทหาร​ทั้งหมด​ของ​เธอ​เพื่อ​โจมตี​กองพัน​ไร้​พ่าย​ สำหรับ​ทหาร​โจร​เหล่านี้​ อย่าง​น้อย​เซินปู้​ก็​มีความเข้าใจ​พื้นฐาน​เกี่ยวกับ​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​พวกเขา​ ถ้าต้องการ​ฆ่าคน​ทั้งหมด​ เธอ​น่าจะ​ต้อง​สูญเสีย​ทหาร​มากกว่า​ 1 กองพัน​ นอกจากนี้​ การ​ลงมือ​ก็​จะทำให้​กองทัพ​ภาคเหนือ​ค้นพบ​เรื่อง​นี้​อย่าง​แน่นอน​ แม้ว่า​เธอ​จะไม่ถูก​ลงโทษ​ แต่​เซินปู้​ก็​ไม่อยาก​จะเสียหน้า​หาก​ทุกคน​รู้เรื่อง​ที่​เกิดขึ้น​

หลังจาก​ครุ่นคิด​สักพัก​ ในที่สุด​เซินปู้​ก็​ตัดสินใจ​เชิญเหล่า​สหาย​คนสนิท​ของ​เธอ​ออกมา​เพื่อ​แก้แค้น​

“อ้วน​น้อย​โจว​ ข้า​จะไม่พูดอ้อมค้อม​ ถ้าเจ้าคืน​อุปกรณ์​ทั้งหมด​ที่​ขโมย​ไป​จาก​เรา​ใน​ช่วง​สอง​สามวัน​ที่ผ่านมา​ ข้า​จะไม่เอา​ความ​เจ้าต่อ​ มิฉะนั้น​ วันนี้​ข้า​จะกวาดล้าง​กองพัน​นักเลง​ของ​เจ้าทั้งหมด​”

โจว​เหว่​ย​ชิงมอง​เธอ​ด้วย​ความประหลาดใจ​และ​พูดว่า​ “ข้า​กลัว​แล้ว​ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​เซินปู้!​ อย่างไรก็ตาม​ เรา​ทุกคน​ก็​เป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​กองทัพ​เหมือนกัน​…ถ้าท่าน​ทำ​เช่นนั้น​ ท่าน​ก็​จะต้อง​ถูก​ศาลทหาร​ตัดสิน​ลงโทษ​ กองพัน​นักเลง​ของ​เรา​อาจ​ถูก​เนรเทศ​มาที่นี่​ แต่​เรา​ก็​ยังคง​เป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​กองทัพ​ เป็น​กองพัน​พิเศษ​ลำดับ​ที่​ 1 มัน​คง​ไม่ดี​นัก​หาก​ท่าน​มาสร้าง​ความเดือดร้อน​ที่นี่​ ท่าน​ว่า​หรือไม่​?”

เซินปู้​กระโดด​ลง​จาก​หลัง​ม้าของ​เธอ​อย่าง​รวดเร็ว​ ชี้นิ้ว​ไป​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงอย่าง​ข่มขู่​ “อย่า​มาเฉไฉทำให้​ข้า​เสียเวลา​ไป​มากกว่า​นี้​ เจ้าคิด​ว่า​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​จะห่วงใย​พวก​เจ้ามาก​ขนาด​นั้น​เลย​หรือไง​? ข้า​จะให้โอกาส​เจ้าเป็น​ครั้งสุดท้าย​ มิฉะนั้น​ข้า​จะละเลง​เนินเขา​แห่ง​นี้​ด้วย​คาวเลือด​!”

โจว​เหว่​ย​ชิงยิ้ม​และ​พูดว่า​ “อย่า​เลย​! ผู้บังคับการ​กรม​ทหาร​ ใจเย็น​ๆ ก่อน​เถิด​ อย่าง​ที่​ท่าน​พูด​ เรา​เป็น​แค่​กลุ่ม​นักเลง​กระจอก​ข้าง​ถนน​ โกรธเคือง​พวกเรา​ไป​ก็​ไม่มีประโยชน์​อัน​ใด​ อย่างไรก็ตาม​ อุปกรณ์​ที่​ท่าน​พูดถึง​…ข้า​ไม่สามารถ​ส่งคืนให้​เช่นนั้น​ได้​ ท่าน​จะต้อง​จ่าย​เงิน​เพื่อ​เอาคืน​ ข้า​ปล่อย​ให้​พี่น้อง​ต้อง​เสีย​ความพยายาม​ไป​เปล่าๆ​ ไม่ได้​หรอก​ ท่าน​จะว่า​อย่างไร​ล่ะ​?”

“ปู้ปู้​ ทำไม​เจ้ายัง​มัว​เสียเวลา​คุย​กับ​เขา​อยู่​อีก​?” อีก​ 8 คน​ที่มา​พร้อมกับ​เซินปู้​ก็​ลง​จาก​หลัง​ม้าและ​มายืน​อยู่​ข้างหลัง​เธอ​ คน​ที่​เพิ่ง​พูด​คือ​ชาย​วัยกลางคน​ที่​มีอายุ​ราวๆ​ 40 ปี​ ผิว​ของ​เขา​ดำคล้ำ​จาก​แสงแดด​ ด้วย​รูปลักษณ์​ที่​สง่างามและ​สูงส่ง ทุกคน​จึงสามารถ​บอก​ได้​ว่า​เขา​เป็น​นายทหาร​ระดับสูง​ แม้ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงไม่รู้​ว่า​ยศ​ของ​เขา​อยู่​ใน​ระดับ​ใด​ก็ตาม​

“พี่ใหญ่​ ถ้าเรา​ลงมือ​ ทุกคน​ก็​ควร​รอบคอบ​เอาไว้​ ถ้าเป็นไปได้​ พยายาม​อย่า​ฆ่าใคร​ ถึงอย่างไร​พวกเขา​ยังคง​เป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​กองทัพ​ของ​เรา​” เซินปู้​ให้​ความเคารพ​ต่อ​ชาย​ผิวดำ​ที่​มีรูปร่าง​อ้วน​อย่าง​มาก​ เห็นได้ชัด​จาก​การ​ที่​เธอ​พูด​กับ​เขา​ด้วย​น้ำเสียง​อ่อนน้อม​

“หึ​…แค่​กลุ่ม​โจร​กอง​เล็ก​ๆ ก็​สามารถ​ทำให้​เจ้าเดือดร้อน​ได้ขนาด​นี้​แล้ว​ ถ้าอาจารย์​รู้เรื่อง​นี้​ เจ้าจะต้อง​ถูก​สั่งสอน​แน่​ เจ้าเกือบจะ​ได้รับ​การ​เลื่อนขั้น​เป็นรอง​บัญชาการ​กองทหาร​แล้ว​ ต้อง​คิด​ทุกอย่าง​ให้​รอบคอบ​ก่อน​เสมอ​ เข้าใจ​ไหม​?”

เซินปู้​พยักหน้า​อย่าง​รู้สึก​สำนึกผิด​ และ​เธอ​ก็​จ้องมอง​โจว​เหว่​ย​ชิงอย่าง​โหดเหี้ยม​อีกครั้ง​

ชาย​คน​นั้น​ก้าว​ยาว​ๆ ผ่าน​ร่าง​ของ​เซินปู้​และ​มอง​ไป​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงอย่าง​เย็นชา​ “อ้วน​น้อย​โจว​ใช่หรือไม่​? ครั้งนี้​ เซินปู้​ส่งเจ้ามาที่​กองพัน​นักเลง​โดย​ไม่ได้​ผ่าน​ความเห็น​จาก​เบื้องบน​ แน่นอน​ว่า​นาง​ผิด​ใน​เรื่อง​นั้น​ หาก​เจ้าส่งอุปกรณ์​ทั้งหมด​กลับคืน​ เจ้าก็​สามารถ​กลับ​ไป​กับ​พวกเรา​ได้​ และ​ข้า​จะมอบหมาย​ตำแหน่ง​ให้​เจ้าอีกครั้ง​”

โจว​เหว่​ย​ชิงชะงัก​ไป​ชั่วขณะ​ “ท่าน​เป็น​ผู้รับผิดชอบ​เรื่อง​นั้น​หรือ​?”

เมื่อ​มาถึงเวลานี้​ ทหาร​กองพัน​นักเลง​ที่​กำลัง​เฝ้าดู​อย่าง​สนใจ​อยู่​บน​ที่นั่ง​ ท่าทาง​ขบขัน​ของ​พวกเขา​เปลี่ยนไป​เป็นกังวล​ทันที​ ไม่ว่า​จะเกิด​อะไร​ขึ้น​ แม้อ้วน​น้อย​โจว​จะเป็น​ผู้บัญชาการ​กองพัน​ของ​พวกเขา​เพียงแค่​ 2 วัน​ แต่​เขา​ก็​ทำประโยชน์​ให้​ทุกคน​อย่าง​ที่​ไม่เคย​มีใคร​ทำ​ได้มา​ก่อน​ เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงอาจ​ถูก​ชิงตัว​ไป​ ทันใดนั้น​พวกเขา​ก็​รู้สึก​ไม่เต็มใจ​ที่จะ​แยกจาก​อีก​ฝ่าย​

ชาย​คน​นั้น​พูด​อย่าง​เฉยเมย​ “ข้า​เป็น​ผู้บัญชาการ​กองทหาร​ที่​ 7 เซิน​จี้ ตอนนี้​เจ้าคิด​ว่า​ข้า​สามารถ​สั่งการ​ได้​หรือยัง​ล่ะ​?”

กรม​ทหาร​ที่​ 16 อยู่​ภายใต้​กองทหาร​ที่​ 7 และ​เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​เขา​ การแสดงออก​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงก็​เปลี่ยนไป​ ผู้บัญชาการ​กองทหาร​คือ​นายพล​ที่​ดูแล​กองทัพ​ 100,000 คน​ กองพัน​นักเลง​ของ​เขา​มีเพียง​ 1,000 คน​เท่านั้น​ เซิน​จี้คน​นี้​มียศ​เหนือกว่า​เซินปู้​ และ​หาก​ต้องการ​สร้าง​ความเดือดร้อน​ให้​กับ​กองพัน​นักเลง​ เขา​ก็​สามารถ​ทำได้​อย่าง​ง่ายดาย​

“อ้อ​ ท่าน​ก็​คือ​ผู้บัญชาการ​กองทหาร​ ข้าน้อย​คือ​ผู้บัญชาการ​กองพัน​พิเศษ​ที่​ 1 คน​แรก​ อ้วน​น้อย​โจว​ ขอ​แสดง​ความเคารพ​” โจว​เหว่​ย​ชิงทำความเคารพ​เซิน​จี้อย่าง​รวดเร็ว​

เซิน​จี้โบกมือ​และ​กล่าวว่า​ “รีบ​ๆ เตรียม​ทุกอย่าง​แล้ว​มุ่งหน้า​กลับ​ไป​กับ​พวกเรา​”

โจว​เหว่​ย​ชิงพูด​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​ “แต่​…ท่าน​ก็​เห็น​…ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​เซินปู้​มีความคิด​เช่นนี้​กับ​ข้า​ ถ้าข้า​กลับ​ไป​ ข้า​จะมีจุดจบ​ที่​ดี​ได้​อย่างไร​?”

“หืม?”​ เซิน​จี้ได้รับ​การพิจารณา​ว่า​เป็นหนึ่ง​ใน​หัวหอก​คนสำคัญ​ของ​กองทัพ​ภาคเหนือ​ และ​แม้แต่​ใน​กองทัพ​อาณาจักร​จ้งเทียน​ ผู้บังคับบัญชา​ที่​ดูแล​กองทหาร​ทั้งหมด​ 100,000 คน​เช่น​เขา​ก็​อยู่​ใน​ระดับ​บน​ ไม่เคย​มีทหาร​ยศ​ต่ำกว่า​ที่​กล้า​ต่อล้อต่อเถียง​กับ​เขา​เช่นนี้​มาก่อน​

“แล้ว​เจ้าต้องการ​อะไร​?” แสงเย็นเยียบ​ใน​ดวงตา​ของ​เซิน​จี้และ​กลิ่น​ของ​บุคคล​ที่​มีสถานะ​สูงส่งพลัน​ระเบิด​ออกมา​กดดัน​โจว​เหว่​ย​ชิงจน​หายใจไม่ออก​

……………………………………………………

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Score 10
Status: Completed

ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ

มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์

ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม

ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่

ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล

ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!?

ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น…

หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย!

ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา

ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา

มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด!

สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า…

แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ?

ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา

สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร!

นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร

Options

not work with dark mode
Reset